ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 1429 เอาแต่ใจ (3) ตอนที่ 1430 นี่คือขั้นแรก (1)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 1429 เอาแต่ใจ (3) ตอนที่ 1430 นี่คือขั้นแรก (1)
ตอนที่ 1429 เอาแต่ใจ (3) / ตอนที่ 1430 นี่คือขั้นแรก (1)
ตอนที่ 1429 เอาแต่ใจ (3)
เจ็ดวันต่อมา พื้นที่ขนาดใหญ่ทางด้านเหนือของเมืองชิงเฟิงก็มีอาคารสูงหลายชั้นปรากฏขึ้น คฤหาสน์ขนาดใหญ่ที่เงียบสงบหลายสิบหลังได้กลายเป็นหอพักเจ็ดชั้นจำนวนมาก ด้านหน้าของอาคารเหมือนกันทั้งหมด พวกมันเรียงแถวกันอย่างเป็นระเบียบและดูสะดุดตามาก ผู้อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียงพากันมามุงดูด้วยความอยากรู้อยากเห็น
ตอนแรกพวกเขารู้สึกว่าหอพักเล็กๆ พวกนี้ดูแปลกนิดหน่อย แต่ผ่านไปสักพักก็รู้สึกว่า…มันดูดีทีเดียว
บ้านในโลกนี้ส่วนใหญ่ตั้งอย่างอิสระแยกจากบ้านหลังอื่นๆ และไม่ค่อยมีบ้านสองชั้น โดยปกติแล้วมีเพียงโรงแรมและสถานที่เฉพาะบางแห่งเท่านั้นที่จะสร้างอาคารสูงกว่าสองชั้น จึงหายากมากที่จะมีแบบนี้ในพื้นที่อยู่อาศัย
แนวคิดใหม่ที่แปลกประหลาดนี้ทำให้ผู้อยู่อาศัยหลายคนในเมืองชิงเฟิงพากันมุงดู
แม้แต่กลุ่มช่างที่สร้างหอพักพวกนี้ก็ไม่รู้ว่าเจ้าของตึกคิดจะทำอะไรกับมัน
ถ้าพวกเขารู้ว่าคนในศตวรรษที่ยี่สิบสี่อาศัยอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบไหน พวกเขาจะไม่แปลกใจกับอาคารเหล่านี้เลย จวินอู๋เสียไม่รู้เรื่องการก่อสร้างมากนักและนางก็ไม่มีเวลาค้นคว้าข้อมูล จึงทำได้แค่เลียนแบบแนวคิดจากอาคารที่พบเห็นได้ทั่วไปในศตวรรษที่ยี่สิบสี่และนำมาทำซ้ำที่นี่
ข้อได้เปรียบที่ใหญ่ที่สุดของการก่อสร้างเช่นนี้ก็คือ…พื้นที่ที่ใช้มีขนาดเล็ก ขณะที่สามารถรองรับคนได้มาก!
หอพักจำนวนหลายสิบหลังได้รับการตรวจสอบจากจวินอู๋เสีย นางจ่ายเงินให้พวกช่างที่หมดแรงไปแล้วด้วยทองคำแท่งจำนวนมากอย่างใจกว้าง จากนั้นนางก็ไปหาร้านช่างไม้ที่ใหญ่ที่สุดหลายแห่งในเมืองชิงเฟิง และย้ายเครื่องเรือนทั้งหมด ซึ่งประกอบด้วย โต๊ะ เก้าอี้ ม้านั่ง และตู้เปลี่ยนเสื้อผ้า ที่นางสั่งไว้ก่อนหน้านี้ไปยังห้องพักเล็กๆ พวกนั้น
ผู้อยู่อาศัยที่มามุงดู “สถาปัตยกรรมสมัยใหม่” เห็นรถม้ามาส่งเครื่องเรือนจำนวนมากเข้าไปในหอพักต่อหน้าต่อตาพวกเขา การออกแบบชิ้นงานเหมือนกันทุกประการ ราวกับถูกผลิตขึ้นเป็นจำนวนมาก แต่เมื่อพิจารณาจากคุณภาพของไม้ที่ใช้ จะเห็นได้ว่าพวกมันไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาอย่างหยาบๆ เลย พวกมันดูมีเอกลักษณ์มาก
“เป็นอย่างไร” หลังจากจวินอู๋เสียเตรียมทุกอย่างในหอพักเรียบร้อยแล้ว นางก็เชิญจวินอู๋เย่ามาดูรอบๆ
จวินอู๋เย่ามองไปรอบๆ ห้องที่สะอาดเรียบร้อย การจัดวางและการตกแต่งภายในห้องทุกห้องเหมือนกันหมด แต่เขาพบว่าเตียงนอนดูแตกต่างจากที่เขาเคยเห็นตามปกติ พวกมันแบ่งออกเป็นชั้นบนและชั้นล่าง ทุกเตียงสามารถรองรับคนได้หนึ่งหรือสองคน และทุกห้องมีเตียงแบบนี้สองเตียง มันดูแปลกสำหรับเขา แต่โดยรวมแล้วก็ไม่ได้แย่ขนาดนั้น
สำหรับคนที่หมกมุ่นเพ้อฝัน การจะนำแนวคิดเครื่องเรือนจากโลกสมัยใหม่ไปใช้ในโลกต่างมิติได้นั้น ความสามารถในการเลียนแบบของจวินอู๋เสียเป็นสิ่งจำเป็นมาก!
“ของพวกนี้ เจ้าเตรียมไว้ให้ผู้ลี้ภัยอย่างนั้นหรือ” จวินอู๋เย่าเลิกคิ้วมองจวินอู๋เสีย
จวินอู๋เสียพยักหน้า
“เทียบกับค่ายผู้ลี้ภัยสกปรก ที่นี่ดีกว่าเยอะเลยไม่ใช่หรือไง”
จวินอู๋เย่าหัวเราะเบาๆ แล้วพยักหน้า
“ข้าอยากจะเห็นนัก ได้อยู่ที่นี่แล้ว ใครจะอยากไปอยู่ที่แบบนั้นอีก” จวินอู๋เสียเลิกคิ้วเล็กน้อย นางทุ่มเงินไปเยอะ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อแผนการในขั้นต่อไป
ด้านนอกประตู เยี่ยซาและเยี่ยเม่ยพาเยี่ยเจี๋ยเดินดูห้องพักรอบๆ ทั้งสามคนดูสนใจกันมาก พวกเขานอนลงบนเตียงเพื่อลองเตียงที่แปลกใหม่นี้
จนกระทั่งจวินอู๋เย่าจะกลับนั่นแหละ พวกเขาถึงได้รีบลุกขึ้น แต่สายตาเต็มไปด้วยความไม่เต็มใจที่จะลุกจากเตียงสองชั้น
จวินอู๋เสียมองดูทั้งสามคน แล้วไม่รู้ว่าทำไม จู่ๆ นางก็นึกถึงเนื้อเพลงเมื่อชาติก่อน
พี่น้องนอนอยู่ที่เตียงด้านบนของฉัน…
จวินอู๋เสียรู้สึกว่าตัวเองแปลกขึ้นเรื่อยๆ แล้ว
ตอนที่ 1430 นี่คือขั้นแรก (1)
ค่ายผู้ลี้ภัยในเมืองชิงเฟิงยังคงมืดและอับทึบ ผู้สูงอายุและเด็กต่างนอนขดตัวกอดเข่าอยู่บนเตียงส่วนกลางขนาดใหญ่ที่เปียกชื้น
มันเป็นช่วงกลางฤดูร้อนที่แสงแดดแผดจ้า ประตูห้องถูกแง้มเอาไว้ ลมที่พัดเข้ามาจากด้านนอกได้พาเอาคลื่นความร้อนเข้ามาในห้องที่แออัด ทำให้ทั้งห้องเป็นเหมือนเตาหลอมโอสถ ร้อนจนทนไม่ไหว ภายใต้ความร้อนระอุนี้ เด็กจำนวนมากต้องทรมานจากโรคลมแดด และสตรีที่ไม่มีใครให้พึ่งพิงก็ทำได้แค่ใช้น้ำเพื่อลดอุณหภูมิของเด็กๆ
ทันใดนั้น ใครบางคนก็ตีฆ้องเสียงดังอยู่นอกค่ายผู้ลี้ภัย เสียงนั้นดังเข้าไปในค่ายผู้ลี้ภัยที่เงียบสงัด ผู้ลี้ภัยที่ซ่อนตัวอยู่ในห้องต่างๆ เริ่มเดินออกมาด้วยความสงสัย และเห็นว่าบนถนนแคบๆ ด้านหน้า มีประกาศแผ่นหนึ่งแปะเอาไว้บนกำแพง บุรุษคนหนึ่งกำลังตีฆ้องสัมฤทธิ์อย่างต่อเนื่อง เรียกให้ทุกคนออกมาดู
สิ่งที่เขียนอยู่บนประกาศ และกำลังถูกประกาศเสียงดังโดยบุรุษคนนั้นเพื่อให้ทุกคนในค่ายรับรู้ถึงข่าวที่น่าประหลาดใจ!
ไม่รู้ว่าคนใจดีที่ไหนจัดที่ดินผืนใหญ่ทางเหนือของเมืองให้พวกเขาย้ายเข้าไปอยู่ และที่น่าตกใจขึ้นไปอีกก็คือไม่มีการเก็บค่าใช้จ่ายใดๆ แถมมีอาหารสามมื้อต่อวัน เรียกว่ากินฟรีอยู่ฟรี!
ทันทีที่ข่าวแพร่ออกไป ในค่ายผู้ลี้ภัยก็ปั่นป่วนขึ้นมาทันที หลายคนยังสงสัยเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง มันยากที่พวกเขาจะเชื่อว่ามีคนที่ทำเรื่องอย่างการจัดหาที่พักและอาหารสามมื้อต่อวันให้พวกเขาโดยไม่หวังอะไรตอบแทนจริงๆ
บางคนยังมีท่าทางระแวงสงสัย คิดว่ามีแรงจูงใจอื่นซ่อนอยู่เบื้องหลัง และปฏิเสธที่จะย้ายออกจากค่ายผู้ลี้ภัย
เป็นพวกสตรีที่มีลูกเล็กๆ ที่ย้ายออกไป ไม่ใช่เพราะพวกนางใสซื่อไร้เดียงสา แต่เป็นเพราะลูกๆ ของพวกนางจะไม่รอดในฤดูร้อนนี้ ถ้ายังอยู่ในห้องมืดอับทึบที่ร้อนเหมือนเตาหลอมโอสถ จนพวกเด็กๆ ไม่สามารถพักผ่อนได้เลย พวกนางจึงตัดสินใจว่าไม่สามารถอยู่ในสถานที่นั้นได้อีกต่อไปแล้ว
สตรีพวกนั้นอุ้มลูกมุ่งหน้าไปที่ทางเหนือของเมืองด้วยท่าทางมุ่งมั่นที่จะลองดู ที่นั่นพวกนางเห็นหอพักแปลกๆ จำนวนมาก คนที่ดูแลหอพักได้พาพวกนางเข้าไปข้างในและจัดห้องให้อยู่ทันที
เมื่อเห็นห้องที่สะอาดสะอ้านเรียบร้อย และท้องฟ้าสีครามก้อนเมฆสีขาวที่นอกหน้าต่าง สตรีพวกนั้นก็แทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ก่อนพวกนางจะมา พวกนางมีเพียงความอับจนหนทาง หาทางออกอื่นไม่เจอ และไม่ได้คาดหวังว่าที่นี่จะดีกว่าค่ายผู้ลี้ภัยมากมายอะไรนัก แต่เมื่อได้มาที่นี่เข้าจริงๆ พวกนางก็ได้รู้ว่าความจริงนั้นสิ่งต่างๆ ที่นี่ดีกว่าที่พวกนางคิดเอาไว้มาก!
ก่อนที่พวกนางจะได้สติจากความดีใจและประหลาดใจ อาหารร้อนๆ ก็ถูกนำเข้ามาในห้องของพวกนาง เมื่อกลิ่นหอมของอาหารโชยไปในอากาศ สตรีพวกนั้นก็เริ่มร้องไห้ด้วยความดีใจ!
ค่ายผู้ลี้ภัยคึกคักวุ่นวายขึ้นมาแล้ว!
นับตั้งแต่สตรีกลุ่มแรกไปที่หอพักทางเหนือของเมืองและกลับมาที่ค่ายด้วยดวงตาแดงก่ำ ข่าวก็แพร่กระจายไปทั่วทุกซอกมุมของค่ายผู้ลี้ภัยอย่างรวดเร็วเหมือนไฟป่า ผู้คนจำนวนมากพากันเก็บข้าวของของตัวเองและรวมกลุ่มกันไปที่ทางเหนือของเมือง พวกเขาอยากรู้จริงๆ ว่าที่นั่นจะยอดเยี่ยมอย่างที่สตรีพวกนั้นพูดเอาไว้หรือเปล่า
และทุกคนที่มาถึงหอพักทางเหนือของเมือง ก็ไม่เคยกลับไปพักที่ค่ายผู้ลี้ภัยอีกแม้แต่วันเดียว พวกเขาแค่กระจายข่าวด้วยความตื่นเต้น จากนั้นก็วิ่งออกไปเพื่อบอกผู้ลี้ภัยให้มากขึ้นในเรื่องที่ว่าที่พักทางเหนือของเมืองยอดเยี่ยมแค่ไหน…
จวินอู๋เสียยืนอยู่ข้างหน้าต่างของห้องพักเล็กๆ ที่ชั้นสอง มองดูผู้ลี้ภัยที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ดวงตาเปล่งประกายด้วยรอยยิ้ม
ห้องพักนี้เป็นห้องที่นางเตรียมไว้สำหรับตัวเอง การออกแบบภายในจึงแตกต่างจากห้องอื่นๆ ในหอพัก นี่เป็นที่พักชั่วคราวของนางในเมืองชิงเฟิงนี่