ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 141 บัวหิมะมัวเมา (2) ตอนที่ 142 บัวหิมะมัวเมา (3)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 141 บัวหิมะมัวเมา (2) ตอนที่ 142 บัวหิมะมัวเมา (3)
ตอนที่ 141 บัวหิมะมัวเมา (2)
จวินอู๋เสียมองดูเด็กน้อยสองคนที่ทะเลาะกันอย่างเฉยเมย นางยกมือขึ้นวางเจ้าแมวดำตัวน้อยไปไว้บนโต๊ะในศาลา จากนั้นก็หันมาหยิบดอกบัวสีขาวออกจากอ่างบัวขนาดเล็ก แล้วยื่นอ่างบัวที่เต็มไปด้วยสุรานั้นให้แก่ดอกบัวขาวน้อยที่ยังคงซุกอยู่ในอ้อมแขนของนาง
จวินอู๋เสียวางเจ้าตัวเล็กนุ่มนิ่มลงกับพื้น แล้วสั่งการไปว่า “เอาสุราพวกนี้ไปเททิ้งให้หมด”
ในตำราโบราณที่นางไปหาซื้อมาบันทึกไว้ว่าเมื่อเลี้ยงบัวหิมะซังอวี้ สิ่งที่ต้องระวังมากที่สุดก็คือการนำสุราในอ่างเดียวกันกลับมาใช้ใหม่ เมื่อรากของบัวหิมะซังอวี้ใกล้จะโผล่พ้นผิวน้ำด้านบนของสุรา ให้รีบเปลี่ยนถ่ายยอดสุราธาราหยกชุดเก่าออกทันทีแล้วรินสุราชุดใหม่ใส่ลงไปแทน ดังนั้นทุกครั้งที่สุราในอ่างดอกบัวเริ่มเหือดแห้งไปจนไม่สามารถท่วมรากดอกบัวได้หมด นางก็จะทิ้งสุราชุดเดิมลงในสระดอกบัวในสวนใกล้ศาลาเพื่อใช้มันเพาะเลี้ยงเจ้าดอกบัวขาวน้อยต่อ
ดอกบัวขาวน้อยพยักหน้าหงึกหงัก เขาวิ่งไปที่สระบัวพร้อมกับกอดอ่างบัวไว้แน่น
เด็กชายวิ่งเหยาะๆ ขาที่เล็กสั้นทั้งสองข้างพยายามเคลื่อนที่ให้เร็วที่สุดเท่าที่มันจะทำได้ กลิ่นหอมของสุราที่ลอยมาจากอ่างบัว โชยเข้าเตะจมูกเจ้าตัวเล็กอย่างเชิญชวน ว่าแล้วใบหน้าเล็กๆ นั่นก็แดงก่ำราวกับเมาเหล้า เขาลอบหันศีรษะกลับไปมองที่จวินอู๋เสียอย่างระมัดระวัง ก่อนจะหันกลับมาสนใจอ่างบัวใบเล็กที่เต็มไปด้วยยอดสุราชั้นเลิศในมือแล้วแอบกลืนน้ำลายหลายอึก
อ่า…ไหนๆ เจ้านายก็ไม่ต้องการสิ่งเหล่านี้แล้วไม่ใช่เหรอ
ให้ข้าดื่มสักจิบหรือสองจิบคงไม่เป็นไรกระมัง
เมื่อคิดได้แบบนี้ เจ้าดอกบัวขาวน้อยก็ขยับอ่างใบเล็กเข้าใกล้ปากเล็กๆ ของเขา…
“นั่นเจ้าคิดจะทำอะไรน่ะหา!” แมวดำตัวน้อยตะโกนเสียงดังเมื่อเห็นว่าเจ้าดอกบัวขาวน้อยกำลังจะทำอะไรสักอย่าง
ดอกบัวขาวน้อยตกใจทันที และในเวลาเดียวกันกับที่เจ้าแมวดำตะโกนออกมา เขาก็เผลอซดของเหลวทั้งหมดเข้าปากด้วยความรีบร้อน ร่างเล็กๆ ไอค่อกแค่กด้วยอาการสำลัก ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำน่ามอง เขาหันมองไปรอบๆ ด้วยความตื่นตระหนก ดวงตาคู่เล็กปรือขึ้นมองเจ้าแมวดำอย่างขลาดกลัว
“ข้าไม่…ไม่ได้ทำ…อะไร” ดอกบัวขาวน้อยพูดตะกุกตะกัก
แมวดำตัวน้อยกระโดดลงจากโต๊ะหินพร้อมกับเสียงร้องเหมียว มันเดินเข้าไปหาดอกบัวขาวน้อยทีละก้าวๆ
ดอกบัวขาวน้อยรีบเซถอยหลังด้วยอาการตกใจ เขาพาขาสั้นๆ ของตนวิ่งตรงไปยังริมสระบัว
“เจ้า…อย่าเข้ามานะ…” ดอกบัวขาวน้อยเอ่ย
“เจ้าแอบขโมยดื่มสุราไปอย่างนั้นเหรอ” แมวดำตัวน้อยหรี่ตาลง
“ข้า…ข้าเปล่า…อ้ากกก!”
สิ้นเสียงกรีดร้องตกใจของเจ้าดอกบัวขาว ร่างเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยเนื้อก็หล่นลงไปยังสระบัวด้านหลัง
ตู้ม!
น้ำสาดกระเซ็นไปทั่วบริเวณ
เจ้าดอกบัวขาวน้อยลอยตุ๊บป่องอยู่ท่ามกลางกอบัวมากมายในสระ!
แมวดำชะงักไปครู่หนึ่งเมื่อเห็นฉากตรงหน้า
มันก็แค่อยากจะแกล้งให้เจ้าตัวเล็กตกใจ ไฉนกลายเป็นตกน้ำตกท่าไปเสียได้!
ว่าแต่เจ้านั่นมันว่ายน้ำเป็นอยู่ คงไม่เป็นไรกระมัง!
“หยุดสร้างปัญหาได้แล้ว” จวินอู๋เสียมองเด็กน้อยทั้งสองเล่นซนกันอย่างเหนื่อยใจ
แมวดำยักไหล่ มันหันหลังเดินนวยนาดไปตามขอบสระรอให้เจ้าดอกบัวขาวน้อยตะเกียกตะกายขึ้นมาจากน้ำอย่างไม่ยี่หระ
แต่หลังจากที่รอเป็นเวลานานก็ไม่เห็นวี่แววของร่างอ้วนกลมนั่นปีนขึ้นมาสักที
“พืชที่เลี้ยงในน้ำ…สามารถจมน้ำตายได้หรือเปล่านะ” แมวดำตัวน้อยคิดอย่างเป็นกังวล มันส่ายหางและเดินไปที่ขอบสระอย่างละล้าละลัง
อย่างไรก็ตาม เมื่อเจ้าแมวดำเดินไปถึงขอบสระ มันก็เห็นเงาตะคุ่มๆ ลอยอยู่ในน้ำ
และเพียงพริบตา เงาร่างสีขาวนั้นก็โผล่พรวดขึ้นมาจากผิวน้ำอย่างรวดเร็ว หยดน้ำสีใสราวกับอัญมณีจำนวนมากกระจายไปทั่วและตกลงมาบนพื้น
เขาคือเด็กหนุ่มผู้หนึ่งที่มีเส้นผมยาวสลวยสีเงินยวง ใบหน้าที่หล่อเหลาราวกับเทพบุตรเมื่อรวมเข้ากับอาภรณ์สีขาวสะอาดทั้งร่างที่สวมใส่อยู่ ก็ยิ่งส่งให้เขาดูสูงส่งยากจะละสายตา เด็กหนุ่มคนนั้นค่อยๆ ก้าวขึ้นจากสระบัวอย่างช้าๆ แสงแดดที่ตกกระทบลงมาสะท้อนกับไอน้ำจางๆ ที่ลอยอยู่รอบตัวของเขา จนดูราวกับเขากำลังเยื้องย่างอยู่ท่ามกลางมวลหมู่เมฆก็มิปาน
เมี๊ยว!!! แมวดำตัวน้อยกลายร่างเป็นสัตว์ร้ายสีดำทันทีเมื่อเห็นเด็กหนุ่มแปลกหน้า มันรีบกระโดดเข้ามายืนขวางหน้าจวินอู๋เสียกับเด็กหนุ่มแปลกหน้าคนนั้น
เด็กหนุ่มเส้นผมสีเงินใบหน้าหล่อเหลา ก้าวขึ้นมาเหยียบบนพื้นหินริมสระด้วยสภาพเนื้อตัวเปียกปอน เขาสะบัดเส้นผมที่เปียกน้ำไปทางด้านหลัง เผยให้เห็นใบหน้าหล่อเหลาที่กำลังขึ้นสีแดงจางๆ
“ต้องโทษเจ้า! เจ้าเป็นบ้าอะไรถึงชอบเอาแต่แกล้งข้าตลอดทั้งวัน!” เด็กหนุ่มเส้นผมสีเงินขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ นัยน์ตาสีฟ้าเยือกเย็นของเขาจ้องไปที่แมวดำที่บัดนี้ได้กลายร่างเป็นสัตว์ร้ายสีดำขนาดมหึมาแล้ว
“ให้ตายสิ ชักไร้ประโยชน์มากขึ้นทุกวัน ดันถูกเจ้าแมวดำตัวเล็กๆ นี่รังแกเอาซะได้ ชิ!” เด็กหนุ่มสบถอย่างไม่สบอารมณ์ที่สุด นัยน์ตาสีฟ้าเข้มเผยให้เห็นถึงความโกรธชัดเจน
จวินอู๋เสียหรี่ตาลง มองเด็กหนุ่มที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นในเรือนพักของตนเอง
“เจ้าเป็นใคร” นางถามออกไป
เด็กหนุ่มเส้นผมสีเงินที่บัดนี้ใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อ หันขวับมามองจวินอู๋เสียด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง “นี่ท่านจำภูติวิญญาณที่ผูกสัญญาของตัวเองไม่ได้อย่างนั้นหรือ!”
ตอนที่ 142 บัวหิมะมัวเมา (3)
“…” จวินอู๋เสียเงียบไป นางถูกคำพูดของเด็กหนุ่มตรงหน้าทำให้ตกตะลึงจนพูดไม่ออกแล้ว
ภูติวิญญาณของนางอย่างนั้นรึ
ดูเหมือนนางจะมีภูติวิญญาณเพียงแค่ตนเดียว…
ดวงตาของเจ้าสัตว์ร้ายสีดำเบิกกว้าง มันมองไปที่เด็กหนุ่มรูปงามผู้มีเส้นผมสีเงินยวงตรงหน้าด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“เจ้า…คือเจ้าก้อนไขมันน้อยอย่างนั้นรึ!” มันแทบไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเองเลยพับผ่าสิ
ใบหน้าของเด็กหนุ่มเส้นผมสีเงินบิดเบี้ยวไปทันที
“เจ้าสิก้อนไขมัน! ข้าออกจะรูปงามปานนี้! ตรงส่วนไหนของข้าที่มันอ้วนกันหา!”
“…” เจ้าสัตว์ร้ายสีดำหมดคำพูด
ใครก็ได้ ช่วยบอกมันหน่อยว่านี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกันแน่!
ทำไมจู่ๆ เจ้าเด็กอ้วนตัวกระปุ๊กลุกถึงกลายมาเป็นเด็กหนุ่มรูปงามเช่นนี้ไปได้เล่า!
เขากลายพันธุ์ไปแล้วอย่างนั้นเหรอ!
“ข้าก็คือบัวหิมะซังอวี้ หรือจะเรียกข้าว่าบัวหิมะมัวเมาก็ได้ ข้าไม่ใช่เจ้าโง่ตัวน้อยที่ไร้ประโยชน์คนนั้นหรอกนะ เจ้าอย่าได้จำสับสนกันเชียว!” เด็กหนุ่มเส้นผมสีเงินยกมือขึ้นกอดอกแล้วพูดอย่างไม่พอใจ
อาจเป็นเพราะฤทธิ์ของสุราที่เขาแอบดื่มไปกำลังออกฤทธิ์ จึงทำให้เขาไม่ได้หวาดกลัวแมวดำเหมือนอย่างทุกที ยามนี้จึงกล้าเผชิญหน้ากับแมวดำตัวน้อยในร่างของสัตว์ร้ายสีดำอย่างไม่กลัวเกรง
เนื่องจากบัวหิมะมัวเมาในร่างของเด็กหนุ่มทั้งเปี่ยมไปด้วยความมั่นใจและหยิ่งผยอง มีอุปนิสัยที่ตรงกันข้ามกับเด็กน้อยบัวหิมะซังอวี้ที่ทั้งไร้เดียงสาและน่ากลั่นแกล้งราวกับเป็นคนละคน ทัศนคติต่อโลกใบนี้ของสัตว์ร้ายสีดำจึงคล้ายถูกบดขยี้ให้พังทลายลงมา
“ช่างเถอะ ข้าคร้านจะเสวนาเรื่องไร้สาระกับเจ้าเต็มที ไหนๆ วันนี้ก็มีโอกาสได้ออกมาแล้ว พวกเรามาชำระแค้นกัน! ก่อนหน้านี้ดูเจ้าจะข่มเหงรังแกข้าทุกวันจนสนุกเลยสิท่า วันนี้แหละข้าจะคิดบัญชีทั้งหมดกับเจ้า!” ดอกบัวขาวน้อยที่กลายร่างมาเป็นบัวหิมะมัวเมาหรี่ตาลงและจ้องกลับไปที่สัตว์ร้ายสีดำอย่างเอาเรื่อง
เจ้าสัตว์ร้ายสีดำมองดูความโอหังนั้นอย่างไม่พอใจ ดวงตาอันตรายหรี่ลงอย่างหมายมาด
ขณะที่ทั้งคู่กำลังจะลงมือกัน จวินอู๋เสียก็ลุกขึ้นยืน
การเคลื่อนไหวของหญิงสาว ทำให้ทั้งบัวหิมะมัวเมาและสัตว์ร้ายสีดำที่พร้อมจะเข้าห้ำหั่นกันแล้วเป็นอันต้องหยุดชะงักลง
“ท่านเป็นเจ้านายของข้า ข้าย่อมไม่มีวันทำร้ายท่าน แต่เจ้าแมวนิสัยไม่ดีนี่กลั่นแกล้งข้าทุกวัน ข้าทนมามากพอแล้ว ไม่ว่าอย่างไรวันนี้ข้าจะไม่ยอมปล่อยให้มันได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายเป็นอันขาด!” แน่นอนว่าบัวหิมะมัวเมาไม่กล้าอวดดีต่อหน้าจวินอู๋เสีย
“อ่างบัวข้าอยู่ที่ไหน” จวินอู๋เสียถามบัวหิมะมัวเมากลับไปด้วยสีหน้าเรียบนิ่งไร้อารมณ์
“…” บัวหิมะมัวเมาผงะไปครู่หนึ่ง เขาลังเลนิดหน่อยว่าควรจะสารภาพออกไปดีหรือไม่
“ไปเอามันมาให้ข้า” จวินอู๋เสียสั่งอย่างเย็นชา
“มัน…อยู่ใต้น้ำ…” ด้วยเหตุผลบางประการ บัวหิมะมัวเมารู้สึกกระวนกระวายเมื่อได้ยินน้ำเสียงเรียบๆ นั่นจากปากจวินอู๋เสีย เขากลืนน้ำลายลงคอหลายอึก พยายามควบคุมร่างกายที่สั่นนิดๆ ให้กลับเป็นปรกติ
“ไปงมมันขึ้นมา” เสียงสั่งที่เย็นเยียบลงกว่าเดิมทำให้บัวหิมะมัวเมาสะท้านไปถึงจิตวิญญาณ เขาไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองจวินอู๋เสียอีกแล้ว และไม่ต้องรอให้จวินอู๋เสียเปิดปากพูดเป็นครั้งที่สอง ร่างของเด็กหนุ่มก็กระโดดลงไปในสระบัว งมหาอ่างบัวใบดังกล่าวมาคืนให้กับนาง
ผ่านไปครู่ใหญ่ ในที่สุดร่างที่เปียกโชกของเด็กหนุ่มก็ขึ้นมาจากน้ำ ในมือของเขาถืออ่างบัวในเล็กมาด้วยใบหนึ่ง เขาเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าจวินอู๋เสียและคืนอ่างบัวให้นางด้วยท่าทางเรียบร้อย
“เจ้าเปลี่ยนร่างได้สินะ” จวินอู๋เสียไม่ได้รับมันคืนมา นางมองสำรวจบัวหิมะมัวเมาตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้ารอบหนึ่งแล้วถามเขาออกไป
บัวหิมะมัวเมาตอบกับจวินอู๋เสียว่า “ข้ากับบัวหิมะซังอวี้แต่เดิมก็เป็นหนึ่งเดียวกัน ทว่าเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยระหว่างกระบวนการบ่มเพาะ ก็เลยถูกกักขังให้อยู่ในร่างเล็กๆ นั่น จะมีก็แต่ตอนที่ข้าดื่มสุราเข้าไปถึงจะสามารถฟื้นกลับไปอยู่ในร่างเดิมได้ชั่วคราว”
“เช่นนั้นก่อนหน้านั้นคนที่กัดเสี่ยวเฮย ก็คือเจ้าอย่างนั้นสิ” จวินอู๋เสียเดิมยังรู้สึกแปลกใจ ด้วยนิสัยของดอกบัวขาวน้อยไม่มีทางที่เขาจะหาเรื่องเสี่ยวเฮยก่อนแน่ๆ แต่พอกลายร่างมาเป็นบัวหิมะมัวเมา อุปนิสัยกลับเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง
“ถูกต้อง” จะไม่ให้เขาแค้นได้อย่างไร เขาโดนเจ้าแมวดำนั่นข่วนจนเลือดซิบทุกวัน!
“เพราะในแต่ละวันปริมาณยอดสุราธาราหยกที่ท่านเทลงในสระบัวช่างน้อยนิดเหลือเกิน กว่าที่ข้าจะสามารถฟื้นจิตสำนึกกลับมาได้ จึงต้องใช้เวลานานพอสมควร…อีกไม่นานข้าก็ต้องกลับไปอยู่ในร่างของเจ้าเด็กอ้วน…อ้า ไม่สิ ข้าไม่ได้อ้วนสักหน่อย” บัวหิมะมัวเมาตบปากตัวเองเต็มแรงอย่างขัดใจ เขาดันเผลอเรียกแทนตัวเองตามปากเจ้าสัตว์ร้ายนั่นไปเสียได้ มันช่างน่าโมโหอะไรเช่นนี้
บัวหิมะมัวเมาถลึงตาจ้องไปที่สัตว์ร้ายสีดำที่นั่งอยู่ข้างๆ จวินอู๋เสียอย่างไม่ทุกข์ร้อนเพื่อกลบเกลื่อนคำพูดที่น่าอายเมื่อสักครู่ของตน
พรืด!
สัตว์ร้ายสีดำหลุดขำออกมา
บัวหิมะมัวเมาแทบระเบิดแล้วในเวลานี้ เขาพุ่งเข้าใส่สัตว์ร้ายสีดำเต็มแรง…
เจ้าบ้านี่มันจะไม่ไว้หน้ากันเกินไปแล้ว กล้าดีอย่างไรมาหัวเราะเยาะข้า
อย่างไรก็ตาม…
บู้ม!!!
จู่ๆ หมอกหนาสีหม่นก็เข้าปกคลุมทั่วร่างกายของเด็กหนุ่มเส้นผมสีเงินที่กำลังพุ่งเข้าใส่สัตว์ร้ายสีดำอย่างแข็งกร้าว
และในวินาทีถัดมา สัตว์ร้ายสีดำก็สัมผัสได้ถึงสิ่งนุ่มนิ่มที่เกาะอยู่บนใบหน้าของมัน…
เมื่อหมอกหนานั้นจางหายไป ร่างเล็กอวบอ้วนก็กระโดดฟุ่บกอดเข้าที่หน้าของเจ้าสัตว์ร้ายสีดำแล้ว ผิวสีน้ำนมบอบบางของเขาแดงเรื่อเพราะแรงชน และเมื่อเด็กน้อยเงยหน้าขึ้นสบตากับสัตว์ร้ายสีดำในระยะประชิด
เพียงวินาทีเดียวเท่านั้น…
แงงง!!! เสียงร้องไห้จ้าของเด็กน้อยตัวกลมดังไปทั่วบริเวณสวนดอกไม้ แขนขาที่ป้อมสั้นของเขาพยายามตะเกียกตะกายลงจากหน้าของเจ้าสัตว์ร้ายสีดำที่เขากำลังเกาะอยู่ ขาเล็กๆ ของเจ้าดอกบัวขาวน้อย รีบวิ่งไปหลบหลังจวินอู๋เสียเพื่อมองหาการปกป้อง เจ้าตัวเล็กสั่นระริกราวกับลูกนกแรกคลอด ดวงตาที่จับจ้องไปทางสัตว์ร้ายขนาดมหึมาตรงหน้ามีแต่ความหวาดกลัว
จบสิ้นแล้ว! ทำไมข้าถึงไปกระโดดเกาะมันได้เล่า! มันช่างน่ากลัวจริงๆ!
……
…
เจ้าหนูตัวอ้วนของเรากลายเป็นหนุ่มหล่อซะแล้ว~สปอยกันสักหน่อย [บัวหิมะมัวเมาบู๊เก่งมาก!]