ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 1053 เจ้าไม่เย็น ข้าเย็น (3) ตอนที่ 1054 เจ้าไม่เย็น ข้าเย็น (4)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 1053 เจ้าไม่เย็น ข้าเย็น (3) ตอนที่ 1054 เจ้าไม่เย็น ข้าเย็น (4)
ตอนที่ 1053 เจ้าไม่เย็น ข้าเย็น (3) / ตอนที่ 1054 เจ้าไม่เย็น ข้าเย็น (4)
ตอนที่ 1053 เจ้าไม่เย็น ข้าเย็น (3)
จวินอู๋เย่ามีสีหน้าแปลกๆ ขึ้นมาแวบหนึ่ง จวินอู๋เสียไม่เคยถามอะไรเขาเลย เขาเป็นใคร เขามักจะไปที่ไหนในแต่ละวัน นางไม่เคยถามเขาเลยสักครั้ง แต่วันนี้นางถามแล้ว!
จวินอู๋เสียยังคงมองเขาอย่างจริงจัง
จวินอู๋เย่าไม่ได้ไม่พอใจในคำถามของนาง แต่เขากลับยิ้มมากขึ้นแทน
“ข้าต้องไปทำธุระบางอย่าง และตอนนี้ก็จัดการเรียบร้อยแล้ว” นี่เป็นครั้งแรกที่จวินอู๋เสียถามเรื่องของเขา เขาจะเข้าใจว่าเด็กน้อยเริ่มสนใจเรื่องที่เกี่ยวกับเขาแล้วได้หรือไม่
“ยังต้องไปอีกหรือไม่” จวินอู๋เสียอดถามไม่ได้
“ไม่ใช่เร็วๆ นี้หรอก” จวินอู๋เย่าตอบพลางมองจวินอู๋เสีย นัยน์ตาสีดำสนิทเปลี่ยนเป็นสีม่วง นัยน์ตาสีม่วงนั้นสะท้อนภาพของจวินอู๋เสียราวกับอยากฝังภาพนั้นให้เข้าไปในจิตวิญญาณของเขาตลอดกาล
หลังจากนั้นจวินอู๋เสียก็ไม่พูดอะไรอีก
จวินอู๋เย่าอุ้มนางขึ้นและเดินไปนั่งที่เก้าอี้ จากนั้นก็วางนางลงบนตักของเขา มือข้างหนึ่งจับใบหน้าเล็กๆ ของนาง สายตามองสำรวจทุกส่วนอย่างละเอียด
“ไม่อยากให้ข้าไปหรือ” เสียงของจวินอู๋เย่าฟังดูข่มกลั้นเล็กน้อย
จวินอู๋เสียมองเขาอย่างลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพยักหน้าน้อยๆ หนึ่งครั้ง
“ถ้าอย่างนั้นข้าก็จะไม่ไป” จวินอู๋เย่าพูดขึ้นทันที
จวินอู๋เสียทำตาโต มองใบหน้าที่มีรอยยิ้มกว้างของจวินอู๋เย่า
“ท่านมีธุระที่ต้องไปจัดการนี่” นางแค่คิดเท่านั้น ไม่ได้คาดหวังว่าเขาจะอยู่จริงๆ จวินอู๋เย่ามีความลับซ่อนอยู่มากมาย สัญชาตญาณของนางบอกว่าเรื่องที่เขาทำอยู่เกินกว่าที่นางจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วยได้
การฝืนให้เขาอยู่กับนางจะเป็นการเห็นแก่ตัวเกินไป และจวินอู๋เสียก็ไม่อยากทำอย่างนั้น
“ในใจข้าไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าเจ้าหรอก” จวินอู๋เย่าพูดพลางกุมมือของจวินอู๋เสียและส่งยิ้มกว้างให้นาง
หัวใจของจวินอู๋เสียเต้นผิดจังหวะ
นางอยากจะบอกจวินอู๋เย่ามากเลยว่าเขาไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น มันก็แค่…ความรู้สึกของนางในวันนี้มันแปลกๆ เท่านั้น เขาไม่ต้องจริงจังกับคำพูดของนางก็ได้ แต่เมื่อนางมองเข้าไปในดวงตายิ้มๆ คู่นั้น คำพูดพวกนั้นก็ดูเหมือนจะติดอยู่ในลำคอของนางทำให้นางไม่สามารถพูดออกมาได้ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ตาม
“ไม่ต้องกังวลไป ข้าไม่จำเป็นต้องทำเรื่องพวกนั้นด้วยตัวเองหรอก” ราวกับรับรู้ถึงความลำบากใจของจวินอู๋เสีย จวินอู๋เย่าจึงอดหัวเราะออกมาไม่ได้ เขาเข้ามาใกล้นางมากขึ้นและขยับเอาหน้าผากของเขามาแนบกับหน้าผากของนางพร้อมกับพูดเสียงเบาว่า “เว้นแต่ว่าเสี่ยวเสียเอ๋อร์ไม่อยากให้ข้าอยู่ด้วย”
“ไม่…” จวินอู๋เสียรู้สึกว่าทักษะการพูดของนางเสื่อมถอยลงไปอีกครั้ง หลังจากกลับมาเกิดใหม่ นางได้พบเจอสิ่งต่างๆ มากมาย ได้มีครอบครัวและสหายตัวนางเองก็ค่อยๆ เปลี่ยนไป ความสามารถในการแสดงความรู้สึกของนางพัฒนาขึ้นอย่างช้าๆ แต่ตอนนี้ราวกับว่านางย้อนกลับไปสู่อดีตที่ไม่รู้ว่าจะพูดหรือแสดงความรู้สึกออกมาอย่างไรดี
จวินอู๋เย่าแค่หัวเราะและกอดนางเอาไว้ในอ้อมแขนของเขา เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและปลอบประโลมว่า “ดีจริงๆ ที่ไม่ใช่ เจ้าไม่ต้องกังวลเรื่องอื่นๆ หรอก ข้ารู้ว่าจะจัดการธุระของข้าอย่างไร แต่…เสี่ยวเสียเอ๋อร์ไม่เห็นว่าข้าเป็นพี่ชายเจ้าแล้วหรือ” ได้กอดร่างเล็กๆ เอาไว้แบบนี้ทำให้จวินอู๋เย่าอดนึกถึงตอนที่พวกเขาเพิ่งพบกันไม่ได้ ตอนนั้นอย่าได้คิดจะกอดนางเอาไว้แบบนี้เลย กระทั่งจะเข้าใกล้สักหน่อย เด็กน้อยนี่ก็จะหยิบเอาเข็มเงินออกมาแล้วตั้งท่าเหมือนจะฆ่าเขาให้ตายเสียเดี๋ยวนั้น
ใบหน้าของจวินอู๋เสียร้อนผ่าวขึ้นเล็กน้อยขณะที่นางนึกถึงความทรงจำเดียวกับจวินอู๋เย่า โชคดีที่จวินอู๋เย่ามองไม่เห็น
ตอนที่ 1054 เจ้าไม่เย็น ข้าเย็น (4)
เมื่อเห็นราชาปีศาจทำให้เจ้านายของมันสงบสติอารมณ์ลงได้สำเร็จ เจ้าแมวดำตัวน้อยก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
ถึงมันจะกลัวราชาปีศาจมาก แต่ก็ต้องพูดว่า…
ความสามารถในการปลอบประโลมเจ้านายของเขานี่ได้ผลชะงัดดีจริงๆ
เมื่อความคิดนั้นผุดขึ้นมา เจ้าแมวดำตัวน้อยก็อดปาดน้ำตาไม่ได้ จู่ๆ มันก็รู้สึกว่าเจ้านายของมันกำลังจะถูกขโมยไป ในใจรู้สึกเจ็บปวดขึ้นมา
“ข้าต้องเปลี่ยนชุด” จวินอู๋เสียพูด เมื่อครู่น้ำเย็นเฉียบสาดไปทั่วตัวนาง และในสภาพอากาศเช่นนี้ การสวมใส่เสื้อผ้าเปียกๆ แบบนี้มันไม่สบายตัวเอาเสียเลยจริงๆ
“ไปสิ” จวินอู๋เย่าปล่อยจวินอู๋เสียแล้วออกจากห้องไปทันทีพร้อมกับปิดประตูตามหลัง
จวินอู๋เสียมองบานประตูที่ปิดสนิท นางไม่รู้ว่าทำไมแต่นางรู้สึกว่าความตึงเครียดในช่วงที่ผ่านมาบรรเทาลง แล้วนางก็จัดการเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่
ทันทีที่จวินอู๋เย่าก้าวออกมาจากห้อง รอยยิ้มของเขาก็หายไปเหมือนควันที่กระจายไปตามสายลม นัยน์ตาสีม่วงคู่นั้นทอประกายอำมหิต
เยี่ยซากับเยี่ยเม่ยปรากฏตัวขึ้นทันทีและคุกเข่าลงตรงหน้าจวินอู๋เย่า
“นายท่าน”
จวินอู๋เย่าหรี่ตาลง เขายกมือขึ้นข้างหนึ่ง แล้วเยี่ยซาที่อยู่ห่างออกไปก็พบว่าตัวเองถูกยกลอยขึ้นไปกลางอากาศ!
หมอกสีดำพันอยู่รอบคอเยี่ยซาเหมือนกับมีมือกำลังบีบคอเขาอยู่
“ตอนนั้นเจ้าอยู่ที่นั่นด้วยใช่หรือไม่” น้ำเสียงของจวินอู๋เย่าตอนนี้เย็นชาเสียยิ่งกว่าตอนที่อยู่ในห้องอย่างน้อยสิบเท่า
“ขอรับ…” เยี่ยซาหายใจไม่ออกขึ้นทุกที ใบหน้าของเขาซีดขาวปราศจากสีเลือด
“แล้วเจ้าไม่ทำอะไรเลยอย่างนั้นหรือ” จวินอู๋เย่าหรี่ตาลงอย่างน่ากลัว รังสีอำมหิตในดวงตาโหดเหี้ยมขึ้นไปอีก!
ใบหน้าของเยี่ยซาขาวซีด แต่เขาไม่กล้าต่อต้านเลยแม้แต่น้อย
“คุณหนูใหญ่สั่งเอาไว้…ถ้านางไม่เอ่ยปาก…ห้ามข้าลงมืออะไรทั้งนั้น…”
นิ้วมือข้างที่ยกอยู่ของจวินอู๋เย่าบีบเข้ามาเล็กน้อย เสียงกระดูกแตกดังออกมาจากคอของเยี่ยซาเบาๆ เยี่ยเม่ยที่คุกเข่าอยู่ด้านข้างเหงื่อออกจนชุ่ม เขาคุกเข่านิ่งอยู่กับพื้น
ขณะที่คอของเยี่ยซากำลังจะหักนั้นเอง จวินอู๋เย่าก็ดึงมือกลับไป เมื่อไม่มีอะไรจับไว้ ร่างของเยี่ยซาก็ร่วงตกลงมากองที่พื้น เขาไม่ส่งเสียงร้องออกมาเลยสักนิด
“ถ้ามีครั้งต่อไป เจ้าตายแน่” จวินอู๋เย่าพูด
เยี่ยซาไม่อาจมัวสนใจความเจ็บปวดที่คอของตัวเองได้ เขารีบคุกเข่าทันที ที่คอของเขายังคงมีรอยรัดอยู่อย่างเห็นได้ชัด “ครั้งนี้ข้าน้อยทำหน้าที่ล้มเหลว ถ้าเกิดขึ้นอีกครั้ง ข้าน้อยจะขอชดใช้ความผิดนี้ด้วยชีวิตขอรับ!”
ครั้งนี้มันเกินความคาดหมายของเยี่ยซาจริงๆ
ปกติจวินอู๋เสียจะใจเย็นและแก้ปัญหาได้อย่างดีมาตลอด ตอนที่ชวีซินรุ่ยเข้าไปใกล้จวินอู๋เสีย จวินอู๋เสียไม่ได้มีปฏิกิริยามากนัก เยี่ยซาจึงแอบสังเกตสถานการณ์ต่อ พอชวีซินรุ่ยจุมพิตจวินอู๋เสีย เยี่ยซาก็คิดที่จะลงมือ แต่เขาเห็นท่าทางเฉยๆ ของจวินอู๋เสียและยังจำคำสั่งของจวินอู๋เสียได้ เขาจึงตัดสินใจซ่อนตัวต่อไป
แต่เมื่อเยี่ยซาตามจวินอู๋เสียกลับมาที่ห้อง และได้เห็นการกระทำของจวินอู๋เสียที่เกือบจะเหมือนกับการทรมานตัวเอง เยี่ยซาก็รู้ว่าไม่ใช่เพราะจวินอู๋เสียไม่ใส่ใจ แต่เป็นเพราะว่านางไม่รู้ว่าจะแสดงความรู้สึกในตอนนั้นออกมาอย่างไร และนางทำได้แค่ระบายความรังเกียจอย่างถึงที่สุดในใจนางออกมาด้วยวิธีทื่อๆ ตรงๆ แบบนั้น
เยี่ยซารู้สึกสำนึกผิดและเสียใจเป็นอย่างมาก เขาเกลียดตัวเองที่ไม่เอาใจใส่จนจับความผิดปกติของนางไม่ได้
จวินอู๋เย่าร้องหึออกมา “ถ้าไม่ใช่เพราะว่าเจ้าเคยช่วยชีวิตเสี่ยวเสียเอ๋อร์เอาไว้ครั้งหนึ่ง และนางรู้สึกติดหนี้บุญคุณเจ้าอยู่ละก็ เจ้าได้ตายไปแล้วจากเหตุการณ์ครั้งนี้”
เยี่ยซาไม่กล้าพูดอะไรออกมาอีก เขาคุกเข่าอยู่ตรงนั้น ในใจสับสนวุ่นวายไปหมด ความทรงจำในตัวตนเก่าของเขาค่อนข้างคลุมเครือ เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเคยช่วยชีวิตจวินอู๋เสียเอาไว้