ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 1037 กรรมตามสนอง (1) ตอนที่ 1038 กรรมตามสนอง (2)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 1037 กรรมตามสนอง (1) ตอนที่ 1038 กรรมตามสนอง (2)
ตอนที่ 1037 กรรมตามสนอง (1) / ตอนที่ 1038 กรรมตามสนอง (2)
ตอนที่ 1037 กรรมตามสนอง (1)
ชวีเหวินเฮ่ารู้สึกกังวลเป็นอย่างมาก ส่วนหลินเฟิงเมื่อได้ยินคำพูดพวกนั้น ดวงตาของเขาก็เบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ
นี่ชวีซินรุ่ยจะให้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงเป็นการแลกเปลี่ยนกับความช่วยเหลือของจวินเสียเลยหรือ
ทำไมเล่า
ถึงจวินเสียจะมีสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติ แต่ก็ยังไม่มีเหตุผลที่ชวีซินรุ่ยจะให้ค่าเจ้าเด็กนั่นสูงถึงขนาดนั้นเลยนี่!
หลินเฟิงรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย บิดาของเขาพยายามอย่างหนักเพื่อที่จะทำให้ชวีซินรุ่ยพอใจ แต่เขาก็ไม่ได้รับอะไรตอบแทนกลับมา ขณะที่จวินอู๋เสียที่เป็นสาเหตุทำให้ชวีซินรุ่ยเสียมังกรมายาไปและไม่ได้มีประโยชน์อะไรต่อชวีซินรุ่ยเลย แล้วทำไมจวินอู๋เสียถึงได้สิ่งดีๆ ทั้งหมดนี้ไปด้วย
จู่ๆ หลินเฟิงก็รู้สึกเลือดร้อนขึ้นมา ความอยุติธรรมที่เขาทนเก็บอยู่ในใจเดือดพล่านรุนแรงขึ้นเหมือนไฟที่ถูกพัดให้โหมกระหน่ำ ความโกรธและความอิจฉาทั้งหมดที่เขาพยายามเก็บกดเอาไว้พลันระเบิดออกมา
ก่อนที่จวินอู๋เสียจะทันได้ให้คำตอบ หลินเฟิงก็ลุกพรวดขึ้น ใบหน้าของเขาแดงก่ำจนดูเหมือนกำลังเมา
“ท่านยาย! จวินเสียเป็นแค่เด็กที่มาจากนอกเมือง เขามีคุณสมบัติอะไรมาร่วมมือกับเมืองพันอสูรของเรา แค่มีสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติตัวเดียวแล้วอย่างไรเล่าขอรับ ถ้าท่านยายต้องการ ข้าจะฆ่าเขาเมื่อไรก็ได้แล้วเอาสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติมาให้ท่าน!” หลินเฟิงระเบิดโทสะออกมาอย่างกะทันหัน!
คำพูดของหลินเฟิงทำให้ทั้งงานเลี้ยงเงียบกริบในทันที เหล่าชายหนุ่มคนโปรดที่กำลังบรรเลงดนตรีอยู่มองมาที่หลินเฟิงที่พูดจาเหลวไหลต่อหน้าชวีซินรุ่ยอย่างสะพรึงกลัว
หลินเชวียเห็นสถานการณ์เลวร้ายขึ้นมาและรอยยิ้มได้หายไปจากใบหน้าของชวีซินรุ่ย เขาก็รีบยื่นมือออกไปเพื่อห้ามหลินเฟิงแต่หลินเฟิงก็ปัดมือบิดาของเขาทิ้ง!
จวินอู๋เสียเอนหลังเล็กน้อยพลางเล่นจอกสุราในมือ ดวงตาทอประกายเย็นเยียบขณะมองหลินเฟิง ‘ระเบิด’
ดูเหมือนหลินเฟิงจะโกรธจนควบคุมตัวเองไม่ได้ เขาชี้นิ้วไปที่จวินอู๋เสียแล้วพูดกับชวีซินรุ่ยว่า “ท่านยาย เจ้าหมอนี่มันมีอะไรดี มันก็แค่มีสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติตัวเดียวเท่านั้น ถ้าท่านยายอยากได้สัตว์วิญญาณตัวนั้น ข้าช่วยเอามันมาให้ท่านได้! พอจวินเสียตาย ทุกอย่างก็จะไม่เป็นปัญหาอีกต่อไป นอกจากเรื่องที่มันมีสัตว์วิญญาณนั่นแล้ว มันมีอย่างอื่นที่น่าพอใจด้วยหรือขอรับ”
“หุบปากเดี๋ยวนี้!” เมื่อเห็นสีหน้าโกรธเคืองของชวีซินรุ่ย หลินเชวียก็ใจสั่นขึ้นมาด้วยความกลัว เขาลุกพรวดขึ้นและตบหน้าบุตรชายของตัวเองจนล้มลงกับพื้น
“ท่านยายได้โปรดยกโทษให้เขาด้วย! เจ้าลูกไม่เอาไหนของข้าเมามากเกินไปจนพูดจาเหลวไหลโดยไม่ได้ตั้งใจ ท่านยายโปรดอย่าได้ใส่ใจเลยขอรับ เขายังเป็นแค่เด็ก ยกโทษให้เขาด้วยเถอะขอรับ” หลินเฟิงรีบอ้อนวอนขอความเมตตาด้วยความหวาดกลัว
สีหน้าโกรธเคืองของชวีซินรุ่ยไม่ดีขึ้นเลยแม้แต่น้อย
ชิงอวี่ที่มองดูเหตุการณ์อยู่ด้านข้างตกใจจนพูดไม่ออก แม้ว่าหลินเฟิงจะมีนิสัยยโสโอหังและเย่อหยิ่งอวดดี แต่อย่างน้อยเขารู้เสมอว่าควรจะต้องปฏิบัติตัวเมื่ออยู่ต่อหน้าชวีซินรุ่ยอย่างไร แล้ววันนี้มันเกิดอะไรขึ้น จู่ๆ เขาก็กลายเป็นม้าพยศไปแบบนั้น ความยับยั้งชั่งใจกับท่าทางภายนอกที่ดูใจเย็นหายไปหมด กลับมารนหาที่ตายแบบนั้น!
ชิงอวี่มองไปที่จวินอู๋เสียโดยไม่ได้ตั้งใจ เมื่อเขาเห็นจวินอู๋เสียส่งสายตาเป็นสัญญาณมาให้ ชิงอวี่ก็สะดุ้งและผลักข้อสงสัยในใจออกไปทันทีแล้วรีบพูดว่า “ท่านหัวหน้าตึกหลินพูดได้น่าสนใจ คืนนี้ข้าไม่เห็นคุณชายหลินดื่มเกินสองจอกเลย เขาคออ่อนขนาดนั้นเลยหรือ แล้วที่ว่ายังเป็นเด็กนั่นอีก…ท่านหัวหน้าตึกหลินต้องล้อเล่นแน่ๆ หลินเฟิงจะเข้าพิธีบรรลุนิติภาวะในเร็วๆ นี้แล้ว ถ้าอายุขนาดนี้ยังนับว่าเด็ก คุณชายจวินไม่กลายเป็นเด็กทารกไปแล้วหรือขอรับ”
ตอนที่ 1038 กรรมตามสนอง (2)
ตึกเพลิงพิโรธกับตึกน้ำค้างเหมันต์เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด และชิงอวี่ก็ได้รับสัญญาณจากจวินอู๋เสียที่ให้ช่วยราดน้ำมันลงบนกองเพลิง
พอหลินเชวียเจอชิงอวี่โต้มาแบบนั้น เขาก็แทบจะกระอักโลหิตตายด้วยความโกรธ
ตรงกันข้ามกับหลินเฟิงที่ไม่ยับยั้งตัวเองเอาไว้เลยสักนิดทั้งๆ ที่บิดาของเขาทำเป็นเกรี้ยวกราดแล้ว เขาพยายามลุกขึ้นมาจากที่พื้นล้มอยู่ ใบหน้าแดงก่ำดูเจ็บปวดเสียใจมาก
“ท่านพ่อ! ข้าไม่ได้เมา! ทุกอย่างที่ข้าพูดไม่ใช่ความจริงหรืออย่างไร จวินเสียมันเป็นใคร มีคุณสมบัติอะไรมาร่วมมือกับท่านยาย ท่านพ่อก้มหัวรับใช้ท่านยายมาตั้งนาน ทำตามคำสั่งท่านยายทุกอย่าง แล้วท่านได้อะไรกลับมาบ้างเล่า แล้วนี่ท่านยายยังจะให้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงที่ทุกคนไม่กล้าแม้แต่จะใฝ่ฝันถึงให้กับเจ้าเด็กสารเลวนั่นอีก! ได้อย่างไร! ทั้งหมดนี้ควรจะเป็นของท่านพ่อมากกว่าสิ!”
คำพูดของหลินเฟิงทำให้หลินเชวียใจหายวูบ ตอนที่หลินเฟิงด่าแค่จวินอู๋เสียเมื่อครู่ก็แย่พอแล้ว ตอนนี้ยังด่ารวมไปถึงชวีซินรุ่ยอีก!
เขาจะแก้ไขเรื่องนี้ได้อย่างไรดี
หลินเชวียคุกเข่าลงตรงหน้าชวีซินรุ่ยทันที ตัวของเขาสั่นราวกับใบไม้ต้องลม
“ท่านยายก็รู้ว่าข้าน้อยไม่เคยคิดเช่นนั้นเลย บุตรชายของข้าน้อยพูดไปก็เพราะเมา ท่านอย่าได้ใส่ใจเลยขอรับ แค่ได้รับใช้ท่านยายก็เป็นโชคดีที่สุดของข้าน้อยแล้ว ข้าน้อยไม่กล้าคิดอะไรนอกเหนือไปจากการได้รับใช้ท่านโดยไม่มีเงื่อนไขหรอกขอรับ”
สีหน้าของชวีซินรุ่ยดูน่าเกลียดมาก คนทั้งงานพากันเงียบ ไม่มีใครกล้าพูดอะไรออกมาเลยสักคำ
“ท่านพ่อ! นี่ท่านพ่อกำลังบอกว่าที่ข้าพูดมันไม่เป็นความจริงอย่างนั้นหรือ หลายปีมานี้ท่านทำเพื่อท่านยายไปมากแค่ไหน แต่ถึงท่านยายจะไม่ตอบแทนท่านก็ไม่เป็นไร แต่นี่นางให้ความสนิทสนมกับเจ้าเด็กต่างเมืองถึงขนาดนี้ แล้วท่านเล่า นางเอาท่านไปไว้ที่ไหนกัน” หลินเฟิงยังไม่ยอมเลิก
ตอนนี้หลินเชวียอยากจะหาอะไรมาอุดปากเจ้าบุตรชายตัวดีใจจะขาดแล้ว
“เจ้าลูกอกตัญญู! ยังไม่หุบปากอีก! เจ้าจะทำตัวไร้มารยาทต่อหน้าท่านยายไม่ได้! คิดว่าตัวเองเป็นใครกันถึงกล้ามาพูดกับท่านยายแบบนี้ รีบคุกเข่าขอโทษท่านยายเดี๋ยวนี้!”
“ข้าไม่ได้ทำอะไรผิด! ทำไมข้าต้องหุบปากด้วย! ทุกอย่างที่ข้าพูดเป็นความจริงไม่ใช่หรือ การเดินทางไปผาสุดขอบฟ้าทั้งหมดนั่นไม่ใช่ท่านพ่อหรือที่เป็นคนดำเนินการ ท่านเจ้าเมืองไม่ยอมทำอะไร เป็นท่านคนเดียวที่รวบรวมผู้คนมา! คนมากมายเท่าไรแล้วที่ตายไปที่ด้านล่างของผาสุดขอบฟ้า ท่านพ่อถูกทุกคนในเมืองพันอสูรด่าทอสาปส่งหนักแค่ไหน ความพยายามทั้งหมดของท่านมันยังไม่พอหรืออย่างไร” ในใจของหลินเฟิงเต็มไปด้วยความโกรธที่ไม่อาจระงับลงได้ ความรู้สึกแย่ๆ ทั้งหมดไหลบ่าราวกับน้ำป่าทะลัก ไม่อาจจะหยุดยั้งได้
หลินเชวียหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด เขายังคงคุกเข่าอยู่ที่เดิม ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมองสีหน้าของชวีซินรุ่ยในตอนนั้น
ราวกับมีเมฆดำทะมึนก่อตัวขึ้น ชวีซินรุ่ยหันไปมองหลินเฟิงด้วยสายตาน่ากลัวแล้วพูดว่า “หลินเฟิงกำลังบอกข้าว่า ข้าเป็นสาเหตุให้หลินเชวียต้องถูกด่าอย่างนั้นหรือ”
หลินเชวียตัวสั่นหนักขึ้นกว่าเดิม
แต่ดูเหมือนหลินเฟิงจะไม่ได้สังเกตอะไรเลย เขาตอบว่า “ท่านพ่อแค่ทำงานให้ท่านยาย พวกเราไม่ควรต้องถูกด่าว่าเช่นนั้น แต่เจ้าเด็กนั่นมันเป็นใคร ทำไมท่านยายถึงทำดีกับมันนัก”
ปัง!
ชวีซินรุ่ยฟาดฝ่ามือกระแทกโต๊ะตรงหน้าและลุกขึ้นจากตั่งยาวทันที
“หลินเฟิง! เจ้าชักจะบังอาจมากขึ้นทุกทีแล้วนะ!”
ชวีซินรุ่ยโกรธจัด นางยังไม่ลงโทษเขาที่ทำให้มังกรมายาตายเลย ตอนนี้ยังจะกล้าวิพากษ์วิจารณ์วิธีการของนางต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้อีก! แล้วแบบนี้นางจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
“ระงับโทสะลงก่อนเถอะขอรับท่านยาย! อย่าเพิ่งโกรธเลย! ลูกข้ามันเมา เขาเมาก็เลยพูดจาเหลวไหล คำพูดตอนเมาเชื่อถือไม่ได้หรอกขอรับ” หลินเชวียตกใจมาก เขาร่ำไห้วิงวอนขอให้ไว้ชีวิตหลินเฟิงอย่างกระวนกระวาย