ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 1139 ไฟสงครามปะทุ (4) ตอนที่ 1140 ไฟสงครามปะทุ (5)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 1139 ไฟสงครามปะทุ (4) ตอนที่ 1140 ไฟสงครามปะทุ (5)
ตอนที่ 1139 ไฟสงครามปะทุ (4) / ตอนที่ 1140 ไฟสงครามปะทุ (5)
ตอนที่ 1139 ไฟสงครามปะทุ (4)
“ท่านอาจารย์! ท่านไม่ได้นอนมาหลายวันแล้ว! ทิ้งที่นี่ไว้ให้พวกเราแล้วกลับไปพักผ่อนก่อนเถอะขอรับ” พวกลูกศิษย์ที่ติดตามมู่เฉินมาที่รัฐชีพูดอย่างเป็นห่วง พร้อมกับมองมู่เฉินที่มีใบหน้าซีดเซียว
รัฐชีถูกโจมตี จวนหลินอ๋องจึงกลายเป็นกองกำลังหลักในการต้านทานการโจมตีอันหนักหน่วง จวนหลินอ๋องทั้งหมดตั้งแต่หลินอ๋องจวินเสี่ยนไปจนถึงทหารในกองทัพรุ่ยหลินได้เข้าสู่สนามรบทันทีตั้งแต่แรก มู่เฉินไม่ลืมสิ่งที่เขาสัญญาเอาไว้กับจวินอู๋เสียว่าเขาจะยอมรับใช้จวนหลินอ๋องสามปี ดังนั้นตอนที่จวินเสี่ยนและจวินชิงเริ่มออกเดินทาง เขาจึงอาสามาช่วยและไปที่สนามรบที่การต่อสู้รุนแรงที่สุด
แม้ว่าเขาไม่มีพลังการต่อสู้มากนัก แต่เขาก็มีความสามารถในการรักษา เขาไม่ได้อยากฆ่าศัตรูนับร้อย แต่มาเพื่อช่วยชีวิตคนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อให้รัฐชีมีโอกาสหายใจอีกสักหน่อยในการเผชิญหน้ากับกองทัพอันมหาศาลของศัตรู
ถึงจะเป็นเพียงแค่น้ำแก้วเดียวต่อหน้ากองไฟทั้งคันเกวียน แต่เขาก็เต็มใจจะรับหน้าที่ที่ยากลำบากนี้
“ไม่ต้อง” มู่เฉินโบกมือปฏิเสธ เสียงร้องของคนเจ็บดังอยู่รอบตัวเขา โลหิตที่เปื้อนมือก็เย็นแล้วทำให้มือของเขาสั่นอย่างควบคุมไม่ได้ เขาจำไม่ได้แล้วว่าเขารักษาคนไปกี่คนในช่วงนี้ เขาภูมิใจในความรู้ทางด้านการแพทย์อันยอดเยี่ยมของตัวเองอยู่เสมอ แต่ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ จำนวนคนที่ตายต่อหน้าเขาเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ พวกนักรบที่กลับจากสนามรบพร้อมกับภาพที่ทรมานจิตใจ ทั้งบาดแผลที่เลวร้ายและไส้ที่ทะลักออกมา ทำให้เขารู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมาก
เขาอยู่ที่นี่เพราะคำสัญญาที่ให้ไว้กับจวินอู๋เสีย แต่เมื่อเขาเห็นพวกทหารของรัฐชียังคงพุ่งเข้าสู่สนามรบโดยปราศจากความลังเลแม้แต่น้อยทั้งๆ ที่ก็รู้ว่าสู้พวกศัตรูไม่ได้ พวกเขาเข้าต่อสู้กับทหารฝ่ายศัตรูที่มีจำนวนมากกว่าถึงสิบต่อหนึ่งอย่างดุเดือด ทำให้มู่เฉินรู้สึกประหลาดใจมาก
เขาจำได้อย่างชัดเจนว่าในวันแรกที่การต่อสู้เริ่มต้นขึ้น กองทัพของรัฐทั้งสี่ได้ปรากฏตัวขึ้นโดยไม่มีสัญญาณเตือนใดๆ มาก่อน ชายแดนรัฐชีถูกโจมตีอย่างหนัก และตอนกลางดึกคืนนั้น ท่ามกลางฝนที่ตกลงมาห่าใหญ่ เขากำลังนั่งพูดคุยกับจวินเสี่ยนอยู่ในจวนหลินอ๋อง และหลงฉีก็วิ่งเข้ามาอย่างรีบร้อน
ท่านอ๋อง! เขตตะวันออกถูกกองทัพใหญ่ของรัฐหูโจมตีขอรับ!
ชายแดนใต้ถูกรัฐซังบุกขอรับ!
รัฐจวิ้นยกกองทัพเข้ามาที่ชายแดนเหนือของเราขอรับ!
รัฐจิ้วบุกโจมตีเราทางตะวันตกขอรับ!
แค่สี่ประโยค แต่เหมือนสายฟ้าสี่สายที่ทำลายความสงบสุขในจวนหลินอ๋องให้แตกเป็นเสี่ยงๆ!
ความแข็งแกร่งของกองทัพพันธมิตรทั้งสี่รัฐ ทหารหาญจำนวนหนึ่งล้านคนที่บุกเข้ามาเหมือนน้ำหลาก เข้าโจมตีชายแดนรัฐชีจากในทิศทางต่างๆ กันในคืนที่ฝนกระหน่ำและหนาวเย็นโดยที่รัฐชีไม่ทันรู้ตัว
รายงานด่วนเข้ามาจากทุกด้าน! ในคืนเดียวรัฐชีเสียเมืองไปสิบเจ็ดแห่งและทหารหนึ่งแสนคนถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยม!
คืนนั้นที่ชายแดนรัฐชี โลหิตได้ผสมกับฝนที่ตกหนักกลายเป็นสายน้ำสีแดงที่ไหลไปทั่วดินแดนและซึมเข้าสู่ดินของชายแดนรัฐชี!
กองทัพรุ่ยหลินจัดเตรียมอาวุธกันอย่างรวดเร็ว จวินเสี่ยนเข้าวังไปขอพระราชโองการเคลื่อนทัพ ทหารกองทัพรุ่ยหลินหนึ่งแสนคนนำโดยจวินเสี่ยน จวินชิง หลงฉี และแม่ทัพอีกคนพาคนของพวกเขาแยกกันไปสี่ทาง พวกเขาขี่ม้าพุ่งไปที่สนามรบกันอย่างเร่งร้อนตลอดทั้งคืน!
กองทัพรุ่ยหลินยกพลออกไปในคืนนั้นโดยไม่ลังเลเลยสักวินาทีเดียว มู่เฉินยังจำสายตาตกตะลึงของจวินชิงตอนที่หลงฉีรายงานถึงจำนวนทหารของข้าศึกที่ประเมินไว้ได้
กองทัพข้าศึกมีจำนวนมากกว่าพวกเขาถึงสิบเท่า
หนึ่งล้านคน!
กองทัพรุ่ยหลินที่มีจำนวนหนึ่งแสนคนจะไปต้านทานพวกนั้นได้อย่างไร!
ถ้าพวกเขาไปรบครั้งนี้ ผลที่ออกมาก็มีแต่ความตายอย่างแน่นอน ไม่มีโอกาสรอดได้เลย!
แต่ทว่า!
ตั้งแต่แม่ทัพใหญ่จนถึงพลทหารชั้นผู้น้อยในกองทัพรุ่ยหลิน ไม่มีใครเปลี่ยนใจสักคน พวกเขาสวมเกราะเหล็กสีดำ ถือดาบไว้ในมือ และขี่ม้าตรงเข้าสู่สนามรบท่ามกลางสายฝน
มู่เฉินยังจำได้ ในคืนนั้นตอนที่ทหารกองทัพรุ่ยหลินหนึ่งแสนคนเคลื่อนพลออกจากค่ายทหาร ด้านหลังของพวกเขาดูยืนหยัดมั่นคงแข็งแกร่งและเด็ดเดี่ยวมากแค่ไหน เขายืนอยู่ท่ามกลางสายฝนอันหนาวเหน็บ เฝ้ามองเหล่านักรบที่ได้ชื่อว่าเป็นกองกำลังที่โจมตีได้ดุดันที่สุด การกลับสู่สนามรบของจ้าวแห่งความห้าวหาญและดุดันได้เปิดฉากขึ้นแล้ว!
ตอนที่ 1140 ไฟสงครามปะทุ (5)
ทหารกองทัพรุ่ยหลินหนึ่งแสนคนเข้าสู่สนามรบ มู่เฉินไม่รู้ว่าจะมีสักกี่คนที่รอดชีวิตกลับมาได้ หรือควรจะพูดว่า…ในหมู่พวกเขาจะมีใครได้กลับมาหรือไม่…
“กองทัพของรัฐจิ้วกำลังบุกเข้ามา! ทุกคนทิ้งเมือง! ถอยกลับไปเดี๋ยวนี้!” แม่ทัพตะโกนขณะที่วิ่งเข้ามาที่ประตูเมือง ทั้งร่างของเขาเต็มไปด้วยโลหิต แขนข้างหนึ่งของเขาถูกตัดขาด เขาถือหอกด้วยมืออีกข้าง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยบาดแผลถูกฟันโชกเลือด เขาตะโกนให้ทุกคนในเมืองอพยพออกไปในทันที
ทุกคนในเมืองตกตะลึง พวกเขาไม่คิดว่ากองทัพของรัฐจิ้วจะมาถึงที่นี่ได้อย่างรวดเร็วแบบนี้
“ไม่ต้องเอาอะไรไปทั้งนั้น! ไปเดี๋ยวนี้เลย! เร็วเข้า! เตรียมม้า! เอาม้าศึกที่อยู่ในเมืองทุกตัวออกมาให้พวกเด็กๆ กับคนแก่!” ทหารในเมืองตอบรับอย่างรวดเร็วและจัดการให้ชาวเมืองล่าถอยออกไปทันที
มู่เฉินได้ยินคำพูดของพวกเขาและตกใจมาก เขาทิ้งทุกอย่างแล้วรีบวิ่งเข้าไปหาพวกทหาร
“ทำไมพวกท่านไม่เอาม้ากันเล่า พวกท่านจะทำอะไรกันแน่” มู่เฉินถาม สังหรณ์ร้ายเริ่มผุดขึ้นมา
ทหารมองมู่เฉินด้วยใบหน้านิ่ง แล้วพูดด้วยเสียงไม่เป็นมิตรว่า “ถามอะไรไร้สาระมากนัก! ถ้าไม่อยากตายก็ไปเสีย! เราไม่ต้องการคนอ่อนแออย่างเจ้ามาเป็นตัวถ่วง! ทหาร! พาหมอคนนี้ออกไปเสีย! อย่าให้เขาอยู่ที่นี่แล้วทำให้เขาหุบปากด้วย!”
ทันใดนั้น ทหารหลายคนก็พากันมาไล่มู่เฉินให้ไปที่ประตูเมืองด้านหลัง พวกชาวเมืองรวมตัวกันอยู่ที่นั่นแล้ว พวกเด็กๆ กับคนแก่ที่อ่อนแอก็ถูกดันให้ขึ้นไปบนหลังม้า ขณะที่ทหารในเมืองก็เปิดประตูแล้วพาพวกเขาออกไปอย่างเร่งร้อน ทิ้งเมืองเอาไว้เบื้องหลัง
มู่เฉินยืนกรานไม่ยอมไป แต่เขาก็โดนพวกลูกศิษย์ของเขาบังคับลากตัวไป
“ท่านอาจารย์! ท่านเหน็ดเหนื่อยสายตัวแทบขาดเพื่อพวกเขา แต่พวกเขาไม่ได้สำนึกบุญคุณเลย ทำไมท่านยังห่วงพวกเขาอีก กองทัพของรัฐจิ้วกำลังมา พวกเราต้องไปกันแล้ว!” พวกลูกศิษย์ที่กำลังกลัวลากมู่เฉินให้ตามชาวเมืองที่กำลังหลบหนี
เมื่อเห็นชาวเมืองกลุ่มสุดท้ายออกจากเมืองไปแล้ว ทหารที่ไล่มู่เฉินออกไปก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เขายืนอยู่ที่ประตูเมืองและทำการคารวะอย่างต่ำไปยังทิศทางที่มู่เฉินและคนอื่นๆ จากไป
“เฮ้! ทำไมยังยืนอยู่แถวนี้อีก!” ทหารคนหนึ่งตะโกนขึ้นอย่างร้อนรน
ทหารคนนั้นตอบทันทีว่า “เมื่อสักครู่ข้าต่อว่าผู้มีพระคุณไปก็เลยรู้สึกผิดน่ะ”
“เจ้าโง่ ที่เจ้าทำน่ะถูกแล้ว ถ้าเขาไม่ไป เจ้าจะให้เขาตายพร้อมพวกเราที่นี่หรืออย่างไร! เร็วเข้า! สัญญาณยกขึ้นแล้ว! ปิดประตูเมืองแล้วเตรียมสู้!”
“ไปกัน!”
มู่เฉินถูกลากตัวไปขณะหลบหนี เขายังคงรู้สึกเหมือนมีอะไรกวนใจอยู่ตลอดเวลาจึงเอาแต่มองกลับไปยังทิศทางของเมืองที่พวกเขาจากมา และจู่ๆ ก็ดูเหมือนเขานึกอะไรขึ้นมาได้ เขากวาดสายตาไปรอบๆ เพื่อมองชาวเมืองทั้งหมดที่อยู่รอบตัว
และทุกคนที่เขาเห็นมีแต่ชาวเมืองธรรมดาเท่านั้น ไม่มีทหารสวมเกราะอยู่เลยสักคนเดียว
“เดี๋ยวก่อน! พวกทหารที่บาดเจ็บเล่า!”
มู่เฉินตะโกนขึ้นอย่างตกใจ ในกลุ่มคนทั้งหมดนี้ ไม่มีทหารอยู่เลยสักคนเดียว แม้แต่ทหารบาดเจ็บที่เขารักษาก็ไม่มีอยู่เลย
เสียงตะโกนอย่างตกใจของมู่เฉินทำให้ทุกคนตัวแข็งทื่อ
พอมู่เฉินพูดจบเท่านั้น ก็เกิดเสียงดังขึ้นจากระยะไกล!
เมืองที่พวกเขาเพิ่งออกมาไม่นานระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยต่อหน้าต่อตาพวกเขา เปลวไฟพุ่งทะยานขึ้นสู่ฟ้า ทำให้เส้นขอบฟ้าที่มืดสลัวกลายเป็นแสงสีแดงเรืองรอง!