ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 1401 เข้าร่วมสงคราม (1) ตอนที่ 1402 เข้าร่วมสงคราม (2)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 1401 เข้าร่วมสงคราม (1) ตอนที่ 1402 เข้าร่วมสงคราม (2)
ตอนที่ 1401 เข้าร่วมสงคราม (1) / ตอนที่ 1402 เข้าร่วมสงคราม (2)
ตอนที่ 1401 เข้าร่วมสงคราม (1)
จวินอู๋เสียคาดไว้แล้วว่าการปรากฏตัวของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะจะเปิดเผยตัวตนของนาง ก็ตอนที่ช่วยรัฐชี ลักษณะของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะกับกระต่ายโลหิตมันชัดเจนเกินไป ดังนั้นตอนที่นางปรากฏตัวที่นี่ นางจึงเปลี่ยนรูปลักษณ์เอาไว้แล้ว คนที่ยืนอยู่ตรงหน้าผู้ครองรัฐฉูในตอนนี้ คือฮ่องเต้หนุ่มที่มีใบหน้าเนียนละเอียดและท่าทางเย็นชา
“ลุกขึ้นเถอะ ไม่ต้องขอบคุณหรอก” จวินอู๋เสียพูดเสียงเรียบ นางไม่ได้ทำเพื่อรัฐฉู แต่เพื่อสามโลกเบื้องล่าง
ฮ่องเต้รัฐฉูยังคงคุกเข่าอยู่บนพื้น ไม่ยอมลุกขึ้น เขาพูดว่า “ฝ่าบาทมาช่วยในวันนี้เป็นโชคดีของรัฐฉูอย่างแท้จริง ตอนนี้พวกคนพิษออกอาละวาดทำลายล้าง รัฐฉูเราเป็นรัฐเล็กๆ กองทัพก็อ่อนแอ ถึงพวกเราจะสู้จนตัวตาย ก็ยังไม่สามารถปกป้องประชาชนของเราได้ ข้ารู้ว่าคำขอร้องของข้าอาจจะหยาบคาย แต่ข้าก็ยังอยากขอร้องท่าน ได้โปรดช่วยรัฐฉูของเราด้วย! โปรดส่งกองทัพมาช่วยรัฐฉูด้วย หากช่วยประชาชนของรัฐฉูเอาไว้ได้ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป รัฐฉูของเราจะยอมจำนนต่อฝ่าบาท และจะติดตามเชื่อฟังคำสั่งของฝ่าบาทเท่านั้น!”
ตอนนี้ฮ่องเต้รัฐฉูไม่สนใจอย่างอื่นแล้ว เขาแค่ต้องการช่วยประชาชนรัฐฉู แม้ว่าวันนี้จวินอู๋เสียจะเอาชนะกองทัพคนพิษได้ แต่ที่อื่นๆ ในรัฐฉูก็ยังมีพวกคนพิษออกอาละวาดอยู่ ด้วยความแข็งแกร่งของกองทัพรัฐฉู พวกเขาคงไม่สามารถป้องกันตัวเองจากภัยพิบัติที่น่ากลัวนี้ได้
จวินอู๋เสียมองสบตาที่แน่วแน่ของผู้ครองรัฐฉู เมื่อเทียบกับสามโลกชั้นกลางแล้ว ถึงแม้สามโลกเบื้องล่างจะอ่อนแอกว่า แต่คนของสามโลกเบื้องล่างก็ไม่เคยขาดจิตวิญญาณในการต่อสู้
“พอข้ากลับรัฐ ข้าจะจัดการเรื่องของรัฐฉูให้เร็วที่สุด” ด้วยการรุกรานของพวกคนพิษ จวินอู๋เสียเต็มใจที่จะช่วยให้สามโลกเบื้องล่างเอาชนะศัตรู แต่เนื่องจากนางยังไม่แน่ใจสถานการณ์ในรัฐเหยียนเลย สิ่งที่รู้ก็มาจากคำบอกเล่าที่ได้ยินมาระหว่างทางเท่านั้น ว่ารัฐเหยียน รัฐชี และรัฐเฉียวได้นำทหารไปช่วยรัฐต่างๆ ที่ถูกโจมตี นางไม่รู้ว่าพวกเขาเหลือทหารอยู่เท่าไร หรือมีจำนวนเพียงพอจะส่งมาที่รัฐฉูหรือไม่
ทุกอย่างต้องรอจนกว่านางจะกลับไปที่รัฐเหยียนก่อน จึงจะสามารถตัดสินใจได้
คำพูดของจวินอู๋เสียทำให้ฮ่องเต้รัฐฉูร้องไห้ด้วยความขอบคุณ เขารู้ว่าจวินเสียเต็มใจจะช่วยรัฐฉู แบบนี้รัฐฉูก็ปลอดภัยแล้ว!
“ทูลฝ่าบาท! ข้างหน้าสิบลี้ มีกองทัพขนาดใหญ่พ่ะย่ะค่ะ!” ทหารรัฐฉูคนหนึ่งรีบวิ่งเข้ามารายงาน
“เห็นหรือไม่ว่ากองทัพจากรัฐไหน” ฮ่องเต้รัฐฉูถามด้วยความดีใจอย่างมาก
“รัฐเฉียวพ่ะย่ะค่ะ!”
จวินอู๋เสียเลิกคิ้วขึ้น นางมองไปที่เสี่ยวเจว๋ซึ่งยืนอยู่ด้านหลังฝูงชนโดยไม่ได้ตั้งใจ
กองทัพของรัฐเฉียวเคลื่อนไปด้านหน้าอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็มาถึงด้านข้างค่ายใหญ่ของรัฐฉู
เดิมทีรัฐเฉียวเป็นเพียงรัฐเล็กๆ แต่หลังจากที่จวินอู๋เสียมอบรัฐจิ้วครึ่งหนึ่งให้กับพวกเขา พวกเขาก็เติบโตขึ้นอย่างทวีคูณในระยะเวลาสั้นๆ ทหารของรัฐเฉียวยืนเรียงแถวกันอย่างเรียบร้อย สายตาราวกับคบเพลิง ดูน่าเกรงขามมาก
แม่ทัพที่นำกองทัพของรัฐเฉียวมาเป็นกำลังเสริมให้กับรัฐฉู พาทหารควบม้าตรงมาที่รัฐฉูทันทีที่ได้รับข่าวว่ารัฐฉูต้องการความช่วยเหลือ แต่ระหว่างทางพวกเขาก็พบกับการคุกคามจากพวกคนพิษ ทำให้มาถึงล่าช้าไปเล็กน้อย
ในใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ของรัฐฉู แต่เมื่อพวกเขาเห็นสนามรบที่รัฐฉูเต็มไปด้วยศพของพวกคนพิษ พวกเขาก็ตกตะลึงทันที
สิ่งที่พวกเขาเห็นก็คือไฟที่ลุกโชติช่วงขึ้นสู่ท้องฟ้า ภายในเปลวไฟสามารถมองเห็นศพของพวกคนพิษที่ถูกเผาได้อย่างชัดเจน พวกมันกองสูงราวกับภูเขา และมีจำนวนมากจนยากที่จะเชื่อ
แม่ทัพของรัฐเฉียวพลิกตัวลงจากหลังม้า และเดินเข้ามาตรงหน้าฮ่องเต้รัฐฉู เมื่อเขามองไปทางจวินอู๋เสีย แววตาของเขาก็แปลกไป มันเต็มไปด้วยความตื่นเต้นที่ไม่อาจระงับได้เมื่อเขาพบร่างเล็กๆ ที่คุ้นเคยอยู่ข้างหลังจวินอู๋เสีย
ฮ่องเต้ของพวกเขา!
ตอนที่ 1402 เข้าร่วมสงคราม (2)
เสี่ยวเจว๋มองแม่ทัพที่จ้องเขาเขม็งด้วยสีหน้าสับสน และซ่อนตัวหลังจวินอู๋เสียตามสัญชาตญาณ
แม่ทัพของรัฐเฉียวสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ระงับความตื่นเต้นในใจลง เขาหันไปเผชิญหน้ากับฮ่องเต้รัฐฉูแล้วประกาศว่า พวกเขามาที่นี่เพื่อเป็นกำลังเสริมให้กับรัฐฉู
ฮ่องเต้รัฐฉูดีใจมากที่ได้รู้ว่ารัฐเฉียวไม่ได้ทอดทิ้งพวกเขา แต่ถูกคนพิษทำให้ล่าช้าระหว่างทางมาที่นี่เท่านั้น ด้วยกำลังเสริมจากรัฐเฉียว รัฐฉูก็ไม่ต้องการกำลังเสริมจากรัฐเหยียนอย่างเร่งด่วนอีกต่อไป ฮ่องเต้รัฐฉูกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า เขาหวังว่าจวินอู๋เสียจะสามารถนำรัฐเหยียนพลิกสถานการณ์ในปัจจุบันนี้ได้
จากนั้นจวินอู๋เสียก็ถามฮ่องเต้รัฐฉูเกี่ยวกับการโจมตีของพวกคนพิษ และค้นพบเบาะแสบางอย่างจากที่นั่น
พวกคนพิษไม่มีสติและไม่มีความสามารถในการคิดด้วยตัวเอง ในตอนแรกก็มีคนพิษปรากฏขึ้นเป็นครั้งคราวแค่ไม่กี่คนเท่านั้น คนพิษพวกนั้นถูกดึงดูดด้วยกลิ่นของคนที่มีชีวิต พวกมันทำร้ายคนบริสุทธิ์และกินพวกเขา เหล่าผู้ครองรัฐต่างๆ ไม่ได้สังเกตเห็นในตอนแรก แต่มารู้ตัวทีหลังตอนที่พวกคนพิษที่กระจัดกระจายเริ่มรวมตัวกันเข้าโจมตีรัฐของพวกเขา
สถานการณ์นี้ค่อนข้างแปลก เห็นได้ชัดว่ามีใครบางคนอยู่เบื้องหลัง คอยแอบควบคุมทิศทางของพวกคนพิษอยู่ ทำให้พวกมันเป็นเครื่องจักรสงครามที่ทรงพลัง
หลังจากได้เบาะแสที่ต้องการ จวินอู๋เสียก็ไม่รอช้า รีบมุ่งหน้าตรงไปที่รัฐเหยียนทันทีพร้อมกับจวินอู๋เย่าและคนอื่นๆ
เสี่ยวเจว๋เอนตัวพิงข้างๆ หน้าต่างรถม้า มองดูสายตากระตือรือร้นของแม่ทัพรัฐเฉียว ไม่มีใครรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่
“เหมือนว่าข้าจะรู้จักเขา…แต่ข้าจำไม่ได้จริงๆ” เสี่ยวเจว๋เกาหัว ในสมองของเขามีเงาพร่ามัวแวบผ่านไป แต่เขาก็ไม่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน
ฟ่านจัวยกมือขึ้นตบหัวเสี่ยวเจว๋เบาๆ
“วันหนึ่ง เจ้าจะจำทุกอย่างได้เอง”
ในการเดินทางครั้งนี้ พวกจวินอู๋เสียได้ผ่านพรมแดนของรัฐต่างๆ หลายรัฐ ได้เห็นสนามรบที่พังทลายจากไฟสงคราม
สงครามครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อทุกรัฐในสามโลกเบื้องล่าง ไม่มีรัฐไหนรอดพ้นเลย กองทัพคนพิษเป็นเหมือนกระแสน้ำที่โหมกระหน่ำ พยายามจะทำลายล้างสามโลกเบื้องล่างทั้งหมด
ท่ามกลางกองทัพรัฐต่างๆ ที่ต้านทานเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น จวินอู๋เสียได้เห็นกองทัพของรัฐเหยียน รัฐชี และรัฐเฉียวทำหน้าที่เป็นกำลังเสริมให้กับรัฐต่างๆ เหล่านั้น เพื่อช่วยเหลือรัฐที่กำลังดิ้นรนอย่างขมขื่น พวกเขาพยายามใช้พลังของพวกเขาอย่างเต็มที่ในการต่อสู้กับกองทัพคนพิษ
ดวงจันทร์ส่องสว่างแทบไม่เห็นดวงดาว ในที่สุดพวกของจวินอู๋เสียก็มาถึงเมืองหลวงรัฐเหยียนที่เห็นได้ชัดว่าแตกต่างจากเมืองที่เจริญรุ่งเรืองอย่างที่พวกเขาจำได้ เมืองหลวงรัฐเหยียนไม่มีการเฉลิมฉลองซึ่งเต็มไปด้วยเสียงเพลงและการเต้นรำตามปกติ กลับกลายเป็นเป็นความมืดสลัวเศร้าหมอง ไม่มีโคมไฟส่องสว่างแขวนเอาไว้ให้เห็น และไม่มีเสียงเพลงอันไพเราะให้ได้ยิน
เมื่อทั้งโลกเกิดกลียุคขึ้น แม้แต่รัฐเหยียนก็โดนพวกคนพิษโจมตี แต่กองทัพของรัฐเหยียนแข็งแกร่งและครองตำแหน่งรัฐที่แข็งแกร่งที่สุดมาหลายปี ไม่ว่าจะในแง่ของการป้องกันหรือความเร็ว พวกเขาก็ได้พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าพวกเขามีความสามารถสูงจริงๆ หลังจากโดนพวกคนพิษโจมตีหลายครั้ง พวกเขาก็ยังยึดพรมแดนของตัวเองเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ระหว่างทางที่พวกจวินอู๋เสียเดินทางไปที่เมืองหลวง พวกเขาก็ได้เห็นผู้ลี้ภัยจากรัฐอื่นๆ ได้รับการช่วยเหลือให้ที่พักภายในเมืองต่างๆ ของรัฐเหยียน
เมื่อโลกเกิดกลียุคขึ้นเช่นนี้ รัฐเหยียนจึงเปิดประตูให้ผู้ลี้ภัยจากรัฐต่างๆ รับผู้ยากไร้ที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวและทุกข์ทรมานเข้ามาในสถานที่ที่ปลอดภัย
อาจกล่าวได้ว่า สิ่งที่พวกเขาเห็นกันมาตลอดทางสร้างความประหลาดใจให้กับจวินอู๋เสีย นางไม่คิดว่ารัฐเหยียนจะจัดการทุกอย่างได้อย่างเหมาะสมและไม่เลือกที่จะปกป้องแต่ตัวเองอย่างเดียวเท่านั้น
สถานบันเทิงทุกแห่งในรัฐเหยียนถูกปิด เงินทั้งหมดถูกนำไปใช้ในสงคราม