ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 1553 เด็กนี่ไม่เลว (3) ตอนที่ 1554 เด็กนี่ไม่เลว (4)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 1553 เด็กนี่ไม่เลว (3) ตอนที่ 1554 เด็กนี่ไม่เลว (4)
ตอนที่ 1553 เด็กนี่ไม่เลว (3) / ตอนที่ 1554 เด็กนี่ไม่เลว (4)
ตอนที่ 1553 เด็กนี่ไม่เลว (3)
เมื่อปิดประตูห้องเก็บสุรา จวินอู๋เสียก็ไปยืนอยู่ตรงหน้าซูหย่า ไม่รู้ว่าราชินีที่รักสุรายิ่งชีพคนนี้จะทรมานอะไรนางอีก
ซูหย่ามองจวินอู๋เสียอย่างประเมินตั้งแต่หัวจรดเท้า หลังจากเงียบอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดนางก็เอ่ยปากพูด
“คุกเข่า”
จวินอู๋เสียชะงัก
ซูหย่าเลิกคิ้ว “คารวะอาจารย์ต้องคุกเข่าทำพิธี อยากให้ข้าสอนเจ้าหรือเปล่าเล่า”
คารวะอาจารย์
จวินอู๋เสียย่อมรู้ว่า หลังจากผ่านพิธีคารวะอาจารย์แล้ว ซูหย่าจะกลายเป็นอาจารย์ของนาง ไม่ใช่แค่อาจารย์ผู้ชี้แนะ ความหมายแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน
ซูหย่าตั้งใจจะรับนางเป็นศิษย์ผู้สืบทอดอย่างนั้นหรือ
“อะไร ไม่อยากหรืออย่างไร” ซูหย่าพูดอย่างหงุดหงิดเมื่อเห็นจวินอู๋เสียไม่มีปฏิกิริยาใดๆ
จวินอู๋เสียคุกเข่าลงตรงหน้าซูหย่าทันที ถ้าเป็นคนอื่นอาจจะคับแค้นใจที่ซูหย่าทำให้ลำบากในช่วงหลายวันที่ผ่านมานี้ แต่จวินอู๋เสียตระหนักดีถึงการเปลี่ยนแปลงของเส้นเอ็นและหลอดโลหิตในร่างตัวเอง ทั้งหมดเริ่มขึ้นที่ห้องเก็บสุรานั้น ไม่ว่าซูหย่าจะมีจุดประสงค์อะไร แต่นางก็ช่วยจวินอู๋เสียจริงๆ
“อาจารย์ โปรดรับการคารวะจากศิษย์ด้วย” จวินอู๋เสียทำพิธีคารวะอาจารย์อย่างจริงจัง สำหรับคนที่ปฏิบัติกับนางอย่างจริงใจ นางไม่เคยหวงความเคารพนับถือ
“พิธีคารวะอาจารย์ก็ต้องยกน้ำชา แต่ข้าไม่ชอบรสชาติแบบนั้น เจ้าเอาสุราบนพื้นตรงนั้นมาแล้วกัน” ซูหย่าพูด
จวินอู๋เสียเอื้อมมือไปหยิบและส่งให้ซูหย่า
นั่นเป็นสุราที่เทียนเจ๋อเอามาให้ และซูหย่ายังไม่มีเวลาเปิดไห
ซูหย่ารับไหสุรามากอด แล้วกระดกเข้าไปอึกใหญ่ จากนั้นก็เอาหลังมือเช็ดปาก ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มกว้าง
“ดี!”
คำว่าดีนั้น ไม่รู้ว่าหมายถึงสุราที่เทียนเจ๋อเอามา หรือการที่นางเพิ่งรับศิษย์
“จวินอู๋ จำไว้นะ ตั้งแต่นี้ไปเจ้าคือศิษย์ของข้า ซูหย่า เป็นศิษย์ข้าไม่จำเป็นต้องยึดติดกับมุมมองทางโลก ไม่จำเป็นต้องจำกัดตัวเองไว้กับบรรทัดฐานที่น่าเบื่อหน่ายและซับซ้อนพวกนั้น มีแค่เรื่องเดียวที่เจ้าต้องจำไว้ให้ดี!”
จวินอู๋เสียฟังอย่างตั้งใจ
“ศิษย์ของข้า ซูหย่า จะถูกคนอื่นรังแกไม่ได้เด็ดขาด! ถ้าคนอื่นรังแกเจ้า เจ้าต้องตอบแทนไปสิบเท่า ถ้าเจ้าทำไม่ได้ ข้าจะช่วยเจ้าเอง! นับแต่นี้ไป อย่าให้ข้าเห็นว่าเจ้านั่งร้องไห้ขี้มูกโป่งเพราะถูกคนอื่นรังแก สิ่งเดียวที่เจ้าทำได้มีแค่กระทืบไอ้พวกนั้นให้ร้องไห้หาบิดาหามารดาไปเลย เข้าใจหรือไม่!” ซูหย่ามองจวินอู๋เสียอย่างจริงจัง ศิษย์ของนางจะถูกรังแกไม่ได้เด็ดขาด
พวกที่จวินอู๋เอาชนะได้ เขาจะต้องเอาชนะด้วยตัวเอง ส่วนพวกที่เขาไม่สามารถทำอะไรได้ อาจารย์คนนี้จะจัดการกระทืบพวกมันให้เอง!
จวินอู๋เสียมองซูหย่าอย่างมึนงง นี่เป็นครั้งแรกที่มีคนพูดกับนางแบบนี้
ชีวิตนี้นางเคยคารวะอาจารย์มาก่อนสองคน
เยี่ยนปู้กุยดีกับนางมาก แม้ว่าความสามารถของเขาจะมีจำกัด แต่เขาก็ได้มอบทุกสิ่งที่เขาสามารถมอบได้ให้กับนาง
ฮ่องเต้ผู้ก่อตั้งรัฐเหยียน ตอนที่นางคารวะเขาเป็นอาจารย์ บุรุษคนนั้นได้ตายไปหลายปีแล้ว แต่จวินอู๋เสียเป็นหนี้บุญคุณเขา นางยอมรับเขาเป็นอาจารย์ด้วยความเคารพ
สำหรับซูหย่า นางเป็นอาจารย์คนที่สามของจวินอู๋เสีย และเป็นอาจารย์คนเดียวที่บอกนางว่า “ศิษย์ข้าจะถูกคนอื่นรังแกไม่ได้เด็ดขาด ใครก็ตามที่รังแกเจ้า ข้าจะช่วยเจ้าเอาคืนเอง”
แม้ว่าจวินอู๋เสียจะเย็นชา แต่นางก็ยังตกใจกับคำพูดของซูหย่า
“เอาล่ะ ลุกขึ้นเถอะ เจ้าจะไม่เสียใจที่คารวะข้าเป็นอาจารย์เจ้าแน่” ซูหย่าพูดด้วยรอยยิ้ม
เมื่อเห็นสีหน้ามึนงงของศิษย์ตัวน้อย นางก็รู้สึกว่ามันค่อนข้างน่าสนใจ
นางยังจำได้ว่าตอนที่คนนั้นคารวะนางเป็นอาจารย์ สีหน้าร้องไห้แบบไม่มีน้ำตาของเขาทำให้นาง…
ซูหย่าสะบัดหัวและหันไปหาจวินอู๋เสีย “เอาล่ะ ตามข้าขึ้นไปที่ชั้นสามของหอจันทร์แรม ตั้งแต่วันนี้ไป เจ้าต้องไปที่นั่นเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับพลังจิตวิญญาณ”
ชั้นสามของหอจันทร์แรม
สถานที่ที่จวินอู๋เสียไม่เคยไป
ซูหย่าจะสอนพลังจิตวิญญาณให้นางจริงๆ!
ตอนที่ 1554 เด็กนี่ไม่เลว (4)
เป็นครั้งแรกที่จวินอู๋เสียได้ขึ้นมาบนชั้นสาม แต่สภาพของชั้นสามนั้นเกินกว่าที่นางคาดว่าจะได้เห็นมาก มีสระขนาดใหญ่ตั้งอยู่โดดเดี่ยวภายในห้องกว้าง ในสระนั้นมีระลอกคลื่นกระเพื่อมพร้อมกับกลิ่นสุราโชยเข้าจมูกของจวินอู๋เสีย
สระตรงหน้านางเต็มไปด้วยสุราชั้นดี!
“ตั้งแต่นี้ไป เจ้าต้องแช่ตัวในสระสุรานี้เป็นเวลาครึ่งวันทุกวัน ไม่ว่ามันจะทำให้เจ้ารู้สึกไม่สบายแค่ไหน เจ้าก็ต้องอยู่ในนั้นให้ถึงครึ่งวัน ส่วนอีกครึ่งวัน เจ้าสามารถฝึกฝนความสามารถของเจ้าบนชั้นสามนี้ได้” ซูหย่ามองจวินอู๋เสีย นางหยุดครู่หนึ่งขณะประเมินขนาดตัวที่เล็กของจวินอู๋เสียก่อนจะพูดว่า “เจ้าสามารถแช่ในสระทั้งเสื้อผ้าเลยก็ได้”
จวินอู๋เสียหันหน้ามามองซูหย่า นางไม่ได้สนใจเรื่องนั้นนักหรอกเนื่องจากพวกนางเป็นสตรีทั้งคู่ นางไม่รังเกียจที่จะเปิดเผยอะไรต่อหน้าซูหย่า แต่เห็นได้ชัดว่าซูหย่าใส่ใจและห่วงใยศิษย์ “ขี้อาย” ตัวน้อยของนาง
หลังจากให้คำแนะนำกับจวินอู๋เสียแล้ว ซูหย่าก็เดินลงบันได ทิ้งจวินอู๋เสียให้จัดการตัวเอง
จวินอู๋เสียถอดชุดคลุมตัวนอกออก เหลือเพียงชุดคลุมชั้นใน แล้วก้าวเข้าไปในสุราที่เย็นและสดชื่น สุราในสระหนาวเย็นเล็กน้อย ทันทีที่ลงไปในนั้น จวินอู๋เสียก็สั่นไปทั้งร่าง กลิ่นหอมเข้มข้นของสุราฟุ้งกระจายไปในอากาศ จวินอู๋เสียนั่งลงในสระหลังจากร่างกายปรับอุณหภูมิได้แล้ว
สระนั้นไม่ได้ลึกมาก สูงไม่ถึงหนึ่งเมตรด้วยซ้ำ เมื่อจวินอู๋เสียนั่งลง น้ำก็ถึงแค่คางของนางเท่านั้น ต่ำกว่าริมฝีปากนางประมาณสองนิ้ว
เอาแค่ความรู้สึก สุราก็ไม่ได้สัมผัสแตกต่างจากน้ำมากนัก จวินอู๋เสียไม่เข้าใจว่าทำไมซูหย่าถึงพูดว่าที่นี่อาจจะทำให้รู้สึกไม่สบาย
จวินอู๋เสียสงบจิตใจและแช่ตัวอยู่ในสระ
ก่อนที่ซูหย่าจะจากไป นางได้กล่าวว่า ตอนที่จวินอู๋เสียแช่ตัวอยู่ จะต้องปล่อยพลังจิตวิญญาณออกมาอย่างต่อเนื่อง แต่วิธีที่จวินอู๋เสียใช้พลังจิตวิญญาณนั้น แท้จริงแล้วเป็นการแปลงพลังจากพลังวิญญาณของนาง พลังจิตวิญญาณที่แท้จริงคืออะไรนางไม่รู้ ดังนั้นนางจึงทำได้แค่พยายามผลักดันพลังวิญญาณของนางออกมา
ในขณะที่นางปล่อยพลังวิญญาณออกมานั้นเอง ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่งกับร่างกายของนาง
ขณะที่พลังวิญญาณกระจายออกมาจากร่าง สุราที่อยู่รอบตัวจวินอู๋เสียซึ่งแนบชิดกับผิวของนางก็รู้สึกเหมือนว่ามันกำลังซึมเข้ามาในตัวนางอย่างช้าๆ ความรู้สึกเย็นที่ผิวหนังค่อยๆ แพร่กระจายไปทั่วทุกเส้นประสาท แช่เซลล์ทุกเซลล์ในร่างเอาไว้ในสุรา ในเวลาแค่ครู่เดียว จวินอู๋เสียยังไม่ได้ปล่อยพลังวิญญาณออกมามากมายอะไรนัก แต่ร่างกายของนางก็แสดงอาการเหนื่อยล้าและอ่อนเพลียเหมือนตอนที่นางใช้พลังไปจนหมด
สถานการณ์นี้ทำให้จวินอู๋เสียรู้สึกประหลาดใจ ร่างกายของนางรู้สึกเหมือนมีบางอย่างระบายออกไปจนหมด แต่พลังวิญญาณในเส้นลมปราณของนางก็ยังคงแข็งแกร่งดีอยู่
ความเย็นเล็กน้อยกลายเป็นความหนาวเหน็บกัดกระดูก ตอนนี้ข้างนอกเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิและดอกไม้กำลังเบ่งบาน แต่จวินอู๋เสียรู้สึกเหมือนถูกพายุหิมะโหมกระหน่ำเข้าใส่ หนาวมากจนปากซีดไม่มีสีโลหิต
แต่จวินอู๋เสียไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย ไม่ได้ใช้พลังวิญญาณปิดกั้นความหนาวเหน็บนั้น แต่อดทนอยู่อย่างเงียบๆ
ซูหย่าต้องมีเหตุผลที่สั่งให้นางทำเช่นนี้ ในเมื่อนี่คือการฝึก มันก็ย่อมไม่สะดวกสบายอยู่แล้ว เพื่อให้นางได้พลังและความสามารถมากขึ้น จวินอู๋เสียก็ไม่รังเกียจที่จะอดทน
เวลาผ่านไปจากวินาทีเป็นนาที จวินอู๋เสียสงบจิตใจตั้งสมาธิไปที่พลังวิญญาณ พยายามมองข้ามความรู้สึกไม่สบายตัวอย่างเต็มที่
เมื่อใจของนางสงบลงอย่างสมบูรณ์ ความหนาวเหน็บก็ดูเหมือนจะไม่ใช่สิ่งที่ทนไม่ได้
พลังวิญญาณขั้นสีม่วงของนางถูกดันออกไปทีละนิด และนั่นเป็นแค่การเริ่มต้นเท่านั้น