ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 381 การปรากฏตัวของผู้อาวุโสสูงสุด (2) ตอนที่ 382 การปรากฏตัวของผู้อาวุโสสูงสุด (3)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 381 การปรากฏตัวของผู้อาวุโสสูงสุด (2) ตอนที่ 382 การปรากฏตัวของผู้อาวุโสสูงสุด (3)
ตอนที่ 381 การปรากฏตัวของผู้อาวุโสสูงสุด (2) / ตอนที่ 382 การปรากฏตัวของผู้อาวุโสสูงสุด (3)
ตอนที่ 381 การปรากฏตัวของผู้อาวุโสสูงสุด (2)
ใครมันจะกล้าแอบอ้างตัวว่าเป็นผู้อาวุโสสูงสุดของสำนักชิงอวิ๋นกัน!
แทบไม่มีใครในโลกนี้ที่กล้าทำเช่นนั้น
ยิ่งไปกว่านั้น บุคคลผู้นั้นยังมีป้ายประจำตัวของสำนักชิงอวิ๋นห้อยอยู่ที่เอวด้วย ดูจากรูปลักษณ์และกลิ่นอายที่แผ่ออกมารอบๆ ตัวเขา มีความเป็นไปได้ถึงเจ็ดส่วนที่จะเป็นตัวจริง
ด้วยการหายตัวไปอย่างกะทันหันของสำนักชิงอวิ๋น เมื่อชื่อนี้ถูกยกขึ้นมากล่าวอ้างอีกครั้งมันจึงดึงดูดทุกสายตาได้อย่างชะงัด ผู้คนที่ปรี่เข้าไปหาเขาเพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วราวกับกระแสน้ำ
บุรุษชุดขาวมองเด็กหนุ่มที่ร้องขอต่อหน้าเขาและกล่าวว่า “สำนักชิงอวิ๋นสลายตัวไปแล้ว และข้าก็ไม่ใช่ผู้อาวุโสสูงสุดของสำนักชิงอวิ๋นอีกต่อไป การพบกันในครั้งนี้ จึงอาจนับได้ว่าเป็นโชคชะตาอย่างหนึ่ง เอาเช่นนี้ก็แล้วกัน ในเมื่อเจ้าร้องขอมา ข้าเองก็มีเม็ดยาเหล่านั้นติดตัวอยู่นิดหน่อย หากเจ้าต้องการจริงๆ ข้าขายมันต่อให้เจ้าในราคาเดียวกับที่เจ้าเคยจ่ายมาก่อนหน้านี้เป็นอย่างไร”
เด็กหนุ่มผู้นั้นน้ำตาไหลพรากด้วยความปลาบปลื้ม เขาพยักหน้าไม่หยุด แทบไม่อาจควบคุมมือที่สั่นเทาที่อยู่ภายใต้ชายเสื้อนั้นได้เลย เขาเอื้อมมือเข้าไปในอกเสื้อ แล้วหยิบเอาตั๋วเงินมูลค่าหนึ่งแสนตำลึงออกมาสามใบออกมา ส่งมอบให้กับ ‘มู่เฉิน’ ด้วยความนอบน้อมและซาบซึ้งใจ
เด็กหนุ่มสาวคนอื่นๆ ที่มองฉากนี้อยู่เบิกตากว้าง ราคาสามแสนตำลึงต่อเม็ดเชียวหรือนี่!
นี่มันเป็นราคาของเม็ดยาอะไรกันแน่!
แต่นอกจากเม็ดยาของสำนักชิงอวิ๋นแล้ว ยังจะมีเม็ดยาของผู้ใดคุ้มค่ากับเงินจำนวนเท่านี้อีกหรือ!
กลุ่มเด็กที่มาสมัครลงทะเบียนเรียนที่สำนักศึกษาเฟิงหัว ไม่มีตระกูลใดที่ยากจนเลยสักตระกูลเดียว แทบจะเรียกได้ว่าพวกเขาเกิดมาพร้อมกับช้อนเงินช้อนทอง ค่าธรรมเนียมการศึกษาสามแสนตำลึง จึงแทบไม่อยู่ในสายตาของพวกเขา นับประสาอะไรกับตอนนี้ที่ผู้อาวุโสสูงสุดของสำนักชิงอวิ๋นที่ก่อนหน้านี้หายตัวไปอย่างลึกลับได้มาปรากฏตัวที่นี่พร้อมกับเม็ดยาหายาก เมื่อมีโอกาสได้ตกลงซื้อขายเม็ดยาจากสำนักชิงอวิ๋นเป็นการส่วนตัว ต่อให้ต้องโปรยตั๋วเงินออกไปอีกซักหลายหมื่นตำลึงพวกเขาก็ไม่ยี่หระ!
ความโกลาหลลุกลามไปทั่วทันที!
กลุ่มคนรุ่นเยาว์กลุ่มหนึ่งที่ไม่มีอารมณ์ต่อแถว รีบบึ่งตรงไปที่ใต้ร่มเงาของต้นไม้นั้น
หลังจากเด็กหนุ่มผู้นั้นตกลงแลกเปลี่ยนเม็ดยากับ ‘มู่เฉิน’ สำเร็จ เงาร่างของเด็กหนุ่มอีกหลายคนก็มาปรากฏตัวต่อหน้า ‘มู่เฉิน’ พวกเขาคุกเข่าลงกับพื้นและกล่าวไปว่า
“คารวะท่านผู้อาวุโสมู่! ขอบังอาจถามสักคำ ไม่ทราบว่าเม็ดยาเมื่อสักครู่ที่ท่านนำออกมาคือเม็ดยาชนิดใดหรือขอรับ” เด็กหนุ่มผู้กล้าหาญสอบถาม ‘มู่เฉิน’ อย่างชาญฉลาด เขาไม่ได้เปิดเผยเจตนารมณ์ของตัวเอง แต่เลือกสอบถามถึงชนิดและผลกระทบของเม็ดยาดังกล่าวก่อน
เงินจำนวนสามแสนตำลึงไม่ใช่น้อยนิด เม็ดยาบนโลกนี้ที่ควรค่าแก่ราคาดังกล่าวมีน้อยชนิดที่สามารถนับด้วยมือข้างเดียวได้
แม้ว่ามันจะออกมาจากโรงประมูล ด้วยราคาเช่นนี้ก็ยังถือว่าพบได้น้อยอยู่ดี
การโยนตั๋วเงินลงไปหนึ่งปึกเพื่อเม็ดยาหนึ่งเม็ด จริงอยู่ว่าสำหรับพวกเขาไม่นับว่าเป็นอะไร แต่ก็ต้องดูด้วยว่ามันคุ้มค่าหรือไม่ พวกเขาไม่ใช่ไอ้งั่งที่ใครหน้าไหนจะมาหลอกชุบมือเปิบเอาได้ง่ายๆ
‘มู่เฉิน’ จ้องมองกลุ่มคนรุ่นเยาว์ที่เข้ามารายล้อมตัวเอง ทันใดนั้นบนใบหน้าที่หล่อเหลาก็ฉายแววเจ้าเล่ห์ขึ้นมาแวบหนึ่งก่อนจะหายไป เขากลับมาวางท่าสูงส่งสงบตามเดิม พูดด้วยน้ำเสียงไม่ช้าไม่เร็วว่า “ก็แค่เม็ดยาขยายเส้นลมปราณเท่านั้น นอกจากช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบ่มเพาะพลังของพวกเจ้าให้ก้าวหน้ารวดเร็วยิ่งขึ้น ก็ไม่มีสรรพคุณพิเศษอื่นใดอีก”
น้ำเสียงของ ‘มู่เฉิน’ ที่ใช้พูดเรียบเฉยมาก ทว่าเมื่อมันลอยเข้าไปในหูของกลุ่มคนรุ่นเยาว์ หัวใจของพวกเขาก็เต้นไม่เป็นส่ำ แทบกระดอนออกมาจากอก!
ขยายเส้นลมปราณหรือ!
นี่มันคือแนวคิดแบบไหน!
ต้องรู้ไว้ก่อนว่าเส้นลมปราณของมนุษย์พัฒนาได้รวดเร็วที่สุด ก็แค่ตอนก่อนที่ภูติวิญญาณจะตื่นขึ้นมา บวกลบหลังจากนั้นสามถึงสี่ปีก็เท่านั้น หากเกินกว่าอายุสิบแปดปีไปแล้ว การจะพัฒนาและขยายมันให้ใหญ่ขึ้นเรียกได้ว่าแทบเป็นเรื่องเพ้อฝัน!
หากพวกเขาได้เม็ดยาชนิดนี้มา นั่นก็เท่ากับว่าพวกเขาจะสามารถขยายเส้นลมปราณให้ใหญ่ขึ้นได้ ซึ่งนั่นหมายความว่าพวกเขาจะสามารถรวบรวมพลังวิญญาณและฝึกฝนได้เร็วกว่าคนอื่นๆ ซึ่งนั่นมันก็แทบตัดสินอนาคตของพวกเขาได้เลยทีเดียว! เม็ดยาชนิดนี้ยิ่งนำมาใช้ในขณะที่อายุยิ่งน้อยมากเท่าไร ผลลัพธ์ของมันก็จะยิ่งดีมากขึ้น เด็กๆ ทุกคนที่อยู่ในที่นี้ ล้วนแล้วแต่มีอายุไม่เกินสิบหกปีทั้งสิ้น อยู่ในช่วงวัยที่เหมาะสมที่พวกเขาจะกลืนมันลงไป!
ยิ่งไปกว่านั้น ตั้งแต่เล็กจนโต พวกเขายังไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับเม็ดยาที่มีสรรพคุณช่วยในการขยายเส้นลมปราณจากที่ไหนมาก่อนเลย!
หรือในอีกความหมายหนึ่งก็คือ นอกจากสำนักชิงอวิ๋นที่สลายตัวไปแล้วที่สามารถวิจัยเม็ดยาวิเศษเช่นนี้ออกมาได้ ก็ไม่อาจหาเม็ดยาที่มีผลลัพธ์ท้าทายสวรรค์เช่นนี้จากที่อื่นได้อีกแล้ว!
สำนักชิงอวิ๋นยุบสำนักไปแล้วตั้งแต่เมื่อราวครึ่งเดือนก่อน มีเพียงสวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าในอนาคตเจ้าจะไปหาคนของสำนักชิงอวิ๋นได้จากที่ใด เม็ดยาชนิดนี้ เกรงว่าหากพลาดโอกาสนี้ไปแล้ว พวกเขาอาจไม่มีโอกาสอีกแล้วในชีวิตนี้ที่จะหาซื้อมันมาได้!
“ท่านผู้อาวุโสมู่! ได้โปรดมอบเม็ดยานี้ให้ข้าสักเม็ดเถิดขอรับ! ข้าขอซื้อต่อท่าน! จะด้วยจำนวนเงินเท่าไหร่ก็ได้ทั้งนั้นขอรับ!” เด็กหนุ่มใจกล้าโพล่งออกไป และไวเท่าความคิด เขายื่นตั๋วเงินในมือส่งให้ ‘มู่เฉิน’ ทันที
ขนาดและความแข็งแกร่งของเส้นลมปราณ มีผลต่อการบ่มเพาะพลังวิญญาณในอนาคตอย่างแนบแน่น ผู้ใดจะสามารถนั่งนิ่งแล้วปล่อยให้โอกาสอันยิ่งใหญ่หลุดลอยไปเล่า!
“ท่านผู้อาวุโสมู่! ข้าเองก็ต้องการซื้อด้วยขอรับ!”
“ผู้เยาว์ด้วยขอรับ! ท่านผู้อาวุโสมู่! ข้ายอมจ่ายไม่เกี่ยงราคาทั้งสิ้น!”
เมื่อมีเด็กหนุ่มคนแรกกล้าเปิดฉากร้องตะโกนออกไป คนที่สอง สาม และสี่ก็ร้องตามหลังมาติดๆ…
ฝูงชนรอบ ‘มู่เฉิน’ ยังคงมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เด็กหนุ่มที่ได้เม็ดยาไปแล้วในตอนแรก ถูกบีบผลักให้ออกจากกลุ่มคน
กลุ่มคนรุ่นเยาว์ที่กำลังคุกเข่าอยู่แทบเท้า‘มู่เฉิน’ เปรียบเสมือนแกะอ้วนในสายตาของ ‘มู่เฉิน’ ก็ไม่ปาน แต่ละคนโบกตั๋วเงินในมือไปมา ร้องขอเม็ดยาหนึ่งเม็ดจากเขา!
ตอนที่ 382 การปรากฏตัวของผู้อาวุโสสูงสุด (3)
เด็กหนุ่มที่ถูกบีบให้ออกไปยืนอยู่นอกวงจ้องไปที่ตั๋วเงินที่โบกไปมา และหันไปยกนิ้วโป้งให้กับทั้งสามคนที่ยืนอยู่ด้านหลังต้นไม้อย่างลับๆ
การแย่งชิงกันอย่างบ้าคลั่งยังไม่เกิดขึ้น ความมีชีวิตชีวาของที่นี่ก็ดึงดูดให้กลุ่มคนรุ่นเยาว์มองไปด้านนี้มากขึ้น ชั่วขณะหนึ่ง แถวที่เรียบร้อยเป็นระเบียบของสำนักศึกษาก็ถูกทำลาย เด็กหนุ่มสาวหลายคนรีบวิ่งไปที่ใต้ต้นไม้นั้น
‘มู่เฉิน’ แสดงออกว่ามีผู้ต้องการซื้อมากเกินไป และเขาเหลือเม็ดยาเพียงแค่สี่เม็ดเท่านั้นในมือของเขา
เวลานี้ กลุ่มคนรุ่นเยาว์ก็พลันเดือดพล่าน!
เม็ดยาอันล้ำค่าเช่นนี้ มันก็สมเหตุสมผลแล้วที่จำนวนนั้นจะน้อยมาก ดังนั้นพวกเขาจึงไม่คิดจะปล่อยมันไป!
เม็ดยาซึ่งเดิมราคาสามแสนตำลึง สุดท้ายก็ถูกพวกเขาทั้งหมดปล้นไปในราคาถึงห้าแสนตำลึง!
เมื่อเม็ดยาทั้งสี่เม็ดถูกกวาดไป กลุ่มคนรุ่นเยาว์ที่แย่งซื้อไม่ทันก็ไม่ยอมแพ้ พวกเขาถามต่อว่ายังมีเม็ดยาชนิดอื่นๆ พอจะให้ทานแก่พวกเขาได้หรือไม่
ถูกต้องแล้ว! มันคือการให้ทาน…
เงินหลายแสนตำลึงถูกโยนลงไป แต่พวกเขาก็ยังรู้สึกว่า ‘มู่เฉิน’ กำลังให้ทานแก่พวกเขา
เม็ดยาที่วิเศษล้ำค่าขนาดนี้สามารถเปลี่ยนทั้งชีวิตของพวกเขาได้ กับเด็กที่เกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวยและมั่งคั่งอย่างพวกเขา เม็ดเงินจำนวนเล็กน้อยแค่นี้พวกเขาไม่ได้สนใจมันสักนิด
อย่างไรก็ตามผู้อาวุโสสูงสุด ‘มู่เฉิน’ กลับบอกว่าเม็ดยาของเขาขายหมดแล้ว กลุ่มเด็กหนุ่มสาวพากันโอดครวญร่ำไห้ ได้แต่มองดูท่านผู้อาวุโสสูงสุดสะบัดแขนเสื้อแล้วเดินจากไป…
ขณะที่ทุกคนมองตามแผ่นหลังของ ‘มู่เฉิน’ ที่หายลับไปจากสายตา ในใจของแต่ละคนก็เต็มไปด้วยความเสียดายและโศกเศร้า
โดยที่พวกเขาไม่รู้เลยสักนิดว่าเด็กหนุ่มสาวทั้งสี่คนที่ยืนอยู่หลังต้นไม้นั้นกำลังหัวเราะกันอย่างบ้าคลั่ง
“น้องเสีย! วิธีการนี้ของเจ้าโหดร้ายมาก! เม็ดยาเพียงเม็ดเดียวก็สามารถรีดไถพวกเขาไปได้ถึงห้าแสนตำลึงแล้ว! สี่เม็ดก็เท่ากับสองล้านตำลึง! นี่เป็นกำไรมหาศาล!” เฉียวฉู่หัวเราะและมองไปที่กลุ่มคนรุ่นเยาว์พวกนั้นที่ไม่เต็มใจจะแยกจากกับ ‘มู่เฉิน’ โดยหารู้ไม่ว่า ‘ท่านผู้อาวุโสสูงสุดมู่’ ที่พวกเขาเห็นนั้น แท้จริงแล้วก็คือฮวาเหยาที่สวมรอยแทน ไม่รู้ว่าหากพวกเขารู้ความจริงทีหลังจะทำสีหน้าอย่างไร
ความสามารถในการควบคุมกระดูกของฮวาเหยา ประกอบกับความสามารถในการแปลงโฉมของจวินอู๋เสีย ตราบเท่าที่พวกเขาได้เห็นหน้าอีกฝ่ายชัดๆ แม้จะเพียงแค่ครั้งเดียวทั้งคู่ก็สามารถเลียนแบบเป็นอีกฝ่ายได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ต้องพูดถึงมู่เฉินที่ติดต่อกับพวกเขาบ่อยๆ ยามอยู่ในสำนักชิงอวิ๋นเลย!
“ข้าเห็นเด็กที่หัวเราะเยาะเราเมื่อสักครู่นี้ เขาก็คว้าไปได้เม็ดหนึ่งด้วย ฮ่าฮ่า…ถ้าเขารู้ว่าสิ่งที่เขาซื้อไปในราคาห้าแสนตำลึงนั้นเป็นเพียงแค่ยาเม็ดธรรมดาๆ ข้าสงสัยจริงว่าเขาจะกระอักเลือดหรือเปล่า!” เฉียวฉู่ยิ่งคิดก็ยิ่งปลอดโปร่ง กลเม็ดนี้ของจวินอู๋เสียช่างยอดเยี่ยมมากจริงๆ! ถ้าเป็นคนอื่นที่นำเม็ดยานี้ออกมา กลัวว่าจะไม่มีใครเชื่อ แต่เมื่อผู้ที่นำมันออกมาก็คือ ‘มู่เฉิน’ แห่งยอดเขาเทียมเมฆาที่เชี่ยวชาญด้านการปรับปรุงหลอดเลือดและเส้นลมปราณ ผลลัพธ์ทั้งหมดจึงแตกต่างออกไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง
ไม่ว่าสำนักชิงอวิ๋นจะสกปรกมากแค่ไหนก็ตาม อย่างน้อยในสายตาของผู้คนทั้งใต้หล้า ป้ายสำนักของพวกเขาก็ยังส่องประกายสีทองสว่างไสว!
จวินอู๋เสียมองไปที่เฉียวฉู่ที่กำลังยิ้มอย่างมีความสุขและพูดออกไปด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “นั่นไม่ใช่เม็ดยาธรรมดาหรอกนะ”
“เอ๊ะ!” เฉียวฉู่ชะงักไป
สมองของเฟยเยียนที่ยืนอยู่ด้านข้างหมุนอย่างเร็วรี่ เขามองไปที่จวินอู๋เสียด้วยความประหลาดใจและกล่าวว่า “น้องเสีย เม็ดยานั่น…คงไม่ใช่เม็ดยาขยายเส้นลมปราณของจริงกระมัง!”
จวินอู๋เสียพยักหน้ารับอย่างสงบ
เฉียวฉู่และคนอื่นๆ สูดลมหายใจเข้าลึก!
ไม่ต้องพูดถึงกลุ่มคนรุ่นเยาว์จากสามโลกเบื้องล่าง แม้แต่ผู้ที่มาจากสามโลกชั้นกลางอย่างพวกเขาก็ยังไม่เคยได้ยินว่าในโลกนี้มีเม็ดยาที่สามารถขยายเส้นลมปราณได้เช่นนี้จริงๆ!
“เจ้า…เจ้าพูดจริงหรือ!” เฉียวฉู่ตกตะลึงจนตาค้างไปแล้ว เขานึกว่าตัวเองได้หลอกขายเม็ดธรรมดายาสามัญโดยอ้างสรรพคุณที่ท้าทายสวรรค์ แต่กลับไม่รู้เลยว่านั่นมันเป็นของจริง!
จวินอู๋เสียพยักหน้าอีกครั้งอย่างเฉยเมย
“เจ้าว่าอย่างไรนะ!” เฉียวฉู่ตะโกนลั่นอย่างไม่อยากจะเชื่อ เสียงคำรามนั้นทำให้ฮวาเหยาที่เพิ่งวิ่งกลับมาสมทบกับพวกเขาสะดุ้งโหยง