ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 1147 จิตวิญญาณทหารหาญ (4) ตอนที่ 1148 จิตวิญญาณทหารหาญ (5)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 1147 จิตวิญญาณทหารหาญ (4) ตอนที่ 1148 จิตวิญญาณทหารหาญ (5)
ตอนที่ 1147 จิตวิญญาณทหารหาญ (4) / ตอนที่ 1148 จิตวิญญาณทหารหาญ (5)
ตอนที่ 1147 จิตวิญญาณทหารหาญ (4)
ในค่ายทหาร หลงฉีจ้องมองจดหมายที่เพิ่งได้รับมา เขาถือมันด้วยมืออันสั่นเทา ใบหน้ากระด้างเย็นชาของเขาแสดงความรู้สึกออกมา
“ท่านแม่ทัพเอก…” ทหารกองทัพรุ่ยหลินมองหลงฉีอย่างเป็นห่วง
หลงฉีเงียบอยู่พักใหญ่ก่อนจะลุกพรวดขึ้น เขาวางจดหมายลงบนโต๊ะและคว้าผ้าคลุมมาสวมและมัดให้แน่น หยิบดาบขึ้น วิ่งออกจากค่าย กระโจนขึ้นม้าแล้วพุ่งตรงเข้าสู่สนามรบ!
ทหารคนหนึ่งในค่ายมองหลงฉีที่จู่ๆ ก็อยากฆ่าคนขึ้นมาอย่างตกใจ เขารู้สึกงุนงงมากจึงหันไปมองจดหมายที่หลงฉีทิ้งไว้บนโต๊ะ เขาหยิบจดหมายขึ้นมาและกวาดตามอง!
ทันใดนั้นเอง!
ทุกถ้อยคำบนจดหมายนั้นทำให้ทหารคนนั้นตกใจอย่างถึงที่สุด!
หลงฉี ลูกพ่อ
บิดาแก่ๆ ของเจ้าถอดเกราะและกลับไปเลี้ยงสัตว์มานานหลายปีแล้ว ในที่สุดการต่อสู้ที่ทำให้พ่อต้องหวนคืนสู่สนามรบก็มาถึง วันนี้พ่อยืนอยู่กับเจ้าเมืองแห่งเมืองฟ้าคราม สาบานที่จะป้องกันแผ่นดินของรัฐชีจนตัวตาย ถ้าเจ้าได้รับจดหมายฉบับนี้ ก็หมายความว่าวิญญาณของพ่อได้กลับขึ้นสู่สวรรค์แล้ว และเมื่อเห็นจดหมายฉบับนี้เจ้าก็อย่าได้เสียใจไปเลย จงรู้ไว้ว่าคนของสกุลหลงนั้นหลั่งโลหิตไม่หลั่งน้ำตา จิตวิญญาณของกองทัพรุ่ยหลินประทับอยู่ในตัวเรา อย่าทำให้ชื่อของกองทัพรุ่ยหลินต้องเสื่อมเสีย! พ่อจะรอดูเจ้าจัดการพวกผู้นำของศัตรูในสนามรบและปกป้องรัฐชีไม่ให้โดนพวกโจรมันยึดเอาไป!
หลงจั้น
“เป็นท่านแม่ทัพอาวุโส…ท่านแม่ทัพอาวุโส…” ทหารคนนั้นทรุดลงนั่งกับพื้นด้วยความตกใจ ทหารอีกคนที่เดินลาดตระเวนอยู่เห็นทหารคนแรกทำหน้าเหมือนเจอผีก็รีบวิ่งเข้ามาข้างใน
“เกิดอะไรขึ้น”
ใบหน้าของทหารคนแรกเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เขาจับแขนเสื้อของสหายเอาไว้แน่น!
“วันก่อนที่มีข่าวว่าเมืองฟ้าครามถูกทำลาย เจ้ายังจำได้อยู่หรือเปล่า!”
ทหารคนนั้นแปลกใจอยู่ครู่ก่อนจะรีบพยักหน้า
ว่ากันว่าการต่อสู้ที่เมืองฟ้าครามดุเดือดมากเป็นพิเศษ เมืองที่น่าจะถูกทิ้งจู่ๆ ก็ถูกป้องกันอย่างเข้มแข็ง!
ตามข่าวลือบอกว่าคนที่มีส่วนในการรบไม่ได้มีแค่เจ้าเมืองฟ้าครามกับทหารของเขาเท่านั้น แต่ยังมีกำลังเสริมที่แข็งแกร่งเข้ามาร่วมด้วย สุดท้ายแล้วกระทั่งบุรุษทุกคนของเมืองฟ้าครามที่กำลังอพยพไปก็กลับมาเพื่อเข้าร่วมการต่อสู้ด้วย!
เมืองฟ้าครามเมืองเดียวสามารถยันกองทัพอันมหาศาลของรัฐจิ้วเอาไว้ได้ถึงสามวันสามคืน!
ตอนที่เมืองแตกนั้น ศพของศัตรูมากมายกองพะเนินเต็มไปหมด และไม่มีคนที่ยังรอดชีวิตอยู่ในเมืองเลยสักคน!
“เป็นท่านแม่ทัพอาวุโส! กำลังเสริมกลุ่มนั้นคือท่านแม่ทัพอาวุโส! อ๊ากกก!” ทหารคนนั้นร้องโหยหวนอย่างสิ้นหวัง
ทหารอีกคนตัวแข็งทื่อทันที สีหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ เขาไม่อยากจะเชื่อสิ่งที่เพิ่งได้ยินเลย
“ไปห้ามท่านแม่ทัพเอกหลง! รีบไปห้ามเขาเร็วเข้า! เขาจะออกไปจัดการศัตรูด้วยตัวเองแล้ว!”
ในสนามรบ ดวงตาของหลงฉีแดงก่ำ รังสีอำมหิตเปล่งออกจากร่างของเขาอย่างรุนแรงจนทำให้ทหารฝ่ายศัตรูทุกคนไม่กล้าก้าวเข้ามาเลยสักก้าวเดียว!
เขายกมือขึ้นและฟันดาบลงมา!
หลงฉีเป็นเหมือนยมทูตในสนามรบ เขาใช้การฆ่าและโลหิตที่สาดกระเซ็นจำนวนมากมาทำให้ตัวเองไร้ความรู้สึก
คนของสกุลหลงหลั่งโลหิตไม่หลั่งน้ำตา…
เขารู้ตั้งแต่ตอนที่ท่านพ่อถอนตัวออกจากกองทัพแล้วว่าท่านพ่อปรารถนาถึงวันที่จะได้กลับไปยังสนามรบ สวมชุดเกราะและออกไปสังหารข้าศึกมาโดยตลอด! ท่านพ่อของเขาเข้าร่วมรบอยู่นานหลายปี จิตวิญญาณของทหารฝังลึกอยู่ในโลหิตและกระดูกของเขาแล้ว ในที่สุดก็ถึงวันที่เขาสามารถก้าวเข้าสู่สนามรบเพื่อแสดงถึงความยิ่งใหญ่ของเขาในสนามรบอันโหดร้ายได้!
ท่านพ่อเกิดมาพร้อมจิตวิญญาณแห่งทหารหาญ มีชีวิตอยู่ในสนามรบ และสุดท้ายก็ตายในสนามรบ…
หลงฉีเงยหน้าขึ้นมองฟ้าและส่งเสียงคำรามออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจ!
หอกยาวที่อยู่ในมือวาดเป็นเส้นโค้ง โลหิตที่ปลายหอกกระเซ็นไปทั่ว!
“ข้าหลงฉี ขอสาบานต่อสวรรค์ ตราบใดที่กองทัพรุ่ยหลินยังมีคนที่ยังมีชีวิตอยู่ ใครก็อย่าคิดว่าจะยึดรัฐชีไปจากเราได้!” หลงฉีพูดขึ้นขณะที่นั่งอยู่บนม้าสูงสง่า หอกยาวทิ่มลงไปในพื้นดิน สายตาอำมหิตของเขากวาดมองทหารฝ่ายศัตรูทุกคนที่รายล้อมเขาอยู่!
ตอนที่ 1148 จิตวิญญาณทหารหาญ (5)
สงครามอันดุเดือดต่อเนื่องหลายวันทำให้รัฐชีตกอยู่ในภาวะวิกฤต กองทัพรุ่ยหลินและกองทัพรัฐชีที่ถูกล้อมทั้งสี่ทิศต่อสู้อย่างกล้าหาญ แต่สุดท้ายก็สู้กับกองทัพพันธมิตรทั้งสี่รัฐไม่ได้!
มั่วเฉี่ยนยวนที่อยู่ในเมืองหลวงออกคำสั่งให้กองกำลังทั้งหมดที่ต้านทานศัตรูอยู่ด้านนอกถอยกลับเข้ามาในเมืองหลวงเพื่อเตรียมยืนหยัดต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับกองทัพพันธมิตรทั้งสี่รัฐ
ตอนแรกทหารกองทัพรุ่ยหลินที่ออกจากเมืองหลวงไปมีจำนวนหนึ่งแสนคน แต่คนที่กลับมาที่เมืองหลวงมีเพียงสองหมื่นคนเท่านั้น…
ทหารกองทัพรุ่ยหลินแปดหมื่นคนถูกฝังอยู่ในสนามรบ และยังมีทหารของกองทัพรัฐชีที่ตายไปอีกหลายแสนคน!
เมื่อกองทัพกลับเข้ามาในเมืองหลวง ชาวเมืองทุกคนตั้งแถวอยู่ข้างถนนเพื่อดูทหารที่กลับมาอย่างใกล้ชิด เกราะของทหารทุกคนที่กลับมาหลังจากเสี่ยงชีวิตสู้ในสนามรบนั้นเปื้อนโลหิตจนกลายเป็นสีแดง หลายคนที่บาดเจ็บถูกแบกเข้ามาในเมือง และไม่มีใครสักคนในกลุ่มที่เสื้อผ้าไม่เปื้อนโลหิตและโคลน
ชาวเมืองที่อยู่ในเมืองหลวงมองดูทหารเหล่านั้นเดินเข้ามาอย่างอ่อนล้าและเหน็ดเหนื่อยขีดสุดจากการปกป้องแผ่นดินของพวกเขาก็รู้สึกเจ็บปวดจนไม่สามารถกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้อีกต่อไป
ตอนออกไปทหารกองทัพรุ่ยหลินมีหนึ่งแสนคนแต่กลับมาได้แค่สองหมื่นคน และกองทัพของรัฐชีก็เหลือเพียงหนึ่งแสนสองหมื่นคนเท่านั้น
กองทัพรัฐชีมีทหารหกแสนคน จำนวนคนลดลงไปถึงสี่ในห้าเลยทีเดียว!
สงครามครั้งนี้คือภัยพิบัติที่ทำลายรัฐชีอย่างแท้จริง!
พวกสตรีที่คาดหวังว่าสามีจะกลับมาไม่พบใบหน้าของคนที่พวกนางรัก เด็กๆ ที่คาดหวังว่าบิดาจะกลับมาก็มองไม่เห็นไหล่กว้างอันแข็งแกร่งราวภูผา พวกคนเฒ่าคนแก่ที่คาดหวังว่าบุตรชายจะกลับมาก็ไม่สามารถพบร่างที่คุ้นเคย!
ทหารของรัฐชีสี่แสนแปดหมื่นคนไม่สามารถรอดชีวิตกลับมาได้!
และสงครามนี้ยังไม่จบ! อีกไม่นานพวกเขาจะเจอการต่อสู้ที่รุนแรงมากกว่านี้!
จวินเสี่ยนเข้าวังหลวงเพื่อไปขอพบมั่วเฉี่ยนยวนในทันที
หลินอ๋องคนที่เคยต่อสู้เพื่อปกป้องรัฐชีและก่อตั้งกองทัพรุ่ยหลินขึ้นมา ในตอนนี้ผมของเขากลายเป็นสีขาวแล้ว การต่อสู้นองเลือดติดต่อกันหลายวันทำให้ใบหน้าเขาดูแก่ขึ้นอีกสิบปีในเวลาสั้นๆ แค่สองอาทิตย์
“ฝ่าบาท!” จวินเสี่ยนไม่มีเวลาเช็ดโลหิตที่เปื้อนเกราะออกด้วยซ้ำ เขาตรงเข้าวังมาเข้าเฝ้าฮ่องเต้ก่อน พอเข้ามาในท้องพระโรงเขาก็คุกเข่าลงตรงหน้ามั่วเฉี่ยนยวนทันทีและพูดขึ้นว่า “กระหม่อมทำตามบัญชาของฝ่าบาทไม่สำเร็จ ขอฝ่าบาทโปรดลงโทษด้วยพ่ะย่ะค่ะ!”
มั่วเฉี่ยนยวนรีบลงมาจากบัลลังก์และพยุงจวินเสี่ยนให้ลุกขึ้น
“หลินอ๋อง…ท่านทำมามากพอแล้ว ท่านสู้อย่างกล้าหาญและแสดงถึงพลังอันเข้มแข็งของรัฐชีแล้ว” มั่วเฉี่ยนยวน ได้รับรายงานจากแนวหน้าทุกวัน รายงานการรบพวกนั้นทุกๆ อันทำให้เขากระวนกระวายมาก เขาอยากกระโดดขึ้นหลังม้าแล้วพุ่งเข้าสู่สนามรบเพื่อสู้กับกองทัพพันธมิตรทั้งสี่รัฐจนถึงที่สุด!
“กระหม่อมละอายใจยิ่งนัก” ใบหน้าของจวินเสี่ยนเคร่งขรึมจริงจัง
คนที่ต่อสู้อยู่แนวหน้าเท่านั้นถึงจะรู้ว่าสถานการณ์ที่รัฐชีเผชิญอยู่นั้นน่ากลัวและสิ้นหวังแค่ไหน
กองทัพรุ่ยหลินที่อยู่ภายใต้การดูแลและการเสริมความแข็งแกร่งอย่างระมัดระวังของจวินอู๋เสียและมู่เฉินนั้นแข็งแกร่งกว่าเมื่อก่อนมาก แต่ถึงจะเป็นอย่างนั้น เมื่อเจอกับทหารหนึ่งล้านคนแบบนี้ก็สุดวิสัยที่พวกเขาจะต้านทานได้!
จวินเสี่ยนสั่งการจากกระโจมแม่ทัพ เขาเห็นพี่น้องกองทัพรุ่ยหลินที่ต่อสู้ร่วมกับเขาตายไปในสนามรบนับไม่ถ้วน แนวหน้าของพวกเขาถูกศัตรูผลักดันกลับมาทีละนิด พวกเขาจึงไม่สามารถเก็บศพของสหายที่ตายไปได้เลย!
“หลินอ๋อง สวรรค์ได้กำหนดมาแล้ว และพวกเราก็ทำทุกอย่างที่ทำได้แล้ว ถ้าสวรรค์กำหนดให้รัฐชีของเราต้องพินาศย่อยยับ และพวกเราก็ทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อต่อต้านแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องตำหนิตัวเองหรอก ถ้าไม่ใช่เพราะท่านคอยสั่งการอยู่แนวหน้า อย่าพูดถึงสองอาทิตย์เลย รัฐชีเราคงยันไว้ได้ไม่ถึงเจ็ดวันด้วยซ้ำ และคงถูกกองทัพพันธมิตรทั้งสี่รัฐทำลายจนสิ้นไปแล้ว!” มั่วเฉี่ยนยวนไม่ได้พยายามปลอบใจจวินเสี่ยน แต่เขากำลังพูดความจริง กองทัพพันธมิตรทั้งสี่รัฐมีทหารหนึ่งล้านคนจากแต่ละรัฐ ขณะที่รัฐชีนั้นเล็กและทหารก็มีน้อย กองทัพที่มีทหารแค่หกแสนคนจะไปมีหวังที่จะยับยั้งศัตรูที่มีจำนวนมหาศาลได้อย่างไร!