ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 205 พนัน (1) ตอนที่ 206 พนัน (2)
ตอนที่ 205 พนัน (1)
เพียงแค่เสียง ก็ทำให้ผู้คนเจ็บปวดมากถึงเพียงนี้ พลังที่แข็งแกร่งนั่นทำให้มั่วเฉี่ยนยวนตกใจเป็นอย่างมาก
พลังระดับปราณสีคราม พลังระดับปราณสีน้ำเงิน หรือว่าพลังระดับปราณสีม่วงในตำนานกัน…
มั่วเฉี่ยนยวนไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าพลังของจวินอู๋เย่านั้นอยู่ในระดับใด ไม่มีการปลดปล่อยพลังวิญญาณออกมา แต่ก็ยังแข็งแกร่งได้มากถึงเพียงนี้
ในโลกนี้ยังมีพลังที่น่ากลัวเช่นนี้อยู่อีกหรือ
“พอแล้ว” เสียงของจวินอู๋เสียดังขึ้นในเวลาที่เหมาะสม ไม่รู้ว่าเพราะจวินอู๋เย่าหรือไม่ บนร่างกายของนางจึงไม่ได้รับแรงกดดันอย่างเช่นที่มั่วเฉี่ยนยวนได้รับ ดังนั้นนางจึงไม่รู้สึกว่าพลังนั้นแข็งแกร่งมากเพียงใด แต่ดูจากสภาพของมั่วเฉี่ยนยวนแล้ว มันคงเจ็บปวดมาก
ทันทีที่เสียงของจวินอู๋เสียจบลง แรงกดดันทั้งหมดที่ปกคลุมอยู่รอบตัวมั่วเฉี่ยนยวนก็หายไปในทันที เขาลุกขึ้นยืนและมองจวินอู๋เย่าที่อยู่ด้านข้างด้วยความหวาดกลัว
ไม่คิดว่าข้างกายของจวินอู๋เสียจะยังมีบุคคลที่แข็งแกร่งเช่นนี้ซ่อนตัวอยู่ ถ้าเป็นแบบนี้ก็ไม่แปลกที่จวินอู๋เสียจะไม่กลัวสำนักชิงอวิ๋น
พลังที่แข็งแกร่งเช่นนี้อย่าว่าแต่คนยี่สิบกว่าคนที่อยู่ในวังหลวงเลย แม้ว่าเจ้าสำนักชิงอวิ๋นจะมาด้วยตัวเอง น่ากลัวว่าจะเป็นได้แค่เหยื่อที่ถูกทำร้ายเท่านั้น
“หยกวิญญาณ” จวินอู๋เย่ามองมั่วเฉี่ยนยวนแล้วกล่าว
มั่วเฉี่ยนยวนเช็ดเลือดตรงมุมปากของเขาและแอบมองจวินอู๋เย่า ตอนนี้เขาไม่กล้าที่จะลังเลอีกต่อไป จึงรีบตรัสสั่งให้คนไปนำหยกวิญญาณมาทันที
“อู๋เสีย” หลังจากที่มั่วเฉี่ยนยวนตรัสสั่งเสร็จแล้ว เขาก็กล่าวกับจวินอู๋เสียอย่างระมัดระวังว่า “เจ้าบอกว่าเจ้ามีวิธีจัดการกับสำนักชิงอวิ๋น คือเจ้าตั้งใจจะให้…พี่ชายของเจ้าจัดการ ทำให้พวกเขา…” มั่วเฉี่ยนยวนทำท่าปาดคอ
“ใช่” จวินอู๋เสียไม่คิดที่จะปิดบัง
ดวงตาของมั่วเฉี่ยนยวนเบิกโพลงด้วยความตกใจ
นี่ถึงกับจะลงมือฆ่าแกงกันเลยหรือ
โหดร้ายเกินหน่อยไปหรือไม่
“แม้ว่าคนของสำนักชิงอวิ๋นจะไม่ค่อยดี แต่พวกเขาก็ไม่ได้ฆ่าคนหรือทำเรื่องอะไรที่รุนแรง เจ้าถึงขั้นจะ…ไม่เกินไปหน่อยหรือ” แม้ว่ามั่วเฉี่ยนยวนจะรู้สึกว่าสำนักชิงอวิ๋นจะต้องไม่ยอมเรื่องหยกวิญญาณอย่างแน่นอน แต่เขาก็รับไม่ได้ที่จวินอู๋เสียจะลงมือฆ่าพวกเขา
นอกจากนี้ สำนักชิงอวิ๋นไม่ได้มีแค่คนเหล่านี้ หากลงมือกับพวกเขาแล้ว สำนักชิงอวิ๋นจะต้องโจมตีกลับมาอย่างแน่นอน
จวินอู๋เย่าแค่คนเดียวสามารถรับมือกับการแก้แค้นของสำนักชิงอวิ๋นทั้งหมดได้หรือ
ถ้าเป็นไปได้ มั่วเฉี่ยนยวนก็ยังคงหวังว่าเรื่องทั้งหมดนี้จะสามารถใช้สันติวิธีไกล่เกลี่ยเพื่อหยุดยั้งความขัดแย้งได้
จวินอู๋เสียไม่ได้พูดอะไรอีก นางเพียงแค่มองไปที่มั่วเฉี่ยนยวนที่กำลังลังเลใจอยู่ นางเข้าใจความเป็นห่วงของมั่วเฉี่ยนยวน ตอนนี้เขาเป็นฮ่องเต้รัฐชี ฉะนั้นทุกอย่างที่เขาทำเขาต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของทั้งรัฐชีเป็นหลัก แต่…ใจอ่อนเกินไปก็ไม่เหมาะกับการเป็นฮ่องเต้ของแผ่นดิน
จวินอู๋เสียหลับตาลงและกล่าวอย่างช้าๆ ว่า “เจ้าคิดว่าข้าโหดเหี้ยมเกินไปหรือ”
เมื่อจวินอู๋เสียเอ่ยถามออกไป มั่วเฉี่ยนยวนก็รู้สึกว่ามีสายตาที่แข็งกร้าวมองมาที่ตัวเขาอีกครั้ง
“ไม่ใช่ ข้าแค่คิดว่าไม่จำเป็นต้องทำให้เกิดการสังหารที่ไม่จำเป็น”
จวินอู๋เสียมองสำรวจมั่วเฉี่ยนยวน ที่นางเลือกมั่วเฉี่ยนยวนให้ขึ้นครองบัลลังก์นั้น เป็นเพราะเขาซื่อสัตย์และถ่อมตน ไม่มีจิตใจที่เหี้ยมโหดเยี่ยงหมาป่าเหมือนกับบิดาและน้องชายของเขา นี่เป็นโล่ที่นางเลือกไว้เพื่อปกป้องสกุลจวินของนาง แต่ตอนนี้โล่นี้มันกว้างและหนาเกินไปแต่ยังมีความคมไม่พอ
ป้องกันได้ แต่โจมตีกลับไม่ได้
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง จวินอู๋เสียก็กล่าวต่อว่า “ใจอ่อนเหมือนสตรี”
ใบหน้าของมั่วเฉี่ยนยวนเริ่มแข็งทื่อ ไม่ใช่ว่าเขาใจอ่อนเกินไป แต่การกระทำของจวินอู๋เสียนั้นโหดเหี้ยมเกินไป
“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ข้าจะพนันกับเจ้าครั้งหนึ่ง” จวินอู๋เสียหันศีรษะไปมองมั่วเฉี่ยนยวน โล่นี้ควรได้รับการขัดเกลาแล้ว
“เจ้าจะพนันอะไร”
“พนันว่าสำนักชิงอวิ๋นจะรนหาที่ตายหรือไม่” ดวงตาของจวินอู๋เสียหรี่ลงเล็กน้อย
ตอนที่ 206 พนัน (2)
“เจ้าหมายความว่าอย่างไร” มั่วเฉี่ยนยวนใจสั่นขึ้นมาทันที
“ข้าต้องได้หยกวิญญาณและข้าจะไม่มีวันมอบมันให้กับผู้อื่น เจ้าคิดว่าการที่ข้าฆ่าพวกเขาโดยไม่มีเหตุผลมันโหดร้ายเกินไปมิใช่หรือ ถ้าอย่างนั้นเราก็มาดูกันว่าหากสำนักชิงอวิ๋นรู้ว่าหยกวิญญาณอยู่ที่ข้า แต่ข้าไม่ยอมมอบให้พวกเขาแล้ว พวกเขาจะทำอย่างไร” เดิมทีจวินอู๋เสียตั้งใจจะลงมือก่อนแต่ตอนนี้นางล้มเลิกความคิดนั้นแล้ว
ไม่ใช่เพื่ออย่างอื่น แต่เพื่อให้มั่วเฉี่ยนยวนกลายเป็นดาบที่แหลมคมในขณะที่เป็นโล่ด้วย
นิสัยที่อ่อนโยนของเขามีทั้งข้อดีและข้อเสีย
สกุลจวินอาจจะเจอปัญหาอื่นๆ ในอนาคต จวินอู๋เสียจึงไม่ต้องการให้มั่วเฉี่ยนยวนแสดงความเห็นอกเห็นใจของเขาออกมาทุกครั้ง เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในอนาคต นางไม่รังเกียจที่จะขัดเกลาเขาก่อน
มีเพียงวิธีที่ทำให้เขาตระหนักถึงความโหดร้ายของศัตรูเท่านั้น ที่จะทำให้เขาเข้าใจว่าความใจอ่อนเหมือนสตรีก็คือการรนหาที่ตาย
“พรุ่งนี้เจ้าไปบอกคนของสำนักชิงอวิ๋นว่าหยกวิญญาณในมือของเจ้าและของข้าได้ถูกฝังไปพร้อมกับบรรพบุรุษแล้วจึงหวังว่าพวกเขาจะยอมรามือ” สำหรับสิ่งที่สำนักชิงอวิ๋นจะทำ มันก็ไม่ใช่สิ่งนางสามารถควบคุมได้
ดวงตาของมั่วเฉี่ยนยวนสับสนมาก เขาไม่คิดว่าจวินอู๋เสียจะล้มเลิกความคิดที่จะลงมือจริงๆ เขารู้สึกว่าจุดประสงค์ของจวินอู๋เสียไม่ง่ายขนาดนั้น
“ได้ ข้าจะลองดู” มั่วเฉี่ยนยวนถอนหายใจ
เจียงเฉินชิงไม่ใช่คนที่สามารถพูดคุยได้ง่าย แต่ดูเหมือนว่าฉินอวี่เยียนจะเป็นคนที่มีเหตุผลมากกว่า
ในขณะที่ทั้งสองกำลังพูดคุยกัน องครักษ์ก็ได้นำหยกวิญญาณเข้ามาและมั่วเฉี่ยนยวนก็รับมันมาแล้วยื่นมันให้กับจวินอู๋เสีย
หยกสงบวิญญาณครึ่งชิ้นได้ถูกวางไว้ในกล่องผ้า หลังจากที่จวินอู๋เสียตรวจสอบแล้ว นางก็ปิดกล่องผ้าแล้วเก็บมันกลับไป
มั่วเฉี่ยนยวนเคยเห็นหยกวิญญาณมาก่อนแล้ว แต่เขาไม่เคยรู้สึกว่ามันสำคัญอย่างไรและเขาก็ไม่คิดว่าหยกวิญญาณชิ้นเล็กๆ ชิ้นนี้จะทำให้จวินอู๋เสียถึงขั้นยอมเผชิญหน้าสำนักชิงอวิ๋นโดยไม่สนใจอะไรเลย เขาไม่อยากถามเหตุผลว่าเป็นเพราะเหตุใด เพราะไม่ว่าจวินอู๋เสียจะทำอะไรนางก็มีเหตุผลของนางเสมอ
เมื่อได้รับสิ่งของมาแล้ว การพนันก็ได้ตกลงกันเรียบร้อยแล้ว จวินอู๋เสียก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก นางหันหลังแล้วเดินออกจากห้องทันทีโดยมีจวินอู๋เย่าเดินตามหลังนางออกไป
หลังจากออกมาจากห้อง จวินอู๋เสียก็เงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวแล้วหันไปมองจวินอู๋เย่าที่เดินตามหลังนางมาติดๆ จวินอู๋เย่ายิ้มมุมปากแล้วดึงตัวนางเข้ามาในอ้อมแขนของเขา สะกิดปลายเท้าเบาๆ แล้วบินขึ้นไปบนท้องฟ้าอีกครั้ง
องครักษ์ที่อยู่ด้านนอกตำหนักเงยหน้าขึ้น มองดูร่างที่บินขึ้นไปบนท้องฟ้า หายเข้าไปในความมืดมิดพร้อมกับสายลมด้วยความตกใจแล้วลอบกลืนน้ำลายของพวกเขาอย่างเงียบๆ
ท่ามกลางท้องฟ้ายามราตรี สายลมเย็นพัดเอื่อย แต่อุณหภูมิที่ต่ำลงกลับไม่ได้ทำให้จวินอู๋เย่ารู้สึกถึงความเย็นเลย ทั้งๆ ที่คนในอ้อมแขนของเขาเป็นคนที่เย็นชามาก แต่เมื่อมาอยู่ในอ้อมแขนของเขาแล้วมันกลับอบอุ่นมาก
“เพราะเหตุใดเจ้าถึงต้องไปเสียเวลาพนันกับเจ้าโง่นั่นด้วย”
ถ้ารู้สึกว่าไม่ควรเก็บไว้ ก็ไม่จำเป็นต้องเก็บไว้
“มีดที่ดีก็ต้องลับให้คม ตอนนี้ข้าให้โอกาสเขาครั้งหนึ่ง” อาจเป็นเพราะคำจำกัดความที่มีต่อจวินอู๋เย่าในใจของนางเปลี่ยนไป จึงทำให้จวินอู๋เสียสามารถพูดคุยกับเขาได้มากขึ้น
มีดที่ดีหรือ จวินอู๋เย่าเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยโดยไม่แสดงความคิดเห็น
“มั่วเฉี่ยนยวนฉลาดมาก สิ่งที่อดีตฮ่องเต้ไม่ได้สอนเขา ข้าสามารถสอนได้ รัฐชีต้องการฮ่องเต้ ส่วนข้าต้องการคนที่กตัญญูต่อสกุลจวิน” ไม่มีความเมตตากรุณาอย่างแท้จริงในการเป็นฮ่องเต้ แต่มั่วเฉี่ยนยวนได้ถูกอดีตฮ่องเต้ทอดทิ้งตั้งแต่เนิ่นๆ จะได้เรียนรู้วิถีการเป็นฮ่องเต้ได้อย่างไร จวินอู๋เสียจึงไม่รังเกียจที่จะสอนเขาให้เป็นฮ่องเต้ที่ทรงคุณวุฒิด้วยตัวเอง
“เสี่ยวเสียเอ๋อร์ของข้าดีต่อเขาจริงๆ” จวินอู๋เย่ายิ้มแล้วกล่าว แต่ไม่มีรอยยิ้มในดวงตาของเขาแม้แต่น้อย