ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 1249 ตอนที่ 1250 ค่าชดเชย (1)
ตอนที่ 1249 เปรียบพลังวิญญาณขั้นสีม่วงกับข้า (3) / ตอนที่ 1250 ค่าชดเชย (1)
ตอนที่ 1249 เปรียบพลังวิญญาณขั้นสีม่วงกับข้า (3)
ผู้อาวุโสหวงบังคับให้ตัวเองรักษาความสงบนิ่งเอาไว้ พยายามโน้มน้าวให้ตัวเองไม่ถือสากับแมลงตัวหนึ่ง แม้ว่าตำหนักทั้งสิบสองจะถูกเรียกรวมกันว่าสิบสองตำหนัก แต่ตำหนักแต่ละแห่งก็ไม่ได้รักใคร่กลมเกลียวกัน พวกเขาแอบต่อสู้กันเองมาตลอด และทำท่าว่าอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุขแค่ผิวนอกเท่านั้น
ในเมื่ออีกตำหนักเลือกฮ่องเต้หนุ่มมาร่วมมือด้วย คนพวกนั้นก็คงไม่ลังเลที่จะต่อสู้กับเขาเพื่อปกป้องฮ่องเต้หนุ่มคนนี้ ผู้อาวุโสหวงจะไม่ทะเลาะกับจวินเสียแน่ เว้นแต่ว่าเขาจะมีแต่ขี้เลื่อยอยู่ในหัว
แต่ก็นั่นแหละ เมื่อครู่เขาได้พูดออกไปแล้ว ตอนนี้ไม่ว่าเขาจะทำอะไร สุดท้ายมันก็คือการตบหน้าตัวเอง ในใจผู้อาวุโสหวงตอนนี้ได้ทักทายบรรพบุรุษของจวินเสียไปสิบแปดรุ่นแล้ว
เจ้าเด็กนี่น่ารังเกียจเข้าไส้!
มีเทพยืนอยู่ข้างหลังหกคนชัดๆ แต่ไม่พูดบอกอะไรสักคำ รอจนผู้อาวุโสหวงโกรธจัดและเตรียมจะเข้ามาโจมตีแล้ว ค่อยซัดหลังมือฟาดหน้าเขาเน้นๆ ไม่เหลือหนทางให้เขาถอยเลย!
เสียเปรียบขนาดนี้แล้ว ผู้อาวุโสหวงจะพูดอะไรได้ เขาโมโหมากจนเกือบจะระเบิดออกมา
“ในเมื่อเจ้าเป็นสหายของสิบสองตำหนัก และตาแก่คนนี้ก็มาจากตำหนักมังกรสวรรค์ เช่นนั้นข้าก็จะไม่สร้างความลำบากให้เจ้า ลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้นวันนี้เสียเถอะ คิดเสียว่าตาแก่คนนี้ไว้หน้าสหายจากสิบสองตำหนักก็แล้วกัน” แม้ว่าจะเจ็บแปลบๆ จากที่โดนตบหน้า แต่ผู้อาวุโสหวงก็ยังสามารถบิดคำพูดให้ออกมาฟังดูดีได้
ราวกับว่าที่เขาถอนตัวนั้น ไม่ใช่เพราะเขากลัวเยี่ยซากับคนอื่นๆ แต่เป็นเพราะ ‘เขาไว้หน้าสหาย’
ความระหองระแหงภายในระหว่างสิบสองตำหนักไม่เคยถูกนำขึ้นมาสู่ภายนอก ผู้อาวุโสหวงเชื่อว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นชัดเจนอยู่แล้ว และอีกฝ่ายจะเข้าใจสิ่งที่เขาพยายามพูดอย่างแน่นอน แม้ว่าจวินเสียจะมีประโยชน์มากสำหรับพวกเขาก็จริง แต่พวกเขาคงไม่อยากให้สิบสองตำหนักต้องสู้กันจริงๆ หรอก
แต่…
ถึงผู้อาวุโสหวงจะคิดมาดีแล้วก็เถอะ จวินอู๋เสียก็ไม่คิดที่จะปล่อยให้เรื่องเป็นไปอย่างที่เขาต้องการ
“ก็แก่แล้วนี่นะ ควรกลับบ้านไปดูแลตัวเองในวัยเกษียณได้แล้ว แทนที่จะออกมาทำให้ตัวเองขายหน้าต่อหน้าคนอื่นแบบนี้ คิดว่าตัวเองเป็นใคร มีค่าพอจะอ้างว่าเป็นสหายกับองครักษ์ของข้าได้อย่างนั้นเรอะ” จวินอู๋เสียไม่ไว้หน้าผู้อาวุโสหวงเลยสักนิด ปากของนางทั้งร้ายกาจและโหดเหี้ยมไร้ความปรานี
ผู้อาวุโสหวงสูดหายใจเข้าเสียงดัง เขาก้าวถอยหลังไปก้าวหนึ่ง และมองจวินเสียอย่างเหลือเชื่อ
สายตาของเขามองไปที่เยี่ยซาอย่างรวดเร็ว ดูเหมือนกำลังต่อว่าเยี่ยซาถึงความหยาบคายของจวินเสีย
แต่เยี่ยซายังคงทำหน้านิ่ง ไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองอะไรเลย ท่าทางที่ยืนนิ่งเฉยอยู่ข้างหลังจวินอู๋เสียนั่น ความหมายของมันไม่อาจชัดเจนไปมากกว่านี้ได้แล้ว
ไม่ว่าจวินอู๋เสียจะพูดอะไร เขาจะสนับสนุนจนถึงที่สุด ผู้อาวุโสหวงไม่ต้องคาดหวังถึง ‘ความรัก’ ระหว่างสิบสองตำหนักอะไรทั้งนั้น
สถานการณ์เช่นนี้ไม่ใช่สิ่งที่ผู้อาวุโสหวงคาดฝัน เขาไม่เข้าใจเลย ต่อให้อีกตำหนักจะอยากใช้รัฐเหยียนที่อยู่เบื้องหลังจวินเสีย แต่พวกเขาจะต้องทำถึงขนาดนี้เลยหรือ ขนาดเขาประกาศชื่อตำหนักมังกรสวรรค์แล้ว พวกเขาก็ยังไม่มีปฏิกิริยาอะไร ราวกับว่าตำหนักมังกรสวรรค์ไม่อยู่ในสายตาของพวกเขาเลย
ในใจผู้อาวุโสหวงโกรธจนแทบกระอักโลหิต แต่เขาไม่กล้าลงมือกับจวินเสีย หกคนที่อยู่ข้างหลังฮ่องเต้หนุ่มกำลังจ้องเขาเหมือนพยัคฆ์จ้องเหยื่อ ถ้าเขาลงมือตอนนี้ สุดท้ายคนที่เดือดร้อนจะเป็นตัวเขาเองอย่างแน่นอน!
ผู้อาวุโสสูดหายใจเข้าลึกๆ เขากุมหน้าอกตัวเอง แล้วตัดสินใจถอยจากความเสียเปรียบครั้งนี้ เขาเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าที่กำลังอ้อนวอนของฮ่องเต้รัฐจิ้วแล้วพูดว่า “วันนี้ข้ารู้สึกไม่ค่อยสบาย ต้องกลับไปพักก่อน”
พูดจบ เขาก็เมินสีหน้าตกตะลึงของฮ่องเต้รัฐจิ้ว แล้วหันหลังเดินออกไปในทันที
“ไม่ต้องพักหรอก หลับยาวชั่วนิรันดร์ไปเลยก็ได้” จู่ๆ จวินอู๋เสียก็ฟาดประโยคนั้นใส่ด้านหลังของผู้อาวุโสหวง
เท้าของผู้อาวุโสหวงแข็งค้าง แต่เขาก็ฝืนกล้ำกลืนคำดูหมิ่นนั้นลงไป แล้วหนีไปพร้อมความอัปยศ
ตอนที่ 1250 ค่าชดเชย (1)
เมื่อเห็นผู้ช่วยชีวิตของเขาทอดทิ้งเขาและหนีออกไป ฮ่องเต้รัฐจิ้วแทบใจสลาย เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่ากลุ่มคนที่ยืนอยู่ข้างหลังฮ่องเต้รัฐเหยียนจะมีพลังที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ตอนแรกฮ่องเต้รัฐจิ้วตั้งใจจะใช้ความแข็งแกร่งของผู้อาวุโสหวงทำให้เขาวางมาดข่มต่อหน้าฮ่องเต้รัฐเหยียนที่เขาต้องก้มหัวให้มาตลอดหลายปีได้
แต่ตอนนี้มันเป็นไปไม่ได้อีกแล้วที่เขาจะได้ย่ามใจ ตรงกันข้ามมันถึงเวลาคิดบัญชีย้อนหลังแล้ว…
ฮ่องเต้รัฐจิ้วนั่งสั่นอยู่บนบัลลังก์ และคิดจะฉวยโอกาสหนีไปจากท้องพระโรง แต่สายตาเย็นชาของจวินเสียก็หันมาจ้องเขาเขม็ง
“นั่นเจ้าคิดจะไปไหน” เสียงของจวินอู๋เสียเย็นชามากจนทำให้โลหิตแข็งตัวได้เลย
นางยังไม่สามารถปะทะกับตำหนักมังกรสวรรค์ได้ในตอนนี้ จึงต้องปล่อยผู้อาวุโสหวงหนีไปก่อน แต่สำหรับฮ่องเต้รัฐจิ้วนั้น นางไม่คิดจะปล่อยเขาไปง่ายๆ นางจะทำลายรัฐจิ้วและทำลายแผนการของตำหนักมังกรสวรรค์ แม้ว่ามันจะไม่ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงต่อตำหนักมังกรสวรรค์ แต่มันก็ยังทำลายแผนการของพวกนั้นในสามโลกเบื้องล่างและเฉือนเนื้อพวกนั้นได้ส่วนหนึ่ง!
ฮ่องเต้รัฐจิ้วรู้สึกเย็นวาบไปทั้งตัว เขาทิ้งตัวกลับไปอยู่ที่เดิม
“ข้า…ข้า…ข้าผิดไปแล้ว ขอฮ่องเต้รัฐเหยียนโปรดอภัยให้ด้วย…” ตอนนี้ฮ่องเต้รัฐจิ้วอยากร้องไห้จริงๆ แต่ก็ไม่มีน้ำตาไหลออกมา ผู้อาวุโสหวงทิ้งไปแล้วพร้อมกับตบหลังเขาหนึ่งที แล้วตอนนี้เขาจะทำอะไรได้
จวินเสียหยาบคายไม่เป็นมิตรมาตั้งแต่ต้นแล้ว บวกกับคำพูดที่เขาพูดไปเมื่อครู่ เขาจึงอดรู้สึกไม่ได้ว่าเขาจะตายในไม่ช้านี้
“นั่งลง” จวินอู๋เสียพูดอย่างเย็นชา
ฮ่องเต้รัฐจิ้วขาสั่นขณะที่ตะกายกลับขึ้นไปนั่งบนบัลลังก์ ดวงตาที่หวาดกลัวของเขาไม่มีวี่แววความหยิ่งยโสและวางอำนาจข่มอีกต่อไป
“การยกทัพไปบุกโจมตีรัฐชีเป็นความคิดของเจ้าอย่างนั้นหรือ” จวินอู๋เสียถามพลางหรี่ตา ขณะที่เฉียวฉู่กับคนอื่นๆ ก็เก็บพลังวิญญาณขั้นสีม่วงกลับเข้าร่าง
ฮ่องเต้รัฐจิ้วรีบพูดว่า “ไม่…ไม่ใช่ข้า…เป็นผู้อาวุโสหวง! เขาเป็นคนสั่งให้ข้ายกทัพไป! ข้าไม่มีเรื่องอะไรกับรัฐชี แล้วพวกเขาก็อยู่ไกลมากด้วย ทำไมข้าจะต้องยกทัพไปบุกรัฐชีโดยไม่มีเหตุผลเล่า” ฮ่องเต้รัฐจิ้วพูดเร็วปรื๋ออย่างตื่นตระหนก
“รัฐชีเป็นพันธมิตรกับรัฐเหยียนของข้า ไม่สำคัญว่าใครจะเป็นคนบอกให้เจ้าทำ แต่เจ้าคือคนที่ลงมือทำ” จวินอู๋เสียพูดต่อด้วยน้ำเสียงเย็นชา
ฮ่องเต้รัฐจิ้วกลัวจนหน้าซีด รัฐชีไปเป็นพันธมิตรกับรัฐเหยียนตั้งแต่เมื่อไร ถ้าคำพูดนี้ไม่ได้ออกมาจากปากของจวินเสียเองละก็ ใครจะไปเชื่อว่ารัฐที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่างรัฐเหยียนจะถือว่ารัฐเล็กๆ อย่างรัฐชีเป็นพันธมิตรคนสำคัญ
“ข้าไม่รู้จริงๆ ว่ารัฐชีเป็นพันธมิตรของท่าน ถ้าข้ารู้…ข้าคงไม่กล้ายกทัพไปบุกรัฐชี…ข้า…ข้าสามารถชดเชยได้นะ! ชดเชยความเสียหายทั้งหมดของรัฐชี! อะไรก็ได้! ข้าจะจ่ายให้เดี๋ยวนี้เลย!” ขณะที่พูด ฮ่องเต้รัฐจิ้วก็ควานหาพู่กัน กระดาษ และที่ฝนหมึกด้วยมือที่สั่นเทา เขาเริ่มเขียนค่าชดเชยทุกอย่างที่นึกได้ลงบนกระดาษและให้ขันทีส่งเอกสารนั้นให้ถึงมือของจวินเสีย
จวินอู๋เสียมองเอกสารนั้นแบบผ่านๆ แล้วเปลวไฟพลังวิญญาณขั้นสีม่วงก็ลุกพรึ่บขึ้นบนมือของจวินอู๋เสีย เปลี่ยนกระดาษที่เขียนค่าชดเชยแผ่นนั้นให้กลายเป็นเถ้าถ่านในทันที!
ฮ่องเต้รัฐจิ้วจ้องมองอย่างไม่เชื่อสายตา เขาคิดว่าจวินเสียแค่พึ่งผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงที่อยู่ข้างหลังเขาเท่านั้น ไม่คิดเลยว่าจวินเสียเองก็เป็นผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงด้วย!
ในตอนนี้ ฮ่องเต้รัฐจิ้วอยากจะร้องไห้แบบไม่มีน้ำตาเสียจริงๆ
ฮ่องเต้รัฐเหยียนจำเป็นต้องแข็งแกร่งผิดปกติแบบนี้เลยหรือไง!
“ไม่พอ” จวินอู๋เสียหรี่ตามองฮ่องเต้รัฐจิ้วที่กำลังหวาดกลัวสุดชีวิต