ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 1015 หอเมฆาสวรรค์ (3) ตอนที่ 1016 หอเมฆาสวรรค์ (4)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 1015 หอเมฆาสวรรค์ (3) ตอนที่ 1016 หอเมฆาสวรรค์ (4)
ตอนที่ 1015 หอเมฆาสวรรค์ (3) / ตอนที่ 1016 หอเมฆาสวรรค์ (4)
ตอนที่ 1015 หอเมฆาสวรรค์ (3)
“ข้าน้อยหลินเชวียคารวะท่านยาย” หลินเชวียคุกเข่าสองข้างและก้มศีรษะลงคำนับ
หญิงงามนางนั้นเหลือบตาขึ้นเล็กน้อย ดวงตายั่วยวนของนางกวาดมองหลินเชวียแล้วพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า “เสี่ยวอวิ๋นบอกข้าว่าเจ้ามีเรื่องสำคัญต้องพบข้าอย่างนั้นหรือ และมันก็เกี่ยวข้องกับมังกรมายาด้วย ข้าจำได้ว่าเจ้าเพิ่งบอกข้าไปเมื่อไม่กี่วันก่อนว่าเจ้าจะมอบมังกรมายาให้เป็นของขวัญวันเกิดข้า ที่เจ้ามาวันนี้คงไม่ได้หมายความว่ามีปัญหาอะไรใช่หรือไม่”
นางพูดเสียงเบา น้ำเสียงมีเสน่ห์น่าหลงใหล แต่ก็เสียดแทงเหมือนเข็มที่ทิ่มเข้าใส่หลินเชวีย
เหงื่อไหลลงมาตามแผ่นหลังของหลินเชวียขณะที่เขายังคงคุกเข่าอยู่ตรงหน้านาง ใบหน้าของเขาซีดเผือดราวกับผี
“ข้าน้อยผิดไปแล้ว! ข้าน้อยเลี้ยงบุตรชายได้ไม่ดีทำให้โง่งมจนตกหลุมพรางแผนการของคนที่คิดร้าย ทำให้ต้องสูญเสียมังกรมายาไป ท่านยายโปรดลงโทษข้าด้วยเถอะ!”
หญิงงามนางนั้นหรี่ตาลงมองหลินเชวียที่คุกเข่าอยู่บนพื้น จากนั้นนางก็ส่งเสียงหัวเราะที่กังวานใสเหมือนระฆังเงิน
“หลินเชวีย ที่เจ้ามาที่นี่วันนี้เพื่อจะบอกข้าว่าบุตรชายของเจ้าทำให้ข้าสูญเสียมังกรมายาไปอย่างนั้นหรือ”
หลินเชวียเริ่มตัวสั่นขณะที่ยังคุกเข่าอยู่บนพื้น แม้ว่าหูเขาจะได้ยินเสียงหัวเราะ แต่เสียงนั้นกลับทำให้เขาเหงื่อออกทั่วร่าง!
“เป็นความละเลยของข้าน้อยเอง บุตรชายของข้าถึงได้…”
เพล้ง!
จอกสุราหยกขาวกระแทกเข้าที่ขมับของหลินเชวียจนแตกละเอียดเกิดบาดแผลขึ้นที่ศีรษะทันที โลหิตไหลลงมาจากบาดแผลหยดลงบนพรมขนจิ้งจอกสีขาว ดูเหมือนดอกไม้สีโลหิตกำลังบานอยู่บนหิมะสีขาว
หลินเชวียไม่กล้าขยับออกจากที่ เขาบังคับตัวเองให้คุกเข่าต่อไปพร้อมกับรีบพูดขึ้นว่า “เป็นความโง่เขลาของบุตรชายข้าเองที่ตกหลุมพรางของคนพวกนั้นทำให้ต้องเสียมังกรมายาไป ข้าน้อยตรวจสอบเรื่องนี้มาแล้ว อีกฝ่ายได้ปลอมสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติให้เป็นสัตว์วิญญาณระดับต่ำจริงๆ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของปัญหานี้ ถึงเขาจะตกหลุมพรางของผู้อื่น แต่เรื่องนี้ก็ไม่อาจพูดได้ว่าไม่เกี่ยวข้องกับบุตรชายไม่เอาไหนของข้าน้อย ท่านยายโปรดลงโทษข้าน้อยแทนเจ้าบุตรชายโง่เขลาของข้าน้อยด้วยเถอะ”
หญิงงามหรี่ตาลงและลุกขึ้นนั่ง “สัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติอย่างนั้นหรือ”
หลินเชวียรู้สึกยินดีขึ้นมาทันทีเมื่อรู้ว่าเขาเลือกถูกวิธีแล้ว เขารีบตอบว่า “ขอรับ มันเป็นสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติอย่างแน่นอน คนของตึกเพลิงพิโรธพาคนผู้นั้นเข้ามาในเมือง ชื่อของเขาคือจวินเสีย เขาไม่เคยอยู่ในเมืองพันอสูรมาก่อนขอรับ”
“จวินเสียอย่างนั้นหรือ น่าสนใจ มีคนกล้าแตะต้องของที่ข้าต้องการด้วยหรือนี่” ใบหน้าของหญิงงามนางนั้นปรากฏสีหน้ามุ่งร้ายขึ้นมา นางปรบมือที่เรียบเนียนเหมือนหยกขาวคู่นั้นเบาๆ
บุรุษรูปร่างสูงใหญ่คนหนึ่งก็ขึ้นมาจากด้านล่าง
เมื่อหลินเชวียเห็นบุรุษผู้นั้น เขาก็เริ่มระมัดระวังตัวมากขึ้น บุรุษผู้นั้นเป็นหนึ่งในคนที่แข็งแกร่งที่ท่านยายพามาพร้อมกับนาง
“ไปตรวจสอบประวัติของคนที่ชื่อจวินเสียมา” นางพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ
บุรุษผู้นั้นประหลาดใจ เขาลังเลครู่หนึ่งหลังจากได้รับคำสั่ง ท่าทางเหมือนนึกอะไรได้ ทันใดนั้นเขาก็หันไปถามหลินเชวียว่า “คนที่ชื่อจวินเสียนั่นอายุเท่าไรหรือ เป็นบุรุษหรือสตรี”
หลินเชวียรีบตอบว่า “ดูเหมือนเขาจะอายุสิบสี่สิบห้าปี ตัวเล็ก เป็นแค่เด็กหนุ่มที่ยังไม่โตเต็มที่”
บุรุษผู้นั้นเลิกคิ้วขึ้น เขาก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่งแล้วพูดว่า “ข้าน้อยเคยได้ยินชื่อจวินเสียมาก่อนขอรับ”
“หือ” หญิงงามมองบุรุษผู้นั้นอย่างสงสัย
“เมื่อไม่กี่วันก่อน สายของเราจากรัฐเหยียนส่งรายงานมาว่าเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่กับราชวงศ์ที่ปกครองรัฐเหยียนอยู่ อดีตฮ่องเต้ผู้ปกครองรัฐ ถูกเปลี่ยนมือกลายมาเป็นของเด็กหนุ่มที่ชื่อจวินเสีย! เด็กหนุ่มคนนั้นอายุประมาณสิบสี่สิบห้าปี และสยงป้าก็เพิ่งกลับมาจากรัฐเหยียน ถ้าข้าเดาไม่ผิด จวินเสียที่หลินเชวียพูดถึงน่าจะเป็นฮ่องเต้พระองค์ใหม่ของรัฐเหยียนขอรับ” บุรุษผู้นั้นพูดขึ้นช้าๆ
หลินเชวียตกตะลึงไปในทันที!
ตอนที่ 1016 หอเมฆาสวรรค์ (4)
หลินเชวียไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจวินเสียจะมีภูมิหลังยิ่งใหญ่แบบนั้น ในเมืองพันอสูรแม้ว่าเขาจะเป็นหัวหน้าตึกที่เป็นที่เคารพนับถืออย่างมาก แต่มันก็ไม่ได้อยู่ในระดับที่สามารถต่อต้านฮ่องเต้แห่งรัฐที่ยิ่งใหญ่ที่สุดได้ หลินเชวียพบว่าตัวเองมีเหงื่อออกชุ่มโชกขึ้นมาทันที
เขาด่าว่าบุตรชายที่ก่อเรื่องสร้างปัญหาให้ตลอดอยู่ในใจเป็นล้านๆ ครั้ง
ในโลกนี้มีคนมากมายให้หาเรื่อง ดันไปเลือกหาเรื่องฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียน แผนเบี่ยงเบนความโกรธของท่านยายไปที่จวินเสียครั้งนี้ดูเหมือนจะใช้ไม่ได้เสียแล้ว
“เด็กหนุ่มอายุแค่สิบสี่สิบห้าปีสามารถเป็นฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียนได้จริงๆ น่ะหรือ นั่นเป็นแค่เรื่องตลกจากรัฐเหยียนหรือเปล่า” หญิงงามนางนั้นถามอย่างสงสัย
“ข้าน้อยได้ยินมาว่าจวินเสียมีพระธำมรงค์ที่เรียกว่า ‘พระธำมรงค์ของฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียน’ อยู่ด้วยขอรับ เดิมทีมันเป็นของอดีตฮ่องเต้ของรัฐเหยียนพระองค์หนึ่ง ฮ่องเต้พระองค์นั้นหายตัวไปนานมาก บัลลังก์จึงตกเป็นของพระอนุชาของพระองค์ชั่วคราว ตอนที่ขึ้นครองราชย์ พระอนุชาของพระองค์ได้ออกพระราชโองการมาว่า เมื่อคนที่ครอบครองพระธำมรงค์ของฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียนปรากฏตัวขึ้น ทายาทของพระองค์ทุกคนจะต้องสละราชสมบัติและยกบัลลังก์ให้แก่คนผู้นั้น” บุรุษผู้นั้นกล่าว
“เรื่องเป็นแบบนี้นี่เอง” หญิงงามนางนั้นพยักหน้าน้อยๆ “แล้วฮ่องเต้น้อยที่เพิ่งขึ้นครองราชย์มาทำอะไรที่เมืองพันอสูรของข้าแทนที่จะอยู่ที่รัฐเหยียนของตัวเองเล่า”
“เรื่องนั้น…ข้าน้อยก็ไม่ทราบขอรับ”
หญิงงามนางนั้นโบกมือไล่เขาออกไป นางหันไปมองหลินเชวียที่คุกเข่าอยู่ที่พื้น สายตาของนางดูเหมือนกำลังครุ่นคิดบางอย่างขณะที่หลินเชวียก็รู้สึกกระวนกระวาย
“ลืมไปเสีย ก็แค่สัตว์วิญญาณตัวหนึ่ง ในเมื่อฮ่องเต้น้อยแห่งรัฐเหยียนชอบมัน ก็ให้มันเป็นของขวัญต้อนรับจากข้าก็แล้วกัน”
หลินเชวียได้ยินท่านยายพูดเช่นนั้นก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกอยู่เงียบๆ
“อีกไม่นานก็จะถึงงานเลี้ยงวันเกิดของข้า เนื่องด้วยโอกาสที่ฮ่องเต้น้อยแห่งรัฐเหยียนมาอยู่ที่เมืองพันอสูรเช่นนี้ ให้คนไปเชิญฮ่องเต้น้อยมาร่วมงานเลี้ยงกับเราด้วย”
“ขอรับ!” หลินเชวียรีบพูด
“ส่วนเรื่องที่เกิดขึ้นคราวนี้ข้าจะไม่เอาเรื่อง ถึงอย่างไรเจ้าก็พยายามอย่างเต็มที่มาตลอดหลายปี ครั้งนี้จะไว้ชีวิตบุตรชายเจ้าไปก่อน แล้วมันก็ใกล้จะได้เวลาส่งคนกลุ่มต่อไปไปที่ผาสุดขอบฟ้าแล้วด้วย เจ้าก็น่าจะรู้ว่าต้องทำอย่างไร” หญิงงามนางนั้นพูดพร้อมกับเหลือบมองหลินเชวีย แม้ว่าจะเป็นการเหลือบมองเพียงแค่ชั่วแวบเดียว แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้รู้สึกหายใจไม่ออก
หลินเชวียตอบว่า “ข้าน้อยรู้ขอรับ ข้าน้อยจะจัดการให้เรียบร้อยอย่างแน่ขอรับ แต่…แต่เวลาที่ข้าน้อยขอให้ท่านเจ้าเมืองจัดคนเข้าคณะเดินทาง ดูเหมือนท่านเจ้าเมืองจะไม่พอใจมากนะขอรับ” ขณะที่พูดหลินเชวียก็ลอบเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยเพื่อสังเกตปฏิกิริยาของหญิงงามนางนั้น
หญิงงามนางนั้นพูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะอย่างเย็นชา “ความไม่พอใจของเขาก็ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับเจ้านี่ ทำไมจะต้องสนใจด้วยว่าเขาจะรู้สึกอย่างไร”
“ขอรับ…ขอรับ ทุกอย่างจะเป็นไปตามที่ท่านยายต้องการ ข้าน้อยจะทำอย่างเต็มที่เพื่อให้สำเร็จขอรับ” หลินเชวียพูด
หญิงงามพยักหน้าอย่างพอใจ
“ไปได้แล้ว!”
“ขอรับ” หลินเชวียถอยออกมา แล้วให้คนของเขาวางของขวัญทั้งหมดลงก่อนจะออกไปจากหอเมฆาสวรรค์
“พวกเจ้าทุกคนก็ออกไปด้วย” หญิงงามโบกมือไล่ชายหนุ่มหน้าตาดีทั้งหมดในห้องให้ออกไป
เมื่อเหลือนางอยู่เพียงคนเดียวที่ชั้นบนสุด บุรุษรูปร่างสูงใหญ่ที่ออกไปเมื่อครู่ก็กลับมาพร้อมกับบุรุษอีกสองคน
“ที่พูดเมื่อครู่ทั้งหมด พวกเจ้าได้ยินกันแล้วใช่หรือไม่” ชวีซินรุ่ยถามพร้อมกับลุกขึ้นนั่งตัวตรงบนตั่งยาว นางมองไปที่คนทั้งสามที่มาที่เมืองพันอสูรพร้อมกับนาง
“พวกเราได้ยินชัดเลยล่ะ เรื่องที่เจ้าปล่อยหลินเชวียไปง่ายๆ คราวนี้ไม่เหมือนนิสัยของเจ้าเลย ข้าคิดว่าเจ้าจะอยากฉีกบุตรชายของเขาออกเป็นล้านๆ ชิ้นถึงจะพอใจเสียอีก” บุรุษผู้ที่ทำท่าเคารพชวีซินรุ่ยอย่างมากอยู่เมื่อครู่นี้พูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะ น้ำเสียงของเขาไม่มีวี่แววเคารพแบบเดียวกับเมื่อครู่อยู่เลย