ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 1445 บิดเบือนข้อเท็จจริง (1) ตอนที่ 1446 บิดเบือนข้อเท็จจริง (2)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 1445 บิดเบือนข้อเท็จจริง (1) ตอนที่ 1446 บิดเบือนข้อเท็จจริง (2)
ตอนที่ 1445 บิดเบือนข้อเท็จจริง (1) / ตอนที่ 1446 บิดเบือนข้อเท็จจริง (2)
ตอนที่ 1445 บิดเบือนข้อเท็จจริง (1)
การมาของจวินอู๋เสียดึงดูดความสนใจของผู้คน เมื่อผู้ลี้ภัยเห็นจวินอู๋เสียปรากฏตัว พวกเขาก็สะดุ้งตกใจเล็กน้อย แม้ว่าจะเต็มไปด้วยความเคารพ แต่แววตาของพวกเขาก็อดไม่ได้ที่จะมีความกลัวแฝงอยู่
พลังอำนาจของพลังวิญญาณขั้นสีม่วงของจวินอู๋เสีย และการได้เห็นการเข่นฆ่านองโลหิตกับตาตัวเอง ได้ทิ้งร่องรอยที่ไม่อาจลบเลือนไว้ในหัวใจของผู้ลี้ภัยพวกนี้ แม้ว่าพวกเขาจะสำนึกบุญคุณต่อจวินอู๋เสียสำหรับความเมตตาที่ให้ที่พักพิงและการต่อสู้เพื่อคุณธรรม แต่สำหรับชาวบ้านธรรมดาอย่างพวกเขา ภาพที่เห็นนั้นเกินกว่าที่พวกเขาจะรับได้ ขณะที่จัดการกับพวกอันธพาลนั้น มันก็ทำให้พวกเขารู้สึกหวาดกลัวจวินอู๋เสียขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ
เจ้าเมืองเพิ่งฟังเรื่องจากผู้ลี้ภัยเสร็จ เขาก็เห็นเด็กหนุ่มร่างบอบบางเดินเข้ามา เมื่อสายตาของผู้ลี้ภัยทุกคนหันไปมองร่างนั้น เขาก็ระบุตัวตนของอีกฝ่ายได้ในทันที
ทันทีที่มั่นใจว่าจวินอู๋เสียเป็นใคร สายตาของเขาก็ทอประกายมุ่งร้ายทันที!
“เจ้าคือคุณชายจวินหรือ” เจ้าเมืองยิ้มออกมาขณะมองใบหน้าที่เย็นชาของจวินอู๋เสีย
“มีเรื่องอะไร” จวินอู๋เสียตอบอย่างเย็นชาขณะมองเจ้าเมืองที่ยิ้มแย้มแจ่มใส
“ข้าคือเจ้าเมืองชิงเฟิง คุณชายจวินมาที่เมืองชิงเฟิงนี่เป็นครั้งแรก ว่ากันว่าคนที่มาไกลก็คือแขก ข้าได้ยินจากคนพวกนี้ว่ามีอันธพาลมาก่อเรื่องที่นี่ โชคดีที่คุณชายจวินต่อสู้เพื่อคุณธรรม ฆ่าอันธพาลทุกคนทีละคน วีรบุรุษเกิดขึ้นตั้งแต่ยังเด็กจริงๆ ไม่รู้ว่าเป็นความจริงหรือเปล่า” เจ้าเมืองถามด้วยรอยยิ้ม สีหน้าเต็มไปด้วยความชื่นชมต่อจวินอู๋เสีย
ดวงตาเย็นชาของจวินอู๋เสียมองดูสีหน้าตลบตะแลงของเจ้าเมือง นางพูดอย่างเย็นชาว่า “ถ้าใช่แล้วไง ถ้าไม่ใช่แล้วอย่างไร”
เจ้าเมืองยิ้มและตอบว่า “ก็ไม่อย่างไรหรอก แค่ประทับใจกับคุณธรรมของคุณชายจวิน แต่มีอย่างหนึ่งที่ข้าไม่เข้าใจ อยากจะขอให้คุณชายจวินช่วยอธิบายให้ฟังสักหน่อย”
“อะไร” สีหน้าของจวินอู๋เสียยังคงเย็นชาเช่นเดิม
ใบหน้าของเจ้าเมืองยังคงยิ้มแย้ม แต่ในใจเขาสาปแช่งจวินอู๋เสียเป็นล้านๆ ครั้งแล้ว แต่ไม่กล้าที่จะแสดงออกมา ผู้ลี้ภัยได้บอกกับเขาก่อนหน้านี้แล้วว่า จวินอู๋เสียฆ่าหลิวเอ้อร์กับคนของเขา แม้ว่าพลังของหลิวเอ้อร์ไม่ได้ยอดเยี่ยมอะไรมากนัก และลูกน้องของเขาก็ไม่ได้มีพลังที่แข็งแกร่งอะไรเลย แต่พวกเขาก็มีกันอยู่หลายคน ผู้ลี้ภัยบอกว่าจวินอู๋เสียฆ่าคนสิบกว่าคนด้วยกำลังของเขาคนเดียว ความแข็งแกร่งเช่นนี้ทำให้เจ้าเมืองต้องระมัดระวัง แต่น่าเสียดายที่ไม่มีผู้ลี้ภัยคนใดยอมเปิดเผยถึงพลังที่แท้จริงของจวินอู๋เสีย เจ้าเมืองจึงไม่สามารถประเมินได้ว่าพลังวิญญาณของจวินอู๋เสียแข็งแกร่งเพียงใด จึงเดาเอาว่าน่าจะประมาณพลังขั้นสีเหลือง
“ข้าได้ยินมาว่าหอพักพวกนี้ คุณชายจวินเป็นคนสร้าง เป็นความจริงหรือเปล่า”
จวินอู๋เสียกวาดสายตามองใบหน้าอวบอ้วนของเจ้าเมือง “ใช่”
เจ้าเมืองหัวเราะพร้อมกับส่ายหัว “คุณชายจวินเป็นคนมีคุณธรรม น่าชื่นชมมาก แต่ข้าไม่เข้าใจ คุณชายจวินยังหนุ่มและมีพรสวรรค์ ทำไมถึงคิดจะแสวงหาชื่อเสียงเช่นนี้ เพื่อให้ได้ชื่อเสียง ถึงกับแย่งชิงบ้านของคนอื่น เอานกพิราบมาไว้ในรังนกกางเขน นั่นไม่ใช่การกระทำของคนที่มีคุณธรรม!”
คำพูดของเจ้าเมืองทำให้ผู้ลี้ภัยทุกคนที่อยู่รอบๆ จ้องมองมาที่เขาด้วยดวงตาเบิกกว้าง
เจ้าเมืองไม่สนใจสายตาที่จ้องตรงมาที่เขา และพูดต่อไปว่า “หอพักพวกนี้ เดิมทีข้าเป็นคนสั่งให้สร้างไว้ให้ผู้ลี้ภัยที่เพิ่งเข้าเมืองมา ไม่รู้ว่าทำไมคุณชายจวินถึงได้เกิดความคิดเช่นนี้ อ้างว่าตัวเองเป็นคนสร้างหอพักพวกนี้ขึ้นมา คุณชายจวินยังหนุ่มยังแน่น อยากจะมีชื่อเสียง ข้าก็เข้าใจ แต่เพราะยังหนุ่มโลหิตร้อนแบบนี้ ถึงได้ทำเรื่องที่ขาดการยั้งคิด เพื่อจะสร้างหอพักพวกนี้ขึ้นมา ข้าได้ใช้เงินออมทั้งชีวิตไปจนหมด และไม่ได้สนใจเรื่องชื่อเสียงจอมปลอมอะไรนั่นเลย คุณชายจวินยังหนุ่ม ก็ควรจะสร้างผลงานด้วยความรู้ความสามารถ ไม่ควรจะขโมยผลงานของคนอื่นแบบนี้!”
ตอนที่ 1446 บิดเบือนข้อเท็จจริง (2)
คำพูดของเจ้าเมืองทำให้เกิดเสียงฮือฮาขึ้นในหมู่ฝูงชน ทุกคนจ้องมองจวินอู๋เสียอย่างไม่อยากจะเชื่อ
สิ่งที่เพิ่งพูดออกมานั้น บอกออกมาอย่างโจ่งแจ้งเลยว่า หอพักพวกนี้จวินอู๋เสียไม่ได้เป็นคนสร้างขึ้นเลย แต่นางแค่ฉวยโอกาสก่อนที่เจ้าเมืองจะอ้างสิทธิ์ ขโมยความดีความชอบที่ไม่ได้เป็นของนางโดยการยืนยันว่านางเป็นคนสร้างมันขึ้นมา!
แทบจะทันทีที่สิ้นเสียงของเจ้าเมือง สายตาสงสัยนับไม่ถ้วนก็มองตรงไปที่ร่างของจวินอู๋เสีย
จวินอู๋เสียหรี่ตาลง แววตาทอประกายเยียบเย็นขณะมองไปที่เจ้าเมืองซึ่งกำลังบิดเบือนข้อเท็จจริง
เจ้าเมืองเห็นว่าจวินอู๋เสียไม่ตอบ เขาก็เก็บความยินดีเอาไว้ไม่อยู่ ในเมื่อเขายังไม่แน่ใจในพลังของจวินอู๋เสีย เขาจึงไม่กล้าที่ปะทะกับจวินอู๋เสียตรงๆ ถึงอย่างไร เด็กหนุ่มที่สามารถฆ่าหลิวเอ้อร์กับลูกน้องอีกสิบกว่าคนได้ด้วยตัวคนเดียวเช่นนี้ เขาก็ต้องระวังเอาไว้ก่อน
แต่…
ถ้าใช้กำลังไม่ได้ เขาก็ยังมีวิธีอื่นอยู่!
เจ้านั่นเป็นแค่เด็กหนุ่มอ่อนหัดไร้ประสบการณ์ จะมาต่อกรกับเขาได้อย่างไร
“คุณชายจวิน เห็นว่าคุณชายยังเด็กและโง่เขลา ข้าจะไม่ถือสาหาความเจ้า แต่การก่อสร้างหอพักยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ยังมีส่วนที่ไม่ปลอดภัยอยู่ภายในอีกมาก เจ้าบุ่มบ่ามหลอกคนพวกนี้ให้เข้ามาอยู่เพื่อจะที่ตัวเองจะได้มีชื่อเสียง เห็นชีวิตคนไม่สำคัญหรือไง” เจ้าเมืองกดดันหนักขึ้นเรื่อยๆ แสร้งทำสีหน้าเจ็บปวดมองจวินอู๋เสีย
ตอนนั้นเอง สายตาของผู้ลี้ภัยเกือบทุกคนที่มองจวินอู๋เสียก็แปลกไป
พวกเขาคิดว่าการก่อสร้างหอพักพวกนี้แปลกเล็กน้อย ไม่รู้ว่าการก่อสร้างอาคารที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้จะมีค่าใช้จ่ายเท่าไร แต่ใครๆ ก็ย่อมเดาได้ว่ามันคงเป็นเงินมหาศาลอย่างแน่นอน คุณชายจวินยังอายุน้อยและไม่ใช่พลเมืองดั้งเดิมของเมืองชิงเฟิง เขาจะยอมทุ่มเงินจำนวนมากเพื่อสร้างที่พักดีๆ ให้กับคนที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเขาอย่างนั้นหรือ ไม่ว่าจะมองอย่างไร มันก็รู้สึกแปลกๆ
บางคนถึงกับตั้งข้อสงสัยในใจ เพราะพวกเขารู้สึกว่าจวินอู๋เสียยังเด็กเกินไป และเจ้าเมืองก็ฟังดูน่าเชื่อถือกว่า เนื่องจากการก่อสร้างหอพักพวกนี้ไม่ใช่งานเล็กๆ เลย และเจ้าเมืองก็ใจดีกับผู้ลี้ภัยมาโดยตลอด พวกเขาจึงคิดว่ามันน่าเชื่อกว่าถ้าบอกว่าเจ้าเมืองเป็นคนสร้างหอพักพวกนี้
เมื่อเจอกับการใส่ร้ายอย่างโจ่งแจ้งของเจ้าเมืองและสายตาสงสัยของผู้ลี้ภัยที่มองมา จวินอู๋เสียก็ยังคงนิ่งเหมือนเขาไท่ซาน สายตาเย็นชาของนางไม่มีความหวั่นไหวใดๆ ภายใต้แรงกดดันนี้เลย
เจ้าเมืองคนนี้ก็ฉลาดอยู่นิดหน่อย นอกจากจะใส่ความนางได้อย่างลื่นไหลแล้ว ยังพยายามยึดเอาหอพักพวกนี้ไปเป็นของตัวเองอย่างโจ่งแจ้ง เป็นอุบายที่ไม่เลวเลย
จวินอู๋เสียหัวเราะอย่างเย็นชาอยู่ในใจ แต่สีหน้าไม่ได้แสดงอะไรออกมา
ความเงียบของจวินอู๋เสียทำให้เจ้าเมืองยิ่งได้ใจมากขึ้น เขาหัวเราะเยาะความอ่อนหัดของจวินอู๋เสียที่พอเจอปัญหาก็ทำอะไรไม่ถูก เจ้าเด็กนี่คงตื่นตระหนกมากจนพูดอะไรไม่ออก!
เจ้าเมืองไม่ได้กลัวว่าจวินอู๋เสียจะทำร้ายร่างกายเขา เนื่องจากเขามีทหารยืนอยู่ข้างหลัง จึงไม่มีอะไรต้องกลัว และเมื่อจวินอู๋เสียลงมือ เขาก็จะอ้างว่าจวินอู๋เสียโกรธเนื่องจากความอับอาย และการเข้ายึดหอพักพวกนี้ก็จะง่ายเหมือนปอกกล้วย!
แต่ในขณะที่เจ้าเมืองเตรียมจะสาดโคลนใส่หน้าจวินอู๋เสีย มุมปากของจวินอู๋เสียก็ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็นขณะที่พูดว่า “พูดจบหรือยัง”
เจ้าเมืองชะงักทันที
จวินอู๋เสียพูดต่อว่า “ถ้าพูดจบแล้ว อย่างนั้นตาข้าบ้างเล่านะ” นางปรบมือหนึ่งครั้ง ทันใดนั้นร่างสูงตระหง่านของเยี่ยซาก็ปรากฏตัวขึ้นข้างๆ นาง!