ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 1105 ตบหน้าครั้งที่สิบเอ็ด (7) ตอนที่ 1106 ตบหน้าครั้งที่สิบเอ็ด (8)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 1105 ตบหน้าครั้งที่สิบเอ็ด (7) ตอนที่ 1106 ตบหน้าครั้งที่สิบเอ็ด (8)
ตอนที่ 1105 ตบหน้าครั้งที่สิบเอ็ด (7) / ตอนที่ 1106 ตบหน้าครั้งที่สิบเอ็ด (8)
ตอนที่ 1105 ตบหน้าครั้งที่สิบเอ็ด (7)
แต่ชวีซินรุ่ยไม่มีความละอายใจต่อการทำผิดศีลธรรมเลย ไม่แม้แต่จะใส่ใจเลยสักนิดว่าชวีหลิงเย่ว์คือคนที่มีสายโลหิตเดียวกันกับนาง!
สีหน้าของจวินอู๋เสียเย็นชาราวกับปกคลุมด้วยน้ำแข็ง เย็นชามากเสียจนอากาศรอบๆ ตัวนางเบาบางลงทันที
ชวีซินรุ่ยยิ้มอย่างยินดี สีหน้าเย็นชาของจวินอู๋เสียทำให้นางรู้สึกพอใจที่ได้แก้แค้น
“คุณชายจวิน เจ้าเป็นคนทำให้เรื่องเป็นแบบนี้เองนะ ถ้าเจ้ายอมร่วมมือกับข้าดีๆ ข้าก็คงไม่ต้องทำเรื่องให้ยุ่งยากถึงขนาดนี้ สุดท้ายเจ้าก็เป็นคนดึงให้พวกเขาเข้ามาพัวพันกับเรื่องนี้เอง แต่ไม่ต้องกังวลไป ข้ายังเก็บชีวิตเด็กนั่นเอาไว้อยู่ ถึงตอนนี้นางจะกลายเป็นบุปผาร่วงโรยไปแล้ว แต่…อย่างน้อยนางก็ยังมีลมหายใจอยู่ ถ้าเจ้ายอมร่วมมือกับข้า ข้าก็ยินดีคืนนางกับสัตว์วิญญาณของเจ้าให้” ชวีซินรุ่ยพูดเหมือนว่านางกำลังยื่นข้อเสนอที่ใจกว้างอย่างยิ่ง
จวินอู๋เสียหรี่ตาลง
ชวีซินรุ่ยทำเป็นพูดเสียดิบดี แต่ความจริงแล้วไม่ว่าจวินอู๋เสียจะตกลงร่วมมือกับชวีซินรุ่ยหรือไม่ เมืองพันอสูรก็จะถูกทำลายจนสิ้นอยู่ดี ผู้ที่มีอำนาจในสามโลกเบื้องล่างก็เป็นแค่เบี้ยของพวกสิบสองตำหนักเท่านั้น พวกเขามีประโยชน์อย่างเดียวคือหาสถานที่ตั้งของสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ เมื่อหาพบแล้ว ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นใครก็ตาม สิบสองตำหนักก็จะจัดการปิดปากพวกเขาเสีย
“เจ้าคิดว่าข้าโง่เหมือนเจ้าหรืออย่างไร” จวินอู๋เสียพูดขึ้นพร้อมกับหัวเราะเย็นชา
รอยยิ้มบนใบหน้าของชวีซินรุ่ยหายไปทันที
“ข้าไม่คิดจะเป็นสุนัขรับใช้ของสิบสองตำหนักหรอกนะ” จวินอู๋เสียยิ้มเยาะ
คำว่าสิบสองตำหนักทำให้ชวีซินรุ่ยแตกตื่นขึ้นมาทันที นางเบิกตากว้างจ้องมองจวินอู๋เสียอย่างตกใจ
“เจ้าว่าอะไรนะ เจ้ารู้ได้อย่างไร…” ชวีซินรุ่ยไม่อยากจะเชื่อว่าจะได้ยินคำว่า ‘สิบสองตำหนัก’ ออกมาจากปากของคนในสามโลกเบื้องล่าง!
ก่อนที่นางจะบรรลุถึงขั้นพลังสีม่วงได้นั้น นางไม่เคยรู้เลยว่าในโลกนี้ยังมีสถานที่ที่นางไม่เคยได้ยินมาก่อนอยู่ด้วย แล้วจวินอู๋เสียก็ยังเด็กมาก เป็นไปได้อย่างไรที่อีกฝ่ายจะรู้เรื่องของสิบสองตำหนัก!
จวินอู๋เสียมองชวีซินรุ่ยอย่างเย็นชา “คนโง่ไม่มีสิทธิ์ที่จะถาม”
ตอนแรกจวินอู๋เสียตั้งใจจะลงโทษชวีซินรุ่ยแค่ฆ่าให้ตาย แต่ตอนนี้นางเปลี่ยนใจแล้ว
สีหน้าของชวีซินรุ่ยยิ่งเกรี้ยวกราดมากขึ้นทุกที นางคิดว่าที่จวินอู๋เสียโผล่มานั้นเป็นไปตามที่นางวางแผนเอาไว้ นางคิดว่านางควบคุมใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะไว้ได้แล้วจวินอู๋เสียจะไม่ตอบโต้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่นั้นแตกต่างจากที่นางคาดหวังเอาไว้โดยสิ้นเชิง
จวินอู๋เสียไม่เพียงแต่ไม่มีทีท่าตกเป็นฝ่ายรับแล้ว ท่าทางของอีกฝ่ายกลับก้าวร้าวกว่าเมื่อก่อนมาก!
สิ่งนี้มันเบี่ยงเบนไปจากแผนการของชวีซินรุ่ยอย่างสิ้นเชิง!
ในเมืองพันอสูรชวีซินรุ่ยไม่ได้เจอคนที่ขัดคำสั่งของนางมานานมากแล้ว พูดได้ว่านางเป็นผู้มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเหนือเมืองพันอสูรมาหลายปี แต่การปรากฏตัวของจวินอู๋เสียได้ทำลายสภาพนั้นไปหมด! เป็นครั้งแรกที่ชวีซินรุ่ยอยากได้คนมาเป็นพวกแล้วถูกเมินกลับมา นางพยายามทุกวิธีที่จะบังคับให้จวินอู๋เสียยอมจำนน แต่มันก็ไม่เป็นไปตามที่นางต้องการ
“จวินเสีย เจ้าจะปฏิเสธสุราที่หยิบยื่นให้ดีๆ และเลือกจะถูกจับกรอกเป็นการลงโทษอย่างนั้นหรือ ในเมื่อเจ้ารู้จักสิบสองตำหนัก เช่นนั้นเจ้าก็ต้องรู้ว่าหากต่อต้านสิบสองตำหนักเจ้าจบไม่สวยแน่ ไม่ว่าเจ้าหรือรัฐเหยียนของเจ้า เมื่ออยู่ต่อหน้าสิบสองตำหนักก็เป็นได้ฝุ่นผงไร้ค่า ข้าไม่คิดว่าข้าจะต้องเตือนเจ้าเรื่องนั้นหรอกใช่หรือไม่” ไม่ว่าชวีซินรุ่ยจะโง่อย่างไรก็ตาม ก็เห็นได้ชัดว่าจวินอู๋เสียไม่สนใจจะร่วมมือกับนางเลยแม้แต่น้อย ไม่ว่านางจะใช้ไม้แข็งหรือไม้อ่อน ก็ไม่อาจทำให้จวินอู๋เสียเปลี่ยนใจได้เลย!
ตอนที่ 1106 ตบหน้าครั้งที่สิบเอ็ด (8)
“หรือว่า คนของสิบสองตำหนักได้เข้าหาเจ้าแล้ว” จู่ๆ ความคิดนั้นก็ผุดขึ้นมาในหัวของชวีซินรุ่ย นางเคยพูดเรื่องนี้กับเสิ่นฉือมาก่อนแล้ว แต่พวกเขาก็ปัดความเป็นไปได้นั้นทิ้งไป
แต่ตอนนี้ไม่ว่านางจะข่มขู่หรือยื่นผลประโยชน์ให้อย่างไร นางก็ไม่สามารถทำให้จวินอู๋เสียเปลี่ยนความตั้งใจได้ และจวินอู๋เสียก็แสดงให้เห็นว่าอีกฝ่ายรู้เรื่องของสิบสองตำหนัก ซึ่งนั่นเป็นไปไม่ได้สำหรับคนในสามโลกเบื้องล่าง!
สามโลกชั้นกลางแทบจะไม่เป็นฝ่ายติดต่อกับคนของสามโลกเบื้องล่างก่อนเลย นอกจากพวกผู้นำที่มีอำนาจที่พวกเขาเลือกไว้ อีกกรณีเดียวที่พวกเขาจะปรากฏตัวก็คือตอนที่มีคนในสามโลกเบื้องล่างได้ทะลวงเข้าสู่ขั้นสีม่วง จวินเสียเป็นแค่เด็กอายุสิบสี่สิบห้าปีเท่านั้น ต่อให้เขามีพรสวรรค์ที่น่าเหลือเชื่อก็ยังเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะเป็นผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วง ดังนั้นทางเดียวที่เป็นไปได้ก็คือก่อนที่เขาจะมาที่เมืองพันอสูร คนของสิบสองตำหนักได้ไปพบเขาแล้ว!
เมื่อเจอกับท่าทางก้าวร้าวของจวินอู๋เสีย ชวีซินรุ่ยก็ได้แต่สรุปเช่นนั้น
“เจ้าคิดหรือว่าแค่มีตำหนักอีกแห่งคอยหนุนหลัง เจ้าจะไม่ต้องกังวลอะไรแล้ว เจ้าก็เป็นแค่เบี้ยตัวหนึ่งของสิบสองตำหนักเท่านั้น ถึงข้าจะฆ่าเจ้าไป พวกเขาก็ไม่สนใจแก้แค้นให้เจ้าหรอก สิ่งที่พวกเขาอยากได้ก็เป็นสิ่งเดียวกับที่ข้าอยากได้นั่นคือความยิ่งใหญ่ของรัฐเหยียน ไม่สำคัญหรอกว่าฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียนจะเป็นเจ้าหรือคนอื่น” ชวีซินรุ่ยพูดพร้อมกับหรี่ตาลง แววตาทอประกายอำมหิต ถ้าจวินอู๋เสียติดต่อกับตำหนักอื่นแล้วจริงๆ นางก็คงต้องกำจัดเด็กหนุ่มคนนี้ทิ้งเสียเดี๋ยวนี้
ชวีซินรุ่ยลอบส่งสัญญาณให้เสิ่นฉือกับคนจากสามโลกชั้นกลางอีกสองคน
สยงป้ากับคนของเขาที่อยู่นอกประตูเมืองไม่เข้าใจว่าอะไรคือสิบสองตำหนักที่จวินอู๋เสียกับชวีซินรุ่ยพูดถึง พวกเขาไม่เคยได้ยินชื่อสถานที่นั้นเลย แต่จากที่ชวีซินรุ่ยพูด นางได้บอกเป็นนัยๆ อย่างชัดเจนถึงอำนาจอันยิ่งใหญ่ของสิบสองตำหนัก…
สามารถใช้ฮ่องเต้แห่งรัฐที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแผ่นดินเป็นแค่เบี้ยตัวหนึ่งได้…สิบสองตำหนักนี่เป็นสถานที่แบบไหนกัน
จวินอู๋เสียมองชวีซินรุ่ยอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า “เจ้าพูดสิ่งที่อยากพูดจบหรือยัง”
ชวีซินรุ่ยชะงักไปอย่างประหลาดใจ สีหน้าของจวินอู๋เสียไม่เปลี่ยนเลยสักนิด ราวกับว่าทุกสิ่งที่นางพูดไปไม่มีผลอะไรกับจวินอู๋เสียเลยแม้แต่น้อย
“ถ้าพูดจบแล้ว อย่างนั้นก็ตายเสีย” จวินอู๋เสียพูดเสียงเย็น
ชวีซินรุ่ยมองจวินอู๋เสียอย่างงุนงง แล้วนางก็พบว่ามันไร้สาระเสียจนเริ่มหัวเราะออกมา
“ฮ่าๆ! จวินเสีย เจ้านี่มันอวดดีจริงๆ คิดว่าตัวเองยิ่งใหญ่แค่ไหนกัน ถ้าไม่มีรัฐเหยียนคอยหนุนหลังเจ้า เจ้าคิดว่าข้าจะชายตามองเจ้าหรืออย่างไร ในสายตาข้าเจ้าก็เป็นแค่แมลงตัวจ้อยที่ข้าบี้ให้ตายได้ง่ายๆ เท่านั้น! ในเมื่อเจ้าไม่รู้ว่าอะไรดีสำหรับตัวเอง เช่นนั้นก็ไม่มีประโยชน์ที่จะเก็บเจ้าเอาไว้!”
ทันใดนั้นพลังวิญญาณขั้นสีม่วงก็ส่องสว่างออกมาจากทั่วร่างของชวีซินรุ่ย! นางรวบรวมพลังวิญญาณขั้นสีม่วงแล้วยิงใส่จวินอู๋เสียที่อยู่บนกำแพงประตูเมือง!
ความยโสอวดดีของจวินอู๋เสียทำให้นางโกรธมาก ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมให้นางใช้ประโยชน์ อย่างนั้นนางก็จะฆ่าอีกฝ่ายเสีย!
ขณะเดียวกันเสิ่นฉือกับคนของเขาก็พุ่งเข้าใส่จวินอู๋เสียด้วย!
พลังวิญญาณขั้นสีม่วงสี่สายเข้าโจมตีพร้อมกัน ทั้งหมดตั้งใจที่จะฆ่าจวินอู๋เสียให้ตายคาที่!
ทุกคนที่ยืนอยู่นอกประตูเมืองพากันแตกตื่นทันทีที่เห็นชวีซินรุ่ยกับคนของนางลงมือจู่โจม แม้ว่าพวกเขาหลายคนไม่รู้ว่าจวินอู๋เสียเป็นใคร แต่จากบทสนทนาของอีกฝ่ายกับชวีซินรุ่ย ทุกคนก็ตระหนักได้ว่าจวินอู๋เสียอยู่ในสถานะเดียวกับพวกเขา เมื่อพวกเขาเห็นผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงสี่คนพุ่งเข้าโจมตีจวินอู๋เสีย ทุกคนก็พากันใจหายทันที!