ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 1449 ใครสอบสวนใครกันแน่ (1) ตอนที่ 1450 ใครสอบสวนใครกันแน่ (2)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 1449 ใครสอบสวนใครกันแน่ (1) ตอนที่ 1450 ใครสอบสวนใครกันแน่ (2)
ตอนที่ 1449 ใครสอบสวนใครกันแน่ (1) / ตอนที่ 1450 ใครสอบสวนใครกันแน่ (2)
ตอนที่ 1449 ใครสอบสวนใครกันแน่ (1)
พวกผู้ลี้ภัยที่ปากโป้งอยากจะเข้าไปขอโทษจวินอู๋เสีย แต่ก็ไม่กล้าเผชิญหน้ากับนาง ก่อนที่จวินอู๋เสียจะเอาหลักฐานออกมา พวกเขาบางคนก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง และบางคนก็เชื่อคำพูดของเจ้าเมืองไปเสียเต็มที่แล้ว ทุกคนต่างถูกตบหน้ากันทั้งนั้น พวกเขารู้สึกว่าตอนนี้พวกเขาไม่มีความกล้าที่จะพูดกับจวินอู๋เสียแล้ว
จวินอู๋เสียไม่ได้พูดอะไร นางแค่หันหลังเดินจากไป พวกผู้ลี้ภัยที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังไม่สามารถทำอะไรได้นอกจากมองตามหลังของจวินอู๋เสียขณะที่นางออกจากที่นั่น
เจ้าเมืองสาปแช่งด่าทอไปตลอดทาง ครั้งนี้เขารู้สึกอัปยศอดสูมาก ไม่เพียงไม่สามารถยึดเอาหอพักพวกนั้นจากจวินอู๋เสีย แต่ยังถูกบังคับให้เปิดโปงตัวเองต่อหน้าผู้ลี้ภัยพวกนั้นด้วย ทำให้เจ้าเมืองยิ่งโกรธมากขึ้นไปอีก
“ไอ้พวกขยะไร้ประโยชน์! คนถูกฆ่าไปตั้งหลายคน พวกเจ้ากลับหาเบาะแสไม่เจอเลยสักอย่าง! ยังจะมายืนบื้ออยู่ตรงนี้อีก! ไปให้พ้นหน้าข้าเดี๋ยวนี้! เห็นพวกเจ้าแล้วข้าหงุดหงิด!” เจ้าเมืองตะโกนด่าพวกทหารพร้อมกับกระทืบเท้าเข้าไปในจวนเจ้าเมือง
ในจวนเจ้าเมืองยังคงเงียบสงบ เจ้าเมืองกลับมาแล้วแต่เขายังไม่เห็นคนรับใช้วิ่งเข้ามาทักทายเลยสักคน ทำให้เขาที่โกรธอยู่แล้วยิ่งโกรธมากขึ้น
“คนในจวนตายกันหมดแล้วหรือไง! ยังไม่โผล่หัวออกมาอีก!” เจ้าเมืองตะโกนเสียงดังขณะเดินเข้าไปในห้องโถง แต่พอก้าวเท้าเข้าไปในห้องโถง เขาก็ตัวแข็งทื่อทันที!
เด็กหนุ่มที่มีใบหน้าละเอียดอ่อนบอบบางคนหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ในห้องโถงใหญ่ เด็กหนุ่มคนนั้นก็คือจวินอู๋เสียที่เขาเพิ่งพบที่ทางเหนือของเมืองไม่ใช่หรือ!
เจ้าเมืองใจหายวาบทันที!
เขาอยากจะวิ่งหนีออกไปทางประตู แต่เยี่ยซาก็เข้ามาทางด้านหลังของเขาอย่างเงียบๆ และยกเท้าถีบเข้าที่หลังของเจ้าเมืองอย่างไร้ความปรานี ส่งให้เจ้าเมืองกระเด็นไปล้มหน้าคว่ำอยู่ตรงหน้าจวินอู๋เสีย
“พวก…พวกเจ้าจะทำอะไร! ข้าคือเจ้าเมืองชิงเฟิงนะ! พวกเจ้าจะมาก่อเรื่องไม่ได้!” เจ้าเมืองล้มลงไปอย่างแรง เขาเงยหน้าขึ้นมองจวินอู๋เสียที่นั่งไขว้ขาจิบชาอยู่ที่เก้าอี้
จวินอู๋เสียเหลือบสายตาขึ้นมองเจ้าเมืองที่หน้าซีดขาว ก่อนจะวางถ้วยชาที่นางถืออยู่ลงบนโต๊ะอย่างช้าๆ
“ท่านเจ้าเมือง เมื่อสักครู่ยังวางอำนาจบาตรใหญ่อยู่เลยไม่ใช่หรือ ทำไมตอนนี้สีหน้าดูไม่ดีเลยเล่า ก็เห็นว่าเจ้ามีข้อกล่าวหาที่อยากจะโยนใส่หัวข้าตั้งเยอะแยะ ข้าก็เลยมาที่นี่ เจ้าจะได้มีโอกาสซักถามข้าอย่างละเอียด ไม่ดีหรือไง” จวินอู๋เสียหรี่ตาลง น้ำเสียงของนางเบามาก แต่พอคำพูดพวกนั้นเข้าหูของเจ้าเมือง พวกมันกลับฟังเหมือนเสียงกระซิบจากปีศาจ ส่งความหนาวเย็นแล่นไปตามกระดูกสันหลัง
“เจ้า…เจ้า…เจ้าจะทำอะไร…” เจ้าเมืองลุกลี้ลุกลนจะลุกขึ้น แต่ก่อนที่เขาจะทรงตัวได้ เยี่ยซาก็เตะเขาอีกครั้งที่ข้อเข่า ทำให้เขาล้มลงเข่ากระแทกพื้นตรงหน้าจวินอู๋เสีย
ข้อเข่าของเขาปวดเหมือนโดนเยี่ยซาเตะหักไปแล้ว เหงื่อเม็ดใหญ่ๆ ไหลลงมาจากหน้าผากของเจ้าเมืองขณะที่พยายามจะขยับตัว
“ถ้าเจ้าคุกเข่าดีๆ ไม่ได้ ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะหักขาเจ้าทั้งสองข้างหรอกนะ ให้เจ้าคุกเข่าไปตลอดชีวิตเลย” เสียงเย็นชาของจวินอู๋เสียดังขึ้นราวกับสายฟ้าฟาดเข้าใส่หัวใจของเจ้าเมือง เขากลัวมากจนไม่กล้าขยับตัวแม้แต่นิดเดียว
จวินอู๋เสียมองเจ้าเมืองด้วยความพอใจ แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “เอาล่ะ เริ่มสอบปากคำได้แล้ว”
เจ้าเมืองอยากจะร้องไห้ เขาไม่เคยสอบปากคำใครในลักษณะนี้มาก่อนเลยในชีวิต เขาต้องคุกเข่าอยู่ที่พื้น ขณะที่คนถูกสอบปากคำนั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงหน้าเขา มองลงมาจากจุดที่สูงกว่า
จวินอู๋เสียเอามือเท้าคางและหรี่ตาลงมองเขา จากนั้นก็ถามว่า “ลั่วซีให้เจ้ามาสร้างปัญหาให้ข้าอย่างนั้นหรือ”
ตอนที่ 1450 ใครสอบสวนใครกันแน่ (2)
เจ้าเมืองใจเต้นแรง สายตาที่มองจวินอู๋เสียเต็มไปด้วยความหวาดกลัว เขาทำตาล่อกแล่ก แอบกลืนน้ำลายเงียบๆ แล้วพูดว่า “อะไร…ลั่วซี…ข้าไม่รู้ว่าเจ้าพูดเรื่องอะ…อ๊าก!!!”
ก่อนที่เจ้าเมืองจะพูดจบ ก็มีแสงสีเงินแวบขึ้นที่ด้านหลังของเขา ข้อเท้าซ้ายของเขาโดนเยี่ยซากระทืบหักอย่างไร้ความปรานี ความเจ็บปวดทำให้เขาล้มลงกลิ้งไปมาบนพื้น
สายตาเย็นชาของจวินอู๋เสียมองเจ้าเมืองที่อาบไปด้วยเหงื่อเย็นๆ นางพูดด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาว่า “นี่เป็นครั้งแรก ถ้าโกหกอีกครั้ง เจ้าลืมเรื่องมีขาไปได้เลย”
เจ้าเมืองนอนกองอยู่บนพื้น มองเด็กหนุ่มที่มีใบหน้าเย็นชาตรงหน้าเขาด้วยความหวาดกลัว ทั้งๆ ที่เป็นแค่เด็กหนุ่มอายุน้อย แต่ความโหดร้ายในวิธีการลงมือเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการของเขานั้น ขนาดเจ้าเมืองเองก็ยังถึงกับขนหัวลุก เขาโหดเหี้ยมไร้ปรานีอย่างถึงที่สุด เมื่อได้เห็นด้านนั้นของจวินอู๋เสีย เจ้าเมืองก็ยอมจำนนอย่างราบคาบ ไม่กล้าโกหกอีกแม้แต่คำเดียว
“เป็นลั่วซี! ลั่วซีเป็นคนสั่งให้ข้าทำ! เขาเป็นคนสั่งทั้งหมด! มันไม่ใช่ความคิดของข้า! ได้โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย…” เจ้าเมืองร้องไห้อ้อนวอน สวรรค์ก็รู้ ถ้าเขารู้ว่าจวินอู๋เสียโหดร้ายขนาดนี้ละก็ ถึงลั่วซีจะพูดจนเสียงแหบ เจ้าเมืองก็ไม่มีวันกล้าไปหาเรื่องจวินอู๋เสียอย่างแน่นอน!
นี่มันพญายมราชตัวเป็นๆ ชัดๆ!
“เจ้าต้องฟังเขาด้วยหรือ” จวินอู๋เสียเลิกคิ้ว
เจ้าเมืองพยักหน้า
“ทำไม”
เจ้าเมืองอึกอักไม่กล้าพูดขึ้นมาทันที
“เยี่ยซา” เสียงอันเยือกเย็นของจวินอู๋เสียเป็นเหมือนสายฟ้าที่ฟาดเข้าใส่หัวใจของเขา เจ้าเมืองรีบพูดทันทีว่า “พูดแล้ว! พูดแล้ว! ข้าจะพูดทุกอย่าง! เพราะลั่วซีเป็นคนสนิทของท่านผู้นั้น คำสั่งทุกอย่างของท่านผู้นั้นจะถูกถ่ายทอดมาให้ข้าผ่านทางลั่วซี ถ้าข้าไม่ฟังเขา ท่านผู้นั้นก็จะโทษข้า…”
เจ้าเมืองนอนร้องไห้อย่างขมขื่นอยู่บนพื้น ความโหดเหี้ยมของจวินอู๋เสียทำให้เขารู้ว่า ถ้าเขาไม่ให้คำตอบที่น่าพอใจกับจวินอู๋เสีย เขาก็อาจจะไม่ได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นในวันพรุ่งนี้อีก
“ใครคือท่านผู้นั้น” เสียงของจวินอู๋เสียเย็นเยียบมากขึ้นทันที อย่างที่คาดไว้ เบื้องหลังการกระทำของเจ้าเมืองและลั่วซี มีคนคอยบงการคนทั้งคู่อยู่ ถ้านางเดาไม่ผิด เหตุการณ์คนพิษนี้ต้องเกี่ยวข้องกับ “ท่านผู้นั้น” แน่นอน
“ข้า…ข้าไม่รู้…ข้าไม่รู้จริงๆ …ข้ารู้แค่ว่าท่านผู้นั้นมีพลังที่แข็งแกร่งมากชนิดที่ไม่มีใครเทียบได้ ลั่วซีเป็นคนพาท่านผู้นั้นมาหาข้า สั่งให้ข้าทำตามคำสั่งของท่านผู้นั้น คนคนนั้นแข็งแกร่งเกินไป ข้าไม่กล้าขัดขืน!” เจ้าเมืองตอบตามตรง
จวินอู๋เสียถามว่า “การปล่อยผู้ลี้ภัยเข้าเมืองชิงเฟิงก็เป็นความคิดของท่านผู้นั้นด้วยหรือ”
“ใช่…ใช่แล้ว…” เจ้าเมืองพยักหน้า
“ทำไมเขาต้องให้พวกเจ้าทำอย่างนี้” จวินอู๋เสียถามต่อ
เจ้าเมืองกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก และตอบว่า “ท่านผู้นั้นต้องการใช้ผู้ลี้ภัยทำบางอย่าง เขาให้ข้านำคนแก่คนป่วยคนอ่อนแอจำนวนสามร้อยคนเข้าเมืองทุกวัน หลังจากนั้นเจ็ดวัน พวกเขาก็จะถูกพาไปที่ฝูหยวนถังของลั่วซี จากนั้นลั่วซีก็จะเอาโอสถวิเศษให้พวกเขากิน โอสถวิเศษนั่นจะทำให้ผู้ลี้ภัยพวกนั้นเลอะเลือนสับสน สูญเสียการรับรู้ จากนั้น…จากนั้น ท่านผู้นั้นจะส่งคนพวกนั้นไปยังที่ต่างๆ …”
ส่งไปยังที่ต่างๆ! ดวงตาของจวินอู๋เสียส่องประกายเย็นชา เมื่อรวมการสันนิษฐานของนางเข้ากับคำพูดของเจ้าเมือง นางก็เข้าใจแล้วว่าท่านผู้นั้นต้องการคนแก่ สตรีอ่อนแอ และเด็กๆ พวกนั้นไปทำอะไร!