ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 1497 ดอกเหมยหิมะ (1) ตอนที่ 1498 ดอกเหมยหิมะ (2)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 1497 ดอกเหมยหิมะ (1) ตอนที่ 1498 ดอกเหมยหิมะ (2)
ตอนที่ 1497 ดอกเหมยหิมะ (1) / ตอนที่ 1498 ดอกเหมยหิมะ (2)
ตอนที่ 1497 ดอกเหมยหิมะ (1)
จวินอู๋เสียไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า จ้าวตำหนักหยกวิญญาณจะเป็นผู้ครอบครองภูติวิญญาณประเภทพฤกษาเช่นเดียวกัน! มิน่าเขาถึงเชื่อคำพูดของนางอย่างง่ายดายเมื่อนางบอกว่านางถูกสิบสองตำหนักข่มเหงเพราะครอบครองภูติวิญญาณประเภทพฤกษา
ร่างกายของอ้าวเสว่หานเหมยนั้นเหมือนกับทหารเป็นอย่างมาก ใบหน้าของเขาก็หล่อเข้มแข็งแกร่ง แต่ชุดสีชมพูสดใสบนตัวเขา…เป็นเรื่องยากที่คนจะยอมรับได้จริงๆ
“ถ้าเจ้ายังไม่ลุก ข้าจะไม่เกรงใจแล้วนะ!” บัวหิมะมัวเมากัดฟันกรอด
อ้าวเสว่หานเหมยไม่ได้ใส่ใจเสียงขู่นั้นเลย เขากลับทำหน้าหล่อๆ ของเขาให้ดูเจ็บปวดและเศร้าโศกอย่างมาก แล้วพูดว่า “ดอกดอกบัวขาวน้อย ทำไมตัวพูดจาทำร้ายจิตใจเค้าแบบนี้เล่า”
เสียงนั้นยังไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย มันมีพลังและดังกังวานเหมือนเสียงคำรามจากทหาร
อิงซู่ถูกเบียดออกไปพ้นทางนานแล้ว เขานั่งอยู่บนพื้นในท่าเอนหลัง มือข้างหนึ่งยันพื้นเอาไว้ขณะมองสีหน้าของบัวหิมะมัวเมาที่ดูเหมือนกำลังจะคลั่ง แล้วอิงซู่ก็กลั้นต่อไปไม่ไหว ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น
“เจ้านั่งดูสบายใจเลยนะ!” บัวหิมะมัวเมาอยากจะฉีกคนทั้งสองออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเต็มที
อิงซู่แสร้งทำหน้าเสียใจแล้วส่ายหัวอย่างจนปัญญา จากนั้นก็เอียงคอมองบัวหิมะมัวเมาที่ทำหน้าหงุดหงิดอย่างถึงที่สุด “ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากช่วย แต่พลังของอ้าวเสว่…”
บัวหิมะมัวเมาขบกรามแน่น ทันใดนั้นร่างของเขาก็กลายเป็นแสงสีขาว
อ้าวเสว่หานเหมยรู้สึกว่าคนในอ้อมกอดของเขาหดเล็กลงอย่างกะทันหัน เมื่อแสงจางลง ในอ้อมกอดของอ้าวเสว่หานเหมยก็มีเพียงดอกบัวขาวน้อยที่สวมชุดเอี๊ยมของทารกกำลังทำหน้างุนงง
สีหน้าของอ้าวเสว่แข็งทื่อทันที
“พี่อ้าวเสว่!” พอดอกบัวขาวน้อยเห็นอ้าวเสว่หานเหมย เขาก็ยื่นมือออกไปกอดแขนที่หนากว่าลำตัวของเขา แล้วทำตัวน่ารักน่าเอ็นดู ส่งเสียงร้องด้วยความดีใจเหมือนได้กลับมารวมตัวกับคนในตระกูลที่ไม่ได้เจอกันมานาน
“ทำไมพี่อ้าวเสว่ถึงมาที่นี่ด้วยเล่า” ดอกบัวขาวน้อยไม่ได้รู้ถึงสถานการณ์เอาเสียเลย เขากะพริบตาปริบๆ มองอ้าวเสว่หานเหมย
อิงซู่ที่อยู่ข้างๆ หัวเราะออกมาเสียงดังลั่นอย่างกลั้นไม่อยู่
ดอกบัวขาวน้อยเอียงคอมองเครื่องแต่งกายแปลกประหลาดที่อ้าวเสว่หานเหมยสวมอยู่
“พี่อ้าวเสว่ ท่าน…” ดวงตาของดอกบัวขาวน้อยเต็มไปด้วยความกังวลและไม่สบายใจ
มุมปากของอ้าวเสว่หานเหมยกระตุก
เสียงปังดังขึ้น แล้วหมอกควันก็พวยพุ่งปกคลุมร่างของอ้าวเสว่หานเหมย บดบังสายตาของทุกคน พอควันสลายไปหมด ทุกคนก็พากันจ้องมองด้วยความตกตะลึง
‘คิงคองบาร์บี้’ ที่ทำให้มุมมองโลกของทุกคนต้องแตกสลายได้หายไปโดยไม่เหลือร่องรอย ตอนนี้คนที่คุกเข่าข้างหนึ่งและอุ้มดอกบัวขาวน้อยเอาไว้เป็นบุรุษร่างสูงสวมเกราะสีเงิน ใบหน้าหล่อเหลา องอาจสง่างามราวเทพแห่งสงคราม!
“ข้าไม่เป็นไร เจ้าตัวเล็ก ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” บนใบหน้าที่หล่อเหลางามสง่านั้น มีรอยยิ้มที่น่าเชื่อถือมาก เสียงทุ้มต่ำของเขาราวกับดังมาจากสวรรค์
“พี่อ้าวเสว่ ข้าคิดถึงท่านจังเลย” ดอกบัวขาวน้อยฉีกยิ้มกว้างทันทีขณะมองไปที่บุรุษร่างกำยำสูงตระหง่านตรงหน้า
แต่ทว่า…
ใบหน้าของจวินอู๋เสียไม่แสดงความรู้สึกใดๆ อีกต่อไปแล้ว
อ้าวเสว่หานเหมยคนนี้…สามารถแปลงร่างเป็นแบบนี้ได้ด้วยหรือ
คนที่ประหลาดใจยิ่งกว่าจวินอู๋เสียคือจ้าวตำหนักหยกวิญญาณ เขามองภูติวิญญาณของตัวเองอย่างตกตะลึง ราวกับว่าร่างสูงตระหง่านตรงหน้าไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอะไรกับเขาเลยแม้แต่นิดเดียว
“อ้าวเสว่หานเหมย” ท่าทางของจ้าวตำหนักหยกวิญญาณดูแปลกประหลาด เมื่อเห็นสภาพของอ้าวเสว่หานเหมยในตอนนี้ เขาก็รู้สึก…
“ใช่แล้ว เจ้านาย” อ้าวเสว่หานเหมยยืนขึ้นและวางดอกบัวขาวน้อยให้นั่งบนไหล่ของเขา ได้เห็นรูปลักษณ์ที่ดูมั่นคงเป็นผู้ใหญ่ของเขาแล้ว มันก็ยากที่จะเชื่อมโยงเขากับ ‘คิงคองบาร์บี้’ ที่ทำลายมุมมองของผู้คนที่มีต่อโลกใบนี้
จ้าวตำหนักหยกวิญญาณมองอ้าวเสว่หานเหมยอยู่นาน แล้วเขาก็ก้มหน้าเอามือกุมขมับพร้อมทั้งหลับตาลง
“ขอข้าตั้งสติสักครู่”
ตอนที่ 1498 ดอกเหมยหิมะ (2)
เจ้าแมวดำรู้สึกเหมือน…มันเองก็ต้องการสงบจิตใจบ้างเหมือนกัน
หลังจากความเงียบแปลกๆ ที่น่าอึดอัดปกคลุมไปทั่วห้อง อิงซู่ที่นั่งอยู่บนพื้นก็อดหัวเราะออกมาเบาๆ ไม่ได้ เขางอขาข้างหนึ่งขึ้นมาวางพาดที่เข่าอีกข้าง แล้วมองมนุษย์ผู้ครอบครองภูติแห่งวงแหวนภูติวิญญาณทั้งสองซึ่งกำลังตะลึงงันกับอ้าวเสว่หานเหมย
“พวกท่านสองคนอย่าไปใส่ใจเขาเลย ปกติอ้าวเสว่ก็เป็นแบบนี้แหละ” อิงซู่รู้สึกว่าถ้าเขาไม่พยายามอธิบายอะไรสักหน่อย เขาอาจจะถูกจวินอู๋เสีย ‘ซ่อม’ เอาทีหลังได้
“ไปนั่งคุยกันเถอะ” จวินอู๋เสียกระแอมในลำคอ จ้าวตำหนักหยกวิญญาณเดินเข้าไปอย่างอารมณ์เสีย มือยังคงกุมหน้าผากอยู่
อ้าวเสว่หานเหมยอุ้มดอกบัวขาวน้อยมายืนที่ด้านข้าง ดอกบัวขาวน้อยดูมีความสุขมากซึ่งเป็นปฏิกิริยาที่ตรงข้ามกับตอนที่เจออิงซู่ อ้าวเสว่หานเหมยยอมให้ดอกบัวขาวน้อยอย่างมาก แต่จวินอู๋เสียคิดว่านางเห็นแววตาของเขาแฝงความจนปัญญาและ…ความเจ็บปวดเสียใจอยู่เล็กน้อย
“อ้าวเสว่ก็เหมือนกับพวกเรา เราทุกคนมาจากโลกภูติวิญญาณ และเขาก็เป็นแบบนี้มาตลอด สิ่งที่พวกท่านเห็นเมื่อสักครู่คือบุคลิกหลักของเขา และรูปลักษณ์ที่เห็นตอนนี้คือสิ่งที่เขาฝืนทำออกมาเพื่อจัดการกับดอกบัวขาวน้อย” อิงซู่หัวเราะเบาๆ
อ้าวเสว่หานเหมยเกิดมาพร้อมการมีหลายบุคลิก ดอกบัวขาวน้อยขี้อาย เจ้าบัวขี้เมาเจ้าอารมณ์ อ้าวเสว่หานเหมยชอบบัวหิมะมัวเมาที่เย่อหยิ่งมากกว่า จึงพยายามหาทางเข้าใกล้เขาอยู่ตลอด แต่ก็ถูกบัวหิมะมัวเมารังเกียจ เจอเมื่อไรถ้าไม่สู้กันจนตายไปข้าง บัวหิมะมัวเมาก็ไม่ยอมเลิกรา
แต่ถึงจะทุบตีอย่างโหดร้าย ต่อสู้กันทุกวัน ก็ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้ ดังนั้นตอนที่ไม่เมา บัวหิมะมัวเมาก็จะกลายร่างเป็นดอกบัวขาวน้อย กลายเป็นคนที่อ้าวเสว่หานเหมยที่มีบุคลิกแบบเด็กๆ รับมือไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะจัดการกับเด็กเล็กที่ไร้เดียงสาเช่นนี้อย่างไร แต่เขายังอยากอยู่ใกล้ๆ กับบัวหิมะมัวเมา ดังนั้นเขาจึงรับบทเป็นผู้พิทักษ์ในยามที่ดอกบัวขาวน้อยโดนรังแก ปกป้องดอกบัวขาวน้อยจากลมและฝนเพื่อให้บัวหิมะมัวเมาเห็นความดีในตัวเขา
อย่างไรก็ตาม…
บัวหิมะมัวเมายังคงรังเกียจเขาสุดหัวใจ กลับเป็นดอกบัวขาวน้อย เจ้าตัวกระสอบทรายของสังคม ที่ประทับภาพลักษณ์ผู้พิทักษ์ที่มีคุณธรรมของอ้าวเสว่หานเหมยเอาไว้อย่างแน่วแน่ในหัวใจ ทำให้อ้าวเสว่หานเหมยจนปัญญาและไม่มีทางเลือกนอกจากวางมาดเป็นผู้พิทักษ์ต่อไปในตอนที่ดอกบัวขาวน้อยปรากฏตัว
จ้าวตำหนักหยกวิญญาณก้มหน้าคอตกอยู่ตลอดเวลา ไม่พูดอะไรออกมาเลยสักคำ ดูเหมือนเขาโดนเข้าไปหนักทีเดียว หลังจากเงียบอยู่เป็นเวลานาน เขาก็เงยหน้าขึ้นมองอ้าวเสว่หานเหมยผู้สูงใหญ่ซึ่งโดนดอกบัวขาวน้อยตัวจิ๋วปราบเสียสิ้นท่า
“ในเมื่อเจ้ากลายเป็นแบบนี้ได้ ทำไมเจ้าต้องให้ข้าเจอกับเรื่องทั้งหมดที่ผ่านมาด้วย”
อ้าวเสว่หานเหมยพูดด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึมจริงจัง “ตอนที่เจ้าตัวเล็กไม่ได้อยู่ใกล้ๆ มันไม่มีความจำเป็นที่ข้าต้องซ่อนตัวตนที่แท้จริงของตัวเองเอาไว้นี่”
จ้าวตำหนักหยกวิญญาณถอนหายใจยาว…มาก
จวินอู๋เสียเห็นจ้าวตำหนักอยู่ในสภาพเช่นนั้นก็รู้สึกสงสารขึ้นมาทันที นางรินน้ำให้เขาแก้วหนึ่งเพื่อพยายามจะปลอบใจ แต่จ้าวตำหนักหยกวิญญาณมัวแต่สะเทือนใจเลยไม่ได้รู้ตัวเลย
หลังจากน้ำไหลลงคอไปแล้ว ร่างของเขาก็แข็งทื่อขึ้นมาทันที
เขาจ้องแก้วน้ำที่ถืออยู่ในมือเขม็ง จากนั้นก็หันไปมองจวินอู๋เสียที่นั่งอยู่ด้านข้าง ทันใดนั้นมือที่ถือแก้วก็เริ่มสั่น เขาลุกพรวดขึ้นและเดินออกจากห้องของจวินอู๋เสียอย่างรวดเร็วโดยไม่พูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว
“เจ้านายเจ้าเป็นอะไร เขาก็แค่ดื่มน้ำ แล้วจู่ๆ ก็ทำท่าอย่างกับเห็นผี” อิงซู่คิดมาตลอดว่ามีบางอย่างที่ผิดปกติเกี่ยวกับจ้าวตำหนักหยกวิญญาณคนนี้
อ้าวเสว่หานเหมยพูดออกมาอย่างไม่สะทกสะท้านเลยสักนิดว่า “ตอนที่ข้าเชื่อมต่อกับจิตวิญญาณของเขา ตอนนั้นจิตใจของเขาอ่อนแอมาก เขาจึงได้รับผลกระทบมากทีเดียว และได้รับอิทธิพลจากอารมณ์ความรู้สึกของข้า ตอนที่ข้าไม่สามารถควบคุมอารมณ์และความรู้สึกของตัวเองได้ เขาก็จะทำบางอย่าง เจ้าน่าจะรู้ดีว่าข้ากำลังพูดถึงอะไร”
อิงซู่ผงะ แล้วจากนั้นก็ฉีกยิ้มออกมา
“เจ้าคงไม่ได้…ฮ่าๆๆๆ …”
จวินอู๋เสียรู้สึกประหลาดใจกับเสียงหัวเราะของอิงซู่ นางไม่เข้าใจอะไรเลย หลังจากนั้นพักใหญ่ เมื่ออิงซู่หัวเราะจนพอแล้ว เขาก็อธิบายให้จวินอู๋เสียฟังถึงสิ่งที่อ้าวเสว่หานเหมยจะทำ