ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 1031 งานเลี้ยงวันเกิด (6) ตอนที่ 1032 งานเลี้ยงวันเกิด (7)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 1031 งานเลี้ยงวันเกิด (6) ตอนที่ 1032 งานเลี้ยงวันเกิด (7)
ตอนที่ 1031 งานเลี้ยงวันเกิด (6) / ตอนที่ 1032 งานเลี้ยงวันเกิด (7)
ตอนที่ 1031 งานเลี้ยงวันเกิด (6)
“คารวะท่านยาย” คนทั้งกลุ่มประสานเสียงคารวะ แต่จวินอู๋เสียก็ยังยืนนิ่งอยู่กับที่ และชวีซินรุ่ยก็มองมาที่นาง
สายตาที่ดูร้ายกาจคู่นั้นกวาดมองร่างของจวินอู๋เสียที่ยืนเด่นอยู่ข้างหน้า นางหรี่ตาลงเล็กน้อย ริมฝีปากขยับโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มบางๆ
ชวีซินรุ่ยส่งคนไปตรวจสอบประวัติของ ‘จวินเสีย’ และได้เห็นภาพวาดของอีกฝ่ายแล้ว นางคิดว่าร่างในภาพวาดเป็นภาพที่ดูดีมีเสน่ห์ที่สุดแล้ว นางจึงค่อนข้างผิดหวัง แต่เมื่อนางได้เห็น ‘จวินเสีย’ ตัวเป็นๆ ก็รู้สึกประหลาดใจและพอใจขึ้นมา
แม้ว่าใบหน้าที่ยังไม่โตเต็มวัยจะไม่ได้โดดเด่นสะดุดตา แต่ดวงตาคู่นั้นมันติดตราตรึงใจยิ่งนัก!
เหมือนน้ำที่กลายเป็นน้ำแข็งในทะเลสาบฤดูหนาว เย็นเยียบและลึกล้ำ
ชวีซินรุ่ยเห็นชายหนุ่มหน้าตาดีที่อยู่รอบๆ ตัวจนชินแล้ว นางจึงหลงเสน่ห์ดวงตาของจวินอู๋เสียในทันที
ชวีซินรุ่ยไม่สนใจคนอื่นๆ ที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น นางเอาแต่จ้องมองจวินอู๋เสียที่ยืนตัวตรงอยู่ตรงหน้าแล้วพูดว่า “คุณชายท่านนี้ คงเป็นคุณชายที่ชื่อจวินเสียสินะ”
จวินอู๋เสียมองชวีซินรุ่ย นางดูสง่างาม ผิวของนางเรียบเนียนเต่งตึง ไม่ว่าจะมองอย่างไรนางก็ไม่เห็นริ้วรอยบ่งบอกอายุเลยสักนิด มองแล้วอย่างมากนางก็อายุยี่สิบปีเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งไม่ได้เศษเสี้ยวของอายุจริงของนางเลย
จวินอู๋เสียรู้ว่าเมื่อเข้าสู่ขั้นพลังวิญญาณขั้นสีม่วง หน้าตาของคนผู้นั้นจะเยาว์วัยลงเล็กน้อย แต่ความเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยนั้นไม่เพียงพอที่จะทำให้หญิงชราหน้าตาเหี่ยวย่นกลายเป็นหญิงสาวอายุยี่สิบปีได้หรอก
ตอนที่ชวีซินรุ่ยได้รับพลังวิญญาณขั้นสีม่วง ผมของนางก็กลายเป็นสีขาวหมดแล้ว นางเป็นหญิงชราอายุเกือบร้อยปี แต่พอนางกลับมาที่เมืองพันอสูร นางก็กลายสภาพเป็นสาวน้อยอายุยี่สิบปีที่ดูสง่างาม หน้าตาของนางไม่แตกต่างไปจากตอนที่นางยังเป็นหญิงสาวอยู่เลย แต่ความเปลี่ยนแปลงอย่างมากนั้นเป็นเรื่องที่แปลกมาก
จวินอู๋เสียหรี่ตาลงเล็กน้อย แล้วพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งว่า “ผู้น้อยจวินเสีย ขออวยพรให้คุณหนูชวีมีสุขภาพแข็งแรง”
จะให้จวินอู๋เสียเรียกชวีซินรุ่ยว่าท่านยาย คงต้องลงมือฆ่านางเสียก่อน
การที่จวินอู๋เสียเรียกชวีซินรุ่ยว่า ‘คุณหนูชวี’ เกือบทำให้ชวีเหวินเฮ่าและคนอื่นๆ ที่คุกเข่าอยู่ที่พื้นหัวใจวายตาย ทั้งเมืองพันอสูรไม่มีใครกล้าเรียกชวีซินรุ่ยแบบนั้นเลย!
หลินเฟิงแอบหัวเราะอยู่ในใจ เขารอดูชวีซินรุ่ยแสดงความโกรธจากการที่จวินอู๋เสียไม่เคารพนางออกมา
แต่หลังจากที่ชวีซินรุ่ยชะงักไปครู่หนึ่งอย่างประหลาดใจ นางก็หัวเราะออกมาเสียงดังลั่น เสียงนั้นไม่มีความโกรธเคืองเจือปนอยู่เลยสักนิด ตรงกันข้ามกลับมีความปลื้มปริ่มใจแทน
“คุณชายจวินช่างรู้จักใช้คำพูดได้ดีจริงๆ อายุอานามของข้าก็ปูนนี้แล้ว จะถูกเรียกว่าคุณหนูได้อย่างไร ข้าไม่ได้ยินคำว่าคุณหนูมาร้อยกว่าปีแล้ว” ชวีซินรุ่ยยิ้ม ดูเหมือนนางจะอารมณ์ดีทีเดียว
ในโลกนี้ไม่มีสตรีนางไหนชอบที่ถูกเรียกให้แก่กว่าที่ตัวเองเป็นหรอก แม้แต่ชวีซินรุ่ยที่เป็นหญิงชราอายุเกินร้อยปีไปแล้ว แต่ได้เปลี่ยนรูปร่างหน้าตาให้เป็นแบบนี้และลบริ้วรอยที่บ่งบอกถึงอายุให้ออกไปจากร่างทั้งหมด ก็เป็นคนที่ให้ความสนใจเรื่องหน้าตาและอายุของตัวเองเป็นอย่างมาก
การที่จวินอู๋เสียเรียกนางว่า ‘คุณหนู’ จึงทำให้ชวีซินรุ่ยพอใจมากแทนที่จะโกรธ
แม้ว่าจวินอู๋เสียจะไม่รู้อะไรมากนักเรื่องปฏิสัมพันธ์ของผู้คน แต่นางก็เคยได้ยินว่าสตรีมักจะชื่นชอบอะไรแบบนี้เสมอ
“ข้าได้ยินเหวินเฮ่าชมเชยท่านว่าเป็นเด็กหนุ่มที่มีพรสวรรค์ และท่านก็ได้ช่วยรักษาอาการบาดเจ็บของหลิงเย่ว์ ในฐานะผู้อาวุโสของพวกเขา ข้าอยากจะขอบคุณท่าน ถ้าคุณชายจวินไม่รังเกียจก็มานั่งข้างๆ ข้าเถอะ” ชวีซินรุ่ยยกมือขึ้นชี้ไปที่โต๊ะเตี้ยที่อยู่ใกล้นางมากที่สุด
ตอนที่ 1032 งานเลี้ยงวันเกิด (7)
จวินอู๋เสียไม่ปฏิเสธ นางเดินไปนั่งที่โต๊ะเตี้ยข้างๆ ชวีซินรุ่ย พวกคนโปรดที่รับใช้ชวีซินรุ่ยพากันมองจวินอู๋เสียด้วยสายตาดูหมิ่นเหยียดหยาม
ชวีซินรุ่ยเห็นจวินอู๋เสียมานั่งที่โต๊ะแล้ว นางก็เบนความสนใจไปที่กลุ่มคนที่กำลังคุกเข่าอยู่ที่พื้น
“ทุกคนลุกขึ้นได้” นางพูดอย่างเกียจคร้าน
ชวีเหวินเฮ่ากับคนที่เหลือพากันลุกขึ้นและไปหาที่นั่งของตัวเอง
หลินเฟิงมองไปที่จวินอู๋เสีย เขาคิดว่าชวีซินรุ่ยจะโกรธในความทะลึ่งอวดดีของจวินอู๋เสีย ไม่คิดว่าจวินอู๋เสียจะได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นกันเองแบบนี้ แถมยังได้นั่งข้างๆ ชวีซินรุ่ยด้วย
เป็นที่รู้กันดีว่าที่นั่งตรงนั้นชวีเหวินเฮ่าไม่เคยได้นั่ง แต่ท่านพ่อของเขาหลินเชวียจะได้นั่งตรงนั้นเสมอ การปฏิบัติเช่นนี้ก็เท่ากับบอกว่าจวินอู๋เสียกำลังจะมาแย่งตำแหน่งของท่านพ่อของเขา
ไม่ว่าจะคิดอย่างไรหลินเฟิงก็ยังคงไม่เข้าใจว่าทำไมชวีซินรุ่ยถึงยกได้โทษให้อีกฝ่ายง่ายๆ แบบนี้ ท่านพ่อของเขาบอกเขาว่าจะมาพบชวีซินรุ่ยเพื่อโยนความผิดทั้งหมดในเรื่องที่เกิดขึ้นกับมังกรมายาไปให้จวินอู๋เสีย แต่พอหลินเชวียกลับมาที่จวน ก็กักบริเวณเขาต่อแล้วบอกให้เขาทบทวนการกระทำของตัวเอง และไม่ยอมพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย หลินเฟิงคิดเอาเองว่าชวีซินรุ่ยคงจัดการจวินอู๋เสียไปแล้วตอนนั้น แต่พอเขาเห็นจวินอู๋เสียปรากฏตัวขึ้นที่งานเลี้ยงวันนี้ เขาก็รู้ว่าเขาคิดผิด
การที่ชวีซินรุ่ยไม่เอาเรื่องเขา เขายังคิดได้ว่าเป็นเพราะท่านพ่อเป็นคนโปรดของชวีซินรุ่ยทำให้ชวีซินรุ่ยยอมผ่อนผันละเว้นให้ แต่จวินอู๋เสียเป็นใคร มันมีอะไรที่ชวีซินรุ่ยจะต้องปล่อยไอ้คนที่ไม่มีความสำคัญอะไรไปง่ายๆ ด้วย แถมยังต้อนรับขับสู้จวินอู๋เสียอย่างเป็นกันเองในวันนี้อีก
หลินเฟิงไม่อยากยอมรับว่าจวินอู๋เสียได้ขโมยความสนใจไปจนหมดแล้ว เขาจึงลุกขึ้นทันทีแล้วยกจอกสุราขึ้น พูดกับชวีซินรุ่ยว่า “หลินเฟิงคารวะท่านยาย ขอให้ท่านยายสุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาว มีโชคลาภสมความปรารถนาในทุกๆ ปีขอรับ”
ชวีซินรุ่ยมัวแต่สนใจจวินอู๋เสีย จู่ๆ หลินเฟิงก็ลุกขึ้นดื่มอวยพรอย่างกะทันหัน ทำให้นางได้สติกลับมา
หลินเฟิงมีใบหน้าที่โดดเด่นสะดุดตา และชวีซินรุ่ยก็แพ้คนหล่ออยู่แล้ว ทำให้นางอะลุ้มอล่วยให้หลินเฟิงมากขึ้นเล็กน้อย
“เสี่ยวเฟิงสูงขึ้นนะปีนี้ แล้วก็ยิ่งหล่อมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วย แถมยังปากหวานเหมือนทาน้ำผึ้งอีก” ชวีซินรุ่ยพูดด้วยรอยยิ้ม
หลินเฟิงแอบยินดีอยู่ในใจ เขายกจอกขึ้นดื่มรวดเดียว
ชวีซินรุ่ยก็ดื่มเช่นกัน แต่พอวางจอกลงสายตาของนางก็หันกลับมามองที่จวินอู๋เสีย
“ข้าได้ยินว่าคุณชายจวินมีสัตว์วิญญาณอยู่ตัวหนึ่ง แถมยังเป็นสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติที่ยากจะได้พบในรอบร้อยปี นั่นน่าประทับใจมากจริงๆ ทำไมคุณชายจวินถึงไม่พามันมาที่นี่ด้วยเล่า”
จวินอู๋เสียตอบว่า “เจ้านั่นมันเกเรเกินไป”
ชวีซินรุ่ยหัวเราะ “มันก็คงเกเรเกินไปหน่อยจริงๆ ข้าได้ยินมาว่าคุณชายจวินนำสัตว์วิญญาณตัวนั้นไปที่ลานประลองสัตว์วิญญาณและสร้างความวุ่นวายมากทีเดียว แต่สัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติเป็นสัตว์วิญญาณที่ยิ่งใหญ่สง่างามและหยิ่งทระนง เป็นไปไม่ได้ที่จะควบคุมมัน การที่คุณชายจวินสามารถฝึกมันได้ก็เป็นความสามารถที่ไม่ธรรมดาอยู่แล้ว สัตว์วิญญาณที่ต่ำกว่าระดับภัยพิบัติก็เลยไร้ประโยชน์ไปหมด น่าเสียดายมังกรมายาของข้า ข้าจะใช้มันทำอย่างอื่นและไม่ได้คิดว่ามันจะถูกนำไปที่ลานประลองสัตว์วิญญาณจนถูกสัตว์วิญญาณของท่านกินเข้าไปทั้งตัวโดยไม่เหลือแม้แต่กระดูกสักชิ้นแบบนี้”
ชวีซินรุ่ยมองจวินอู๋เสียอย่างเสียใจ แม้ว่าอายุจริงของนางจะเกินร้อยปีไปแล้ว แต่หน้าตาของนางก็ยังงดงามและอ่อนเยาว์ กิริยาท่าทางของนางเองก็เย้ายวนมาก และมีมาดผู้ดีมากกว่าหญิงสาวที่อ่อนวัยกว่าเล็กน้อย สายตาของนางเป็นสายตาที่สามารถทำให้บุรุษตกหลุมรักได้อย่างง่ายดาย
แต่จวินอู๋เสียกลับพูดแค่ว่า “ข้าเพิ่งมาที่นี่ ไม่รู้ว่ามังกรมายาเป็นของคุณหนูชวี ข้าเห็นว่ามันถูกชายหนุ่มคนหนึ่งที่ท้าชิงข้าพามาเท่านั้นแล้วข้าก็แค่ยอมรับคำท้า”
หลินเฟิงไม่คิดว่าชวีซินรุ่ยจะนำเรื่องมังกรมายาขึ้นมาพูดตอนนี้ พอเขาได้ยินจวินอู๋เสียตอบแบบนั้น เขาก็ใจหายวาบ