ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 307 ไม่ยอมอยู่ร่วมใต้ฟ้าเดียวกัน (2) ตอนที่ 308 ไม่ยอมอยู่ร่วมใต้ฟ้าเดียวกัน (3)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 307 ไม่ยอมอยู่ร่วมใต้ฟ้าเดียวกัน (2) ตอนที่ 308 ไม่ยอมอยู่ร่วมใต้ฟ้าเดียวกัน (3)
ตอนที่ 307 ไม่ยอมอยู่ร่วมใต้ฟ้าเดียวกัน (2)
“โอ้ จะใช้กับผู้ใดเล่า” ฮวาเหยากล่าว
ฉินเย่ว์สูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อระงับความโกรธที่มีอยู่เต็มอกของเขา
“อวีเหยี่ยนและผู้อาวุโสเจียงตายแล้ว”
ฮวาเหยาตกตะลึงครู่หนึ่ง อวีเหยี่ยนที่ฉินเย่ว์พูดถึงคือบุตรีคนเดียวของเขาที่ชื่อฉินอวี่เยียน ฉินเย่ว์รักบุตรีคนนี้มาก ฉินอวี่เยียนต้องการอะไรฉินเย่ว์ก็จะทำทุกวีถีทางเพื่อหาสิ่งนั้นมาให้นาง ในฐานะคุณหนูใหญ่ของสำนักชิงอวิ๋น ฉินอวี่เยียนเป็นคนที่ได้รับความรักและการตามใจอย่างแท้จริง และใบหน้าที่เสแสร้งของนางก็เหมือนกับฉินเย่ว์
ฮวาเหยาและฉินอวี่เยียนเคยพบกันครั้งหนึ่ง ตอนที่เขาแอบเข้ามายอดเขาเร้นเมฆาเพื่อค้นหาแผนที่ครั้งแรก เขาเคยเห็นฉินอวี่เยียนกับเคอฉังจวีทรมานชายหนุ่มผู้บริสุทธิ์เหล่านั้นในห้องใต้ดิน ภายใต้ใบหน้าที่งดงามซ่อนความชั่วร้ายอยู่ในนั้น ความโหดเหี้ยมไม่น้อยไปกว่าเคอฉังจวีเลยและนางยังเลียนแบบฉินเย่ว์ นางจะอ่อนโยนและถ่อมตนต่อหน้าคนอื่น แต่สิ่งที่นางทำลับหลังก็ไม่ต่างไปจากเคอฉังจวี
แต่ว่าเพราะเหตุใดบุตรีที่รักของฉินเย่ว์ถึงตายแบบนี้
เจ้าแมวที่นอนอยู่บนโต๊ะขยับหูเล็กน้อย จากนั้นดวงตาที่หรี่ลงก็ค่อยๆ เปิดออกแล้วมองผ่านใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเกลียดชังของฉินเย่ว์
ฉินเย่ว์ได้รับข่าวการตายของฉินอวี่เยียนเร็วกว่าที่นางคาดไว้
“รัฐชีเล็กๆ ช่างกล้าเหลือเกิน! ไอ้สกุลจวินนั่นกล้าฆ่าลูกสาวของข้า! ข้าจะทำให้พวกเขาทั้งตระกูลตายอย่างไม่มีที่ฝังศพ! เคอฉังจวีเอายาพิษที่เจ้าภาคภูมิใจที่สุดในชีวิตของเจ้าให้ข้า ข้าจะทำให้ทุกคนในสกุลจวินและราชวงศ์ของรัฐชีทั้งหมดถูกฝังไปพร้อมกับลูกสาวของข้า!” ฉินเย่ว์กัดฟันจนฟันเกือบหัก เขาเข้าสู่วัยกลางคนแล้ว มีบุตรีเพียงคนเดียวคือฉินอวี่เยียน เป็นลูกที่เขารักและปกป้องอย่างดี แต่กลับเสียชีวิตในรัฐเล็กๆ ที่ห่างไกล ความอัปยศและความเกลียดชังนี้ทำให้เขาอยากจะพุ่งตรงไปที่รัฐนั่นแล้วฆ่าศัตรูเหล่านั้นให้หมดทันที
หลังจากฟังคำพูดของฉินเย่ว์แล้วฮวาเหยาก็ตกตะลึงครู่หนึ่ง เขามีความคิดแปลกๆ ผุดขึ้นในใจเขา เขาเหลือบมองเจ้าแมวดำข้างๆเขาด้วยหางตาและหัวใจของเขาก็เต็มไปด้วยความสงสัย
สกุลจวิน นามสกุลของจวินเสียก็จวินไม่ใช่หรือ
ยิ่งไปกว่านั้นคือครั้งแรกที่เฉียวฉู่ได้พบกับจวินอู๋เสียคือที่เมืองหลวงของรัฐชีไม่ใช่หรือ
ฮวาเหยาก็เคยสงสัยว่าจวินอู๋เสียและสำนักชิงอวิ๋นมีความแค้นที่ใหญ่หลวงอะไร จนถึงขั้นจะทำลาย สำนักชิงอวิ๋นทั้งหมด แต่ตอนนี้ถ้าเขาเดาไม่ผิดจวินอู๋เสียต้องมีความสัมพันธ์อย่างลึกซึ้งกับสกุลจวินที่ฆ่าฉินอวี่เยียนและที่นางต้องการทำลายสำนักชิงอวิ๋นก็เพราะจะชิงลงมือก่อน
หากสำนักชิงอวิ๋นไม่ถูกทำลาย สกุลจวินก็จะถูกทำลายแทน
ในฐานะพันธมิตรที่ร่วมมือกัน ไม่ว่าจวินอู๋เสียจะเป็นคนของสกุลจวินหรือไม่ ฮวาเหยาก็ตัดสินใจที่จะช่วยนางถามเพิ่มว่า “เรื่องแบบนี้จะมาหาข้าทำไม แขกไม่กี่คนของสำนักชิงอวิ๋นก็สามารถทำลายสกุลจวินได้แล้วไม่ใช่รึ”
ฉินเย่ว์กล่าวด้วยรอยยิ้มเยือกเย็นว่า “มันง่ายเกินไปที่ฆ่าพวกเขาด้วยดาบเดียว ข้าต้องการทำให้พวกเขาทรมานกว่าการตาย ข้าจะพาพวกเขาทุกคนกลับมาที่สำนักชิงอวิ๋นแล้วให้พวกเขาถูกทรมานทุกวัน จะมีชีวิตก็ไม่ได้ตายก็ไม่ได้ มีเพียงวิธีนี้ที่สามารถหยุดความแค้นในใจของข้าได้”
ความแค้นที่ฆ่าบุตรีนั้นจะอยู่ร่วมใต้ฟ้าเดียวกันไม่ได้! ถ้าเขาไม่สามารถทำให้ศัตรูทนทุกข์ได้ เขาจะปลอบโยนวิญญาณบุตรีที่อยู่บนสวรรค์ได้อย่างไร
ฮวาเหยาพยักหน้าเล็กน้อย
หลังจากจวินอู๋เสียที่อยู่ในร่างแมวดำได้ฟังคำพูดของฉินเย่ว์แล้ว นางก็หลับตาลง นางรับความหวังดีของฮวาเหยาไว้ในใจ ฉินเย่ว์ไม่ได้วางแผนที่จะส่งคนที่แข็งแกร่งคนอื่นไปยังรัฐชี
แต่ถึงแม้ว่าเขาจะกล้าส่งใครไป จวินอู๋เสียก็ไม่กลัว
นางกล้าออกมาจากรัฐชีเพราะนางมีความมั่นใจอย่างมากว่าก่อนที่นางจะทำลายสำนักชิงอวิ๋น ไม่ว่าฉินเย่ว์จะส่งใครไปก็ไม่สามารถทำอะไรสกุลจวินได้
ตอนที่ 308 ไม่ยอมอยู่ร่วมใต้ฟ้าเดียวกัน (3)
“ก็แค่ฆ่าคนไม่กี่คน ข้ารับปากเจ้า แต่เจ้าก็ต้องรับปากข้าหนึ่งเรื่องเพื่อเป็นข้อแลกเปลี่ยน” ฮวาเหยากล่าว
“เรื่องอะไร” ฉินเย่ว์ขมวดคิ้วแล้วกล่าวถาม ตอนนี้เขาแค่ต้องการแก้แค้นให้ฉินอวี่เยียน ไม่ว่าเคอฉังจวีมีข้อแลกเปลี่ยนอะไร เขาก็ยอม
ฮวาเหยายิ้มแล้วกล่าวอย่างช้าๆ ว่า “อย่าเรียกว่าข้อแลกเปลี่ยนเลย เพราะมันเป็นสิ่งที่เจ้าต้องใช้ในการล้างแค้นให้บุตรีของเจ้า คนที่สามารถฆ่าเจียงเฉินชิงได้นั้นมีไม่มาก ถ้าข้าจำไม่ผิดยังมีผู้เชี่ยวชาญมากมายที่ร่วมเดินทางไปรัฐชีกับเจียงเฉินชิงและคุณหนูใหญ่ในครั้งนี้ด้วย คนเหล่านั้นตายในรัฐชีนั่นหมายความว่าในรัฐชีจะต้องมีผู้แข็งแกร่งซ่อนอยู่ เจ้าก็รู้ว่ายาพิษที่เหมือนกันเมื่อใช้บนตัวของคนที่แข็งแกร่งกว่าผลของมันก็จะยิ่งน้อยลง ถ้าเจ้าต้องการล้างแค้นให้บุตรีของเจ้า เจ้าก็ต้องช่วยข้า”
ฉินเย่ว์มองฮวาเหยาและกล่าวอย่างหงุดหงิดว่า “เจ้าหมายความว่าอย่างไร พูดออกมาตรงๆ”
ฮวาเหยายิ้มออกมาเล็กน้อยแล้วกล่าวว่า “ความหมายนั้นง่ายมาก ชายหนุ่มเหล่านั้นที่เข้ามาใหม่อ่อนแอเกินไป ข้าไม่สนใจพวกเขาแล้ว ข้าไม่สามารถทดสอบผลยาพิษบนตัวของพวกเขาได้เลยว่ายาพิษของข้ามีผลอย่างไร แต่ลูกศิษย์ของยอดเขาทั้งสิบสองในสำนักชิงอวิ๋นนั้นแข็งแกร่งมาก พวกเขาปรับร่างกายของตัวเองอยู่ตลอดเวลา พลังวิญญาณของพวกเขาอาจไม่แข็งแกร่งเท่าผู้แข็งแกร่งที่แท้จริง แต่ร่างกายของพวกเขาดีกว่าคนธรรมดาทั่วไปมาก หากใช้พวกเขามาทดสอบยาพิษของข้า ผลลัพธ์ที่ได้รับก็จะแม่นยำยิ่งขึ้น และยังทำให้คนที่ฆ่าบุตรีของเจ้าทุกข์ทรมานมากขึ้นไปอีกมิใช่หรือ”
คำพูดของฮวาเหยาทำให้ฉินเย่ว์ตะลึงไปชั่วครู่ เขาจ้องใบหน้าที่อัปลักษณ์นั้นอย่างตั้งใจเพื่อหาอะไรบางอย่างในนั้น
“เจ้าต้องการใช้ลูกศิษย์ในสำนักชิงอวิ๋นของข้าเพื่อทดสอบยาพิษ” น้ำเสียงของฉินเย่ว์เย็นชาขึ้นมาทันที
ฮวาเหยาไม่สนใจ “ทำไมจะไม่ได้ ลูกศิษย์ของสำนักชิงอวิ๋นมีมากมาย แม้ว่าข้าจะเลือกสองสามคนจากแต่ละยอดเขาก็ไม่ได้เสียหายอะไร เจ้าวางใจเถิดข้าไม่แตะต้องลูกศิษย์ของเจ้าอย่างแน่นอน”
“เคอฉังจวี เจ้าทำเกินไปหรือไม่” ฉินเย่ว์ลุกขึ้นยืนด้วยความโมโห เคอฉังจวีรู้หรือไม่ว่าเขากำลังพูดอะไรอยู่! เขาจะให้ลูกศิษย์ของสำนักชิงอวิ๋นมาทดสอบยาพิษแล้วยังเลือกจากลูกศิษย์ของผู้อาวุโสท่านอื่น นี่เป็นการตบหน้าผู้อาวุโสท่านอื่นชัดๆ
ศิษย์สายในของสำนักชิงอวิ๋นเกือบทั้งหมดรู้ว่ายอดเขาเร้นเมฆาเป็นอย่างไร หากพวกเขาถูกพาตัวไป คนที่เป็นผู้อาวุโสของพวกเขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด
ฮวาเหยายิ้มแล้วกล่าวว่า “ข้าทำเกินไปหรือ เทียบกับเจ้าสำนักอย่างท่านไม่ได้หรอก หากถามว่าใครทำเกินไป คนๆ คนนั้นก็คือเจ้า เจ้าสำนักฉิน ไม่เช่นนั้นเจ้าจะเป็นเจ้าสำนักชิงอวิ๋นได้อย่างไร มิใช่เพราะเจ้าทำเกินไปหรือ ไม่อย่างนั้นเกรงว่าตำแหน่งนี้ก็คงต้องเป็นของมู่เฉินผู้อาวุโสของยอดเขาเทียมเมฆาแล้ว” ฮวาเหยาเลียนแบบการพูดของเคอฉังจวีได้เหมือนมาก
คำพูดเหล่านี้ทำให้ใบหน้าของฉินเย่ว์ขาวซีดขึ้นมาทันที เขากำมือแน่นและโมโหจนตัวสั่น ราวกับว่าเขากำลังใช้ความพยายามอย่างมากที่จะไม่ฆ่าไอ้สารเลวที่กำลังพูดจาข่มขู่นี้
เขาอยากจะฆ่าเคอฉังจวีนับครั้งไม่ถ้วนแต่ไม่เคยสำเร็จ เหตุผลแรกคือหลักฐานที่เขาฆ่าผู้อาวุโสอยู่ในมือของเคอฉังจวี เหตุผลที่สองคือเคอฉังจวีมีความเชี่ยวชาญในการใช้ยาพิษ แม้ว่าเขาจะไม่มีพลังวิญญาณแต่ยาพิษบนตัวของเขาก็สามารถทำให้เขาและศัตรูพินาศไปด้วยกันได้
ไม่ว่าเพราะเหตุผลใด ฉินเย่ว์ก็ไม่สามารถฆ่าเขาได้และยังต้องทำตามคำพูดของเขา
ฉินเย่ว์หายใจเข้าลึกๆ แล้วนั่งลง
“เจ้าต้องรู้ว่าถ้าข้ารับปากคำขอของเจ้า ข้าจะไปอธิบายให้ผู้อาวุโสท่านอื่นได้อย่างไร” จุดอ่อนของเขาอยู่ในมือของเคอฉังจวีทำให้ฉินเย่ว์ไม่ยอมก็ไม่ได้