ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 1335 สุสานที่หายไป (5) ตอนที่ 1336 สุสานที่หายไป (6)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 1335 สุสานที่หายไป (5) ตอนที่ 1336 สุสานที่หายไป (6)
ตอนที่ 1335 สุสานที่หายไป (5) / ตอนที่ 1336 สุสานที่หายไป (6)
ตอนที่ 1335 สุสานที่หายไป (5)
สายตาที่เหมือนตกอยู่ในภวังค์ของจวินอู๋เสียดึงดูดความสนใจของพวกเฉียวฉู่
“น้องเสีย มองอะไรอยู่น่ะ” เฉียวฉู่ลุกขึ้นนั่ง กลีบดอกไม้ติดเต็มตัวไปหมด
“เจ้าเดาหัวใจของเด็กสาวไม่ออกหรอก” เฟยเยียนกระซิบขณะมองไปที่มงกุฎดอกไม้บนหัวของจวินอู๋เสีย จากนั้นก็แอบชำเลืองมองไปที่หรงรั่ว ก่อนจะเอื้อมมือไปเด็ดดอกไม้ออกมาจากก้านจำนวนหนึ่ง แล้วนั่งอยู่เงียบๆ ท่ามกลางทุ่งดอกไม้ สองมือของเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว
“โอ้ เรื่องของหัวใจเด็กสาว ข้าคงรู้ไม่มากเท่าเจ้าจริงๆ เสี่ยวเยียน…” เฉียวฉู่พูดอย่างมีนัย แกล้งลากเสียงที่พยางค์สุดท้าย
เฟยเยียนกลอกตาใส่เขา แล้วยุ่งอยู่กับเรื่องของตัวเองต่อไป
เขาไม่มีเวลามายุ่งกับเจ้าทึ่มนั่นหรอก!
“เจ้าเห็นอะไรหรือ” หรงรั่วถามพร้อมกับเดินเข้าไปหาจวินอู๋เสีย เท่าที่นางรู้จักจวินอู๋เสียมา ทุ่งดอกไม้ตรงหน้าพวกเขาไม่มีทางกระตุ้นความสนใจจวินอู๋เสียได้มากขนาดนั้นหรอก แล้วนางก็มีท่าทางปกติมาตลอด ทำไมจู่ๆ ถึงจ้องมองไปข้างหน้าแบบนั้นเล่า
จวินอู๋เสียไม่พูดอะไร แต่เอามงกุฏดอกไม้ออกจากหัวมาถือไว้ในมือ สายตายังคงจ้องนิ่งอยู่ที่เดิม
เสี่ยวเจว๋ก้มหน้าด้วยความเศร้า เขาคิดว่า ‘พี่ชายตัวเล็ก’ ไม่ชอบมงกุฎดอกไม้
“ดูนี่สิ” จู่ๆ จวินอู๋เสียก็ยกมือขึ้นและชี้ไปยังทิศทางที่ตัวเองมองอยู่
เหนือทุ่งดอกไม้ มีมงกุฎดอกไม้อีกอันลอยอยู่กลางอากาศ มงกุฎดอกไม้นั้นทำออกมาไม่สวยเลย ถักออกมาแบบหลวมๆ เหมือนอันที่อยู่ในมือของจวินอู๋เสียไม่ผิดเพี้ยน
“เกิดอะไรขึ้น!” หรงรั่วพูดอย่างประหลาดใจ นางตกใจเล็กน้อยจากภาพที่เห็นตรงหน้า
มงกุฎดอกไม้ลอยได้ มันแปลกเกินไปแล้ว และพอจวินอู๋เสียขยับมงกุฎดอกไม้ในมือ มงกุฎดอกไม้อีกอันก็ขยับตาม!
“กระจกลวงตา!” ฟ่านจัวอุทาน ลุกพรวดขึ้นมาและกระโจนสองก้าวเข้ามายืนอยู่ข้างๆ จวินอู๋เสีย
“กระจกลวงตา” จวินอู๋เสียถามอย่างสงสัย
“ข้าก็ไม่ค่อยรู้หรอก แต่เคยได้ยินท่านแม่ของข้าพูดถึง แต่ก็จำไม่ได้แล้ว” ฟ่านจัวดูเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง แต่ไม่สามารถอธิบายออกมาได้ จากนั้นเขาก็หันไปมองจวินอู๋เย่าที่อยู่ด้านข้างทันที
“พี่ใหญ่อู๋เย่า ท่านรู้หรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่”
จวินอู๋เย่าเดินมาข้างๆ จวินอู๋เสียและมองดูปรากฏการณ์แปลกประหลาดนั่น แต่ก็ไม่มีคำถามใดๆ ในสายตาของเขา เขาหยิบเอามงกุฎดอกไม้จากมือของจวินอู๋เสีย และท่ามกลางสายตาจ้องมองอย่างกระวนกระวายของเสี่ยวเจว๋ เขาโยนมันขึ้นไปในอากาศทันที
พอมงกุฏดอกไม้สีม่วงถูกโยนขึ้นไป มันก็แตกกระจายออก กลีบดอกไม้ร่วงหล่นกระจัดกระจายลงมาอย่างช้าๆ ราวกับเกล็ดหิมะตกลงมา
และอีกฝั่งหนึ่งก็เกิดภาพอย่างเดียวกันขึ้น
เหมือนกันไม่ผิดเพี้ยนเลย!
“กระจกสะท้อนจันทร์” จวินอู๋เย่ายิ้มมุมปาก เขาก้มหน้ามองจวินอู๋เสีย
“นี่คือเขตแดนชนิดหนึ่งเหมือนที่เราเคยเจอก่อนหน้านี้ แต่อันนี้ซับซ้อนกว่านิดหน่อย มันจะสะท้อนภาพสิ่งต่างๆ ได้ และอันนี้น่าจะสะท้อนแต่ภาพของพฤกษาเท่านั้น”
มันเป็นภาพเดียวกันอย่างแน่นอน แต่มีแค่ภาพสะท้อนของมงกุฎดอกไม้ให้เห็นเท่านั้น ไม่มีภาพของจวินอู๋เสียและคนอื่นๆ เลย ราวกับว่ามีพลังบางอย่างเอาภาพของพวกเขาออกไป
จวินอู๋เสียใจเต้นแรงขึ้นมาทันที นางวิ่งขึ้นไปข้างหน้า
ห่างออกไปประมาณหนึ่งร้อยเมตร ทันใดนั้นนางก็รู้สึกถึงแรงกดดันแปลกๆ บางอย่างที่หยุดนางเอาไว้ไม่ให้ไปข้างหน้าต่อได้!
เหมือนมีกำแพงที่มองไม่เห็นป้องกันไม่ให้นางผ่านไป
จวินอู๋เสียใจเต้นแรง นางยกมือขึ้นและวางมือลงบนกำแพงที่ไร้รูปร่างนั้น ภายใต้ฝ่ามือของนาง นางรู้สึกได้ถึงสัมผัสที่แข็งและเย็นของหิน!
สุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ!
ตอนที่ 1336 สุสานที่หายไป (6)
จวินอู๋เสียใจเต้นแรง นางยกมือขึ้นและวางมือลงบนกำแพงที่ไร้รูปร่างนั้น ภายใต้ฝ่ามือของนาง นางรู้สึกได้ถึงสัมผัสที่แข็งและเย็นของหิน!
สุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ!
จวินอู๋เสียรู้สึกถึงกำแพงที่มองไม่เห็น นางก้มหน้าลงมองดอกไม้รอบๆ เท้า ตรงเท้าของนาง ดอกไม้ดูไม่เชื่อมต่อกันเหมือนว่าพวกมันถูกตัดขาดออกไปบางส่วน
มันคือการบิดเบือนพื้นที่!
จวินอู๋เสียสูดหายใจเข้าลึกๆ
ในที่สุดนางก็เข้าใจว่าเพราะเหตุใดยอดฝีมือมากมายที่มายังผาสุดขอบฟ้าแล้วยังไม่สามารถหาที่ตั้งของสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิได้ทั้งๆ ที่ผ่านมานานมากแล้ว ที่แท้ก็เป็นเพราะว่า…
สุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดินั้นคือสิ่งที่พวกเขามองไม่เห็นนั่นเอง!
อย่างที่จวินอู๋เย่าบอกไว้ เขตแดนที่เรียกว่า ‘กระจกสะท้อนจันทร์’ นั้นถูกกางไว้นอกสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิเพื่อเอาไว้สร้างภาพลวงตา ในภาพจะสะท้อนแค่พฤกษาเท่านั้น เมื่อมองจากระยะไกล สถานที่ทั้งหมดจะดูเหมือนทะเลดอกไม้ที่ไร้ที่สิ้นสุดทอดยาวไปจนสุดขอบฟ้า สร้างความสิ้นหวังให้ผู้คน แต่ใครจะคิดว่าสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิแท้จริงแล้วจะซ่อนอยู่ในทะเลดอกไม้นั้น
ต่อให้คนพวกนั้นหาทางมาจนถึงที่นี่ได้ พวกเขาก็จะถูกภาพลวงตาทำให้สับสน ไม่มีใครสักคนจะคาดคิดว่าความลับที่ยิ่งใหญ่ที่สุดนั้นตั้งอยู่กลางทะเลดอกไม้สีม่วงนั่นเอง
หลังจากผ่านอุปสรรคที่โหดร้ายทารุณมาได้ พอคนพวกนั้นมาถึงสถานที่นี้ พวกเขาก็ไม่สามารถค้นพบความลับที่ซ่อนอยู่เบื้องหลัง ‘กระจกสะท้อนจันทร์’
ดอกไม้ที่ดูเหมือนๆ กันไปหมดก็ไม่ได้ดูผิดปกติอะไรเมื่อมองจากระยะไกล ถ้าไม่ใช่เพราะความไร้เดียงสาของเสี่ยวเจว๋ที่พยายามทำมงกุฎดอกไม้ให้จวินอู๋เสีย แล้วมันก็สะท้อนใน ‘กระจกสะท้อนจันทร์’ ละก็ พวกเขาอาจจะไม่มีวันค้นพบความลับนี้เช่นกัน
สุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ ที่จริงแล้วอยู่ตรงหน้าพวกเขานี่เอง!
ในที่สุดพวกเขาก็หาเจอแล้ว!
“สุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิ เราหาเจอแล้ว” เสียงของจวินอู๋เสียดังขึ้น บอกข่าวดีให้กับสหายของนางที่อยู่ข้างหลัง
พวกเฉียวฉู่ลุกพรวดขึ้นมาทันที ดวงตาเปล่งประกายด้วยความตื่นเต้นราวกับมีไฟอยู่ในนั้น ความทรมานและความเหนื่อยล้าทั้งหมดที่ได้รับมาตลอดการเดินทาง ดูเหมือนจะหายไปอย่างไร้ร่องรอยทันที โลหิตในตัวเริ่มเดือดพล่าน!
หลังจากผ่านมาหลายปี ในที่สุดพวกเขาก็พบมัน!
“เจอแล้ว…เราหาเจอแล้ว…” เสียงของเฉียวฉู่เริ่มสั่น ขอบตาแดงขึ้นมาทันที หลังจากอดทนอย่างเงียบๆ มานานหลายปี ในที่สุดพวกเขาก็หาสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิเจอ ความรู้สึกที่พวกเขาสะกดกลั้นไว้มานานก็ระเบิดออกในตอนนี้เอง!
“อ๊ากกก!!!”
เสียงคำรามดังขึ้นเพื่อระบายความรู้สึกที่พุ่งขึ้นมาจากในหัวใจ
“พี่ใหญ่อู๋เย่า มีวิธีคลายเขตแดน ‘กระจกสะท้อนจันทร์’ นี่หรือไม่” ฮวาเหยาพยายามระงับความตื่นเต้นในใจขณะถามขึ้นด้วยเสียงที่สงบนิ่ง
การค้นหาสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดินั้น พวกเขาประสบความสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง แม้ว่าสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิจะอยู่ตรงหน้าพวกเขา แต่พวกเขาก็ทำได้แค่รู้สึกถึงมัน แต่มองไม่เห็นมัน พวกเขาไม่สามารถเข้าไปในนั้นได้จากการสัมผัสเท่านั้น
พวกเขาไม่มีเงื่อนงำเลยว่าสุสานเทพปีศาจเจ้าจักรพรรดิใหญ่แค่ไหน ถ้าหากต้องพึ่งมือสัมผัสไปเรื่อยๆ ทีละนิ้วละก็ คงมีแต่สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่ากี่ปีกี่เดือนกว่าพวกเขาจะหาทางเข้าเจอ
“เขตแดนแบบนี้ เจ้าจะต้องค้นหารากของมันให้เจอและทำลายมันเสียก็แค่นั้น” จวินอู๋เย่าพูดยิ้มๆ เมื่อเห็นดวงตาของจวินอู๋เสียเปล่งประกายด้วยความดีใจ อารมณ์ของเขาก็ดูเหมือนจะดีตาม
สำหรับท่าทางอารมณ์ดีของจวินอู๋เย่านั้น เยี่ยซากับเยี่ยเม่ยตอนนี้สามารถนิ่งเฉยและสงบสติอารมณ์ได้แล้ว
นายท่านพาคุณหนูใหญ่มาขุดสุสานของตัวเอง เรื่องนี้ยังทำได้ก็คงไม่มีอะไรมากไปกว่านี้แล้ว แล้วตอนนี้ก็ยังช่วยพวกเขาฝ่าเขตป้องกันของสุสานตัวเองอีกด้วย!
เพื่อทำให้คุณหนูใหญ่ยิ้มได้ นายท่านของพวกเขาทำได้ทุกอย่างจริงๆ!