ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 517 หางเล็กๆ ที่เกาะติดเป็นเงาตามตัว (8) ตอนที่ 518 หางเล็กๆ ที่เกาะติดเป็นเงาตามตัว (9)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 517 หางเล็กๆ ที่เกาะติดเป็นเงาตามตัว (8) ตอนที่ 518 หางเล็กๆ ที่เกาะติดเป็นเงาตามตัว (9)
ตอนที่ 517 หางเล็กๆ ที่เกาะติดเป็นเงาตามตัว (8) / ตอนที่ 518 หางเล็กๆ ที่เกาะติดเป็นเงาตามตัว (9)
ตอนที่ 517 หางเล็กๆ ที่เกาะติดเป็นเงาตามตัว (8)
แม้ว่าสมองของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะจะใช้การไม่ค่อยได้ แต่ความแข็งแกร่งกลับดีมากทีเดียว เป็นสัตว์เลี้ยงก็ได้ เป็นสมุนก็ได้ ซึ่งเป็นตัวช่วยที่ดีในเส้นทางการเป็นผู้แข็งแกร่งของจวินอู๋เสีย
และ…
ไม่ต้องจ่ายค่าอาหารด้วยซ้ำ แค่นางหาผืนหญ้าแล้วขึ้นไปยืนบนนั้นสักประเดี๋ยว ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะก็พอใจมากแล้ว
“มันชื่อว่าใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะหรือ เจ้าเป็นคนตั้งให้หรือ” เฉียวฉู่เอ่ยถาม
“มันบอกเช่นนั้น” จวินอู๋เสียตอบ
“…” จะดีหรือ สัตว์วิญญาณตัวนี้ไม่เพียงแต่เปลี่ยนรูปร่างได้ แต่ยังตั้งชื่อให้ตัวเองได้ด้วย แถมยัง…ยังเป็นชื่อแปลกๆ อีกต่างหาก
“แค่กๆ แม้ว่าจะเป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย แต่ก็ไม่เลว มีใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะอยู่ เราก็ไม่ต้องกังวลเรื่องหินวิญญาณอีกต่อไป” เฉียวฉู่คิดในแง่ดีอย่างยิ่ง
ให้สัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติจัดการกับสัตว์วิญญาณอื่นๆ ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากไม่ใช่หรือ!
ไม่นาน เฉียวฉู่ก็ตระหนักว่า…เขายังไร้เดียงสาเกินไป!
ความเป็นไปได้ที่สัตว์วิญญาณธรรมดาจะต้านทานสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติได้นั้นมีโอกาสเป็นศูนย์ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะจะสังหารสัตว์วิญญาณภายในเสี้ยววินาที แต่ทั้งหมดนี้มีเงื่อนไขอยู่ข้อหนึ่ง!
นั่นคือพวกเขาต้องหาเป้าหมายให้ได้ก่อน!
สัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัติตามติดเหมือนเงาตามตัว เปรียบเสมือนหางเล็กๆ ของจวินอู๋เสีย มันเดินตามหลังจวินอู๋เสียต้อยๆ ไปตลอดทาง ซึ่งความจริงมันคืออสูรระดับภัยพิบัติ และลมปราณที่ถูกปลดปล่อยออกมาจากตัวก็ทำให้สัตว์วิญญาณที่อยู่ห่างออกไปภายในหนึ่งร้อยเมตรสัมผัสได้อย่างชัดเจน พวกเฉี่ยวฉู่ยังไม่ทันพบเป้าหมาย สัตว์วิญญาณพวกนั้นก็หนีแตกกระเจิงเพราะลมปราณของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะแล้ว
สังหารภายในเสี้ยววินาที?
เหอะๆ…
เสี้ยววินาทีกะผีน่ะสิ!
บิดาเจ้าลองหาสัตว์วิญญาณวิญญาณให้ข้าดูก่อนสิ!
เฉียวฉู่ลอบหลั่งน้ำตาอยู่ในใจ
กระทั่งถึงคืนสุดท้ายก่อนสิ้นสุดงานล่าวิญญาณ เฉียวฉู่พวกเขามองไม่เห็นแม้แต่เงาของสัตว์วิญญาณในป่าประลองวิญญาณเลย เดิมทีเห็นสัตว์วิญญาณอยู่ทุกที่ ตอนนี้เหมือนจะสูญพันธุ์ไปหมดแล้ว หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ขณะที่นั่งอยู่รอบกองไฟ เฉียวฉู่มองดูใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะที่กำลังเล็มอยู่ที่เท้าของจวินอู๋เสียอย่างคับแค้นใจ แววตาขุ่นเคืองเหลือประมาณ
“เป็นเพราะเจ้า ทำให้พวกเราไม่พบสัตว์วิญญาณแม้แต่ตัวเดียว!” เฉียวฉู่รู้สึกโกรธแค้นมาก เขารู้สึกว่าตัวเองถูกหลอก
ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะเงยหน้าขึ้น เอียงคอมองเฉียวฉู่อย่างงุนงง
“เรื่องนี่จะไปโทษมันก็ไม่ได้ ลมปราณของสัตว์วิญญาณระดับภัยพิบัตินั้นแข็งแกร่งเกินไป ตอนนี้ลมปราณของมันก็ลดลงมากแล้ว ถ้าเปลี่ยนเป็นร่างแท้จริงของมัน อย่าว่าแต่ภายในหนึ่งร้อยเมตรเลย แม้ว่ามันจะขยายออกไปอีกกว่าหนึ่งรอบ ก็อย่าหวังว่าจะมีสัตว์วิญญาณปรากฏขึ้น” ฟ่านจิ่นกล่าวด้วยรอยยิ้ม รู้สึกมีความสุขมากที่มีใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะเพิ่มขึ้นมา เขารู้สึกผิดต่อจวินอู๋เสียมาก เมื่อเห็นว่าจวินอู๋เสียมีสัตว์วิญญาณที่ทรงพลังคอยปกป้องเช่นนี้ก็ยิ่งดีใจแทนนาง
“หินวิญญาณหนอ! หินวิญญาณ!!!” เฉียวฉู่ปิดหน้า ไม่มีความรู้สึกอยากอาหาร
“หินวิญญาณที่พวกเราได้มาก่อนหน้านี้ก็มากพอแล้ว น่าจะไม่ขาดเหลือแล้วกระมัง” ฟ่านจิ่นมองใบหน้าอันเศร้าสร้อยของเฉียวฉู่ อดรู้สึกสงสัยไม่ได้ ตลอดทางที่ผ่านมาพวกเขาได้ล่าสัตว์วิญญาณมากมาย อีกทั้งยังมีสัตว์วิญญาณระดับสูงอีกหลายตัว สิ่งที่ได้รับมีมากขนาดนี้เมื่อรอจนจนสิ้นสุดงานล่าวิญญาณ จะต้องเป็นที่ฮือฮาแน่นอน แล้วทำไมเฉียวฉู่ถึงได้อัดอั้นตันใจถึงเพียงนี้
“เจ้าไม่เข้าใจ” เฉียวฉู่ถอนหายใจ
พวกเขาทุกคนตั้งใจไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าจะไม่มอบหินวิญญาณให้กับสำนักศึกษาเฟิงหัว สำหรับคนยากจนทั้งหลายแล้ว หินวิญญาณเป็นตัวแทนของเงินตรา อีกทั้งพวกเขาไม่ใช่คนที่ตั้งอกตั้งใจมาศึกษาเล่าเรียนที่สำนักศึกษาเฟิงหัว พวกเขาแค่ผ่านทางมาเท่านั้น ทำไมต้องให้หินวิญญาณจำนวนมากกับสำนักศึกษาเพื่อคะแนนล่ะ
ตอนที่ 518 หางเล็กๆ ที่เกาะติดเป็นเงาตามตัว (9)
แน่นอนว่าว่าการที่นำหินวิญญาณไปเปลี่ยนเป็นเงินตรานั้นสมเหตุสมผลมากกว่า!
ฟ่านจิ่นไม่รู้ความคิดของเฉียวฉู่และคนอื่นๆ มิหนำซ้ำยังกุลีกุจอนำหินวิญญาณส่วนของตัวเองออกมาให้พวกเขาเอาไปแบ่งกันอีก แต่กลับถูกฮวาเหยาปฏิเสธ
ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะที่กินจนอิ่มแล้วเพิ่งจะมีเวลาให้ความสนใจกับ ‘มนุษย์โง่เขลา’ กลุ่มนี้ ในสายตาของมัน นอกจากเจ้านายของมันแล้วคนอื่นก็ไม่ต้องใส่ใจ
ทว่า…
หลังจากได้ยินเฉียวฉู่เอาแต่บ่นเรื่องนั้น ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะก็เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของของตนอย่างพะวง
ภายใต้แสงสว่างของกองไฟ ใบหน้าเล็กๆ ของจวินอู๋เสียไม่แสดงความรู้สึกใดๆ เพียงแค่ก้มศีรษะ หลับตาลง และกินอาหารที่ถืออยู่ในมืออย่างจริงจัง
ถ้าหากใต้เท้าเจ้านายก็รู้สึกว่ามันเกะกะล่ะ จะทำอย่างไรดี
ด้วยความกังวลว่าตัวเองจะถูกเจ้านายที่เพิ่งหาเจอทอดทิ้ง ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะจึงเดินตึกๆ ไปหยุดอยู่ตรงหน้าจวินอู๋เสีย
จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้น มองเจ้าแกะโง่ที่อยู่ตรงหน้า เอื้อมมือออกไปลูบตัวนุ่มนิ่มของมัน
แบ๊ะ!
ใต้เท้าเจ้านาย ข้าจะพิสูจน์ว่าข้าไม่ใช่ตัวถ่วง!
“?” จวินอู๋เสียงุนงงเล็กน้อย
เพื่อที่จะพิสูจน์ตัวเอง ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะพยายามบิดหัวเล็กๆ ของตัวเอง พยายามอย่างเต็มที่ที่จะอ้าปากงับขนหนาๆ ของตัวเองจนวุ่นวายไปหมด
ผ่านไปครู่หนึ่ง มันอมอะไรบางอย่างอยู่ในปากแล้วหันหน้ามา ก้มหน้าลง และอ้าปากคายอะไรบางอย่างออกมา
กุกกักๆ…
กองหินวิญญาณที่มีสีและขนาดต่างกันกลิ้งไปกองที่เท้าของจวินอู๋เสีย
“…” ดวงตาของจวินอู๋เสียเบิกกว้างนิดๆ
เฉียวฉู่ที่ยังคงคร่ำครวญอยู่ อ้าปากค้างหงายหลังลงพื้นเสียงดังตุ้บ…
“นี่คือหินวิญญาณใช่หรือไม่” เฟยเยียนฉวยขึ้นมาหนึ่งก้อน กำลังจะพิจารณาดู แต่มือยังไม่ทันได้จับหินวิญญาณดีๆ ก็ถูกกีบเท้าเล็กๆ เหยียบเข้า!
แบ๊ะ!
นี่มันของใต้เท้าเจ้านายนะ!
“…” มุมปากของเฟยเยียนกระตุกเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจสิ่งที่ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะพูด แต่ท่าทางและอาการที่แสดงออกมานั้นชัดเจนมาก เขาจำต้องวางลงแต่โดยดี
ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะยกกีบเท้าขึ้นอย่างพึงพอใจ
แล้วใช้กีบเท้าเขี่ยหินวิญญาณที่ถูกหยิบไป เขี่ยไปเรื่อยๆ จนถึงเท้าของจวินอู๋เสีย
แบ๊ะ! เงยหน้าขึ้น!
ใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะยอดเยี่ยมมาก!
จวินอู๋เสียมองท่าทางของเจ้าแกะโง่ที่เหมือนกับว่าต้องการ ‘ขอคำชมเชย’ นางยกมือขึ้นอย่างเงียบๆ แล้วลูบหัวของมัน
แบ๊ะ! เจ้าแกะโง่ถูๆ ไถๆ ข้างตัวของจวินอู๋เสียอย่างมีความสุข ต่อให้กินอิ่มแล้ว มันก็ปรารถนาที่จะนอนบนกองหญ้าหอมๆ แค่นั้นก็พอใจแล้ว!
ถ้ารู้แต่แรกว่าเจ้าของชอบหินประกายพวกนี้ มันน่าจะเก็บก้อนหินที่อยู่ในตัวของสัตว์วิญญาณที่มันเคยกินไว้ทั้งหมดก็ดี
เจ้าแมวดำตัวน้อยทนมองตรงๆ แทบไม่ได้ มันยกอุ้งเท้าขึ้นปิดตาตัวเอง และไม่ต้องการที่จะยอมรับความจริงที่ว่า เมื่อวานนี้มันกลัวจนวิ่งหนีเจ้าแกะโง่ที่โง่จนเกินเยียวยาตัวนี้
เหมียวอับอาย น่าละอายเหลือเกิน!
เฉียวฉู่จ้องมองกองหินวิญญาณจนตาลุกวาว แต่มีตัวอย่างจากเฟยเยียนมาก่อนแล้ว เขาจึงไม่มีความกล้าที่จะหยิบหินวิญญาณเหล่านั้น แต่ว่า…
“น้องเสีย หลังจากพวกเรากลับไปแล้ว ไปที่โรงประมูลดีหรือไม่” กองหินวิญญาณก็เหมือนกับกองเงินกองทองที่วางอยู่ตรงหน้า
ยิ่งไปกว่านั้น จากการสังเกตของเขา หินวิญญาณเหล่านั้นล้วนมีขนาดไม่เล็กนัก อย่างน้อยก็น่าจะเป็นของสัตว์วิญญาณระดับกลาง อีกทั้งยังมีหินวิญญาณระดับสูงมากมาย!
ทั้งหมดที่อยู่ในปากของใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะ มันมีจำนวนมากกว่าสิ่งที่พวกเขาได้รับในช่วงหลายวันที่ผ่านมา!
“ตกลง” จวินอู๋เสียพยักหน้า เงินที่มีติดตัวมาก็ใช้ไปไม่น้อยแล้ว นางตั้งใจจะเก็บหินวิญญาณเหล่านี้ไว้ส่วนหนึ่ง ตอนหลงฉีพวกเขาไปเอาคำตอบจากสำนักศึกษาเฟิงหัว ค่อยให้พวกเขานำกลับไปยังรัฐชี และที่เหลือนั้นเอามาแลกเปลี่ยนเพิ่มเติมเป็นเงินไว้ใช้สอยก็ไม่เสียหายอะไร
เงินที่ต้องใช้สำหรับการเข้าศึกษาที่สำนักศึกษาเฟิงหัว ทำให้จวินอู๋เสียค่อยๆ ตระหนักว่าการพกเงินติดตัวไปด้วยเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก!