ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 241 ล้วนเก็บไว้ให้เจ้า (3) ตอนที่ 242 กลับมามีชีวิตอีกครั้ง (1)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 241 ล้วนเก็บไว้ให้เจ้า (3) ตอนที่ 242 กลับมามีชีวิตอีกครั้ง (1)
ตอนที่ 241 ล้วนเก็บไว้ให้เจ้า (3)
“ท่านจ้องข้าไปก็ไม่มีประโยชน์ ไม่ใช่ข้าเกลือเป็นหนอน แต่ท่านไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจวินอู๋เสียจริงๆ” ไป๋อวิ๋นเซียนชะงักไปนิดหน่อย ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะคิดว่าบอกฉินอวี่เยียนก็คงไม่เป็นไรกระมัง อย่างไรนางก็ตายแน่แล้ว จึงไม่จำเป็นที่จะต้องปิดซ่อนเรื่องพวกนี้อีก หญิงสาวโพล่งออกไปว่า “ข้าจะบอกความจริงให้ท่านฟัง พิษบนตัวของมั่วเซวี่ยนนั่นน่ะ แท้จริงแล้วก็คือจวินอู๋เสียนี่แหละที่เป็นคนวางยาพิษเขา แล้วนางก็วางยาพิษชนิดเดียวกันในตัวของข้าด้วย วันนั้นข้าตั้งใจพาท่านกับเจียงเฉินชิงไปวินิจฉัยอาการให้มั่วเซวี่ยนเฝ่ยจริงๆ ต้องการดูว่าท่านกับเจียงเฉินชิงจะสามารถหลอมยาถอนพิษออกมาได้หรือไม่ ถ้าหากพวกท่านทำได้ ข้าก็จะสารภาพความจริงกับพวกท่านทั้งหมด”
“แต่น่าเสียดาย พวกท่านทำให้ข้าผิดหวังมากจริงๆ ในเมื่อพวกท่านทั้งสองคนไม่แม้แต่จะตรวจสอบได้ว่าจวินอู๋เสียวางยาพิษ แล้วข้าจะกล้าปากเปราะบอกทุกอย่างกับพวกท่านได้อย่างไร ศิษย์พี่หญิง ไม่ใช่ท่านชอบพูดอยู่เสมอเหรอว่าทักษะทางการแพทย์ของท่านนั้นโดดเด่นและยอดเยี่ยมเป็นที่สุด ทำไมวันนี้แม้แต่พิษของยัยเด็กนั่นก็แก้ไม่ได้แล้วเล่า” ไป๋อวิ๋นเซียนในที่สุดก็มีอารมณ์แสดงรอยยิ้มออกมา
มนุษย์ตายเพราะความโลภ นกตายเพราะอาหาร ใครต่างก็มีด้านที่เห็นแก่ตัวด้วยกันทั้งนั้น
นางเพียงแค่อยากช่วยชีวิตตัวเอง
มันผิดตรงไหน!
เมื่อคิดว่าฉินอวี่เยียนที่ชอบเชิดหน้ามองว่าคนอื่นต่ำกว่าตัวเองเสมอ ก็พ่ายแพ้ต่อจวินอู๋เสียเช่นกัน ไป๋อวิ๋นเซียนก็รู้สึกเริงร่า สะใจอยู่นิดๆ ในทำนองเดียวกันความกลัวที่นางมีต่อจวินอู๋เสียก็ยิ่งฝังลึกมากขึ้นไปอีก
ด้วยทักษะทางการแพทย์ที่แม้แต่สำนักสำนักชิงอวิ๋นก็ยังได้แต่แหงนมอง แถมยังมีผู้เชี่ยวชาญจำนวนหนึ่งซึ่งคาดเดาระดับความแข็งแกร่งได้ยากยืนอยู่ข้างกาย แม้ว่าไป๋อวิ๋นเซียนจะมีความกล้ามากกว่านี้อีกเป็นร้อยเท่า นางก็ไม่กล้าต่อกรกับจวินอู๋เสียหรอก นางขอแค่มีชีวิตอยู่ต่อไป ความเกลียดแค้นชิงชังในใจแม้แต่เล็กน้อยนางก็ไม่กล้ามี
ฉินอวี่เยียนพูดอะไรไม่ออก ด้วยความเจ็บปวดเข้ากระดูกที่กำลังทรมานนางอยู่ในขณะนี้ จึงทำได้เพียงถลึงตาจ้องไปที่ไป๋อวิ๋นเซียนอย่างเจ็บแค้นและอยากจะกลืนนางลงท้องเท่านั้น!
“แพศ…ยา” ฉินอวี่เยียนกัดฟันพ่นออกมาได้คำหนึ่ง แต่แล้วก็ต้องกระอักเลือดออกมาคำโต
“ศิษย์พี่หญิง ข้าแนะนำให้ท่านเก็บแรงไว้จะดีกว่า จวินอู๋เสียไม่ยอมให้ท่านตายง่ายๆ หรอก ดูจากยาพิษที่นางกรอกใส่ปากท่าน หากข้าจำไม่ผิด นั่นเป็นผลงานที่น่าภาคภูมิใจของท่านไม่ใช่เหรอ ท่านน่าจะรู้ดีกว่าข้าว่าพวกมันทำอะไรได้บ้าง ขอเพียงแค่ท่านไม่ขยับ อย่างน้อยๆ ก็น่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกสักสองสามวัน จวินอู๋เสียอาจยังเด็ก แต่อย่าได้มองว่านางอายุน้อยแล้วจะจัดการได้ง่ายๆ นางน่ะ อำมหิตและฉลาดกว่าที่ท่านคิดไว้นัก เป็นเด็กสาวที่ฉลาดที่สุดเท่าที่เคยพบมาตลอดทั้งชีวิตนี้เลย ท่านคิดว่าทำไมจู่ๆ รัฐชีถึงได้เปลี่ยนฮ่องเต้เล่า ถูกต้องแล้ว มันคือแผนการของนางทั้งหมด นางก็คือผู้ที่ชักใยอยู่เบื้องหลัง ส่วนอดีตฮ่องเต้ตัวจริงน่ะเหรอ ป่านนี้คงกำลังดิ้นทุรนทุรายอยู่ไม่สู้ตายอยู่ในคุกหลวงใต้ดินกระมัง ท่านมองนางเป็นเด็กสาววัยรุ่นธรรมดาคนหนึ่งแล้วต่อกรด้วย ไร้เดียงสาเกินไปแล้ว!” ไป๋อวิ๋นเซียนกล่าวอย่างมีเจตนาร้ายแอบแฝง
ในอดีตยามอยู่ที่สำนักชิงอวิ๋นฉินอวี่เยียนมักจะกดหัวนางให้ต่ำกว่านางเสมอ เวลานี้เมื่อได้โอกาสเอาคืน นางจะไม่ใช้มันอย่างยินดีได้อย่างไรเล่า
การแก้แค้นที่เกือบจะบิดเบี้ยวนี้ ไป๋อวิ๋นเซียนพบว่ามันได้ให้ความสุขกับนางเล็กน้อย
ฉินอวี่เยียนอยากจะฆ่าไป๋อวิ๋นเซียนนางคนทรยศนี้ให้รู้แล้วรู้รอด แต่หลังจากได้ฟังคำพูดของไป๋อวิ๋นเซียน หัวใจของนางก็มีแต่ความหวาดกลัวไม่รู้จบ
ยาพิษที่นางสร้างขึ้นมาเองกับมือ จะไม่ฆ่าคนพวกนั้นทันทีแต่จะค่อยๆ ทรมานอีกฝ่ายจนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต เรียกได้ว่าอยู่ไม่สู้ตายเลยทีเดียว!
นาง…ต่อให้ฝันก็ยังคิดไม่ถึงว่ายาพิษของตัวเองนี้จะเข้ามาอยู่ในร่างของตัวเองสักวัน
คำพูดของไป๋อวิ๋นเซียน เกรงว่าจะเป็นความจริงทั้งหมด
จวินอู๋เสียไม่ได้ฆ่านางให้ตายในดาบเดียว ไม่ใช่ว่าต้องการปล่อยนางไป แต่ต้องการให้นางได้ลิ้มรสความเจ็บปวดไม่มีที่สิ้นสุดจนถึงลมหายใจสุดท้ายของชีวิต แล้วให้ความตายเป็นฝ่ายปลดปล่อยนาง
ตอนนี้แม้แต่ ‘ความตาย’ สำหรับฉินอวี่เยียนก็ยังนับว่าเป็นสิ่งที่หรูหรา!
“อวิ๋น…เซียน…ฆ่า…ฆ่าข้า” ฉินอวี่เยียนพูดพลางกระอักเลือด น้ำตาไหลอาบหน้าไม่หยุด
ไป๋อวิ๋นเซียนชำเลืองมองนาง ตบแขนเสื้อของตัวเองแล้วพูดว่า “ศิษย์พี่หญิง ท่านก็ค่อยๆ สนุกกับงานอดิเรกของท่านไปเถอะ นี่ท่านยังมองไม่ออกอีกเหรอว่าจวินอู๋เสียกำลังล้างแค้นท่านแทนมั่วเฉี่ยนยวน!”
ตอนที่ 242 กลับมามีชีวิตอีกครั้ง (1)
สัตว์ร้ายสีดำแบกร่างมั่วเฉี่ยนยวนตามหลังจวินอู๋เสียเข้าไปในห้องบรรทมของเขาในตำหนักที่ประทับส่วนพระองค์ นางกำนัล ขันที และเหล่าองครักษ์ประจำตำหนัก เมื่อเห็นว่าจวินอู๋เสียมาต่างก็พากันหลีกทางให้นาง ไม่มีใครกล้าหยุดนางไว้แม้แต่คนเดียว พวกเขาได้แต่ชะเง้อคอมองตามหญิงสาวเดินนำคนอื่นๆ เข้าไปในห้องบรรทมอย่างเงียบๆ
อาการบาดเจ็บของมั่วเฉี่ยนยวนเรียกได้ว่าสาหัสมาก ไม่เพียงพิษที่แล่นอยู่ในร่าง แต่บาดแผลน้อยใหญ่ตามตัวของเขาก็ค่อนข้างตึงมือเล็กน้อย
จวินอู๋เสียขอให้บัวหิมะมัวเมายกร่างมั่วเฉี่ยนยวนขึ้นไปนอนบนเตียง จากนั้นก็ควานเอาโอสถวิเศษและเม็ดยาขนานต่างๆ ซึ่งนำติดตัวมาด้วยยัดใส่ปากของเขา ก่อนจะดึงเข็มเงินออกมา ฝังเข็มลงไปตามจุดสำคัญต่างๆ บนร่างกายมั่วเฉี่ยนยวนด้วยเวลาที่สั้นที่สุด
เห็นเพียงแต่เลือดสีดำที่เกิดจากพิษค่อยๆ ไหลซึมออกมาตามเข็มแล้วหยดลงบนพื้นเตียงนอน จวินอู๋เสียไม่ได้หยุดมือของนางแค่นั้น แต่ป้อนเม็ดยาเข้าปากเขาไปอีกสามเม็ด แล้วหันไปจัดการบาดแผลภายนอกบนตัวต่อ
ตั้งแต่ต้นจนจบจวินอู๋เย่ากอดอกยืนยิ้มอยู่ด้านข้าง มองไปที่จวินอู๋เสียที่กำลังกระวีกระวาดช่วยคนอย่างหลงใหล
เหมียว
เจ้านาย ฮ่องเต้โง่ผู้นี้บาดเจ็บสาหัสมากจริงๆ
เจ้าสัตว์ร้ายสีดำที่แบกมั่วเฉี่ยนยวนไว้บนหลังมาตลอดทางเลียอุ้งเท้าของมัน มันรู้สึกได้ว่าลมหายใจของมั่วเฉี่ยนยวนนั้นแผ่วเบาและอ่อนแรงมาก เกือบจะเหมือนคนที่ตายไปแล้วเลย
กระดูกหลายท่อนในตัวของเขาหัก เส้นเอ็นและเส้นเลือดถูกตัดขาด เขาเสียเลือดมาก อวัยวะภายในหลายจุดก็ค่อยๆ ล้มเหลวแล้ว แผลที่ยังไม่ได้รับการรักษาของเขา เริ่มอักเสบและติดเชื้อ เขาไข้ขึ้น เริ่มแสดงอาการขาดน้ำให้เห็น บวกกับพิษในร่างกาย หากโยนออกไปกลางถนน ไม่รอให้ถึงครึ่งอึดใจคงได้ไปเยือนปรโลกสมใจ
เหมียว?
ท่านจะช่วยเขาจริงเหรอ ต่อให้ช่วย ข้าว่าท่านก็เปลืองแรงเปล่า ทำไมเราไม่หาฮ่องเต้พระองค์ใหม่แล้วสนับสนุนเขาให้ขึ้นครองบัลลังก์แทนล่ะ
จวินอู๋เสียขมวดคิ้วมุ่น ไม่สนใจคำพูดของเจ้าสัตว์ร้ายสีดำ
แต่คำพูดของเจ้าสัตว์ร้ายสีดำก็ทำให้ดวงตาของนางเย็นเยียบลง
ถ้าไม่ใช่เพราะสำนักชิงอวิ๋นลงมือโหดเหี้ยมไร้มนุษย์ธรรมเช่นนี้ นางก็คงไม่ต้องมาวุ่นวายแบบนี้!
มั่วเฉี่ยนยวนถูกอดีตฮ่องเต้วางแผนทำร้ายมาตั้งแต่เด็กๆ พิษดอกข้าวสาลีรัตติกาลที่สะสมอยู่ในตัวเขาเป็นเวลานานปี แทรกซึมเข้าสู่ร่างกายของเขาผ่านยอดสุราธาราหยกที่เขาใช้ดื่มเป็นประจำทุกวัน เนื่องจากการสะสมของพิษ กระดูกในร่างกายของมั่วเฉี่ยนยวนจึงเปราะบางมาก จวินอู๋เสียใช้ความพยายามเป็นอย่างมากกว่าที่จะฟื้นความแข็งแกร่งให้กับร่างกายของเขาได้ นางใช้เม็ดยาไปนับไม่ถ้วน แม้แต่เมล็ดบัวของเจ้าดอกบัวขาวน้อยที่แสนหายากนางก็ยังยอมสละให้แก่เขา แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ สำนักชิงอวิ๋นกลับทำให้มันสูญเปล่าในพริบตา ภายใต้การทรมานของสำนักชิงอวิ๋น เท้าครึ่งหนึ่งของมั่วเฉี่ยนยวนก็ได้ก้าวเข้าไปในประตูยมโลกแล้ว
“เจ้านี่ ชีวิตช่างประสบวิบากกรรมมากจริงๆ” บัวหิมะมัวเมายืนพิงขอบเตียงแล้วมองดูมั่วเฉี่ยนยวนที่นอนอยู่บนเตียงด้วยสายตาสงสาร อดคิดในใจไม่ได้ว่าชีวิตคนผู้นี้มันโศกนาฏกรรมชัดๆ ขนาดเขาที่เป็นคนโฉดแล้วก็ยังอดไม่ได้รู้สึกสงสารจับใจ
ไม่ต้องพูดถึงว่าบิดาแท้ๆ ของตัวเองสังหารมารดาผู้ให้กำเนิดและครอบครัวฝั่งมารดาจนหมด ไอ้เจ้าคนไร้คุณธรรมนั่นยังสมคบคิดกับบุตรชายซึ่งเป็นน้องชายต่างมารดาของมั่วเฉี่ยนยวนวางยาพิษเขา! ไม่ง่ายเลยกว่าที่จวินอู๋เสียจะพบเขาและฉุดเขาขึ้นมาจากขุมนรก แต่ทั้งที่เพิ่งจะขึ้นเป็นฮ่องเต้ได้ไม่เท่าไร กลับถูกคนของสำนักชิงอวิ๋นสารเลวนั่นทำร้ายจนปางตายขนาดนี้ ไม่รู้ว่าแปดอักษรของหมอนี่มันมีจุดไหนตกหล่นไปหรือไม่
“หุบปากซะ!” จวินอู๋เสียปรามอย่างเย็นชา ตอนนี้อาการของมั่วเฉี่ยนยวนนั้นร้ายแรงมาก และนางก็มีปัญหามากมายให้ต้องจัดการและแก้ไข แต่เจ้าหนึ่งสัตว์ร้ายกับหนึ่งดอกบัวนี่กลับเอาแต่พ่นเรื่องไร้สาระข้างหูนางไม่รู้จบ
หากไม่ใช่เพราะเวลาไม่คอยท่า นางจะแทงเข็มเงินใส่เจ้าพวกนี้คนละจึกสองจึก ปิดผนึกจุดใบ้ของพวกเขาเสียให้รู้แล้วรู้รอด!
บัวหิมะมัวกับเจ้าสัตว์ร้ายสีดำสงบเสงี่ยมขึ้นมาทันที มองจากท่าทางของจวินอู๋เสีย ดูเหมือนนางจะตั้งใจช่วยให้มั่วเฉี่ยนยวนรอดจริงๆ
จวินอู๋เสียจดจ่ออยู่แต่กับการรักษามั่วเฉี่ยนยวน นิ้วมือที่ขาวผ่องเรียวงามขยับราวกับได้รับพลังจากสวรรค์ เข็มที่ปลายนิ้วโลดแล่นผ่านอากาศราวกับร่ายรำอยู่ก็มิปาน
เริ่มที่ขับพิษออกจากร่างกาย จากนั้นก็ป้อนเม็ดยาเม็ดยาเสริมโลหิตเพื่อชดเชยเลือดที่เสียไป แล้วให้เขาจิบน้ำอุ่นบ่อยๆ ค่อยมาซ่อมแซมกระดูก เส้นเอ็นกับเส้นเลือดที่ฉีกขาดเสียหายไป สุดท้ายก็เย็บปิดบาดแผลภายนอก….
ตลอดกระบวนการรักษา ภาพในหัวของจวินอู๋เสียก็ถูกร่างเอาไว้เป็นฉากๆ