ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 287 ตบหน้าครั้งที่ห้า (9) ตอนที่ 288 ตบหน้าครั้งที่ห้า (10)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 287 ตบหน้าครั้งที่ห้า (9) ตอนที่ 288 ตบหน้าครั้งที่ห้า (10)
ตอนที่ 287 ตบหน้าครั้งที่ห้า (9)
เมื่อสักครู่ เข็มเงินที่เจ้าเด็กคนนี้ปล่อยออกมาทั้งหมดล้วนเป็นเข็มเงินธรรมดา ไม่มีร่องรอยของการเคลือบยาพิษใดๆ แม้แต่น้อย กับเข็มเงินธรรมดาๆ แบบนี้ ต่อให้เขาโดนซัดใส่สักร้อยดอกก็ไม่เป็นไร ตราบเท่าที่ไม่โดนยังจุดสำคัญ นั่นเรียกว่าแทบจะไม่สร้างความเสียหายใดๆ สักนิด
แม้ว่าเคอฉังจวีจะไม่แน่ใจว่าเขาจะสามารถหลบหลีกเข็มเงินทั้งหมดที่จวินอู๋เสียซัดมาพ้น แต่เขาก็มั่นใจได้อย่างหนึ่งว่าตัวเองจะสามารถหลีกเลี่ยงจุดสำคัญ ไม่ทำให้ชีวิตต้องตกอยู่ในอันตราย
เด็กน้อยคนนี้ร้อยพันพิษไม่กล้ำกรายก็จริง แต่สหายของนางกลับไม่ได้โชคดีอย่างนั้น!
ดวงตาเจ้าเล่ห์ของเคอฉังจวีมองไปที่เฉียวฉู่ซึ่งยืนเซอยู่ด้านหลังจวินอู๋เสียอย่างชั่วร้าย
เฉียวฉู่ปลดปล่อยพลังวิญญาณออกมาห่อหุ้มร่างกายของเขาไว้ แต่เขาก็ยังคงได้รับอันตรายจากพิษควันเดียวดายอยู่ดี เวลานี้ผิวหนังทั่วทั้งร่างกายของเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำผิดปกติ นี่คือผลของการถูกยาพิษควันเดียวดายอย่างแน่นอน
อีกไม่นานเฉียวฉู่ก็จะตาย
นอกจากพิษแล้วเคอฉังจวีก็ไม่มีความสามารถในด้านการต่อสู้ใดๆ อีก หากเขาเผชิญหน้ากับบุคคลที่มีพลังวิญญาณที่ทรงพลัง สิ่งที่รอเขาอยู่ก็มีเพียงความทุกข์ยากและความตายเท่านั้น
แต่ตอนนี้เด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาดูเหมือนจะไม่มีพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งขนาดนั้น เมื่อพิจารณาจากอายุของนาง นางน่าจะเพิ่งปลุกวงแหวนภูติวิญญาณขึ้นมาหมาดๆ ระดับพลังวิญญาณคงเพิ่งจะแตะขั้นสีแดงเท่านั้นกระมัง กับผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีแดงเล็กๆ ไม่มีอะไรให้เคอฉังจวีต้องหวาดกลัวเลยจริงๆ
ความกังวลในหัวใจถูกปัดให้หายไป ใบหน้าของเคอฉังจวีก็กลับมาแสดงรอยยิ้มบิดเบี้ยวน่าขยะแขยงอีกครั้ง
จวินอู๋เสียเหล่มองเคอฉังจวีที่มีสีหน้าท่าทางเปลี่ยนไป ก้มมองขวดกระเบื้องเคลือบที่ใส่ยาพิษในมือแล้วพูดขึ้นว่า “ที่แท้เจ้าสิ่งนี้ก็มีชื่อเรียกว่าเม็ดยากร่อนกระดูกหรือ”
คำพูดนั้นของจวินอู๋เสีย แทบจะทำให้เคอฉังจวีระเบิดเสียงหัวเราะออกมาแล้ว เขารู้สึกมั่นใจมากยิ่งขึ้น เด็กน้อยตรงหน้า ขนาดยาพิษที่อยู่ในมือชื่ออะไรนางยังไม่รู้เลย แม้แต่เม็ดยาก่อนกระดูกที่มีชื่อเสียงในสำนักชิงอวิ๋นนางยังไม่รู้จัก ดูท่าว่าร่างกายร้อยพิษไม่กล้ำกรายของนางนั้นจะเป็นเพียงความพิเศษของกายเนื้อเท่านั้นกระมัง!
คิดได้เช่นนี้ ใบหน้าของเคอฉังจวีก็กลับมาหยิ่งผยองและร้ายกาจอย่างเก่า
“ไอ้หนู คิดนำเม็ดยาที่ข้าสร้างมันขึ้นมาเองมาข่มขู่ข้า เจ้าไร้เดียงสาเกินไปหน่อยแล้ว”
“เจ้าสร้างมันขึ้นมาหรือ” จวินอู๋เสียเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ทันใดนั้นนางก็โบกมือข้างหนึ่งและพูดด้วยเสียงต่ำว่า “เสี่ยวเฮย”
เงาสีดำขนาดใหญ่ก็พุ่งออกมาจากทางด้านหลังของเฉียวฉู่ราวกับสายฟ้า และวิ่งไปหาเคอฉังจวีที่เพิ่งฟื้นความทะเยอทะยานของเขาเต็มฝีเท้า!
เคอฉังจวีที่ไม่มีพลังวิญญาณไหนเลยจะสามารถหลบพ้น เพียงชั่วพริบตา ร่างทั้งร่างก็ถูกจับเหวี่ยงลงพื้น อุ้งเท้าใหญ่ของเจ้าสัตว์ร้ายสีดำกดร่างเขาลงด้วยอุ้งเท้าหน้าอันทรงพลังของมัน เหนือศีรษะของเขา เจ้าสัตว์ร้ายสีดำขนาดใหญ่ยังอ้าปากกว้าง เผยให้เห็นคมเขี้ยวอันแหลมคมที่เรียงรายอยู่เต็มช่องปากของมันชัดเจน
ความสบายใจและโล่งอกที่เพิ่งถูกสร้างขึ้น ถูกแทนที่ด้วยความเจ็บและความหวาดกลัวที่ประเดประดังเข้ามาในช่วงเสี้ยววินาที เคอฉังจวีนอนสั่นอยู่บนพื้นใต้เท้าสัตว์ร้าย หน้าของเขาแนบไปกับแผ่นหินเย็นเยียบ
“เจ้าบอกว่า นี่เป็นยาพิษที่เจ้าหลอมมันขึ้นมาเองรึ เช่นนั้นไยเจ้าไม่ทดลองสรรพคุณของมันหน่อยเล่า” จวินอู่เสียค่อยๆ เดินเข้ามาจากทางด้านข้างอย่างช้าๆ ชายชราคนนี้สกปรกจนเกินไป จนนางไม่อาจแต่ต้องเขาได้ด้วยรู้สึกขยะแขยง จึงให้เสี่ยวเฮยรับหน้าที่ทำแทน
จวินอู๋เสียส่งสัญญาณให้กับเจ้าสัตว์ร้ายสีดำผ่านทางสายตา เจ้าสัตว์ร้ายสีดำก็ส่งเสียงคำรามอึกทึกในทันที อุ้งเท้าของมันยกสูงขึ้น จากนั้นมันก็เตะไปที่ท้องของเคอฉังจวีอย่างแรง
ภายใต้ความเจ็บปวดอย่างรุนแรง เคอฉังจวีก็ส่งเสียงกรีดร้องออกมา ปากของเขาอ้าพงาบๆ จวินอู๋เสียใช้จังหวะนี้โยนเม็ดยากร่อนกระดูกเข้าไปในปากของเคอฉังจวี สัตว์ร้ายสีดำเมื่อเห็นดังนั้นก็ยกอุ้งเท้าของมันออก แล้วกระแทกไปที่หน้าอกของเคอฉังจวีอีกครั้งอย่างรุนแรง บังคับให้เคอฉังจวีกลืนเม็ดยากร่อนกระดูกนั้นเข้าไปในท้องของเขา
เห็นว่าเม็ดยาอันคุ้นเคยค่อยๆ ไหลลงท้อง เจ้าสัตว์ร้ายสีดำก็เคลื่อนตัวออกจากร่างกายของเคอฉังจวีด้วยความรังเกียจ
เคอฉังจวีหายใจหอบและลุกขึ้นนั่ง เขากำหน้าอกของเขาที่เกือบจะขาดออกจากกันแล้วจ้องไปที่จวินอู๋เสียด้วยสายตาที่แทบจะกินเลือดกินเนื้อ
ตอนที่ 288 ตบหน้าครั้งที่ห้า (10)
“ข้าเคยบอกไปแล้วว่าเม็ดยากร่อนกระดูกไม่มีผลกับข้า! เจ้าอย่าได้เสียเวลาเปล่าเลย!” เคอฉังจวีมองไปที่จวินอู๋เสียด้วยสายตาที่ชั่วร้าย
“โอ้! จริงหรือ” จวินอู๋เสียจ้องตอบเคอฉังจวีด้วยรอยยิ้ม
ปฏิกิริยาของจวินอู๋เสีย ทำให้เคอฉังจวีรู้สึกไม่สบายใจมากขึ้น แต่เขาก็ไม่ได้เห็นว่าเจ้าสัตว์ร้ายสีดำที่อยู่ด้านข้างนี้จะลงมือหรือเคลื่อนไหวอะไร
เป็นไปได้หรือไม่ว่า…เจ้าเด็กคนนี้ มันไม่ได้ตั้งใจจะฆ่าเขาจริงๆ!
ขณะที่เคอฉังจวีกำลังครุ่นคิดอยู่ เขาก็รู้สึกแสบร้อนบนใบหน้าของเขา ภายใต้ความเจ็บปวดที่รุนแรง เขาส่งเสียงกรีดร้องของเขาก็ดังออกมา เขายกมือขึ้นปิดหน้า ในขณะที่ฝ่ามือสัมผัสกับใบหน้า เขาก็สัมผัสได้ถึงความเปียกชื้นผ่านฝ่ามือของเขา
เคอฉังจวีก้มมองดูมือของตัวเองด้วยความตกใจ ในตอนที่เขาเห็นเลือดผสมกับเศษชิ้นเนื้อเป็นหย่อมๆ เขาก็แทบสิ้นสติ ท่ามกลางความมืดมิดที่มีแสงเลือนราง ทันใดนั้นเศษชิ้นเนื้อขนาดเท่าหัวแม่มือก็ตกลงมากลางฝ่ามือของเขา!
อ๊ากกกก คล้ายกับเนื้อบนใบหน้าของเขาจะถูกเฉือนจนขาดโดยใครบางคน มันตกลงมาบนมือของเขาทีละชิ้นๆ จากนั้นใบหน้าของเขาในความมืดมิด ก็มีแต่ความหนืดของเลือดและความเจ็บปวดราวกับถูกเพลิงเผาผลาญ
“หน้าข้า…หน้าของข้า…” ความเจ็บปวดทั้งหมดทั้งมวลนี้ของเคอฉังจวี ยังไม่เท่ากับความรู้สึกที่หวาดกลัวและเป็นกังวลเกี่ยวกับใบหน้าของเขาเลย เขาดิ้นพล่านอยู่บนพื้นอย่างตัวสั่น เลือดและเศษชิ้นเนื้อที่หลุดลงมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภาพในตอนนี้ดูอเนจอนาถใจเป็นอย่างยิ่ง
แม้หน้าตาของเขาจะน่าเกลียด แต่เคอฉังจวีก็ยังคงเป็นมนุษย์ เมื่อนึกว่าใบหน้าของตัวเองถูกทำลายลงอีกครั้ง มันจะเป็นหายนะร้ายแรงเพียงใดสำหรับเขา ให้เขาเผชิญหน้ากับเรื่องนี้ ไม่สู้ฆ่าเขาให้ตายในดาบเดียวไปเลยจะดีกว่า
คนผู้หนึ่งที่มีใบหน้าน่าเกลียดอัปลักษณ์ ย่อมหวงแหนใบหน้าของพวกเขามากกว่าคนทั่วไปหลายร้อยเท่าตัว ความเสียหายเพียงเล็กน้อย แม้จะเพียงน้อยนิดก็ตาม สำหรับพวกเขานั้นเรียกได้ว่าอยากจะยอมรับมากที่สุด
ไม่มีใครก้าวขึ้นไปข้างหน้าเพื่อหยุดการกระทำของเคอฉังจวี จวินอู๋เสียเพียงแค่ยืนอยู่ข้างๆ และมองดู เคอฉังจวีคลานไปทางอ่างน้ำที่อยู่ด้านข้างตัวสั่น
เหมือนกับหนอนแมลงน่ารังเกียจ ทุกการเคลื่อนไหวของเขามันทั้งชวนขยะแขยงและน่าสมเพช
เมื่อเคอฉังจวีปีนขึ้นไปถึงอ่างน้ำ เขาก็เกือบจะพยุงร่างกายส่วนบนที่แทบจะหมดแรงของตัวเองไม่ไหว แต่… ภาพที่สะท้อนอยู่บนผิวน้ำในอ่างน้ำ ทำให้เขาตกตะลึง!
ผิวที่เป็นหลุมขรุขระและเน่าเปื่อยของเขาหายไปอย่างไร้ร่องรอย ภายใต้คราบเลือดนั้น เผยให้เห็นผิวที่ขาวเนียน และเปลือกตาบวมเป่งที่ทำให้ดวงตาแทบลืมไม่ขึ้นก็หายไปด้วย เวลานี้ใบหน้าที่สะท้อนอยู่บนผิวน้ำช่างทำให้เขาไม่อยากจะเชื่อทุกสิ่งที่เห็น ดวงตาของเคอฉังจวีเปล่งประกาย เขาตกหลุมรักภาพที่อยู่บนผิวน้ำนั้นในทันใด
นี่คือเขาหรือ…
คือเขาจริงๆ หรือนี่!!!
ภาพบุรุษที่สะท้อนอยู่บนผิวน้ำ แม้มิอาจนิยามได้ว่าเป็นบุรุษรูปงามล่มเมือง แต่ก็หล่อเหลาเอาการเมื่อเทียบกับใบหน้าที่น่าเกลียดในอดีต ใบหน้านี้ไม่ว่ามองจากมุมไหนก็ดูดีกว่ามากโข
ในขณะนั้น ความเจ็บปวดทั้งหมดคล้ายถูกเคอฉังจวีหลงลืมไป เขาเอาแต่จ้องใบหน้าใหม่นี้อย่างหลงใหลและบ้าคลั่ง
ความงามนี้ หน้าตาแบบนี้ เหมือนกับภาพในจินตนาการของเขาที่เคยวาดฝันเอาไว้นับไม่ถ้วนยามนอนหลับ!
“นี่คือข้า…ข้า…ช่างดูดีเสียจริง” เคอฉังจวีหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ความเคียดแค้นและริษยาในความงามของผู้อื่นตลอดทั้งชีวิต บัดนี้เขากลับรู้สึกตกหลุมรักใบหน้านี้อย่างหมดหัวใจ และไม่อยากจะกลับไปอัปลักษณ์เหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไปแล้ว
ทุกสิ่งทุกอย่าง สลายไปในวินาทีนี้
เพราะเขาดูดีขึ้นแล้ว ความปีติยินดีนี้จึงกลบทับฝังเอาความเจ็บปวดในหัวใจตลอดมามลายหายไปหมดสิ้น
เมื่อเนื้อเน่าชิ้นสุดท้ายหลุดออกจากแก้ม นัยน์ตาของบุรุษผู้นั้นที่สะท้อนอยู่บนผืนน้ำก็เต็มไปด้วยหมกมุ่นคลั่งไคล้และดีใจ
อย่างไรก็ตาม เคอฉังจวีที่อยู่ในอารามยินดี ไม่ทันได้สังเกตเห็นเลยว่าแววตาของจวินอู๋เสียที่ยืนอยู่ข้างหลังเขานั้นมันแฝงไปด้วยเจตนาฆ่าเปี่ยมล้นและการเยาะเย้ยมากเพียงใด