ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 487 สัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติ (1) ตอนที่ 488 สัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติ (2)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 487 สัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติ (1) ตอนที่ 488 สัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติ (2)
ตอนที่ 487 สัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติ (1) / ตอนที่ 488 สัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติ (2)
ตอนที่ 487 สัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติ (1)
กลุ่มของจวินอู๋เสียเดินตามหลังเยี่ยซาเพื่อไล่ตามฝีเท้าของหลงฉีและคนของเขา หลังจากเดินผ่านป่าทึบขนาดใหญ่ ในที่สุดพวกเขาก็พบกับทะเลสาบงดงามที่ซ่อนตัวอยู่ในหมู่ต้นไม้ที่ขึ้นอย่างหนาแน่น
พื้นผิวทะเลสาบสีเงินยวงสะท้อนกับแสงอาทิตย์ที่ตกกระทบลงมาเล็กน้อย จนทำให้ดูราวกับดวงดาวนับไม่ถ้วนบนท้องฟ้ากลางฤดูใบไม้ผลิที่กระจัดกระจายและส่องแสงระยิบระยับแพรวพราว ที่ริมทะเลสาบจันทราวารีกระจ่าง ยังมีสัตว์วิญญาณระดับต่ำจำนวนมากกำลังก้มศีรษะและดื่มน้ำ ในขณะนั้น อาจเพราะพวกมันสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของจวินอู๋เสียและคนอื่นๆ ที่กำลังเข้ามา พวกมันจึงวิ่งหนีหายเข้าไปในป่าด้วยความตื่นตระหนก
“ที่นี่ก็คือริมทะเลสาบจันทราวารีกระจ่างหรือ แต่…หนิงซินกับคนของกองทัพรุ่ยหลินเล่า ไปอยู่ที่ไหนหมดแล้ว” เฉียวฉู่หันซ้ายหันขวาและมองไปรอบๆ แต่เขาก็ไม่เห็นเงาร่างของมนุษย์เลย ยกเว้นสัตว์วิญญาณเพียงไม่กี่ตัวที่เพิ่งวิ่งหนีไป
จวินอู๋เสียหันไปมองเยี่ยซา ในตอนนั้นเองที่เยี่ยซาก็ขมวดคิ้วทันที
“มีอะไรหรือ” จวินอู๋เสียถาม
“จู่ๆ อสรพิษทมิฬก็ตายอย่างกะทันหันขอรับ แต่ก่อนที่มันจะตาย มันได้ส่งข้อความมาบอกข้าว่ามันได้ติดตามคนกลุ่มนั้นข้ามทะเลสาบจันทราวารีกระจ่างไป ดูเหมือนว่าจุดประสงค์ของพวกเขา จะมีมากกว่าเพียงมาที่ทะเลสาบจันทราวารีกระจ่างขอรับ” เยี่ยซารายงานทุกสิ่งที่เขารู้ให้จวินอู๋เสียฟังทันที
ขณะที่ทุกคนกำลังสงสัยอยู่ จู่ๆ พื้นดินใต้เท้าของพวกเขาก็เริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง!
ต้นไม้ที่ขึ้นอยู่ริมทะเลสาบจันทราวารีกระจ่าง ถูกแรงสั่นไหวดังกล่าวทำเอาล้มระเนระนาด สัตว์วิญญาณระดับต่ำจำนวนนับไม่ถ้วนที่ซ่อนตัวอยู่ละแวกนั้น คล้ายกับจะสัมผัสได้ถึงภัยคุกคามใหญ่หลวง พวกมันรีบวิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว ฉากความสงบและงดงามราวกับแดนสวรรค์พังทลายลงในพริบตา!
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น” การเปลี่ยนแปลงที่กะทันหันนี้ทำให้เฟยเยียนรู้สึกไม่สบายใจ
จวินอู๋เสียหรี่ตาลงเล็กน้อย “พาข้าไปในจุดที่อสรพิษทมิฬเสียชีวิต”
“ขอรับ!”
กลุ่มคนเร่งฝีเท้าขึ้นไปข้างหน้าในทันที อย่างไรก็ตามขณะที่พวกเขากำลังเคลื่อนไหว เสียงคำรามก็ดังก้องเข้ามาในหูของพวกเขาอีกครั้ง!
เสียงนั้นน่าเกรงขามกว่าเสียงใดๆ ที่พวกเขาเคยได้ยินมาตลอดทั้งชีวิต!
เพียงแค่ฟังเสียงคำรามนั้นอย่างเดียว โลหิตในร่างกายของพวกเขาก็ปั่นป่วน!
คลื่นเสียงแผ่ขยายไปทั่วป่า และแรงสั่นสะเทือนอันมหาศาลก็ทำให้ใบไม้ร่วงหล่นราวกับเกลียวคลื่น!
“สัตว์วิญญาณ…ระดับภัยพิบัติ…” ใบหน้าของฟ่านจิ่นเปลี่ยนเป็นขาวซีดในทันที เพียงได้ยินเสียงคำรามที่รุนแรงนั้น เขาก็สัมผัสได้เลยถึงลางร้ายที่กำลังใกล้เข้ามาเยือน
เขาเคยเห็นสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติพร้อมกับบิดาของเขามาแล้วครั้งหนึ่ง และความทรงจำนั้นในครั้งนั้น ก็ประทับฝังลึกในใจไม่อาจลืมเลือนได้ตราบจนทุกวันนี้
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ!” เฉียวฉู่หันไปมองฟ่านจิ่นด้วยดวงตาที่เบิกโพลง
ฟ่านจิ่นตอบด้วยใบหน้าขาวซีด “นั่นคือสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติ ไม่ผิดแน่…ทะเลสาบจันทราวารีกระจ่างเดิมก็ตั้งอยู่ในใจกลางของป่าประลองวิญญาณ และน้ำในทะเลสาบจันทราวารีกระจ่างนั้น ก็เป็นอาหารบำรุงที่สำคัญมากสำหรับสัตว์วิญญาณทั้งหลาย ดังนั้นจึงไม่แปลกใจหรอกหากจะมีสัตว์วิญญาณระดับสูงมาเดินเพ่นพ่านแถวนี้ รวมไปถึง…สัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติที่พบเจอได้ยากด้วย”
ไม่เคยมีใครในสำนักศึกษาเฟิงหัวที่ล่าสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติสำเร็จมาก่อน ตามข่าวลือที่ได้ยินมา ความแข็งแกร่งของสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัตินั้นเหนือกว่าผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงเสียอีก! ไม่ต้องพูดถึงเหล่าศิษย์ที่เข้าร่วมงานล่าวิญญาณว่าจะมีปัญญาล้มสัตว์วิญญาณระดับนั้นได้หรือไม่ ต่อให้ส่งอาจารย์จากทั้งสำนักศึกษาเฟิงหัวเข้าไปในป่าเพื่อกำราบมัน เมื่อเผชิญหน้ากับพลังที่มหาศาลและเหนือกว่า พวกเขาก็ทำได้เพียงหลบหนีเท่านั้น!
ฟ่านจิ่นคิดไม่ถึงเลยว่าตัวเองจะต้องมาเจอกับสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติอีกครั้งในวันนี้!
“ที่มาของเสียงนั่น คือจุดที่อสรพิษทมิฬเสียชีวิตขอรับ” เยี่ยซาหยุดฝีเท้าเล็กน้อยและประกาศข่าวร้ายที่น่าตกใจให้กับทุกคนฟัง!
อสรพิษทมิฬของเยี่ยซาได้แอบติดตามกลุ่มของหลงฉีและคนอื่นๆ ไปตั้งแต่ต้น การเสียชีวิตอย่างกะทันหันของมันนั้นจึงทำให้เยี่ยซาอดสงสัยไม่ได้จริงๆ แต่เมื่อได้ยินคำว่าสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติจากปากของฟ่านจิ่น เขาก็พลันกระจ่าง!
น่ากลัวว่าอสรพิษทมิฬของเขาที่ลอบติดตามกลุ่มของหลงฉีและคนอื่นๆ ไป ได้เผชิญหน้ากับสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติตัวนั้นแล้ว!
ตอนที่ 488 สัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติ (2)
นับตั้งแต่โบราณกาลมา ในสามโลกเบื้องล่างแห่งนี้ไม่เคยได้ยินว่ามีใครสามารถล่าและสังหารสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติลงได้
แม้แต่ผู้ที่มีพลังวิญญาณขั้นสีม่วงที่แข็งแกร่งที่สุด ก็ยังต้องวิ่งหนีเอาชีวิตรอดเมื่อพวกเขาพบกับสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติ!
ต้องรู้ก่อนว่าไม่มีผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีม่วงปรากฏตัวขึ้นมาในโลกเบื้องล่างนี้นานนับศตวรรษแล้ว! ทหารของกองทัพรุ่ยหลินยิ่งไม่มีทางมี!
คราวนี้ไม่เพียงแต่สีหน้าของฟ่านจิ่นน่าเกลียด แม้แต่เฉียวฉู่และคนอื่นๆ เองก็มีสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้จักกับกองทัพรุ่ยหลินเป็นการส่วนตัว แต่หลังจากได้ฟังเรื่องเล่าของพวกเขาจากปากฟ่านจิ่น พวกเขาก็รู้สึกนับถือและเคารพในทหารของกองทัพรุ่ยหลินมากจริงๆ
“อยู่ดีๆ พวกเขาวิ่งไปปะทะกับสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติได้อย่างไร! สัตว์วิญญาณระดับนี้จะไม่มีวันโจมตีมนุษย์ก่อน เว้นเสียแต่จะมีผู้ใดไปกระตุ้นหรือลงมือทำร้ายพวกมันก่อน!” หรงรั่วอธิบายด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดีนัก
หลังจากที่หรงรั่วพูดประโยคเหล่านี้ออกมา ความคิดหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในใจของทุกคน
กองทัพรุ่ยหลินผ่านศึกสงครามมามากมายถึงเพียงนั้น ไม่มีทางโง่เขลาหรือประมาทถึงขั้นวิ่งไปเผชิญหน้าหรือหาเรื่องกับสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติด้วยตัวเอง มีเพียงความเป็นไปได้เดียว นั่นก็คือศิษย์ในกลุ่มของหนิงซินเป็นคนทำ พวกเขาคือคนที่ชักนำทำให้เกิดภัยพิบัติทั้งหมดเหล่านี้ด้วยมีเจตนาชั่วร้ายต่อกองทัพรุ่ยหลิน!”
“จบสิ้นแล้ว! คราวนี้จบสิ้นแล้วจริงๆ” เฉียวฉู่เกาหัวของเขาอย่างรุนแรง เมื่อคิดถึงว่าวีรบุรุษในใจของเขากำลังจะถูกลวงไปฆ่าให้ตายทั้งเช่นนี้ หัวใจเขาก็รู้สึกย่ำแย่เป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ไม่ทันที่เสียงของเฉียวฉู่จะจบลง เงาร่างสีดำก็บินผ่านหน้าทุกคนไปอย่างรวดเร็ว!
จวินอู๋เสียนั่งอยู่บนหลังของเจ้าสัตว์ร้ายสีดำ พุ่งออกไปจากฝูงชนราวกับลูกธนูที่ถูกยิงออกจากคันศร โดยมีเยี่ยซาไล่ตามหลังนางไปติดๆ!
“น้องเสีย! เจ้าจะทำอะไรน่ะ!” เฉียวฉู่และคนอื่นๆ กลับมาได้สติอีกครั้งหลังจากเห็นร่างของจวินอู๋เสียกระโดดผ่านหน้าของพวกเขาไป มุ่งไปยังแหล่งกำเนิดเสียงคำรามนั้น ใบหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความตกตะลึง!
จวินอู๋เสียนางเสียสติไปแล้วหรือ ดูจากการกระทำของนางแล้ว นางวางแผนที่จะไปช่วยชีวิตของทหารกองทัพรุ่ยหลินจริงๆ
นี่มันเรื่องตลกอะไรกัน
เฉียวฉู่กับคนอื่นๆ ที่ใช้ชีวิตร่วมกับจวินอู๋เสียมาระยะหนึ่งแล้ว ทุกคนต่างรู้ดีว่าจวินอู๋เสียมีนิสัยเช่นไร นางกล้าหาญ สงบนิ่ง และไม่เคยแยแสใส่ใจเรื่องของคนอื่นมาก่อนเลย!
แต่ตอนนี้…
นี่นางรู้ตัวหรือไม่ว่าตัวเองกำลังจะไปเผชิญหน้ากับสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติ ไม่ใช่สัตว์วิญญาณธรรมดาๆ!
พวกสัตว์วิญญาณมีความทนทานต่อพิษสูงมากตามธรรมชาติ สิ่งที่จวินอู๋เสียเชี่ยวชาญมากที่สุด เมื่ออยู่ต่อหน้าสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติ พิษเหล่านั้นที่นางหลอมขึ้นมาเองกับมือใช้ไม่ได้ผลแม้แต่น้อย นี่นางไม่รักชีวิตของตัวเองแล้วหรือไง!
“บัดซบ! น้องเสียบ้าไปแล้ว!” เฉียวฉู่ลอบกัดฟันกรอด เขาไม่มีเวลามาคิดมากอีก รีบเรียกตัวกุ๋นกุ่นออกมาทันที!
ทันใดนั้นหมีหยินหยางตัวใหญ่ก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน มันก้มลงและยืนอยู่บนพื้นด้วยขาทั้งสี่ข้างของมัน
ร่างปราดเปรียวของเฉียวฉู่กระโดดขึ้นไปนั่งบนหลังของมันอย่างรวดเร็ว ฮวาเหยา เฟยเยียน และหรงรั่วก็รีบตามขึ้นไปบนหลังของกุ๋นกุ่น
“กุ๋นกุ่น! รีบตามไปเร็วเข้า!” พวกเขาไม่สามารถยืนมองจวินอู๋เสียไปตายได้!
หลังจากได้รับคำสั่งจากเฉียวฉู่ กุ๋นกุ่นที่เดิมรูปร่างใหญ่โตเทอะทะก็ออกวิ่งด้วยความเร็วที่น่าอัศจรรย์ รูปร่างที่ใหญ่โตนั้น คล้ายกับจะไม่เป็นอุปสรรคใดๆ สำหรับมันเลย และเพียงชั่วพริบตาทั้งมนุษย์และสัตว์วิญญาณก็หายไปจากจุดที่พวกเขายืนอยู่ เหลือทิ้งไว้เพียงพายุหมุนลูกเล็กๆ!
ฟ่านจิ่นยืนค้างอยู่กับที่ มองดูเฉียวฉู่และคนอื่นๆ ที่วิ่งตามจวินอู๋เสียออกไป หัวสมองของเขาก็พลันว่างเปล่า
กองทัพรุ่ยหลินทำไมถึงไปกระตุ้นสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติได้ เหตุผลนี้ทุกคนรู้ดีแก่ใจแต่ไม่มีใครพูดมันออกมา
ฟ่านจิ่นไม่ใช่คนโง่เขลา หลังจากนิ่งคิดสักพัก เขาก็เข้าใจเรื่องราวทั้งหมด
เพียงแต่ความจริงมันอาจยากหน่อยสำหรับเขาที่จะยอมรับ
หลังจากตกตะลึงเป็นเวลานาน ในที่สุดฟ่านจิ่นก็กัดฟันและไล่ตามหลังเฉียวฉู่และคนอื่นๆ ไปโดยไม่รอช้า!