ทรราชตัวน้อย ไม่อยากพบจุดจบแบบ BAD END - บทที่ 530: ที่ 1 ด้านก่อเรื่อง (2)
หลังจากป่าแห่งฝันร้าย การสอบเข้าของอลิเซียก็ถือว่าประสบ ความสําเร็จอย่างยิ่งใหญ่ เด็กสาวผู้ถูกขนานนามว่ากุหลาบขาวถูกห้อม ล้อมด้วยผู้คนที่หอพัก และโรเอลซึ่งดูการสอบอยู่ทั้งคืนก็กลับไปที่ คฤหาสน์สีกรมท่า
เพียงแค่ว่าเมื่อกลับมาที่คฤหาสน์สีกรมท่า โรเอลไม่ได้นอน แต่เริ่ม ทํางานของเขา เช่นทํารายชื่อสมาชิกใหม่ของกลุ่มและหน้าที่อันเป็น กิจวัตร ด้วยโรเอลยังคงประสบปัญหาอยู่เยอะแยะในขณะนี้
หลังจากโศกนาฏกรรมที่ป้อมปราการทาร์ก การบุกรุกของพวก กลายพันธุ์ก็กลับมาเป็นปัญหาใหญ่สุดอีกครั้ง สงครามเผ่าพันธุ์นี้เป็น เหมือนเมฆหมอกทมิฬที่ปกคลุมไปทั่วผืนฟ้าของทวีปเซีย เหล่าทหาร กองหน้าสละชีพเพื่อปกป้องบ้านเกิดเมืองนอน ในอาณาจักรแห่ง การศึกษาโบรเนลเองก็มีบุคคลมากฝีมืออยู่เป็นจํานวนมาก แน่นอนว่า ชีวิตที่สงบสุขนั้นเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นสถาบันการศึกษา หรือหน่วยงานวิจัยต่างก็มีหน้าที่ของตนเอง แม้กระทั่งนักเรียนก็ด้วย
และสถานการณ์ของโรเอลเองก็ง่ายๆ ในฐานะของข้ารับใช้ของทูต สวรรค์ เด็กหนุ่มผมดําจะมีส่วนร่วมในงานส่วนของการสืบหาร่องรอย ของ [ม่านหมอกมรณะ] แน่นอนว่าภารกิจนี้มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่ง นั่น ก็คือแผนกอบกู้ป้อมปราการทาร์ก
ในวันนี้ โบสถ์แห่งจักรวรรดิเซนต์เมซิทยังไม่ได้ประกาศถึงการ สิ้นพระชนม์ของเจ้าชายเคน แม้ว่าทหารที่หายตัวไปทั้งหมดจะได้รับ การชดเชย พวกเขาก็เรียกได้ว่าเป็นบุคคลสูญหาย และสําหรับ อาณาจักรแห่งการศึกษาโบรเนล การพยายามอย่างสุดความสามารถ เพื่อที่จะพาเหล่ายอดฝีมือเหล่านี้กลับมาเพื่อต่อกรกับหกภัยพิบัตินั้น กลายเป็นภารกิจหลัก
ดังนั้นพวกนักวิจัย นักเรียนและนักศึกษาที่มากล้นไปด้วย ความสามารถซึ่งเตรียมพร้อมสําหรับภารกิจนี้ไปด้วยกันนั้นเป็นกอง กําลังที่ใหญ่โต ถ้ามองในแง่ของเงินทุน แทนที่จะใช้งบประมาณ มหาศาลในการเกณฑ์ทหารแนวหน้า มันก็คุ้มค่ากว่าหากจะนํามาให้ พวกนักเรียนที่มีทั้งกําลังและเวลาว่างมากกว่า ส่วนความเป็นไปได้ที่จะ เกิดผู้เสียชีวิตนั้นถูกลืมไปในระดับหนึ่ง
การเริ่มต้นขึ้นของการประชุมสหประชาชาติของอาณาจักรนั้น เป็นสัญญาณ จากชั่วขณะที่การประชุมเริ่มขึ้น มนุษยชาติก็เข้าสู่ภาวะ ฉุกเฉิน มีการแบ่งฝ่ายของกําลังคนออกเป็นผู้มีพลังเหนือธรรมชาติและ บุคคลทั่วไป
บุคคลทั่วไปนั้นจะมีหน้าที่เป็นฝ่ายผลิตทรัพยากรในสงครามกับ พวกกลายพันธุ์เพื่อป้อนให้กับแนวหน้า ในขณะที่ผู้มีพลังเหนือ
ธรรมชาติจะเป็นกําลังรบ และตราบใดที่พวกเขาเป็นกําลังรบ มันก็ย่อม ต้องมีผู้สูญเสีย
นักเรียนของสถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่าล้วนแล้วแต่เป็น นักเรียนในวัยผู้ใหญ่ตามมาตรฐานของทวีปเซีย ว่ากันตรงๆ ก็คือพวก โรเอลมีฐานะเป็นกองกําลังสํารอง หากมีการเสียชีวิตระหว่างปฏิบัติ ภารกิจของกองกําลังพันธมิตรเกิดขึ้น ก็จะถือได้ว่าเป็นการเสียสละใน สงคราม แน่นอนว่านักเรียนทั้งหลายก็ยังสามารถเลือกที่จะไม่ศึกษาต่อ ที่สถาบันการศึกษาเซนต์เฟรย่าก็ได้ แต่ผลของมันก็คือสุดท้ายแล้วพวก เขาจะถูกส่งไปที่แนวหน้าแทน
ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนก็ตาม ขอแค่เพียงยังเป็นมนุษย์อยู่ ก็จะไม่มีใครที่ สามารถหลุดรอดไปจากภัยคุกคามจากพวกกลายพันธุ์ได้อยู่ดี พวกเด็ก ใหม่ปีหนึ่งเพิ่งจะได้เข้ามาเรียนในสถาบัน พวกเขาอาจจะไม่รู้สึก ตื่นเต้นท่ามกลางความเดือดระอุ แต่โรเอลต้องการสิ่งเหล่านี้ นักเรียน ในชั้นปีที่สองเป็นต้นไปนั้นเริ่มรู้สึกถึงความตึงเครียดอย่างเลือนราง แล้ว
แน่นอนว่านั่นคือสําหรับนักเรียนทั่วไป สําหรับบางคนที่มี สัญชาตญาณที่เฉียบแหลมเหมือนสัตว์ป่าแล้ว มันเหมือนกับว่า บรรยากาศก่อนสงครามจะทําให้พวกเขากระสับกระส่าย กระวน
กระวายกันอย่างมาก และพวกเขาก็ต้องไปหาทางยับยั้งมันที่โลก ภายนอก
“ฉันถามว่า นายดูอะไรอยู่มาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว? ทําไมไม่ไปนอน เหรอ?”
จากด้านหนึ่งของห้อง เด็กสาวผมสีน�าตาลมองมาที่เด็กหนุ่มผมสี ดําที่นั่งอยู่หลังโต๊ะก่อนจะเอ่ยปากถามด้วยความสงสัย และโรเอลก็ ตอบคําถามของเซลิน่าในขณะที่กําลังอ่านข้อมูล
“เธอคิดว่าฉันมาอยู่ตรงนี้เพราะใครล่ะ? ถ้าไม่ใช่เพราะว่าฉันกลับ คฤหาสน์สีกรมท่ามาตอนเช้าตรู่แล้วเจอแมวป่าที่ควบคุมเลือดที่พลุ่ง พล่านไว้ไม่ได้นั่งจ๋องอยู่ที่ประตูคฤหาสน์สีกรมท่า ฉันก็อาจจะไปนอน จริงๆ แล้วก็ได้”
“ช ช่วยไม่ได้นี่ สายเลือดมันก็เป็นแบบนี้แหละ ว่าแต่ใครแมวป่า ไม่ทราบ? อีกอย่าง ตอนนี้นายเป็นประธานของกุหลาบอรุณแล้วนะ จะ ไม่ช่วยหาสมาชิกใหม่หน่อยเหรอ?”
“กุหลาบอรุณ…”
เพราะรู้สึกเก้อเขิน เซลิน่าพลันหน้าขึ้นสีแล้วยอกย้อน ในขณะที่โร เอลที่ได้ยินคําพูดเหล่านั้นก็ทําตัวไม่ถูกไปชั่วขณะ พลางพึมพําชื่อของ องค์กรที่เพิ่งตั้งได้ไม่นานกับตัวเอง
เมื่อสิ้นปีการศึกษาที่ผ่านมา โรเอลเคยเอ่ยชวนวิลเฮลมิน่าเพื่อไป ชักชวนนอร่า ชาร์ล็อตและคนอื่นๆ มาร่วมภาคีผู้นําพาแสงอรุณ เด็ก สาวในขณะนั้นตอบรับคําเชื้อเชิญ ทว่านอร่าลังเล เนื่องเพราะเป็นเจ้า หญิงของจักรวรรดิใหญ่โต การมาร่วมองค์กรเล็กๆ อาจจะไม่ใช่เรื่องดี
พอเกิดเหตุการณ์ที่ป้อมปราการทาร์ก หลังจากการรบพุ่งระหว่าง ผู้เสียสละและพวกกลายพันธุ์ปะทุขึ้น นอร่าและคนอื่นๆ ซึ่งรู้สึกถึง ความกังวลของเหล่านักปราชญ์ในอดีตก็ตัดสินใจที่จะเข้าร่วมอย่างเป็น ทางการ แต่ชาร์ล็อตผู้ชํานาญด้านการต่อรองได้ยื่นข้อแม้ขึ้นหนึ่งข้อ นั่นคือ หัวหน้าขององค์กรจะต้องเป็นโรเอล
“ดิฉันไม่เชื่อใครทั้งนั้นนอกจากที่รักค่ะ”
เจ๊ใหญ่ผู้ตอบกลับมาแบบที่ใจแข็งสุดๆ และเธอก็ไม่ฟังคําโต้แย้ง ใดๆ จากโรเอลทั้งสิ้น แต่สิ่งที่เด็กหนุ่มไม่ได้คาดฝันก็คือวิลเฮลมินาตอบ ตกลงอย่างง่ายดาย แล้วโยนภาระมาให้โรเอลอย่างไม่ลังเล แถมเซลิน่า แล้วก็คงอื่นๆ ยังเห็นด้วยกันอย่างพร้อมเพรียง
จากคําพูดขององค์หญิงอัศวินในจดหมาย เธอเป็นเพียงตัวแทนที่ ดูแลองค์กรในขณะที่เขาไม่อยู่เท่านั้น ตอนนี้เธอก็แค่คืนองค์กรให้กับ เจ้าของที่แท้จริง เมื่ออ่านถ้อยคําที่ดูจริงใจและความคาดหวังที่ท่วมท้น ของวิลเฮลมินาแล้ว โรเอลก็ได้แต่กัดฟันดับเครื่องชนไป
ส่วนเรื่องของชื่อ นั่นเป็นเพราะว่าสาวๆ ที่เข้าร่วมมาใหม่นั้นเป็น สมาชิกของสภากุหลาบ และฐานะของพวกเธอนั้นมาจากตระกูลสูงส่ง พวกเธอได้ขยี้ภาคีผู้นําพาแสงอรุณทั้งด้านการเงินและอิทธิพลจน แหลกเละ ดังนั้นพวกเธอจึงไม่พอใจกับแค่เข้าร่วม แต่จะต้องรวมถึง การร่วมมือและจัดโครงสร้างใหม่ด้วย แล้วเมื่อนําคําจากทั้งสภากุหลาบ และภาคีผู้นําพาแสงอรุณมาเรียงกัน มันก็เลยกลายเป็นกุหลาบอรุณ อย่างปัจจุบัน
ต้องบอกว่าชื่อขององค์กรนี้ค่อนข้างสดใหม่ และมันค่อนข้างถูก จริตกับสมาชิกหญิงส่วนใหญ่ในองค์กร ส่วนวิลเฮลมินาซึ่งสนใจแต่เรื่อง เชิงปฏิบัตินั้นไม่มีข้อขัดแย้งใดๆ กับเรื่องอย่างการเปลี่ยนชื่อเลย ดังนั้น การเสนอให้เปลี่ยนชื่อจึงผ่านฉลุยอย่างราบรื่น และหลังจากการปรับใช้ กุหลาบอรุณที่ตั้งใหม่สดๆ ร้อนๆ นั้นก็ได้แสดงพลังที่ยิ่งใหญ่ออกมา จริงๆ
จากนอร่า ชาร์ล็อต ลิเลียนไปถึงเซลิน่า จูเลียน่า เคิร์ตและคนอื่นๆ กุหลาบอรุณไม่เพียงแต่รวบรวมเหล่าทายาทของขุมพลังต่างๆ หลายที่ บนโลก ทั้งยังรวมถึงเหล่าลูกหลานของผู้รอดชีวิตในสมัยโบราณ มันจึง สามารถพูดได้เลยว่าจากอดีตกาลจนตอนนี้ องค์กรนี้รวบรวมอํานาจ จากทั่วทุกสารทิศ และนี่เป็นเพียงรุ่นบุกเบิกขององค์กรเท่านั้น
ด้วยการที่กุหลาบอรุณนั้นค่อยๆ รับสมาชิกเพิ่มและเติบโต พลัง อํานาจขององค์กรนี้จึงยิ่งขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และมันอาจจะถึงขั้น เทียบเคียงได้กับสมัชชานักปราชญ์พลบค�าในยุคที่สองก็ได้ ทุกครั้งที่ เขาคิดถึงเรื่องนี้ โรเอลก็รู้สึกถึงภาระอันใหญ่หลวงที่เขาแบกไว้บนบ่า
สิ่งที่องค์กรจะพัฒนาไปเป็นนั้นเชื่อมโยงอย่างตัดไม่ขาดกับ หัวหน้าองค์กรอยู่บ่อยครั้ง เพราะเป็นหัวหน้าขององค์กรระดับยักษ์ ใหญ่ งานของโรเอลจึงหนักกว่าเก่ามาก ไม่ต้องพูดถึงพลังและ ความสามารถของสมาชิกแต่ละคน เพียงแค่บทบาทและภารกิจที่ถูกส่ง มาทางเขาก็มากพอที่จะทําให้เขาต้องใช้เวลามากในการศึกษาแล้ว
ใช่ หลังจากเข้าสู่ปีที่สอง การเรียนภาคทฤษฏีของโรเอลและคน อื่นๆ ก็จบลง ขั้นต่อไปก็คือหลักสูตรภาคปฎิบัติที่จะอิงจากภารกิจ ภายนอก และในสภาพแวดล้อมนี้ มันก็ปนๆ ไปกับภารกิจต่างๆ ที่ออก โดยกองกําลังพันธมิตร
ด้วยความที่เป็นนักเรียนกลุ่มที่ถูกโลกภายนอกจัดว่าเป็นปีทอง การมอบหมายที่โรเอลและคนอื่นๆ ได้รับนั้นจึงมีความเสี่ยงและความ ยากที่สูงตาม สําหรับภารกิจแบบนี้แล้ว เนื่องด้วยวิลเฮลมิน่าและคน อื่นๆ ไม่อยู่ โรเอลในฐานะของประธานแห่งกุหลาบอรุณจึงต้อง รับผิดชอบในการตระเตรียมแผนไม่ให้สมาชิกองค์กรบาดเจ็บหรือถูก ฆ่า
สําหรับความต้องการของเซลิน่าและคนอื่นๆ โรเอลเคารพการ ตัดสินใจพวกเขาอย่างแน่นอน แต่ปัญหาก็คือเจ้าพวกเด็กมีปัญหาจาก อาณาจักรแห่งภาคีอัศวินเพนเดอร์นั้นหนักหนาเสียยิ่งกว่าวิลเฮลมิน่า และเมื่อพวกเขาได้ยินดังนั้น โรเอลจึงปล่อยพวกเขาไปทันที
“ฉันว่านายไปนอนเถอะ ตราบใดที่เปตรายังมีลมหายใจ สายเลือด ของฉันก็ยังควบคุมไว้ได้”
เด็กสาวผมสีน�าตาลที่โซฟารู้สึกละอายเล็กน้อยเมื่อมองไปทางโร เอลที่กําลังง่วนกับงาน หางของเธอสะบัดเหมือนจะไล่ไปนอน แต่ว่า คําพูดของเธอกลับถูกตอบปฏิเสธกลับมาโดยเด็กหนุ่มอย่างรวดเร็ว
“ถึงมันจะทําได้ก็เถอะ แต่ฉันไม่มีนิสัยให้เพื่อนของฉันฉายเดี่ยวนะ นั่นเตือนฉันขึ้นมาว่าคนเราหลับไปสู้ไปไม่ได้”
“…ก็นั่นแหละ”
เด็กสาวหูสัตว์เบนสายตาแล้วเกาศีรษะของเธอ อย่างที่เด็กหนุ่ม พูด เซลิน่าสัมผัสได้ถึงลมหายใจของนักรบผู้ต่อสู้มาหลายปีจากโรเอล และแม้ว่ารูปลักษณ์ของเขาอาจจะดูเป็นเด็กหนุ่ม ทว่าสถานการณ์มัน เหมือนกับนักดาบที่ได้ชักดาบออกมาแล้ว สถานกาณ์แบบนี้ไม่สามารถ นอนได้อย่างเป็นสุขแน่ๆ
“…ขอโทษ”
“ไม่เป็นไรหรอก เพื่อนๆ ของเธอล่ะ? พวกเขาทุกคนอยู่คฤหาสน์ แห่งเกราะกันใช่ไหม?”
“ไม่ วิลเลียมกับเทเรซาไปเข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติของ อาณาจักร เคิร์ตกําลังศึกษาเรื่องราวที่เขียนโดยผู้มีสายเลือดของยักษ์ ในห้องของเขา จูเลียน่าไปหาน้องสาวของนาย เหมือนเธอจะพยายาม เข้าร่วมกับฝ่ายของต้นกําเนิดที่แท้จริงล่ะมั้ง? ส่วนสจ๊วร์ตอยู่ที่ลานฝึก”
เซลิน่าดีดนิ้วบอกที่อยู่ของเพื่อนพ้องของเธอทีละคน โรเอลขมวด คิ้วนานๆ ครั้ง นอกเหนือจากสจ๊วร์ตกับเคิร์ตแล้ว จูเลียน่าจากเผ่าเลือด ก็ไปหาอลิเซียและต้องการจะเข้าร่วมกับฝ่ายกุหลาบขาว การเพิ่มขึ้น ของสมาชิกฝ่ายนี้อยู่เหนือการคาดคิดของโรเอล และดูเหมือนว่าความ เข้าใจผิดเกี่ยวกับต้นกําเนิดที่แท้จริงนั้นจะยังไม่ถูกแก้ไข
เมื่อคิดเรื่องพวกนี้แล้วเด็กหนุ่มก็ทอดถอนใจอย่างไร้ทางช่วย แต่ ก่อนจะทันได้คิดหาวิธีแก้ ประตูห้องก็ถูกเคาะอย่างกะทันหัน แล้ว นักเรียนที่เป็นเวรวันนี้ก็เดินเข้ามาพร้อมกับจดหมาย หลังจากโรเอลรับ มันมาแล้วเปิดอ่าน คิ้วของเขาก็ขมวดเข้าหากัน แล้วเขาก็ลุกขึ้น
‘คุณโรเอลที่เคารพ หลังจากการคิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว เราขอเชิญ ชวนคุณอย่างจริงใจให้เข้าร่วมการสัมมนาว่าด้วยการค้นหาและ ช่วยเหลือผู้ประสบโศกนาฏกรรมที่ป้อมปราการทาร์ก…
 
                                         
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
		 
         
                                     
                                     
                                     
                                     
		 
		 
		 
		