ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 1171 ตอนที่ 1172 พันธมิตร (1)
ตอนที่ 1171 พลังวิญญาณขั้นสีม่วงที่ระเบิดออกมา (3) / ตอนที่ 1172 พันธมิตร (1)
ตอนที่ 1171 พลังวิญญาณขั้นสีม่วงที่ระเบิดออกมา (3)
แต่จวินอู๋เสียไม่ได้มีความรู้สึกยินดีเลยแม้แต่น้อย กลิ่นคาวโลหิตที่รุนแรงเริ่มโจมตีนางแล้ว นางไม่รู้สึกถึงชัยชนะเลย ในสนามรบเช่นนี้ไม่มีชัยชนะหรือพ่ายแพ้สำหรับนาง นางอยากให้ไม่มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นมากกว่า มันจะเพียงพอสำหรับนางก็ต่อเมื่อทหารของกองทัพรุ่ยหลินทุกคนฟื้นกลับคืนมาได้!
“น้องเสีย…” เฉียวฉู่มือสั่นขณะที่เดินตรงมาที่จวินอู๋เสีย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้รบในสงครามใหญ่เช่นนี้ โลหิตในกายของชายหนุ่มเลือดร้อนเดือดพล่านจากการรบที่รุนแรง ชายหนุ่มทุกคนปรารถนาจะเติบโตเป็นลูกผู้ชายที่แท้จริง เป็นวีรบุรุษที่ปกป้องบ้านเมืองของตัวเอง
อย่างไรก็ตาม เฉียวฉู่กับพรรคพวกของเขาอยู่ในสถานการณ์ที่พิเศษ สถานที่ที่เป็นของพวกเขาได้ทอดทิ้งพวกเขามานาน และพวกเขาไม่รู้ว่าบ้านเกิดของพวกเขาเป็นอะไรสำหรับพวกเขาแล้ว พวกเขาจะปกป้องสถานที่ที่ทำให้พวกเขากลายเป็นเด็กกำพร้าไร้บ้านได้อย่างไร
แต่จวินอู๋เสียให้โอกาสแบบนั้นกับพวกเขา ตั้งแต่ตอนที่จวินอู๋เสียยอมรับเป็นฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียน เฉียวฉู่กับพรรคพวกของเขาก็ตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมกับนาง
ไม่ว่าจะเป็นรัฐชีหรือรัฐเหยียน สำหรับพวกเขาแล้วทั้งสองแห่งคือสถานที่ที่พวกเขาจะพยายามต่อสู้เพื่อปกป้อง
“กองทัพของรัฐเหยียนสูญเสียไปเท่าไร” จวินอู๋เสียหันกลับมา ดวงตาของนางไม่เป็นสีแดงแล้ว
“อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ พวกข้าศึกหมดกำลังใจสู้ไปแล้วตอนที่เห็นกองทัพของรัฐเหยียน ก็เลยจัดการได้ไม่ยาก” เฉียวฉู่พูดพร้อมกับเกาหัว เขาจินตนาการไม่ออกเลยว่าหลังจากผ่านสงครามใหญ่มาสองครั้ง ความสูญเสียของพวกเขายังน้อยกว่าหนึ่งในสิบของจำนวนคนทั้งหมด เป็นผลลัพธ์ที่ยิ่งกว่าคำว่ายอมรับได้เสียอีก
แต่ถ้าถามหาเหตุผลกันจริงๆ แล้ว มันก็ไม่ได้เป็นเพราะความแข็งแกร่งของกองทัพรัฐเหยียนทั้งหมด
ในด้านความแข็งแกร่งกองทัพรุ่ยหลินเหนือกว่ากองทัพของรัฐเหยียนเสียอีก แต่จำนวนทหารของกองทัพรัฐเหยียนทำให้พวกเขาได้เปรียบอย่างมาก และพวกเขายังได้ชื่อว่าเป็นรัฐที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกอีกด้วย ทำให้กองทัพมากมายเกรงกลัวพวกเขาอยู่แล้ว
นอกจากนั้นการทำลายล้างที่ไม่อาจหนีรอดไปได้ของจวินอู๋เย่าเป็นการโจมตีที่สร้างความเสียหายได้มากที่สุด จำนวนคนที่กองทัพรัฐเหยียนฆ่าได้นั้นยังเทียบกับเขาเพียงคนเดียวไม่ได้
เมื่อนึกถึงการโจมตีครั้งสุดท้ายนั่น เฉียวฉู่ก็อดสยองไม่ได้
พี่ใหญ่อู๋เย่านี่โหดกว่าทุกคนที่ข้าเคยรู้จักมาเลย!
จวินอู๋เสียพยักหน้า การเคลื่อนกองทัพของรัฐเหยียนนั้น อย่างแรกก็เพราะนางถูกสถานการณ์บีบคั้น และอย่างที่สองก็เพื่อทำตามคำขอร้องของเหลยเชิน แต่นางไม่ได้อยากให้กองทัพของรัฐเหยียนต้องสูญเสียคนจำนวนมากเพื่อช่วยรัฐชี ถึงอย่างไรตอนนี้นางก็เป็นฮ่องเต้ของรัฐเหยียนแล้ว มันจึงเป็นสิ่งที่นางไม่อยากเห็น
“ฝ่าบาท!” เหลยเชินที่เปื้อนคราบของเหลวสีแดงทั้งตัวเช็ดคราบโลหิตออกจากใบหน้าและมายืนตรงหน้าจวินเสีย เขาพูดขึ้นว่า “แม่ทัพใหญ่ของทั้งสามรัฐถูกจับแล้วพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมมารับคำสั่งของฝ่าบาท จะให้ฆ่าหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
ไม่รู้ว่าจวินอู๋เย่าตั้งใจหรือเปล่า การโจมตีครั้งเดียวในตอนสุดท้ายของเขานั้น มีเพียงแม่ทัพทั้งสามรัฐเท่านั้นที่ไม่โดน พวกเขาต้องดูกองทัพทั้งหมดของพวกเขาที่มีคนนับล้านต้องกลายสภาพเป็นกองโลหิตด้วยตาของตัวเอง ตอนที่เหลยเชินตรวจตราสนามรบ เขาพบแม่ทัพสามคนนี้เป็นบ้าไปแล้ว จึงให้คนจับมาเพื่อรอการตัดสินใจของจวินเสีย
จวินอู๋เสียหรี่ตาลง นางพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า “จับพวกมันขังไว้ แล้วเอาตัวเข้าไปในเมืองหลวงของรัฐชีเพื่อทำการสอบสวน”
เมื่อได้รับคำสั่งเหลยเชินก็ไปจัดการทันที
เมื่อสนามรบเหลือแต่โลหิตนองพื้นก็ไม่มีอะไรให้พวกเขาต้องจัดการมากนัก หลังจากกองทัพรัฐเหยียนรวมกลุ่มกันใหม่แล้ว พวกเขาก็เริ่มเคลื่อนพลตรงไปที่เมืองหลวงของรัฐชี
หลังจากได้หยุดพักหายใจกันช่วงสั้นๆ ประชาชนของรัฐชีก็เห็นกองทัพขนาดใหญ่อีกทัพหนึ่งเคลื่อนพลเข้ามาประชิด ในใจของพวกเขาจึงตึงเครียดขึ้นมาอีกตามสัญชาตญาณ
ตอนที่ 1172 พันธมิตร (1)
โชคดีที่พวกเขาสังเกตเห็นอย่างรวดเร็วว่ากองทัพนั้นชูธงของรัฐเหยียนอยู่ พวกเขาจึงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก
เมื่อกองทัพรัฐเหยียนมาถึงประตูเมืองหลวงของรัฐชี พวกเขาได้หยุดอยู่ข้างนอก เหลยเชินสั่งให้ทหารตั้งค่ายเพื่อพักผ่อนและไม่ให้พวกเขาเข้าไปในเมืองหลวงรัฐชีโดยไม่ได้รับอนุญาต
หลังจากโดนบุกโจมตีซ้ำๆ การเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อยจากกองทัพจะทำให้ประชาชนในรัฐชีวิตกกังวลได้ เหลยเชินอยากป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นมา
จวินอู๋เสียกับคนของพวกเขากลุ่มเล็กๆ เข้าไปในเมืองหลวงของรัฐชี ที่ริมเมืองเต็มไปด้วยทหารและประชาชนของรัฐชี พวกเขาไม่ได้แยกย้ายกันไปในทันที แต่ยืนอยู่รอบๆ ประตูเมืองหลวงเพื่อมองดูจวินเสียผู้ที่ช่วยชีวิตพวกเขาทุกคน
มั่วเฉี่ยนยวนยืนมองใบหน้าที่ไม่คุ้นเคยอยู่หน้าฝูงชน ต่อให้หน้าตาจะเปลี่ยนแปลงไป แต่เขาไม่มีวันคิดว่าดวงตาเย็นชาที่เหมือนน้ำในฤดูใบไม้ร่วงคู่นั้นผิดเป็นคนอื่นแน่ และเขาไม่มีวันลืมสัตว์ร้ายสีดำที่จวินอู๋เสียเคยใช้ขู่เขาได้ลงอีกด้วย
นางกลายเป็นฮ่องเต้ของรัฐเหยียนได้อย่างไร
ในใจของมั่วเฉี่ยนยวนเต็มไปด้วยความสับสนงงงวย แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม นางก็คือคนที่ช่วยรัฐชีเอาไว้ในวันนี้
ไม่ว่าเขาจะมีคำถามอะไรก็ไม่เปลี่ยนความจริงเรื่องนี้
มั่วเฉี่ยนยวนก้าวออกไปต้อนรับจวินอู๋เสีย และต่อหน้าทุกคนในรัฐชี เขาประสานมือคารวะและโค้งต่ำจนถึงสะโพกพลางพูดเสียงดังฟังชัดว่า “พวกเราขอขอบคุณรัฐเหยียนสำหรับการช่วยเหลือเราในครั้งนี้ บุญคุณและความเมตตาของพวกท่านจะถูกจดจำเอาไว้ในใจชาวรัฐชีทุกคน”
นานมาแล้ว เขาเป็นองค์รัชทายาทที่เกือบถูกปลดออกจากตำแหน่ง และนางเป็นคุณหนูใหญ่ไม่ได้เรื่องที่ผู้คนมองด้วยความอับอาย
ตอนนี้เขาถูกนางผลักดันให้ขึ้นครองราชย์ ขณะที่นางกลายเป็นฮ่องเต้ของรัฐที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในแผ่นดิน
แค่หนึ่งปีเท่านั้นคนเราก็เปลี่ยนแปลงกันได้ถึงขนาดนี้
จวินอู๋เสียมองมั่วเฉี่ยนยวนนิ่ง ตอนนี้นางไม่ใช่ ‘จวินอู๋เสีย’ คุณหนูใหญ่แห่งจวนหลินอ๋องของรัฐชี แต่เป็น ‘จวินเสีย’ ฮ่องเต้พระองค์ใหม่ของรัฐเหยียน ตั้งแต่ตอนที่นางยอมรับคำขอของเหลยเชินและนำกองทัพมาช่วยรัฐชี ก็หมายความว่านางจะต้องยอมทิ้งตัวตนในฐานะจวินอู๋เสียไปชั่วคราว
สายตาของจวินอู๋เสียมองไปที่จวินเสี่ยนกับจวินชิงที่ยืนอยู่ด้านหนึ่งโดยไม่ได้ตั้งใจ สีหน้าของพวกเขากระวนกระวายกันมาก พวกเขาคือครอบครัวที่ให้ความอบอุ่นแก่นางหลังจากที่นางมาเกิดใหม่และเป็นคนสำคัญสำหรับนางในโลกนี้
จากกันไปตั้งหนึ่งปี ไม่มีทางที่นางจะคิดถึงพวกเขาได้มากกว่าที่นางรู้สึกในตอนนี้แล้ว บัดนี้เมื่อพวกเขาได้พบกัน นางกลับไม่สามารถวิ่งเข้าสู่อ้อมกอดของพวกเขาและเรียกพวกเขาว่าท่านปู่ท่านอาเล็กได้…
จวินอู๋เสียรู้สึกราวกับมีหินคมๆ อยู่ในหัวใจ กรีดหัวใจนางให้เจ็บปวด ทำให้นางอึดอัดหายใจไม่ออก และทำให้รู้สึกปวดตุบๆ ตลอดเวลา
ยอมรับไม่ได้…
ไม่ว่าจะเพื่อรัฐเหยียน หรือเป็นเพราะสิบสองตำหนัก นางก็ไม่สามารถกลับไปเป็นจวินอู๋เสียได้
รออีกหน่อยเถอะ!
แค่อีกไม่นาน!
จวินอู๋เสียละสายตากลับมาและสะกดอารมณ์ที่พลุ่งพล่านขึ้นมาไว้ในอก นางมองมั่วเฉี่ยนยวนด้วยสายตาสงบนิ่ง
“ไม่ต้องขอบคุณหรอก สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นการแสดงความจริงใจจากรัฐเหยียนเพื่อขอเป็นพันธมิตรกับรัฐชี” จวินอู๋เสียพูด
มั่วเฉี่ยนยวนเงยหน้าขึ้นอย่างมึนงง
ขณะเดียวกันคำพูดของจวินอู๋เสียก็ถูกกระซิบพึมพำกันไปทั่วฝูงชน
รัฐเหยียนเป็นรัฐที่ใหญ่ที่สุดและแข็งแกร่งที่สุดในแผ่นดินนี้ ส่วนรัฐชีเป็นเพียงรัฐเล็กๆ เท่านั้น รัฐชีพบกับการสูญเสียครั้งใหญ่และกว่าพวกเขาจะฟื้นกำลังกลับมาได้ก็คงใช้เวลาอีกนาน สำหรับรัฐเหยียนที่ยิ่งใหญ่นั้นการพูดถึงเรื่องพันธมิตรในเวลานี้ ทุกคนในรัฐชีย่อมเข้าใจได้อย่างเดียวเท่านั้นว่าเป็น…การผนวกดินแดน!
ด้วยขนาดที่กว้างใหญ่ของรัฐเหยียน ทำไมพวกเขาจะต้องเป็นพันธมิตรกับรัฐเล็กๆ ที่กำลังดิ้นรนให้อยู่รอดจากผลของสงครามเช่นนี้ด้วย
ไม่มีใครคิดว่าหลังจากเจอหมาป่าจอมตะกละไล่ล่าแล้ว พวกเขาจะพบเข้ากับเสือโหดในทันทีแบบนี้
ประชาชนที่เกือบจะหลุดพ้นจากความสิ้นหวังก็รู้สึกเหมือนพวกเขาเพิ่งเดินเข้าไปในโรงทำน้ำแข็ง
จวินชิงที่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนมองหลานตัวน้อยของเขาแล้วอดขำไม่ได้ สาวน้อยของพวกเขายังไม่เรียนรู้วิธีการพูดอีก ดังนั้นเขาจึงก้าวออกมาข้างหน้าทันที!