ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 1195 หลังสงครามผ่านพ้น (4) ตอนที่ 1196 บัวหิมะมัวเมาปะทะอิงซู่ (1)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 1195 หลังสงครามผ่านพ้น (4) ตอนที่ 1196 บัวหิมะมัวเมาปะทะอิงซู่ (1)
ตอนที่ 1195 หลังสงครามผ่านพ้น (4) / ตอนที่ 1196 บัวหิมะมัวเมาปะทะอิงซู่ (1)
ตอนที่ 1195 หลังสงครามผ่านพ้น (4)
จวินอู๋เสียพูดว่า “ข้าถามท่านปู่ว่าหยกสงบวิญญาณมาอยู่กับท่านได้อย่างไร และให้เหลยเชินวาดรูปของเวินอวี่ให้ท่านดูเพื่อยืนยันให้แน่ใจว่าถูกคน”
“เจ้ากำลังบอกว่า…ราชครูเวินอวี่เคยไปที่สุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิมาก่อนหรือ” เฉียวฉู่ถามพร้อมทำตาโตอย่างเหลือเชื่อ
ถ้าเวินอวี่เคยไปที่นั่นมาจริงๆ อย่างนั้นก็หมายความว่าเขารู้ที่ตั้งของสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิน่ะสิ แบบนี้ต่อให้พวกเขาไม่มีแผนที่ พวกเขาก็ยังสามารถหาตำแหน่งของสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิได้!
แม้ว่าจะรวบรวมแผนที่มาได้เกือบครบแล้ว แต่ถ้าพวกเขาพบคนที่ยังมีชีวิตอยู่ที่เคยไปสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิมาแล้วย่อมดีกว่ามากเลยทีเดียว
“ข้าไม่แน่ใจและก็ทำได้แค่เดา เพราะอย่างนั้นข้าถึงต้องเดินทางกลับไปที่รัฐเหยียนเพื่อคุยกับเวินอวี่” จวินอู๋เสียพูดนิ่งๆ ตอนนี้เบาะแสที่นางมีอยู่ยังไม่พอที่จะสรุปได้ แต่อย่างไรความเป็นไปได้ก็สูงมากทีเดียว
ถ้าเวินอวี่เคยไปที่สุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิจริงๆ นางจะต้องเกลี้ยกล่อมเวินอวี่ให้พาพวกเขาไปที่นั่นให้ได้ไม่ว่าจะด้วยเล่ห์หรือด้วยกลก็ตาม
“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็ควรกลับไปที่นั่น ส่วนเรื่องรัฐจิ้วพวกเราจะไปตรวจดูสถานการณ์ก่อน หลังจากเจ้าถามเวินอวี่แล้วเราค่อยวางแผนการขั้นต่อไป” ฮวาเหยาพูดอย่างรอบคอบขณะที่มองไปที่จวินอู๋เสีย
เวินอวี่อาจจะเป็นอีกโอกาสหนึ่งของพวกเขา แต่พวกเขาจะไม่ล้มเลิกเรื่องแผนที่ที่รู้ว่าอยู่ที่ไหนแล้วหรอก เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด พวกเขาจะไล่ตามข้อมูลจากทั้งสองทาง
“ก็น่าจะได้ผลนะ ข้าเดาว่าข่าวเรื่องความพ่ายแพ้ของรัฐจิ้วยังไปไม่ถึงรัฐของพวกเขาหรอก พวกเราน่าจะฉวยโอกาสนี้แทรกซึมเข้าไปโดยไม่ให้พวกนั้นรู้ตัวได้ ถ้าทิ้งเวลาให้นานเกินไปแล้วรัฐจิ้วรู้ว่ากองทัพพันธมิตรของพวกเขาพ่ายแพ้อยู่ในรัฐชี แถมยังมีรัฐเหยียนเข้ามาเกี่ยวพันด้วยแบบนี้ พวกเขาจะต้องหวาดระแวงแน่ๆ” เฉียวฉู่พูดพลางยักไหล่ เขาเห็นด้วยกับคำแนะนำของฮวาเหยา
จวินอู๋เสียรู้สึกเป็นห่วง นางขมวดคิ้วเล็กน้อย พวกเขาทำภารกิจที่ผ่านมาด้วยกันมาตลอด นางจึงหวั่นใจเมื่อต้องแยกกันแบบนี้
“ไม่เป็นไรน่า ปล่อยเรื่องรัฐจิ้วให้พวกเราจัดการเอง ไม่ต้องห่วงหรอก เราแค่ไปตรวจดูสถานการณ์เท่านั้นเอง ถ้าไม่มั่นใจเต็มที่ พวกเราจะไม่ทำอะไรบุ่มบ่าม เราจะรอจนกว่าเจ้าจะมา ไม่ต้องเป็นห่วงมากนักหรอก” เฟยเยียนพูดรับรองขึ้นทันทีเมื่อเห็นจวินอู๋เสียขมวดคิ้วด้วยรู้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่
“พวกเจ้าทุกคนระวังตัวด้วยนะ” จวินอู๋เสียเตือน ยังคงเป็นกังวลอยู่เล็กน้อย
“อย่าดูถูกพวกเราสิ” เฉียวฉู่พูดพร้อมหัวเราะและตบบ่าจวินอู๋เสีย
หลังพูดคุยปรึกษากัน พวกเขาก็ตัดสินใจว่าจะแยกกันเป็นสองทางชั่วคราว จวินอู๋เสียจะกลับไปที่รัฐเหยียนพร้อมกับกองทัพและไปสอบถามเวินอวี่เรื่องที่มาของหยกสงบวิญญาณ ส่วนอีกห้าคนจะไปที่รัฐจิ้วเพื่อประเมินสถานการณ์ก่อน
หลังจากนั้นพวกเขาก็แยกย้ายกันไป เฉียวฉู่กับคนที่เหลือเตรียมตัวเดินทางไปที่รัฐจิ้ว
จวินอู๋เสียยังอยู่ในเมืองหลวงของรัฐชีชั่วคราว หลังจากสถานการณ์ในรัฐชีอยู่ตัวแล้ว นางจึงจะนำกองทัพกลับไปที่ราชสำนัก!
หลังจากปรึกษากับเฉียวฉู่และคนอื่นๆ จวินอู๋เสียก็กลับไปที่ห้องของนาง
นางเพิ่งผลักประตูเข้าไปก็พบกับภาพที่ทำให้นางชะงักนิ่งอยู่กับที่
เจ้าดอกบัวขาวน้อยกำลังร้องไห้น้ำตาไหลเป็นทาง เขาถูกอิงซู่กดให้คว่ำหน้าลง มืออิงซู่จับปลายสายเอี๊ยมด้านหลังของเจ้าดอกบัวขาวน้อย ดูเจตนาเต็มที่ที่จะแก้ปมออก ใบหน้ามีรอยยิ้มกว้างที่ดูชั่วร้าย ไม่นึกถึงว่าเจ้าดอกบัวขาวน้อยกำลังบอบช้ำทางจิตใจเลยสักนิด ดูเหมือนเขากำลังสนุกมากด้วยซ้ำ
ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะกับกระต่ายโลหิตยืนขาสั่นอยู่ตรงเท้าของภูติดอกอิงซู่ ปากของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะกำลังงับชายกางเกงอิงซู่อยู่!
ตอนที่ 1196 บัวหิมะมัวเมาปะทะอิงซู่ (1)
“ม่ายยย…แงงงง…” เสียงร้องไห้อย่างน่าสงสารของเจ้าดอกบัวขาวน้อยดังลั่นจนหลังคาแทบพัง
อิงซู่หรี่ตาลงและยิ้มมุมปากอย่างชั่วร้าย นิ้วที่เกี่ยวสายเอี๊ยมดึงขึ้นช้าๆ แต่ตอนที่ปมสายเอี๊ยมกำลังจะหลุด เขาก็เหลือบไปเห็นจวินอู๋เสียยืนอยู่ที่ประตู
“…” อิงซู่เงยหน้าขึ้น สีหน้าดูประหลาดใจเล็กน้อย
จวินอู๋เสียกวาดตามองทั่วห้อง กลิ่นดอกอิงซู่จางๆ ผสมกับกลิ่นดอกบัวลอยเข้ามาในจมูกของนาง
นางมองไปที่ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะกับกระต่ายโลหิตที่นอนไม่มีแรงอยู่บนพื้น แล้วนางก็เงยหน้าขึ้นมองตรงไปที่ดวงตาสีแดงโลหิตของอิงซู่พร้อมกับคิ้วกระตุกข้างหนึ่ง
สายตาเย็นยะเยือกนั้นทำให้อิงซู่รู้ตัวว่าเจ้านายคนใหม่ของเขากำลังไม่พอใจ เขายกแขนขึ้นโบกทันที กลิ่นดอกอิงซู่ที่ปนอยู่กับกลิ่นดอกบัวหายไปอย่างไร้ร่องรอย ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะกับกระต่ายโลหิตที่นอนอยู่บนพื้นก็พบว่าพละกำลังของพวกมันกลับมาแล้ว สัตว์วิญญาณที่น่ารักทั้งสองตัวลุกพรวดขึ้นทันที!
ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะเอาหัวพุ่งเข้าใส่ท้องของอิงซู่ และกระต่ายโลหิตที่รอจังหวะอยู่ก็เอาอุ้งเท้าทั้งสองของมันกอดแขนเจ้าดอกบัวขาวน้อยแล้วดึงออกมา
เจ้าตัวน่ารักทั้งสองลงมือได้อย่างสมบูรณ์แบบด้วยความพยายามที่จะช่วยเจ้าดอกบัวขาวน้อยออกมาจากอุ้งมือมารของภูติดอกอิงซู่
แต่…
สายเอี๊ยมของเจ้าดอกบัวขาวน้อยยังคงเกี่ยวอยู่ที่นิ้วของอิงซู่ และด้วยแรงดึงของกระต่ายโลหิตทำให้ร่างเล็กๆ ของเจ้าดอกบัวขาวน้อยหลุดออกมาจากขาของอิงซู่ ปมสายเอี๊ยมที่มัดเอาไว้ก็หลุดออก…
“ไม่…”
เจ้าดอกบัวขาวน้อยทรุดลงนั่งบนพื้น เอี๊ยมสีแดงที่ใส่อยู่หล่นลงมากองบนขาสั้นๆ ของเขา
ของหล่นกระทบพื้นเสียงดัง ภายใต้เอี๊ยมสีแดงนั้นมีข้าวของกระจุกกระจิกหล่นลงกองกระจัดกระจายรอบตัวเจ้าดอกบัวขาวน้อยเต็มไปหมด
เมื่อเห็นเอี๊ยมซึ่งเป็นเครื่องแต่งกายชิ้นเดียวที่เจ้าดอกบัวขาวน้อยมีอยู่หล่นลงกองบนขาอ้วนป้อมของเขา ทำให้เขา…
เด็กน้อยรู้สึกเย็นที่หน้าอก เขานั่งมองเหม่ออยู่บนพื้น น้ำตาคลอขึ้นมาอีกครั้ง
เขา…
เขา…
เขาไปเจอหน้าใครไม่ได้อีกแล้ว! แงงงงงงงง!
“แงงงง!” เจ้าดอกบัวขาวน้อยหยิบเอี๊ยมขึ้นมาพร้อมกับลุกขึ้นวิ่งสะอึกสะอื้นกระโดดขึ้นเตียงไปมุดใต้ผ้าห่มแล้วร้องไห้ตัวสั่น
พวกเขาเห็นหมดแล้ว!
น่าอายที่สุด!
ช่วยเจ้าดอกไม้ไม่ได้ แล้วยังทำให้เจ้าดอกไม้โป๊แทนเสียนี่…
ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะกับกระต่ายโลหิตกะพริบตาปริบๆ ยังคงงงงันอยู่เล็กน้อย
อิงซู่ยกมือขึ้นอย่างเก้อเขิน เขามองจวินอู๋เสียด้วยสีหน้าจริงจัง
“ท่านตำหนิข้าไม่ได้นะ ข้าไม่ได้เป็นคนทำ เจ้าสองตัวนั้นต่างหากที่ทำ”
แม้ว่าความจริงแล้ว…เขาก็ตั้งใจจะทำนั่นแหละ แต่จวินอู๋เสียโผล่มากะทันหันทำให้เขาไม่มีทางเลือกนอกจากหยุดสิ่งที่กำลังทำอยู่ และเป็นเจ้าโง่สองตัวที่อยากปกป้องเจ้าดอกไม้งี่เง่านี่ต่างหากที่สุดท้ายก็กลับเป็นการช่วยเขาแทน
“แบ๊ะ…” ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะปีนลงมาจากขาของอิงซู่ช้าๆ ดูท่าทางอายมากทีเดียว มันเดินไปหลบมุมเอาหน้าเข้ากำแพงแล้วหันก้นกลมๆ ให้จวินอู๋เสีย
ท่าทางของมันบอกว่า “ข้าไม่รู้อะไรทั้งนั้น ข้าไม่ได้ทำอะไรเลยสักนิด”
กระต่ายโลหิตกอดหูของตัวเองแล้วมุดหน้าอยู่ในนั้น ตัวอย่างที่ดีและตรงตามตัวอักษรของสำนวนว่า ‘ปิดหูขโมยระฆัง[1]’ โดยแท้
จวินอู๋เสียพูดอะไรไม่ออก…
นางเดินช้าๆ ไปที่ตู้แล้วหยิบเอาเหยือกสุราชั้นดีออกมา
[1] ปิดหูขโมยระฆัง เป็นสำนวนจีนหมายถึงขโมยปิดหูตัวเองขณะขโมยระฆังด้วยคิดว่าจะไม่มีใครได้ยินเสียงระฆัง ใช้เปรียบเทียบคนที่พยายามหลอกตัวเอง หรือพฤติกรรมในการพยายามปกปิดเรื่องที่ทราบดีว่าไม่มีทางปกปิดได้สำเร็จ