ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 1457 คลื่นใต้น้ำ (2) ตอนที่ 1458 คลื่นใต้น้ำ (3)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 1457 คลื่นใต้น้ำ (2) ตอนที่ 1458 คลื่นใต้น้ำ (3)
ตอนที่ 1457 คลื่นใต้น้ำ (2) / ตอนที่ 1458 คลื่นใต้น้ำ (3)
ตอนที่ 1457 คลื่นใต้น้ำ (2)
“นั่นมันเรื่องของพวกเจ้า” กู่อิ่งหรี่ตาลง เขากลับมาที่สามโลกเบื้องล่างก็เพื่อสิ่งเดียว นั่นก็คือตามหาคนคนนั้น!
คนที่ทำให้เขาต้องพบกับความอัปยศอดสูที่สุดในชีวิต จวินเสีย!
บุรุษคนนั้นมองกู่อิ่งแล้วอดรู้สึกไม่ได้ถึงความหนาวเย็นที่คืบคลานเข้ามาในใจเขา ปกติกู่อิ่งก็กระหายโลหิตอยู่แล้ว หลังจากประสบเหตุการณ์นั้น กู่อิ่งก็ให้ความรู้สึกที่อันตรายมากขึ้น
“เอาเถอะ มารอดูกัน การค้นหาที่ผาสุดขอบฟ้ายังดำเนินต่อไป และคนจากตำหนักอื่นๆ ที่ซ่อนอยู่ในเมืองชิงเฟิงก็ไม่ได้เคลื่อนไหวอะไรเช่นกัน ถ้าพวกเขาไม่ได้เคลื่อนไหว เราก็ไม่จำเป็นต้องเอาตัวเองไปเปื้อนโคลน”
ในตอนที่พวกเขาตกลงกันนั่นเอง ดวงตาหลายคู่ที่ซ่อนอยู่ในที่ต่างๆ ของเมืองชิงเฟิงก็กำลังเฝ้าดูทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นในเมืองนั้น
คงไม่มีใครคาดคิดว่า ในเมืองเล็กๆ ที่แสนธรรมดาในสามโลกเบื้องล่าง จะมีสายลับของสิบสองตำหนักซ่อนตัวอยู่มากขนาดนี้!
ข้อความที่ลั่วซีส่งออกไปได้รับการตอบกลับอย่างรวดเร็ว บุรุษสวมชุดดำคนหนึ่งเดินเข้ามาทางประตูขนาดใหญ่ของเมืองชิงเฟิง ออร่าอันแข็งแกร่งที่อยู่รอบๆ ตัวเขาทำให้กลุ่มผู้ลี้ภัยที่เบียดกันอยู่หน้าประตูกระจายตัวออกไปทันที ทหารเฝ้าประตูหลายคน เมื่อเห็นหน้าของคนคนนั้น ก็พากันคุกเข่าตัวสั่นเทาทันที
ใบหน้าของบุรุษชุดดำถมึงทึงเคร่งขรึม เขาเดินเข้าไปในเมืองชิงเฟิงอย่างช้าๆ มุ่งหน้าไปที่ฝูหยวนถัง
เมื่อลั่วซีได้ข่าวการมาถึงของบุรุษคนนั้น เขาก็ลุกขึ้นทันทีโดยตั้งใจจะออกไปต้อนรับ แต่บุรุษชุดดำก็ปรากฏตัวที่หน้าประตูห้องของเขาแล้ว
“คารวะนายท่าน!” ลั่วซีคุกเข่าคารวะทันที
ใบหน้าของบุรุษชุดดำเย็นชาและแข็งกระด้าง เขาเหลือบมองลั่วซีจากมุมสูงแวบหนึ่ง แล้วก็ยกเท้าขึ้นเตะลั่วซีลอยกระเด็นออกไป ลั่วซีกระแทกเข้ากับเก้าอี้ด้านหลังอย่างแรง เก้าอี้แตกเป็นเสี่ยงๆ ความเจ็บปวดแล่นไปทั่วร่างกาย แต่ลั่วซีก็ทำได้เพียงคุกเข่าอยู่บนพื้นด้วยตัวที่สั่นเทา โลหิตไหลลงมาจากมุมปาก แต่เขาก็ไม่กล้าโอดครวญแม้แต่น้อย
“ไอ้ขยะ! เรื่องเล็กแค่นี้ก็จัดการไม่ได้ เจ้ายังจะมีประโยชน์อะไรอีก!” บุรุษชุดดำขวดคิ้วมองลั่วซี สายตาเต็มไปด้วยความดูถูก
ลั่วซีพูดขณะที่ร่างกายยังคงสั่นระริก “นายท่านได้โปรดใจเย็นลงก่อน! ข้าพยายามทุกทางที่ทำได้แล้ว แต่เจ้าเด็กทางเหนือของเมืองมันแปลกจริงๆ โอสถพิษกองโตที่ข้าโยนใส่ที่นั่นล้วนไม่ได้ผล พวกนักฆ่าที่ข้าส่งไปก็ไม่เคยกลับมา”
ถ้าไม่ใช่เพราะเขาไม่เหลือทางเลือกอื่นแล้ว ลั่วซีคงไม่กล้ารบกวนท่านผู้นั้น ความโกรธของท่านผู้นั้นไม่ใช่สิ่งที่เขาจะทนได้ แต่กลอุบายและแผนการทั้งหมดที่เขาคิดขึ้นเพื่อจัดการกับทางเหนือของเมืองไม่ได้ผลเลยสักอย่าง ตั้งแต่ความพยายามครั้งแรกในการใช้โอสถพิษจนถึงครั้งสุดท้ายที่เขาส่งมือสังหารไปฆ่าเด็กหนุ่มคนนั้น ล้วนล้มเหลวอย่างน่าอนาถ สุดท้ายแม้แต่คนที่แค่ไปเฝ้าดูทางเหนือของเมืองก็ไม่สามารถกลับมาแบบมีชีวิตได้อีก ลั่วซีจึงตัดสินใจว่าเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเชิญท่านผู้นั้นมาที่นี่
“แล้วเกิดอะไรขึ้นที่นี่” บุรุษชุดดำนั่งลงบนเก้าอี้ เขาขมวดคิ้วมองลั่วซี
ลั่วซีเล่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นในเมืองชิงเฟิงให้บุรุษชุดดำฟังทันที และใส่สีตีไข่เพิ่มเมื่อพูดถึงการไม่ยอมทำอะไรและขาดความพยายามของเจ้าเมือง
“ลั่วซีทำให้นายท่านผิดหวัง เป็นลั่วซีที่ไร้ประโยชน์! แต่เจ้าคุณชายจวินนั่นน่าสงสัยจริงๆ ขอรับ ไม่ใช่คนที่ข้าจะรับมือได้เลย ข้าไม่มีทางเลือกจึงต้องขอให้นายท่านออกหน้าขอรับ”
“คุณชายจวิน”
“ขอรับ ตัวตนของเขาลึกลับมาก ข้าไม่สามารถตรวจสอบอะไรได้เลย”
“จากที่เจ้าบอกมา หมายความว่าช่วงนี้เจ้าไม่ได้ส่ง ‘มนุษย์ยา’ ออกไปเลยสักคนใช่หรือไม่” ทันใดนั้นเสียงของบุรุษชุดดำก็เย็นยะเยือกมากขึ้น
มนุษย์ยาที่เขาพูดถึงก็หมายถึงพวกผู้ลี้ภัยที่ได้รับโอสถพิษเข้าไป
“ใช่…ใช่…ขอรับ…” ลั่วซีพูดตะกุกตะกักพร้อมกลืนน้ำลาย หัวของเขายิ่งก้มต่ำลงไปอีก
“ไอ้พวกขยะ!” บุรุษชุดดำลุกพรวดขึ้นด้วยความโกรธ “ข้าชักอยากเห็น คนแบบไหนกันที่มันกล้ามาก่อความวุ่นวายขึ้นที่นี่!”
ตอนที่ 1458 คลื่นใต้น้ำ (3)
ภายในหอพักทางเหนือของเมือง จวินอู๋เสียกำลังเล่นหมากรุกกับจวินอู๋เย่า นางวางตัวหมากลงไปและเก็บหมากของจวินอู๋เย่าออกมา จากนั้นจวินอู๋เสียก็เงยหน้าขึ้นและเห็นว่า…
จุดสนใจของใครบางคนไม่ได้อยู่ที่กระดานหมากรุกเลย แต่กลับมองมาที่นางด้วยสีหน้าขบขันแทน
“ถ้าท่านแพ้อีกตา ท่านจะโดนลงโทษให้ไปกวาดพื้น” จวินอู๋เสียเลิกคิ้ว
จวินอู๋เย่าชะงักไปเล็กน้อย จากนั้นก็ส่ายหัวยิ้มๆ “ถ้าเจ้าต้องการ ถึงไม่แพ้ ข้าก็ไปกวาดพื้นได้”
เยี่ยซากับเยี่ยเม่ยเอาแต่จ้องมองไปนอกหน้าต่างนิ่ง การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับความสัมพันธ์ของจวินอู๋เสียและจวินอู๋เย่า ทำให้ทั้งสองคนต้องเจอกับการแสดงความรักที่น่าอึดอัดทุกวัน พวกเขาจึงเริ่มอิจฉาเยี่ยเจี๋ยที่ยุ่งอยู่ที่ชั้นล่าง
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่จวินอู๋เสียกำลังจะอ้าปากตอบ นางก็รู้สึกได้ถึงพลังอันแข็งแกร่งที่พุ่งเข้ามาหานางด้วยความเร็วสูงมาก!
จวินอู๋เสียหรี่ตาลง นางหันหน้าไปมองนอกหน้าต่าง
“ในที่สุดปลาใหญ่ก็ติดเบ็ดแล้ว”
“น้องเสียเอ้อร์อยากจะซ้อมมือหรือไม่” จวินอู๋เย่าเอามือเท้าคาง ดวงตาของเขาจับจ้องไปที่ใบหน้าด้านข้างของจวินอู๋เสีย
“ทำไมจะไม่เล่า” จวินอู๋เสียเลิกคิ้ว
ตอนที่พวกของเฉียวฉู่อยู่ที่ผาสุดขอบฟ้า พวกเขาได้ต่อสู้กับคนจากสิบสองตำหนักแล้ว แต่เนื่องจากนางต้องตั้งสมาธิอยู่กับการฝึกฝนพลัง นางจึงไม่ได้ต่อสู้กับคนจากสิบสองตำหนักเลย โอกาสเดียวที่นางได้ใช้พลังก็คือตอนที่ต่อสู้กับพวกคนพิษ
นางค่อนข้างอยากรู้ว่า ถ้านางกับคนของสิบสองตำหนักต่อสู้กัน ผลจะออกมาเป็นอย่างไร
จวินอู๋เย่าหัวเราะเบาๆ
“ตามใจเจ้า แต่เจ้านั่นไม่ใช่คนธรรมดา จากที่ข้าสัมผัสได้ พลังของเขาน่าจะเหมือนกับผู้อาวุโสจากตำหนักเปลวเพลิงปีศาจ” แม้ว่าเขาจะไม่เข้าไปยุ่ง แต่จวินอู๋เย่าก็ยังไม่ลืมเตือนจวินอู๋เสียเรื่องพลังของคู่ต่อสู้
“ถ้าเจ้าสามารถเอาชนะเขาได้ เช่นนั้นในสิบสองตำหนักก็คงมีไม่กี่คนที่จะต่อกรกับเจ้าได้”
ในสิบสองตำหนัก ประมุขตำหนักคือผู้ที่แข็งแกร่งมากที่สุด ตามด้วยผู้อาวุโส ผู้อาวุโสฮุยจากก่อนหน้านี้ก็เป็นหนึ่งในนั้น เขามีพลังที่แข็งแกร่งมาก ไม่อย่างนั้นวันนั้นเยี่ยซาคงไม่พ่ายแพ้ คนที่กำลังพุ่งเข้ามาหาพวกเขาอย่างรวดเร็วในวันนี้ก็มีพลังในระดับเดียวกับผู้อาวุโสฮุย!
จวินอู๋เสียลุกขึ้นช้าๆ “อย่างนั้นข้าก็จะได้ลองทดสอบเลย”
หลังจากหย่อนเบ็ดอยู่นาน ในที่สุดปลาก็กินเหยื่อ นางจะปล่อยให้พลาดได้อย่างไร
ที่ทางเหนือของเมือง บุรุษชุดดำที่เปล่งรังสีอำมหิตน่ากลัวได้มาถึง เมื่อผู้ลี้ภัยในบริเวณใกล้เคียงเห็นคนผู้นั้นปรากฏตัวขึ้น พวกเขาก็กลืนน้ำลายโดยไม่รู้ตัว สัญชาตญาณทำให้พวกเขาไม่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้ ทุกคนต่างกระจัดกระจายไปซ่อนตัวอย่างระมัดระวัง
ดวงตาเย็นชาของบุรุษชุดดำมองสำรวจสภาพรอบๆ แล้วทันใดนั้นเขาก็ยกมือขึ้น พลังวิญญาณขั้นสีม่วงปกคลุมทั่วร่างของเขา ลำแสงสีม่วงสายหนึ่งถูกยิงออกจากฝ่ามือ และหนึ่งในหอพักตรงหน้าเขาก็ระเบิดทันที!
เสียงระเบิดดังกึกก้อง ทันใดนั้นอาคารสูงก็พังทลายลงมา!
เสียงร้องอย่างเจ็บปวดดังขึ้นทันที!
ผู้ลี้ภัยที่ซ่อนตัวอยู่มองเหตุการณ์ตรงหน้าปากอ้าตาค้าง ในหอพักนั้นมีคนอาศัยอยู่หลายร้อยคน เสียงระเบิดดังขึ้นทีเดียว หอพักก็โค่นลงมา เศษอิฐเศษหินน้อยใหญ่กระจัดกระจายเกลื่อนพื้น เกิดฝุ่นละอองฟุ้งกระจายขึ้นมา ท่ามกลางเสียงกึกก้องนั้น พวกเขาได้ยินเสียงกรีดร้องจากความตายอย่างชัดเจน!
กลิ่นคาวโลหิตคละคลุ้งกระจายไปทั่วในเขตเหนือของเมือง หลายร้อยชีวิตถูกทำลายไปพร้อมกับหอพักในชั่วพริบตา
ผู้ลี้ภัยต่างจ้องมองไปที่หอพักซึ่งกองเป็นเศษหินอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา ความหวาดกลัวคืบคลานเข้ามาในใจของทุกคน!