ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 1047 เชิญ (3) ตอนที่ 1048 วัวแก่กินหญ้าอ่อน (1)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 1047 เชิญ (3) ตอนที่ 1048 วัวแก่กินหญ้าอ่อน (1)
ตอนที่ 1047 เชิญ (3) / ตอนที่ 1048 วัวแก่กินหญ้าอ่อน (1)
ตอนที่ 1047 เชิญ (3)
เหล่าชายหนุ่มออกไปจากห้องตามคำสั่ง ที่ห้องโถงชั้นบนสุดเหลือเพียงจวินอู๋เสีย ชวีซินรุ่ย กับเสิ่นฉือเพียงสามคนเท่านั้น จวินอู๋เสียนั่งลงบนเก้าอี้ ส่วนเสิ่นฉือก็ยืนอยู่ด้านหนึ่ง
“เมื่อคืนข้าเมามากเลยต้องกลับไปพักเร็วหน่อย ก็เลยไม่ได้คุยกับคุณชายจวินให้รู้เรื่อง ช่างน่าอายจริงๆ” ชวีซินรุ่ยพูดพลางมองจวินอู๋เสียอย่างเสียใจ ท่าทางของนางยั่วยวนมาก “เมื่อคืนข้าตั้งใจที่จะคุยกับคุณชายจวินให้มากกว่านี้ แต่หลินเฟิงทำบรรยากาศเสียไปหมด หลินเฟิงเป็นคนของเมืองพันอสูรเรา เขาล่วงเกินคุณชายจวินอย่างรุนแรงเช่นนั้น ข้าหวังว่าคุณชายจวินจะไม่ถือสาหาความ”
พูดจบชวีซินรุ่ยก็พยักหน้าให้เสิ่นฉือ และเสิ่นฉือก็เดินลงบันไดไปทันที ครู่หนึ่งเขาก็กลับมาพร้อมกับลากชายหนุ่มที่สวมเสื้อผ้ามอซอเข้ามาด้วย
แขนขาของชายหนุ่มผู้นั้นถูกหักบิดอยู่ในมุมแปลกๆ ตอนที่เขาถูกเสิ่นฉือลากตัวเข้ามา โลหิตจากร่างของเขาก็เปื้อนพรมขนจิ้งจอกขาวเป็นทางยาว มีห่วงเหล็กถูกคล้องอยู่รอบคอของชายหนุ่มผู้นั้น โซ่หนาสองนิ้วติดอยู่กับห่วงเหล็กโดยที่ปลายอีกด้านอยู่ในมือของเสิ่นฉือ ขาทั้งสองข้างหักและไม่สามารถเดินได้ มือทั้งสองก็ถูกบิดไว้ที่ด้านหลัง ชายหนุ่มผู้นั้นทำได้แค่นอนให้เสิ่นฉือลากตัวไปกับพื้นโดยที่ช่วยตัวเองไม่ได้เลย
“หลินเฟิงอายุเกือบสิบแปดปีแล้ว เขาไม่ใช่เด็กอีกต่อไปแล้ว ถ้าเขาทำความผิดเขาก็ต้องรับผิดชอบการกระทำของตัวเอง ไม่ทราบว่าคุณชายจวินพอใจที่ข้าลงโทษเขาเช่นนี้หรือไม่” ชวีซินรุ่ยพูดพร้อมวางเท้าลงมาที่พื้นและเดินไปตรงหน้าชายหนุ่มผู้นั้นก่อนจะใช้เท้ายกคางของเขาขึ้น
เมื่อเขาเงยหน้าขึ้น จวินอู๋เสียจึงเห็นหน้าของชายหนุ่มผู้นั้นได้อย่างชัดเจน
ชายหนุ่มผู้นั้นไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นคนที่ทำให้ชวีซินรุ่ยโกรธเมื่อคืน…หลินเฟิง!
แต่ตอนนี้หลินเฟิงดูแตกต่างจากเมื่อวานโดยสิ้นเชิง!
ใบหน้าที่จัดได้ว่าหล่อเหลาเอาการตอนนี้เปื้อนโลหิตเต็มไปหมด ดวงตาทั้งสองข้างถูกเย็บปิดเอาไว้ ริมฝีปากแห้งผากจนแตก มีคราบโลหิตแห้งติดอยู่ที่มุมปาก ปากของเขาอ้ากว้างจนเห็นว่าฟันถูกกระแทกจนหัก เหลือแค่รากฟันแตกๆ ติดอยู่ที่เหงือก และลิ้นของเขาก็ถูกดึงออกไปหมด!
ถ้าไม่ใช่ว่าใบหน้าของเขาไม่ได้เปลี่ยนไป ใครจะไปคิดว่าชายหนุ่มที่ครึ่งเป็นครึ่งตายคนนี้คือนายน้อยของตึกน้ำค้างเหมันต์
จวินอู๋เสียมองสภาพของหลินเฟิงอย่างเฉยเมย แค่คืนเดียวเท่านั้น ชวีซินรุ่ยก็ทรมานหลินเฟิงจนอยู่ในสภาพนั้น ในที่สุดจวินอู๋เสียก็เข้าใจแล้วว่าทำไมหลินเชวียถึงสิ้นหวังขนาดนั้นตอนที่เห็นเสิ่นฉือปรากฏตัวขึ้น
ตอนนั้นหลินเชวียต้องรู้แล้วว่าหากหลินเฟิงตกอยู่ในมือของเสิ่นฉือ ผลที่ออกมาจะเป็นอย่างไร
แขนขาทั้งสี่ถูกหัก ตามองไม่เห็น ปากพูดไม่ได้ หลินเฟิงนอนกองอยู่บนพื้นอย่างสิ้นไร้เรี่ยวแรง เสียงครางด้วยความเจ็บปวดออกจากลำคออันแห้งผากของเขาเบาๆ
ชวีซินรุ่ยลอบสังเกตปฏิกิริยาของจวินอู๋เสีย และพบว่าปฏิกิริยาของจวินอู๋เสียนิ่งกว่าที่นางคิดเอาไว้มาก หลังจากเห็นสภาพของหลินเฟิง จวินอู๋เสียไม่ได้แสดงความตกใจหรือหวาดกลัวออกมาเลย ดวงตาคู่นั้นยังคงเย็นชาและเฉยเมยอย่างที่เคยเป็น
“คุณหนูชวีเชิญข้ามาที่นี่เพื่อให้ข้าดูสิ่งนี้เท่านั้นหรือ” จวินอู๋เสียหันหน้าไปพูดอย่างเย็นชา ไม่มีความสงสารเห็นใจหลินเฟิงหรือความหวาดกลัวในวิธีการอันโหดเหี้ยมชั่วร้ายของชวีซินรุ่ยเลยสักนิด
ชวีซินรุ่ยยกมือขึ้นปิดปากหัวเราะเบาๆ”ไม่ใช่แน่นอน นั่นเป็นแค่การแสดงความจริงใจของข้าให้คุณชายจวินเห็นเท่านั้น”
ตอนที่ 1048 วัวแก่กินหญ้าอ่อน (1)
จวินอู๋เสียเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ
“ความจริงใจหรือ”
ชวีซินรุ่ยพูดว่า “คุณชายจวินลืมสิ่งที่ข้าพูดไปเมื่อวานแล้วหรือ แม้ว่าฮ่องเต้จะมีอำนาจมากที่สุดในรัฐ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถหลบหนีความเสื่อมถอยตามกาลเวลาได้ ถ้าคุณชายจวินเต็มใจช่วยสนับสนุนให้ข้าบรรลุเป้าหมายแล้วละก็ ท่านจะสามารถทิ้งความกังวลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฮ่องเต้ไปได้ ที่ข้าเอาตัวหลินเฟิงมาให้ท่านดูก็เพราะข้าอยากให้คุณชายจวินรู้ว่าข้าอยากร่วมมือกับท่านอย่างจริงใจจริงๆ ถ้าท่านตกลง ท่านกับข้าก็จะเป็นพวกเดียวกัน ใครที่ดูหมิ่นท่านก็คือศัตรูของข้า ต่อให้เป็นคนของข้าเองข้าก็จะไม่ละเว้น” ชวีซินรุ่ยพูดพร้อมกับเอนตัวเข้ามาหาจวินอู๋เสีย
ร่างกายที่มีสัดส่วนโค้งเว้าของนางอยู่ในชุดที่บางมากๆ นางอิงแอบร่างกับจวินอู๋เสีย แววตาของนางดูยั่วยวนมาก
จวินอู๋เสียไม่มีท่าทีอะไรนอกจากมองชวีซินรุ่ยที่อิงแอบร่างนางอย่างเย็นชา
“คุณชายจวิน ท่านคิดเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วใช่หรือไม่ ท่านตกลงร่วมมือกับข้าหรือเปล่า” ชวีซินรุ่ยพูดพลางมองไปที่จวินอู๋เสีย
จวินอู๋เสียขมวดคิ้วเล็กน้อย มีกลิ่นหอมแปลกๆ ลอยมาจากร่างของชวีซินรุ่ย จวินอู๋เสียขยับตัวออกห่างจากชวีซินรุ่ยเล็กน้อย
“ข้าสงสัยว่าคุณหนูชวีคาดหวังความช่วยเหลือแบบไหนจากข้า”
ชวีซินรุ่ยสังเกตเห็นจวินอู๋เสียหลีกเลี่ยงนางก็รู้สึกไม่พอใจ แต่คำถามของจวินอู๋เสียก็ดึงความสนใจของนางกลับมาได้อย่างรวดเร็ว
“ข้ามีแผนที่อยู่ฉบับหนึ่ง บนแผนที่นั้นระบุที่ตั้งของขุมทรัพย์ที่มีค่ามหาศาล แต่แผนที่ฉบับนั้นยังไม่สมบูรณ์ ข้าจึงมีแค่สถานที่คร่าวๆ ของขุมทรัพย์นั้นเท่านั้น ไม่สามารถระบุตำแหน่งที่แน่นอนได้ ถ้าคุณชายจวินใช้อำนาจของรัฐเหยียนช่วยข้าค้นหาที่ตั้งของขุมทรัพย์นั้น ถึงงานจะยังไม่สำเร็จแต่ข้าก็จะสอนคุณชายจวินถึงวิธีที่จะกลายเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงให้ และหลังจากหาสมบัติเจอแล้ว ข้าก็จะแบ่งสมบัติให้คุณชายจวินด้วย”
จวินอู๋เสียมองชวีซินรุ่ยที่ปากหวานรื่นหูแต่แอบซ่อนมีดไว้ข้างหลังแล้วก็หัวเราะอยู่ในใจอย่างเย็นชา สมบัติหรือ นั่นต้องอุบายตื้นๆ ที่คนของสิบสองตำหนักใช้หลอกคนในสามโลกเบื้องล่างแน่ ขุมทรัพย์ที่พวกเขาพูดถึงก็คือสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ แล้วพวกเขามาพูดว่าจะแบ่งผลประโยชน์กันเนี่ยนะ ตลกสิ้นดี
เพื่อให้ได้สมบัติในสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิมา พวกสิบสองถึงกับไม่ยอมร่วมมือกับตำหนักอื่นๆ พวกเขามีแผนที่ที่เกือบสมบูรณ์อยู่แล้ว แต่ด้วยความละโมบอยากได้สมบัติทั้งหมดไว้เพียงลำพัง จึงยอมใช้เวลาให้มากขึ้นและลงแรงมากขึ้น แต่ไม่ยอมร่วมมือกัน
ถ้าพวกเขาหาที่ตั้งของสมบัติได้จริงๆ สิ่งที่แรกที่พวกเขาจะทำก็คือปิดปากทุกคนเสีย ไม่มีทางที่พวกเขาจะทำตามคำพูดด้วยการแบ่งสมบัติให้ใครแน่นอน
คำพูดของชวีซินรุ่ยจึงน่าหัวเราะสำหรับจวินอู๋เสียมาก นางไม่เข้าใจจริงๆ ว่าคนที่แข็งแกร่งมากมายทั่วแผ่นดินถูกกลลวงเด็กๆ ของสิบสองตำหนักหลอกเอาได้อย่างไร ถึงได้ขายชีวิตให้พวกสิบสองไปแบบโง่เขลาเช่นนั้น
พวกเขาคิดว่าอยู่ดีๆ ก็มีโอกาสได้ความร่ำรวยที่เกินจินตนาการและความแข็งแกร่งที่ไม่มีใครเทียบได้ ไม่รู้เลยว่าสุดท้ายแล้วพวกเขาก็จะสูญเสียกระทั่งชีวิตของตัวเอง
จวินอู๋เสียไม่รู้จะหาคำไหนมาบรรยายความฉลาดของคนพวกนั้นดี
“ถ้าเป็นเรื่องแบบนี้ ทำไมคุณหนูชวีถึงต้องการข้าเล่า ความแข็งแกร่งของเมืองพันอสูรก็น่าจะเพียงพอที่จะจัดการได้แล้วไม่ใช่หรือ” จวินอู๋เสียตอบโดยไม่ยอมยืนยันตกลงอะไรทั้งนั้น
ชวีซินรุ่ยย่อมไม่ดูถูกคนของตัวเองอยู่แล้ว นางพูดว่า “เมืองพันอสูรอาจจะเพียงพอทำภารกิจได้สำเร็จ แต่พอข้าเห็นภาพวาดของคุณชายจวินเท่านั้น แม้ว่าคุณชายจวินจะยังเด็ก แต่รัศมีความยิ่งใหญ่ในฐานะผู้ครองรัฐของท่านช่างพิเศษจนประทับใจข้าเหลือเกิน”