ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 201 หยกสงบวิญญาณ (3) ตอนที่ 202 หยกสงบวิญญาณ (4)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 201 หยกสงบวิญญาณ (3) ตอนที่ 202 หยกสงบวิญญาณ (4)
ตอนที่ 201 หยกสงบวิญญาณ (3)
ภายใต้กรงเล็บของเจ้าแมวดำ ดอกบัวขาวน้อยกอดเข่าของเขาไว้แน่นและเข้าไปซุกตัวอยู่ตรงมุมหนึ่งของห้องพร้อมกับส่งเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมาเป็นระยะๆ
จวินอู๋เสียเข้าไปอุ้มเจ้าดอกบัวขาวน้อยที่ร้องไห้อยู่ขึ้นมาไว้ในอ้อมแขนของนาง พูดปลอบใจเขาไปอย่างอดทนว่า
“เจ้าแน่ใจหรือว่านั่นคือหยกสงบวิญญาณ” จวินอู๋เสียเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเรื่องของหยกวิญญาณ…หรือหยกสงบวิญญาณตามที่เจ้าดอกบัวขาวน้อยเรียก หากหยกวิญญาณครึ่งหนึ่งนั้นเป็นหยกสงบวิญญาณของโลกภูติวิญญาณจริงๆ ก็สามารถอธิบายเรื่องที่มันมีพลังในการดูดซับจิตวิญญาณได้
ความสามารถของหยกสงบวิญญาณคือการปกป้องจิตวิญญาณและรักษาจิตวิญญาณ และมันมีผลต่อจิตวิญญาณที่ไม่สมบูรณ์เท่านั้น ดังนั้นถึงแม้ว่าคนธรรมดาจะสัมผัสโดนก็จะไม่มีความผิดปกติใดๆ เกิดขึ้น
แต่นางไม่เหมือนกัน จิตวิญญาณของนางและเจ้าแมวดำได้ผสานกันมานานแล้ว และตอนนี้พวกเขายังได้เดินทางข้ามมาจากอีกโลกหนึ่งแล้วครอบครองร่างกายของจวินอู๋เสีย จิตวิญญาณของนางและร่างกายนี้ไม่น่าจะผสานรวมกันได้อย่างสมบูรณ์ ฉะนั้นสำหรับหยกสงบวิญญาณแล้วจิตวิญญาณของนางจึงถือว่าไม่สมบูรณ์ ดังนั้นหยกสงบวิญญาณจึงต้องการซึมซับจิตวิญญาณของนางเข้าไปในหยกเพื่อทำการรักษา
“ข้า…ข้าไม่รู้ ข้ารู้แค่ว่ามันเหมือนกับรูปวาดที่ข้าเคยเห็นและมันก็มีพลังจิตวิญญาณของโลกภูติวิญญาณอยู่ด้วย” ภายใต้การปลอบโยนของจวินอู๋เสีย ในที่สุดสีหน้าของเจ้าดอกบัวขาวน้อยก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม เขาแอบมองเจ้าแมวดำและพบว่าแมวดำตัวน้อยยังคงจ้องมองเขาอยู่ เขาจึงรีบก้มหน้าเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตานั้นลงและซุกใบหน้าของเขาเข้าไปในอ้อมแขนของจวินอู๋เสีย
เจ้าแมวตัวร้าย
ดอกบัวขาวน้อยมั่นใจในรูปร่างและพลังของมันมาก ทั้งสองอย่างนี้บวกกับความรู้สึกของจวินอู๋เสียที่มีต่อหยกวิญญาณแล้ว สามารถยืนยันได้ว่ามันเป็นหยกสงบวิญญาณของจริง!
แต่เพราะเหตุใดสิ่งของของโลกภูติวิญญาณจึงมาปรากฏในรัฐชี
แท้จริงแล้วโลกภูติวิญญาณคือที่ใด สำนักชิงอวิ๋นต้องการหยกวิญญาณเพราะพวกเขารู้ว่าหยกวิญญาณคือหยกสงบวิญญาณอย่างนั้นหรือ
หยกวิญญาณหนึ่งชิ้นทำให้เกิดความไม่แน่นอนมากมาย และจวินอู๋เสียก็ไม่สามารถสืบหาเบาะแสใดๆ ในตอนนี้ได้
หากหยกวิญญาณคือหยกสงบวิญญาณของจริง แล้วหยกสงบวิญญาณมีพลังในการรักษาจิตวิญญาณล่ะก็ มีแนวโน้มอย่างมากที่หยกสงบวิญญาณจะเป็นสื่อกลางในการฟื้นคืนชีพให้จวินกู้!
สิ่งเดียวที่นางมั่นใจในตอนนี้คือนางจะไม่มีวันมอบหยกวิญญาณให้คนของสำนักชิงอวิ๋นเป็นอันขาด รวมถึงหยกอีกซีกที่อยู่ในมือของมั่วเฉี่ยนยวนด้วย นางจะหาวิธีเอามันมาให้ได้!
เมื่อทำการตัดสินใจแล้ว จวินอู๋เสียก็เตรียมพร้อมเข้าวังหลวงทันที
“ดึกมากแล้ว เจ้าจะไปไหนอีก” จวินอู๋เย่าเอนหลังพิงประตูด้วยท่าทางสบาย มองจวินอู๋เสียที่อยู่ในห้อง แต่สายตาของเขากลับค่อยๆ กวาดไปทางโลงศพที่เปิดอยู่ด้านข้าง
ความสนใจของเด็กน้อยของเขานั้นช่างพิเศษจริงๆ ถึงขั้นเอาโลงศพมาตั้งไว้ในห้องด้วย
จวินอู๋เสียหยุดชะงักไปเมื่อเห็นจวินอู๋เย่า แต่ครั้งนี้ใบหน้าของนางไม่ได้แสดงออกอย่างเย็นชาเหมือนที่ผ่านมา แต่เป็นใบหน้าที่เรียบเฉยแทน
“ไปกับข้า” จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้นและมองไปที่จวินอู๋เย่า
ครั้งนี้จวินอู๋เย่าหยุดชะงักไปจริงๆ
เขา…เพิ่งได้ยินอะไรไปนะ
ไปกับนางหรือ
นี่…เมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนเด็กน้อยของเขาเพิ่งจะแสดงท่าทีอ่อนโยนต่อเขา แต่ตอนนี้นางกลับจะหนีตามเขาไปแล้วหรือ
ความสุขเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน รอยยิ้มบนใบหน้าของจวินอู๋เย่าแทบชวนให้ผู้คนละลาย
จวินอู๋เย่าเดินไปหยุดอยู่ด้านข้างของจวินอู๋เสียด้วยอารมณ์ที่เบิกบาน ความอ่อนโยนในดวงตาของเขาทำให้ผู้ที่พบเห็นหัวใจเกือบต้องหยุดเต้นไปด้วยความหลงใหล
“ทุกที่บนโลกนี้ เจ้าอยากไปที่ใด”
จวินอู๋เสียมองจวินอู๋เย่าที่ยิ้มแย้มอย่างมีความสุขแล้วกล่าวอย่างมั่นใจว่า “วังหลวง”
“…”
“เจ้ามาพอดี ด้วยพลังของเจ้าแล้ว ไม่น่ามีปัญหาถ้าเจ้าจะพาข้าหลีกเลี่ยงคนของสำนักชิงอวิ๋นแล้วพาข้าเข้าไปในวังหลวง” จวินอู๋เสียกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง แม้ว่านางจะไม่รู้ว่าจวินอู๋เย่ามาจากที่ใด แต่นางก็มั่นใจในพลังของเขา
ตอนที่ 202 หยกสงบวิญญาณ (4)
รอยยิ้มที่มุมปากของจวินอู๋เย่ายังคงอยู่ แต่ความอ่อนโยนในดวงตาของเขาหายไปทันทีเหมือนกระแสน้ำที่ไหลไปแล้วไม่ย้อนกลับคืนมาอีก
จวินอู๋เสียผู้ไม่รู้เรื่องราวยังคงกล่าวต่อไปว่า “ครั้งนี้อย่าทำร้ายพวกเขา ข้าแค่ต้องการพบมั่วเฉี่ยนยวนเท่านั้น”
ดีมาก! ที่แท้นางแค่ต้องการให้เขาพานางไปพบกับอดีตองค์รัชทายาทที่สมควรตายนั่น!
ดวงตาของจวินอู๋เย่าเกิดความรู้สึกอยากฆ่าคนขึ้นมาอย่างรุนแรง ดีมาก ข้าจะพานางไปที่นั่นแล้วถือโอกาสสังหารฮ่องเต้องค์ใหม่ที่น่ารำคาญใจนั่นทิ้งไปเสีย
หลังจากไม่ได้ยินคำตอบของจวินอู๋เย่าสักที จวินอู๋เสียก็เงยหน้าขึ้นและมองไปที่เขา เมื่อเห็นความผิดปกติบนสีหน้าของจวินอู๋เย่า จวินอู๋เสียก็ลอบกัดริมฝีปากของตัวเอง
นางลืมไปว่าพวกเขาไม่ใช่คนแปลกหน้าที่เห็นแต่ผลประโยชน์กันอีกแล้ว
หลังจากเกิดใหม่ จวินอู๋เสียก็ได้เรียนรู้วิธีการแสดงออกและอยู่ร่วมกันระหว่างสมาชิกในครอบครัว ยกจวินเสี่ยนและจวินชิงขึ้นมาเป็นตัวอย่าง ริมฝีปากน้อยๆ ของนางอ้าขึ้น ประโยคที่ไม่คาดคิดว่าจะได้ยินเลยดังออกมาจากปากเล็กๆ ของนางอย่างแผ่วเบาว่า
“พี่ชาย”
“…” เหมือนมีฟ้าผ่าลงมากลางใจจวินอู๋เย่า
เมื่อฤดูหนาวผ่านพ้นไป ฤดูใบไม้ผลิก็มาถึง น้ำแข็งและหิมะละลาย ทุกอย่างพลันฟื้นคืนชีพ
ในชั่วพริบตา ความรู้สึกอยากฆ่าคนที่อัดแน่นอยู่เต็มหัวใจก็กลายเป็นแม่น้ำที่ไหลเข้ามาโอบชโลมหัวใจของจวินอู๋เย่า
จวินอู๋เย่าไม่พูดอะไรสักคำ ร่างของเขาโผล่มาปรากฏตัวอยู่ที่ด้านข้างของจวินอู๋เสียพร้อมกับวงแขนทรงพลังที่ยื่นออกไป ทันใดนั้นเขาก็รวบร่างเล็กกะทัดรัดของจวินอู๋เสียเข้ามาในอ้อมแขนของเขา สะกิดเท้าเบาๆ แล้วทะยานออกไปทันที
จวินอู๋เสียเอื้อมมือไปโอบคอของจวินอู๋เย่าไว้โดยไม่รู้ตัว พลังในการกระโดดส่งให้จวินอู๋เย่าขึ้นไปถึงบนท้องฟ้าทันที เขากอดร่างของนางไว้ เยื้องย่างอยู่กลางอากาศโดยมีดวงดาวที่ลอยอยู่เหนือศีรษะของเขาเป็นฉากหลัง แค่ดูก็เหมือนกับว่าจะยื่นมือไปเด็ดมันลงมาได้
“อู๋เสีย” เสียงของจวินอู๋เย่าดังก้องเข้ามาในหูพร้อมกับสายลม
“หือ”
“เรียกอีกครั้ง” มีความคาดหวังในน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำและแหบพร่าของเขา
จวินอู๋เสียหยุดชะงักไปครู่หนึ่ง ครุ่นคิดอยู่นานกว่าจะเข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร
“พี่ชาย”
วงแขนที่โอบตัวจวินอู๋เสียไว้ยิ่งรัดแน่นมากขึ้นไปอีก ราวกับว่าเขาต้องการจะหลอมรวมนางเข้าไปเป็นหนึ่งเดียวกับกระดูกและเส้นเลือดของเขา
“ต่อไปเจ้าอยากไปที่ใด อยากทำอะไรพี่ก็จะอยู่ข้างเจ้า ดีหรือไม่” จวินอู๋เย่าก้มศีรษะลงและมองจวินอู๋เสียที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา ทั้งๆ ที่เด็กน้อยตัวเบามาก แต่ในขณะนี้เขากลับรู้สึกหนักมากและรู้สึกว่าหากไม่ใช้แรงทั้งหมดที่มี นางก็จะหายไปจากอ้อมแขนของเขาอย่างเงียบๆ
จวินอู๋เสียมองจวินอู๋เย่าที่อารมณ์ไม่ค่อยปกตินัก ในใจก็อดที่จะสงสัยไม่ได้ แต่ไม่นานนางก็เข้าใจ
แม้ว่าบุรุษผู้นี้จะแข็งแกร่งมาก แต่บางทีในใจของเขาอาจเหมือนกับนาง
ครั้งแรกที่นางรู้สึกถึงความรักของจวินเสี่ยนและจวินชิงก็เป็นแบบนี้ไม่ใช่หรือ
นอกจากนางแล้ว จวินอู๋เย่าไม่เคยติดต่อกับใครเลย บางทีความรู้สึกที่เขามีต่อนางอาจเป็นเพราะบุญคุณที่ช่วยชีวิตเขาไว้แล้วกลายมาเป็นความรู้สึกแบบนี้
จวินอู๋เสียผู้มีความฉลาดทางอารมณ์ติดลบได้เชื่อมโยงความผิดปกติของจวินอู๋เย่ากับประสบการณ์ของนางในทันที
“อืม” นางพยักหน้าเล็กน้อย
นางมีท่านปู่และท่านอาเล็ก และบางทีนางอาจจะมีท่านพ่อในอนาคต จึงไม่แปลกใจถ้านางจะมีพี่ชายเพิ่มขึ้นมาอีกคน
จวินอู๋เย่ายิ้มด้วยความพอใจ เขาไม่รู้ว่าเพราะอะไรที่ทำให้เด็กน้อยที่โง่เขลาคนนี้เข้าใจเสียที แต่ไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไร ตอนนี้เขารู้สึกดีมาก
คนสองคนที่อยู่ใกล้ชิดกัน กลับมีความเข้าใจที่สวนทางกันอย่างสิ้นเชิงกับคำว่า ‘พี่ชาย’
ในจวนหลินอ๋อง แมวดำตัวน้อยนั่งอยู่ในลานมองขึ้นไปที่จุดดำที่เล็กลงเรื่อยๆ บนท้องฟ้าแล้วหนวดของมันก็สั่นไปมา
เจ้านายถูกคนโรคจิตลักพาตัวไปอีกแล้ว
เจ้านาย ท่านไม่ต้องการข้าแล้วหรือ
เอาข้าไปด้วยสิ!
เจ้าดอกบัวขาวน้อยที่ยืนอยู่ด้านข้างค่อยๆ ขยับขาป้อมสั้นของมันไปทางตู้เก็บยอดสุราธาราหยกที่อยู่ในห้องอย่างเงียบเชียบ