ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 1107 ตบหน้าครั้งที่สิบเอ็ด (9) ตอนที่ 1108 ตบหน้าครั้งที่สิบเอ็ด (10)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 1107 ตบหน้าครั้งที่สิบเอ็ด (9) ตอนที่ 1108 ตบหน้าครั้งที่สิบเอ็ด (10)
ตอนที่ 1107 ตบหน้าครั้งที่สิบเอ็ด (9) / ตอนที่ 1108 ตบหน้าครั้งที่สิบเอ็ด (10)
ตอนที่ 1107 ตบหน้าครั้งที่สิบเอ็ด (9)
สยงป้ากับชาวเมืองพบว่าตัวเองเหงื่อออกจนชุ่ม พวกเขาอยากหยุดการโจมตีนั้นแต่ด้วยพลังอันน้อยนิดของพวกเขาแค่จะมองตามการเคลื่อนไหวของชวีซินรุ่ยให้ทันยังยาก ลืมเรื่องที่จะเข้าไปหยุดนางได้เลย
แต่ทว่า ทันทีที่ชวีซินรุ่ยเกือบจะถึงตัวจวินอู๋เสียนั้นเอง
คนหลายคนได้ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้าจวินอู๋เสีย! พวกเขารับการโจมตีแบบเต็มแรงของชวีซินรุ่ยกับคนของนางเอาไว้!
พลังวิญญาณขั้นสีม่วงส่องสว่างขึ้นกลางอากาศ ผู้เยาว์ห้าคนพร้อมพลังวิญญาณขั้นสีม่วงได้ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าต่อตาทุกคน!
การที่ผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงปรากฏตัวขึ้นพร้อมกันทำให้เมืองพันอสูรทั้งเมืองเงียบกริบทันที ทุกคนพากันอ้าปากค้างมองผู้เยาว์หน้าตาดีมากห้าคนอย่างตกใจ
พวกเขาดูเหมือนจะอายุประมาณ สิบเจ็ดสิบแปด ปีเท่านั้นแต่พลังวิญญาณที่ส่องสว่างจากร่างของพวกเขาทำให้ทุกคนตกใจเป็นอันมาก!
ชวีซินรุ่ยกับเสิ่นฉือรวมทั้งคนของเขาถูกผลักกลับมา เมื่อพวกเขาลงมาถึงพื้นถึงได้สังเกตเห็นว่าคนที่ผลักพวกเขากลับมาเป็นเพียงผู้เยาว์เท่านั้น!
“เป็นไปได้อย่างไรกัน!” ชวีซินรุ่ยเบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ นางเห็นพลังวิญญาณขั้นสีม่วงส่องออกมาจากร่างของผู้เยาว์พวกนี้จริงๆ! ตอนที่พวกเขาปะทะกันเมื่อครู่ นางรู้สึกถึงพลังของผู้เยาว์พวกนี้ได้ พลังวิญญาณของพวกเขาไม่อาจนับได้ว่าเป็นพลังวิญญาณขั้นสีม่วงที่แท้จริง แต่พวกเขาใช้วิธีที่มีอยู่แค่ในสามโลกชั้นกลางเพิ่มพลังวิญญาณของพวกเขาให้ขึ้นถึงขั้นสีม่วงชั่วคราว!
วิธีพิเศษแบบนั้นชวีซินรุ่ยเคยเห็นแค่ในสามโลกชั้นกลางเท่านั้น ไม่มีใครในสามโลกเบื้องล่างรู้วิธีการนั้นแน่นอน!
“พวกเจ้าเป็นคนของสามโลกชั้นกลาง!” ชวีซินรุ่ยร้องอุทานออกมาพลางจ้องมองไปที่พวกผู้เยาว์หน้าตาดีเหล่านั้น
“จะใช่หรือไม่เจ้าก็ไม่มีสิทธิ์ถาม” เฉียวฉู่ตอบพลางแกว่งแขนคลายกล้ามเนื้อ และเลิกคิ้วมองชวีซินรุ่ย ตอนที่ชวีซินรุ่ยบอกถึงเหตุผลที่แท้จริงของการทรยศของชวีเหวินเฮ่าเมื่อครู่ เขาก็อยากจะฉีกนังสตรีอสรพิษคนนี้ออกเป็นพันๆ ชิ้น!
แม้ว่าเขาจะไม่ได้สนิทสนมคุ้นเคยกับชวีหลิงเย่ว์มากนัก แต่เมื่อเด็กสาวใสซื่อบริสุทธิ์ต้องเจอกับความทารุณโหดเหี้ยมเช่นนั้น เขาก็ไม่อาจทนอยู่เฉยๆ ได้อีกต่อไป!
ชวีซินรุ่ยมองพวกเขาด้วยแววตาเกลียดชังอย่างรุนแรง นางไม่เคยคิดฝันเลยว่าจะได้เห็นกลุ่มผู้เยาว์ที่สามารถเพิ่มระดับขั้นพลังวิญญาณได้ในสามโลกเบื้องล่างนี้!
แม้ว่าพลังวิญญาณขั้นสีม่วงที่ได้มาด้วยวิธีนั้นจะเทียบกับพลังวิญญาณขั้นสีม่วงของแท้ไม่ได้ แต่การเอาชนะพวกเขาในระยะเวลาสั้นๆ นั้นพวกเขาจะต้องลงแรงกันมากเลยทีเดียว
“นี่เป็นเรื่องของตำหนักหวนจิต ถ้าพวกเจ้าทุกคนไม่อยากเดือดร้อนไปด้วยละก็ อย่าแส่เข้ามายุ่งจะดีกว่า!” เสิ่นฉือพูดพร้อมกับขมวดคิ้วมองเฉียวฉู่กับคนอื่นๆ เขาไม่เชื่อว่าผู้เยาว์กลุ่มนี้เป็นคนของสามโลกเบื้องล่าง
“แล้วถ้าเราอยากจะยุ่งล่ะ” เฉียวฉู่ท้าทาย
“เจ้าคิดว่าเราไม่เห็นความผิดปกติของพลังเจ้าหรืออย่างไร ในการต่อสู้จริงๆ พวกเจ้าห้าคนจะเทียบกับพวกเราได้อย่างไร!” เสิ่นฉือพูด เรื่องมันไปไกลเกินกว่าที่พวกเขาคาดเอาไว้ พวกเขาไม่รู้ว่าผู้เยาว์กลุ่มนี้โผล่มาจากที่ไหน และทำไมพวกเขาถึงอยู่ข้างจวินอู๋เสีย
เสิ่นฉือไม่รู้ แต่สยงป้ากับชิงอวี่ที่ยืนอยู่กลางฝูงชนรู้ดี!
พวกผู้เยาว์ที่ยืนอยู่ตรงหน้าจวินอู๋เสียก็คือศิษย์ของสำนักศึกษาเฟิงหัวอีกห้าคนที่ถูกส่งมาเข้าร่วมการแข่งขันในศึกประลองภูติวิญญาณที่เมืองหลวงของรัฐเหยียน
ผู้เยาว์กลุ่มนี้มาที่เมืองพันอสูรพร้อมกับจวินอู๋เสีย แต่แยกทางกันชั่วคราวก่อนที่พวกเขาจะเข้าเมือง สยงป้ารู้ว่าผู้เยาว์กลุ่มนี้แข็งแกร่งมากเกินคนธรรมดา แต่…ต่อให้ตีเขาให้ตาย เขาก็ไม่เคยคิดเลยว่าพลังของผู้เยาว์พวกนี้จะไปถึงขั้นสีม่วงแล้ว!
ตอนที่ 1108 ตบหน้าครั้งที่สิบเอ็ด (10)
ผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงห้าคน!
และยังเด็กมากอีกด้วย!
กระทั่งสยงป้าที่เคยพบเจอพูดคุยกับเฉียวฉู่และคนอื่นมาบ้างก็ยังตกตะลึงกับพลังของพวกเขา!
ตอนนั้นสยงป้ารู้สึกเสียใจอย่างมาก เขารู้แล้วว่าท่าทางสงบนิ่งของจวินอู๋เสียมาจากอะไร เด็กคนนี้ไม่ได้พึ่งแต่สติปัญญาของเขาเพียงอย่างเดียว แต่เขายังมีไพ่ตายนี้ซ่อนเอาไว้อีกด้วย!
เมื่อความแข็งแกร่งอันยิ่งใหญ่รวมกับสติปัญญาอันสูงล้ำ ผลที่ออกมาย่อมเหนือกว่าที่ใครจะจินตนาการได้
เมื่อมองย้อนกลับไป การกระทำของชวีเหวินเฮ่าก่อนหน้านี้กลายเป็นเรื่องน่าหัวเราะอย่างถึงที่สุด ถ้าพวกเขาไว้ใจจวินอู๋เสียมากกว่านี้ ถ้าพวกเขาปรึกษาเรื่องของชวีซินรุ่ยกับจวินอู๋เสียตั้งแต่แรก บางทีจวินอู๋เสียอาจจะคิดแผนการช่วยชวีหลิงเย่ว์ได้ไปแล้ว และเรื่องก็จะไม่กลายเป็นแบบนี้!
สยงป้ากับชิงอวี่ตระหนักชัดถึงการกระทำที่โง่เขลาของตัวเองซึ่งเป็นการผลักเมืองพันอสูรให้ลงสู่ขุมนรกที่ลึกยิ่งขึ้น พวกเขาได้ทำให้พันธมิตรที่เชื่อถือได้มากที่สุดตัดขาดความสัมพันธ์กับพวกเขาด้วยมือของพวกเขาเอง!
ความเสียใจท่วมท้นในอกของสยงป้ากับชิงอวี่ แต่ถึงขนาดนี้แล้ว ไม่ว่าพวกเขาจะรู้สึกเสียใจมากแค่ไหนก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้แล้ว
เพราะตั้งแต่วินาทีที่จวินอู๋เสียปรากฏตัวขึ้น สายตาของนางก็ไม่มองไปที่คนอื่นเลยสักครั้ง เมืองพันอสูรไม่มีความสำคัญอะไรในสายตาของจวินอู๋เสียอีกแล้ว!
พวกเขาเป็นแค่พวกคนทรยศที่น่ารังเกียจเท่านั้น!
“ฮ่าๆ เสียใจที่ต้องพูดนะ ถึงพวกเราจะอยากฆ่าขยะอย่างพวกเจ้าเองก็เถอะ แต่คราวนี้ดูเหมือนจะมีคนที่อยากเอาชีวิตสุนัขของพวกเจ้ามากกว่า” เฉียวฉู่พูดพลางกอดอกมองเสิ่นฉือ
เสิ่นฉือเลิกคิ้วขึ้น
ทันใดนั้นเอง!
ร่างสูงเพรียวร่อนลงมายืนตรงหน้าจวินอู๋เสียอย่างสง่างาม
เขาเป็นชายหนุ่มที่หน้าตางดงามสมบูรณ์แบบไร้ที่ติราวกับเป็นผลงานที่ดีที่สุดของสวรรค์ ท่วงท่าที่สง่างามน่าหลงใหลดึงดูดทุกสายตาให้หันไปมอง
“เสี่ยวเสียเอ๋อร์ เจ้าแน่ใจนะว่าอยากให้ข้าลงมือ” จวินอู๋เย่าถามอย่างอ่อนโยนขณะที่ลงมายืนข้างๆ จวินอู๋เสีย เนื่องจากเขาได้ตกลงกับจวินอู๋เสียก่อนหน้านี้แล้วว่าเขาจะดูอยู่เฉยๆ จากข้างบนเท่านั้น แต่จวินอู๋เสียกลับเปลี่ยนใจอย่างกะทันหัน
“ข้าอยากได้ตัวนางเป็นๆ” จวินอู๋เสียพูดพร้อมกับหรี่ตาลงอย่างน่ากลัว หลังจากชวีซินรุ่ยเปิดเผยเรื่องของชวีหลิงเย่ว์ จวินอู๋เสียก็ทิ้งแผนเดิมทันที
นางไม่อยากฆ่าชวีซินรุ่ยให้ตายแบบง่ายๆ
“ตามที่เจ้าปรารถนา” รอยยิ้มบางๆ ผุดขึ้นที่ใบหน้าของจวินอู๋เย่า เขายกมือของจวินอู๋เสียขึ้นจุมพิตเบาๆ จากนั้นก็หันกลับมาและก้าวเดินช้าๆ ลงจากกำแพงสูงราวกับกำลังเดินอยู่บนพื้น ทุกฝีก้าวของเขาเหมือนกับมีบันไดที่ไม่มีใครมองเห็นยื่นจากกำแพงเมืองลงมาถึงพื้น ฝีเท้าของเขาเชื่องช้าและนุ่มนวล
ชวีซินรุ่ยมองชายหนุ่มที่งดงามสมบูรณ์แบบอย่างงุนงง นางเห็นบุรุษหน้าตาดีมานับไม่ถ้วน แต่ไม่มีสักคนที่งดงามเท่านี้ ต่อหน้าจวินอู๋เย่า เหล่าชายหนุ่มคนโปรดทั้งกลุ่มในหอเมฆาสวรรค์ก็กลายเป็นเพียงโคลนตมสกปรกที่ไม่มีคุณสมบัติจะคุกเข่าลงแทบเท้าของชายหนุ่มคนนี้ด้วยซ้ำ
ทันทีที่เสิ่นฉือเห็นจวินอู๋เย่า ทุกรูขุมขนบนร่างเขาก็รู้สึกถึงความกดดันอย่างที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อน
จวินอู๋เย่าเพียงแค่เดินลงจากกำแพงเมืองเท่านั้น พวกเขาก็รู้สึกราวกับว่ามีหินขนาดมหึมาหนักหลายตันค่อยๆ กดลงบนหน้าอกของเสิ่นฉือและพรรคพวกของเขา!