ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 1243 แบบไหนถึงเรียกว่าใช้อำนาจกลั่นแกล้ง (4) ตอนที่ 1244
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 1243 แบบไหนถึงเรียกว่าใช้อำนาจกลั่นแกล้ง (4) ตอนที่ 1244
ตอนที่ 1243 แบบไหนถึงเรียกว่าใช้อำนาจกลั่นแกล้ง (4) / ตอนที่ 1244 ข้าคือฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียน (1)
ตอนที่ 1243 แบบไหนถึงเรียกว่าใช้อำนาจกลั่นแกล้ง (4)
ผู้อาวุโสหวงหัวเราะเบาๆ พลางมองไปที่ฮ่องเต้รัฐจิ้ว
“เจ้านี่มันชั่วร้าย รู้จักใช้รัฐเล็กๆ แบบนั้นมาเชือดไก่ให้ลิงดู บังคับให้ทหารองครักษ์ของพวกนั้นต้องตอบโต้ ให้เจ้าได้มีข้ออ้างยกทัพไปบุกรัฐพวกมัน แบบนี้ผู้ครองรัฐคนอื่นๆ ก็ต้องกลัวจนไม่กล้าต่อต้านเจ้า อันที่จริง…ข้าว่านะ พวกนั้นจะต่อต้านเจ้าหรือไม่ ผลก็เหมือนกัน กองทัพของพวกมัน ประชาชนของพวกมันทั้งหมดจะกลายเป็นคนพิษอยู่ดี พวกมันคิดแต่จะเอาตัวเองให้รอด ไม่ได้รู้เลยว่าสุดท้ายแล้วรัฐของพวกมันก็จะตกอยู่ในกำมือของเจ้า”
“ข้าคิดว่าอีกไม่นาน รัฐที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสามโลกเบื้องล่างจะกลายเป็นรัฐจิ้วของเจ้า”
เมื่อฮ่องเต้รัฐจิ้วได้ยินคำพูดพวกนั้น เขาก็ไม่ได้แสดงความยินดีออกมาเลยแม้แต่น้อย แต่พูดแค่ว่า “รัฐจิ้วได้รับเกียรติยศเช่นนี้ได้ ต้องขอบคุณผู้อาวุโสหวงที่ช่วยชี้แนะ นับจากนี้ไป รัฐจิ้วจะเชื่อฟังคำสั่งของผู้อาวุโสหวง และจะพยายามช่วยผู้อาวุโสไขความลับของแผนที่นั่นให้ได้เร็วที่สุด”
ผู้อาวุโสหวงส่งเสียงฮึ และกล่าวว่า “อย่างน้อยเจ้าก็รู้ล่ะนะ ความตั้งใจนี้ของเจ้า ตาแก่คนนี้จะจำเอาไว้”
“ได้รับใช้ผู้อาวุโสหวง เป็นเกียรติกับข้ายิ่งนัก!”
ขณะที่ทั้งสองพูดคุยกันอยู่นั้น ทหารคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นข้างนอกท้องพระโรงเพื่อขอเข้าเฝ้า
ฮ่องเต้รัฐจิ้วกลับไปนั่งบนบัลลังก์ วางมาดของฮ่องเต้ทันที
“เข้ามาได้”
ทหารที่อยู่ด้านนอกท้องพระโรงเข้ามาข้างในและคุกเข่ากราบทูลว่า “ทูลฝ่าบาท! ฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียนส่งราชทูตมาส่งข่าวพ่ะย่ะค่ะ”
“อะไรนะ รัฐเหยียน” ฮ่องเต้รัฐจิ้วมองอย่างแปลกใจ ถ้าบอกว่ามีอะไรที่เขาต้องกลัวในโลกนี้ละก็ ก็คงมีเพียงรัฐเหยียนอย่างเดียวเท่านั้น!
รัฐเหยียนแข็งแกร่งกว่ารัฐจิ้วมาก หลายปีมานี้พวกเขาคอยกดรัฐจิ้วเอาไว้จนไม่กล้าลงมืออะไรบุ่มบ่าม และเมื่อไม่นานมานี้ รัฐจิ้วได้ร่วมมือกับอีกสามรัฐบุกโจมตีรัฐชี ขณะที่รัฐชีกำลังจะถูกกำจัด จู่ๆ กองทัพรัฐเหยียนก็เข้ามาช่วยพวกเขา และไม่เพียงแต่ช่วยรัฐชีให้พ้นจากวิกฤตได้เท่านั้น พวกเขายังกวาดล้างกองทัพของรัฐทั้งสี่ที่อยู่ในแผ่นดินของรัฐชีจนเกลี้ยง ไม่เหลือผู้รอดชีวิตเลยสักคน!
และเมื่อฮ่องเต้รัฐจิ้วได้ยินชื่อ รัฐเหยียน เขาจึงอดตกใจไม่ได้!
เขาหันหน้าไปมองผู้อาวุโสหวงโดยไม่รู้ตัว
ผู้อาวุโสหวงขมวดคิ้วเล็กน้อย
ในใจของฮ่องเต้รัฐจิ้วค่อนข้างร้อนรนเล็กน้อย แต่เมื่อเขาเห็นว่าผู้อาวุโสหวงอยู่ที่นี่ด้วย เขาก็เริ่มสบายใจขึ้น รัฐเหยียนแล้วอย่างไรเล่า ไม่ว่าจะเป็นรัฐอะไร ตอนนี้รัฐจิ้วไม่กลัวใครหน้าไหนทั้งนั้น!
“ข่าวอะไร”
“วันนี้ฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียนจะเสด็จมาเยือนเป็นการส่วนพระองค์เพื่อเข้าพบฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ” ทหารคนนั้นพูด
“เข้าใจแล้ว ไปได้” ฮ่องเต้รัฐจิ้วพูด แกล้งวางท่าสงบนิ่งใจเย็น แต่ข้างในใกล้จะสติแตกอีกครั้งแล้ว
รัฐเหยียนไม่ใช่แค่ส่งข่าวมาอย่างเดียว แต่ยังต้องการพบเขาด้วย
แถมยังเป็นวันนี้อีก!
อย่างนั้นก็หมายความว่าฮ่องเต้รัฐเหยียนได้เข้ามาในเขตแดนของรัฐจิ้วแล้วโดยไม่มีใครสังเกตเห็นเลยน่ะสิ และตอนนี้เขาก็อยู่ไม่ไกลจากเมืองหลวงของรัฐจิ้ว หรือไม่ก็…เข้ามาอยู่ในเมืองหลวงรัฐจิ้วแล้ว
การที่ผู้นำของรัฐอื่นเข้ามาในเขตแดนของรัฐเขาได้อย่างเงียบๆ ทำให้ฮ่องเต้รัฐจิ้วรู้สึกเย็นวาบไปทั้งสันหลัง รัฐจิ้วกับรัฐเหยียนเพิ่งทำสงครามกันมา และกองทัพของรัฐจิ้วก็ถูกทำลายอย่างราบคาบ ถึงจะมีตำหนักมังกรสวรรค์หนุนหลังอยู่ แต่ความกลัวที่มีต่อรัฐเหยียนได้หยั่งรากลึกลงไปในกระดูกของเขาแล้ว ทำให้ฮ่องเต้รัฐจิ้วรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก
“ผู้อาวุโสหวง…นี่…” ฮ่องเต้รัฐจิ้วมองผู้อาวุโสหวงอย่างวิงวอน
ผู้อาวุโสหวงกลับตอบว่า “ดูก่อนว่าพวกนั้นมาที่นี่ทำไม”
ฮ่องเต้รัฐจิ้วพยักหน้าและกล่าวว่า “ไม่ใช่ว่าข้ากลัวพวกนั้นนะ มีผู้อาวุโสหวงอยู่ด้วย ถึงเป็นรัฐเหยียนแล้วจะทำไม” แม้ว่าปากจะพูดอย่างนั้น แต่ในใจเขาก็ยังหวาดกลัวอยู่ดี
ตอนที่ 1244 ข้าคือฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียน (1)
การมาเยือนของฮ่องเต้รัฐเหยียนสร้างความกดดันให้กับฮ่องเต้รัฐจิ้วไม่มากก็น้อย ไม่รู้ว่าข่าวนี้เริ่มแพร่กระจายไปในหมู่ผู้ครองรัฐอื่นๆ ได้อย่างไร แต่มันก็กระตุ้นความสนใจของพวกเขาได้มากเลยทีเดียว
รัฐเหยียนและรัฐจิ้วเพิ่งทำสงครามกัน นั่นเป็นสิ่งที่ทุกคนต่างก็รู้ การที่ฮ่องเต้รัฐเหยียนมาที่นี่ในเวลานี้ คงไม่ใช่แค่มาคุยเล่นกันธรรมดาอย่างแน่นอน
ในตอนนี้ ผู้ครองรัฐอื่นๆ ที่ถูกรัฐจิ้วกดขี่ก็เริ่มตั้งตารอการมาถึงของฮ่องเต้รัฐเหยียน
ขณะที่ฮ่องเต้รัฐจิ้วพยายามคาดเดาว่าคณะของรัฐเหยียนจะมาถึงเมื่อไร คนกลุ่มหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตูวังหลวงของรัฐจิ้ว!
คนพวกนั้นแต่งตัวดีสง่างาม แต่ไม่ได้ดูโอ้อวดหรูหรา ความสง่างามที่ออกมาจากตัวพวกเขาทำให้รู้สึกว่าพวกเขาโดดเด่นมาก
คนกลุ่มนั้นนำโดยเด็กหนุ่มร่างเล็กคนหนึ่ง ใบหน้าละเอียดอ่อน แต่มีดวงตาที่เย็นชา มงกุฏบนหัวทำให้ประชาชนที่ผ่านไปมาต้องหยุดมอง
ช่วงนี้เมืองหลวงรัฐจิ้วมีผู้ครองรัฐเข้ามาให้เห็นเป็นจำนวนมาก ประชาชนของรัฐจิ้วจึงไม่รู้สึกว่าแปลกและไม่ได้คิดอะไรมากนัก
ทหารของรัฐจิ้วรีบส่งข่าวเข้าวัง ฮ่องเต้รัฐจิ้วที่ยังไม่ได้เตรียมตัวก็อึ้งไปด้วยความตกใจ
“มาแล้วหรือ เร็วอย่างนี้เชียว!” ข่าวมาถึงเขายังไม่ถึงสองชั่วยามเลย คนจากรัฐเหยียนก็มาถึงนอกประตูวังแล้ว!
“มากันกี่คน” ฮ่องเต้รัฐเหยียนถามโดยเร็ว
“แปดพ่ะย่ะค่ะ” ทหารตอบ
ฮ่องเต้รัฐจิ้วถอนหายใจอย่างโล่งอก แค่แปดคน ท่าทางรัฐเหยียนจะไม่ได้มาประกาศสงครามกับพวกเขา แม้ว่าเขาจะแอบเตรียมตัวเอาไว้แล้ว แต่มันก็ยังไม่ใช่เวลาที่จะสู้กับรัฐเหยียน ถ้าลงมือตอนนี้มันจะไม่ดีสำหรับเขา
“เชิญพวกเขาเข้ามา” ทันทีที่พูดจบ เขาก็สั่งให้คนไปเชิญผู้อาวุโสที่เพิ่งออกไปไม่นานให้กลับมา เผชิญหน้ากับรัฐเหยียนด้วยตัวเอง ทำเขาขวัญเสียเล็กน้อย
ไม่นานคณะผู้แทนจากรัฐเหยียนก็ถูกพาเข้าไปในท้องพระโรง ฮ่องเต้รัฐจิ้วแกล้งวางมาดนิ่งขณะนั่งอยู่บนบัลลังก์ สายตาของเขาจับจ้องไปที่ทางเข้าท้องพระโรง ทันใดนั้นเขาก็เห็นเด็กหนุ่มที่ดูบอบบาง มีมงกุฏอยู่บนหัว เดินช้าๆ เข้ามาจนถึงกลางท้องพระโรง
เขากวาดตามอง มีผู้เยาว์ที่ดูโดดเด่นอีกห้าคนอยู่ข้างหลังเด็กหนุ่มคนแรก และบุรุษร่างสูงที่มีใบหน้าเย็นชา กับชายชราที่ดูซูบผอมตามหลังพวกเขามา
“ไม่รู้ว่า…”
“เจ้าคือฮ่องเต้รัฐจิ้วอย่างนั้นหรือ”
ฮ่องเต้รัฐจิ้วยังพูดไม่จบ เด็กหนุ่มที่เป็นผู้นำก็เชิดหน้าพลางหรี่ตา พูดขัดขึ้นมากลางประโยคของฮ่องเต้รัฐจิ้ว!
นี่เป็นครั้งแรกที่ฮ่องเต้รัฐจิ้วเจอคนที่กล้าขัดจังหวะเขา สีหน้าของเขาไม่พอใจขึ้นมาทันที
“ใช่ ข้าเอง แล้วเจ้าเล่า” เขาถามพร้อมกับมองหน้าเด็กหนุ่มคนนั้น
“นี่ไม่รู้หรือว่าข้าเป็นใคร น่าสนใจดีนี่ อย่าบอกนะว่าฮ่องเต้รัฐจิ้วแก่มากเสียจนสายตาฝ้าฟางแล้ว ถึงจำมงกุฏฮ่องเต้รัฐเหยียนไม่ได้ สายตาแย่แบบนี้ ยังได้นั่งบัลลังก์อยู่อีก รัฐจิ้วขาดแคลนผู้มีพรสวรรค์จริงๆ” จวินอู๋เสียเย้ยหยัน น้ำเสียงดูถูกเหยียดหยาม ไม่มีความเคารพฮ่องเต้รัฐจิ้วให้เห็นเลยแม้แต่น้อย
เมื่อพบว่าตัวเองถูกจวินอู๋เสียดูหมิ่นถึงสองครั้ง ฮ่องเต้รัฐจิ้วที่เป็นคนสำคัญที่สุดเพียงคนเดียวมาตลอดก็โกรธจนหน้าเขียว เขาจำหน้าฮ่องเต้รัฐเหยียนได้อยู่แล้ว ตอนที่รัฐเหยียนเปลี่ยนผู้ครองรัฐ เขาได้สั่งให้คนไปวาดภาพเหมือนฮ่องเต้องค์ใหม่ของรัฐเหยียนแล้ว ที่เมื่อสักครู่เขาพูดแบบนั้นก็เพราะเขาคิดว่าฮ่องเต้รัฐเหยียนยังเด็กมาก จึงจงใจแสดงความเหนือกว่าออกมาตั้งแต่ต้น
แต่สุดท้าย ไม่เพียงล้มเหลวไม่เป็นท่าเท่านั้น แต่ยังโดนจวินอู๋เสียตอกกลับหน้าหงายอีกด้วย!