ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 613 คิดถึงข้าแล้วหรือ (1) ตอนที่ 614 คิดถึงข้าแล้วหรือ (2)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 613 คิดถึงข้าแล้วหรือ (1) ตอนที่ 614 คิดถึงข้าแล้วหรือ (2)
ตอนที่ 613 คิดถึงข้าแล้วหรือ (1) / ตอนที่ 614 คิดถึงข้าแล้วหรือ (2)
ตอนที่ 613 คิดถึงข้าแล้วหรือ (1)
คนอย่างไป๋อวิ๋นเซียนกับอิ่นเหยียนนั้นขี้ขลาดตาขาวมาก เพียงกดดันสักหน่อย ทั้งคู่ก็ยอมอ่อนน้อมเชื่อฟังแล้ว ตราบใดที่คอยจับตาเอาไว้ดีๆ พวกเขาก็จะไม่ก่อปัญหาขึ้น แต่คนอย่างฉินอวี่เยียนกับหนิงซินต้องไม่ปล่อยให้รอดชีวิตไปได้ ต่อให้สามารถกำราบเอาไว้ได้ช่วงหนึ่ง จิตใจที่ชั่วร้ายของพวกนางก็จะทำให้พวกนางพยายามวางแผนการเพื่อให้รอดพ้นจากสภาพยากลำบากเช่นนี้ไปได้
“ทักษะการเยียวยารักษาจิตวิญญาณมีประโยชน์มาก ส่วนจะใช้งานเขาอย่างไร ท่านอาเล็กของข้ารู้ว่าจะต้องทำอย่างไรกับเขา” ขณะที่พูด นางก็หยิบตำรับยาออกมาสองใบและส่งให้หลงฉี
“หนึ่งคือยาพิษ ส่วนอีกหนึ่งคือยารักษา ส่งพวกมันให้มู่เฉินเอาไว้ใช้ควบคุมไป๋อวิ๋นเซียนกับอิ่นเหยียน มู่เฉินสามารถหลอมยาพวกนี้ได้”
ตอนที่นางออกจากรัฐชี นางได้เตรียมเม็ดยาชะลอพิษไว้ให้ไป๋อวิ๋นเซียนเพียงพอสำหรับครึ่งปีเท่านั้น ตอนนี้เวลาใกล้เข้ามาแล้ว ถ้านางไม่ได้รับเม็ดยาชะลอพิษเพิ่ม นางก็จะตาย คนอื่นๆ ไม่มีใครมีความสามารถพอจะหลอมยาที่นางคิดค้นขึ้นมาได้ แต่มู่เฉินสามารถทำมันได้
หลงฉีรับตำรับยามาเก็บรักษาไว้ จวินอู๋เสียไม่เคยคำนวณพลาด นางละเอียดรอบคอบมาก เขารู้ว่าเขาแค่ต้องทำตามคำสั่งเท่านั้น
“ท่านอ๋องกับท่านอ๋องน้อยฝากคำพูดให้ข้ามาบอกคุณหนูใหญ่ขอรับ” หลงฉีพูดหลังจากนิ่งไปครู่หนึ่ง
จวินอู๋เสียดวงตาเป็นประกาย
“ท่านอ๋องกับท่านอ๋องน้อยบอกว่า คุณหนูใหญ่ต้องคิดถึงความปลอดภัยของตัวเองก่อนเป็นอันดับแรก และพวกเขาจะรอให้คุณหนูใหญ่กลับบ้าน กลับไปที่จวนหลินอ๋องขอรับ” น้ำเสียงของหลงฉีอ่อนโยนขึ้นมาทันที
จวินอู๋เสียก้มหน้า พยายามระงับความปรารถนาที่อยู่ในดวงตาของนาง
“เอาล่ะ ฝากไปบอกท่านปู่กับท่านอาเล็กด้วยนะว่าวางใจได้”
หลงฉีพยักหน้าและถอยออกไปเงียบๆ
ภายในป่า สายลมเย็นปะทะเข้ากับใบหน้าของจวินอู๋เสีย นำความรู้สึกของความปรารถนาให้เอ่อท้นขึ้นมาในหัวใจของนาง
สภาพแวดล้อมรอบด้านเงียบสงัด จวินอู๋เสียก้มหน้าลง นางนึกถึงเรื่องทั้งหมดที่เคยเกิดขึ้นในจวนหลินอ๋อง
ท่านอาเล็ก ท่านปู่…และจวินอู๋เย่า…
“เจ้ากำลังคิดอะไรอยู่หรือ” น้ำเสียงที่เจือปนด้วยความร่าเริงดังขึ้นด้านหลังจวินอู๋เสีย เสียงที่นางคุ้นเคยเป็นอย่างมาก
จวินอู๋เสียสะดุ้งตกใจและเงยหน้าขึ้น วินาทีต่อมา นางก็พบว่าตัวเองตกอยู่ในอ้อมแขนอันอบอุ่นแสนสบาย นางได้กลิ่นที่คุ้นเคยและกลิ่นนั้นมันทำให้นางตัวสั่นเล็กน้อย
“เสี่ยวเสียเอ๋อร์คิดถึงข้าหรือ” เสียงหัวเราะชั่วร้ายดังขึ้นข้างหูของจวินอู๋เสีย ลมหายใจอุ่นๆ ที่คอทำให้นางรู้สึกจั๊กจี้
ในค่ายพัก ทุกคนพากันเงียบกริบ สายตาทุกคู่หันมาจ้องร่างสูงที่โอบกอดจวินอู๋เสียเต็มอ้อมแขน
หรงรั่วยืนขึ้นอย่างตกใจ พลางจ้องเขม็งไปยังบุรุษลึกลับที่เคยทำให้นางหวาดกลัวจากกลิ่นอายกดดันของเขา
กลางป่าทึบ ชายหนุ่มรูปงามไร้ที่ติกำลังตระกองกอดหญิงสาวผู้งดงามสมบูรณ์แบบเอาไว้ พวกเขาทั้งคู่ยืนอยู่ตรงนั้นเงียบๆ แสงอาทิตย์ส่องลอดผ่านใบไม้เหนือศีรษะลงมา ดูราวกับท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยดวงดาวส่องแสงระยิบระยับตกลงมาที่ร่างของคนทั้งสอง
“พี่ชาย…” จวินอู๋เสียเปิดริมฝีปากเล็กน้อย เรียกขานคำที่ปรากฏอยู่ในความฝันของนาง
เสียงหัวเราะอย่างเบิกบานดังขึ้นต่อเนื่องจากด้านหลังของจวินอู๋เสีย บุรุษผู้นั้นจับตัวจวินอู๋เสียหันมาและก้มหน้าลงเล็กน้อย เอาหน้าผากของเขาแตะกับหน้าผากของจวินอู๋เสีย พร้อมกับหัวเราะจนตาหยี
“เสี่ยวเสียเอ๋อร์จำเสียงข้าได้ ข้าดีใจจริงๆ”
รอยยิ้มหล่อเหลาแต่ชั่วร้ายที่สามารถทำให้โลกและสวรรค์ล่มสลายได้ ประทับอยู่ในดวงตาของจวินอู๋เสีย ดวงตาของนางเบิกกว้างขึ้นเล็กน้อยขณะที่มองรูปหน้าที่สมบูรณ์แบบนั้น
“อะไร มองข้าแบบนี้ อย่าบอกนะว่าเสี่ยวเสียเอ๋อร์คิดถึงข้ามากจนจะแย่แล้ว” จวินอู๋เย่าพูดอย่างขี้เล่น หยอกเย้าเด็กน้อยที่รักของเขาที่กำลังยืนแข็งทื่อด้วยความตกใจ
ตอนที่ 614 คิดถึงข้าแล้วหรือ (2)
จวินอู๋เสียกะพริบตาสองสามครั้ง แต่นางไม่ได้ส่งเสียงอะไรออกมาและเอนพิงอยู่ในอ้อมกอดของจวินอู๋เย่าเหมือนสัตว์ตัวเล็กที่บาดเจ็บและต้องการแสวงหาความสบายจากกลิ่นที่คุ้นเคย
รอยยิ้มบนใบหน้าของจวินอู๋เย่าแข็งค้างไปชั่วขณะ จู่ๆ จวินอู๋เสียก็แสดงความไว้วางใจออกมาจนเขาทำอะไรไม่ถูก มือเล็กๆ ทั้งสองจับเสื้อของเขาเอาไว้แน่น ร่างอันนุ่มนิ่มของนางแนบอยู่กับอกกว้างของเขา
พวกเขาแนบชิดกันมากพอที่จวินอู๋เย่าจะได้ยินเสียงลมหายใจของนาง
หลังจากแข็งค้างอยู่ครู่หนึ่ง จวินอู๋เย่าก็กระชับอ้อมกอดเข้ามาให้จวินอู๋เสียแนบชิดกับเขามากยิ่งขึ้น รอยยิ้มบนใบหน้าของเขากว้างมากขึ้น เขาเกยคางลงบนผมของจวินอู๋เสีย และพึมพำด้วยเสียงกระซิบเบาๆ เหมือนกำลังเกลี้ยกล่อมเด็กเล็ก
“เจ้าถูกรังแกหรือ ไม่ต้องกังวล พี่ชายของเจ้าอยู่ตรงนี้แล้ว มีพี่ชายอยู่ด้วย จะไม่มีใครสามารถรังแกเจ้าได้แม้แต่ปลายเส้นผม”
แขนข้างหนึ่งโอบรอบเอวของจวินอู๋เสีย และมืออีกข้างของเขาก็ลูบผมเรียบลื่นของจวินอู๋เสียอย่างอ่อนโยน เสียงทุ้มนุ่มลึกและอ่อนโยนนั้นช่วยปลอบประโลมใครก็ตามที่ได้ยินให้รู้สึกดีขึ้น
ศีรษะของจวินอู๋เสียที่พิงอยู่ที่หน้าอกของจวินอู๋เย่าส่ายไปมาเป็นการปฏิเสธ แต่นางยังคงไม่พูดอะไร
นางไม่ได้พบเจอกับความอยุติธรรมใดๆ และไม่มีใครรังแกนาง นางเพียงแต่คิดถึงบ้าน…
นางคิดถึงบ้าน แต่นางไม่สามารถกลับไปได้
จวินอู๋เย่าไม่รู้จะทำอย่างไรได้แต่กอดนางเอาไว้แน่น เขาไม่รู้ว่าทำไมครั้งนี้เด็กน้อยของเขาถึงได้โหยหาเขา แต่เขาก็มีความสุขกับความรู้สึกนี้มาก
เขาไม่รังเกียจที่นางวางใจในตัวเขาเพิ่มมากขึ้น
ภาพอันงดงามของคนทั้งสองที่อยู่ในอ้อมกอดภายใต้ลำแสงของพระอาทิตย์ที่สาดส่องผ่านพุ่มใบไม้ลงมา คงอยู่อย่างนั้นพักใหญ่ราวกับมีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นที่อยู่ที่นั่น
คนอื่นๆ ทั่วค่ายพักพากันกลั้นหายใจด้วยกลัวว่าจะทำให้ภาพอันสงบเยือกเย็นเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันนี้จะแปดเปื้อนมีมลทิน
ดวงตาของเฉียวฉู่เบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ ขณะที่มองจวินอู๋เย่าที่กำลังกอดจวินอู๋เสียเอาไว้อย่างแนบแน่น สายตาของเขาแสดงความไม่เชื่ออย่างถึงที่สุด
นิ้วอันสั่นเทาของเขาชี้ไปที่คนทั้งสองคน สีหน้าของเขาแสดงความตกใจสุดขีดขณะที่หันไปมองฮวาเหยาที่กำลังมองอย่างอยากรู้อยากเห็นนอกเหนือจากความประหลาดใจ
บัดซบ! นั่นใครกัน! บังอาจมากอดน้องเสียแบบนั้น! อยากตายใช่หรือไม่!
ทำไมน้องเสียถึงปล่อยให้ตัวเองถูกกอดแบบนั้น ข้าเองก็อยากกอดเหมือนกันนะ! แต่ข้าไม่กล้าอ่ะ! อ๊ากกก!
ฮวาเหยาไม่ตอบเพราะยังไม่ได้สติจากอาการตกใจ ภาพที่อยู่ตรงหน้าพวกเขาค่อนข้างยากที่จะเข้าใจ
มีเพียงหรงรั่วเท่านั้นที่สีหน้าเปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อย
จวินอู๋เสียเอนพิงอยู่ในอ้อมกอดของจวินอู๋เย่า การปล่อยใจไปกับความคุ้นเคยเช่นนั้นช่วยปลอบประโลมความไม่สบายใจและความหวาดหวั่นที่ซ่อนอยู่ภายใต้ความเย็นชาและห่างเหินของนางให้หายไป
นางอาจจะสามารถเดินทางได้ด้วยตัวเอง แต่นางต้องการความรักของครอบครัวที่นางได้รับมาหลังจากลำบากมามาก
จวินอู๋เย่าคลายอ้อมแขนออกเล็กน้อย แล้วดึงตัวออกห่างจากร่างเล็กๆ ที่ถูกรัดแน่นอยู่กับอกของเขา การขาดออกซิเจนเล็กน้อยทำให้ใบหน้าของจวินอู๋เสียเปลี่ยนเป็นสีแดง ทำให้จวินอู๋เสียดูเขินอายเล็กน้อย เมื่อเห็นเช่นนั้นก็ทำให้หัวใจของจวินอู๋เย่ารู้สึกเหมือนถูกกรงเล็บแมวตวัดข่วนเอาทำให้หัวใจของเขากระตุกเร่าด้วยความปรารถนา
“พูดจริงๆ นะ เจ้าคิดถึงข้าหรือไม่” จวินอู๋เย่าพูดเสียงต่ำอย่างจงใจ แขนของเขาโอบรอบสะโพกของจวินอู๋เสีย ไม่ยอมให้นางถอยห่างไปมากกว่านี้
จมูกของจวินอู๋เสียเป็นสีแดงเล็กน้อย นางยกนิ้วขึ้นมาถูจมูกแล้วพยักหน้าเล็กน้อย
นางคิดถึงบ้าน
จวินอู๋เย่ารู้สึกราวกับว่าเขาถูกป้อนน้ำผึ้ง หัวใจของเขาอบอุ่นขึ้นมา ทันใดนั้นเขาก็ดึงจวินอู๋เสียกลับเข้าไปในอ้อมกอดอันอบอุ่นของเขา
อย่างไรก็ตาม…
เยี่ยซาที่ซ่อนตัวอยู่ในเงามืดมาตลอดเฝ้าสังเกตเหตุการณ์ทั้งหมดอย่างเงียบๆ บนใบหน้าเฉยเมยเคร่งขรึมของเขา ไม่มีใครรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ แต่ทันใดนั้นเขาก็พูดกับตัวเองว่า “เมื่อไรนายท่านจะรู้ ไม่เห็นหรือว่าคุณหนูใหญ่เป็นแบบนั้นเพราะนางคิดถึงบ้าน มันไม่มีอะไรเหมือนที่นายท่านคิดเลย! โธ่ นายท่าน! ตื่นสักทีเถอะขอรับ!”
พอพูดจบประโยค เยี่ยซาก็ตัวแข็งทื่อ เขารีบยกมือขึ้นปิดปาก ดวงตาเต็มไปด้วยความสับสน