ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 619 ข้ารับใช้ (1) ตอนที่ 620 ข้ารับใช้ (2)
ตอนที่ 619 ข้ารับใช้ (1) / ตอนที่ 620 ข้ารับใช้ (2)
ตอนที่ 619 ข้ารับใช้ (1)
“เพิ่งจะดูดซับเจ้าสิ่งนั้น ข้าว่าเจ้าต้องหิวมากแล้วแน่”
จวินอู๋เสียมองจวินอู๋เย่าแล้วพูดว่า “ข้ากินเองได้”
นางเอื้อมไปหยิบขากระต่ายมากัด จวินอู๋เสียดึงตัวออกจากอ้อมกอดของจวินอู๋เย่าและนั่งลงบนพื้นหญ้า
จวินอู๋เย่าไม่ห้ามนาง เขาเพียงแต่ยิ้มและเฝ้าดูจวินอู๋เสียกินอาหารของนาง
เฉียวฉู่กำลังรู้สึกไม่มั่นคงเล็กน้อย ขณะที่เขากลับไปที่กองไฟและนั่งลง สีหน้าของเขามึนงงเล็กน้อย
เฟยเยียนตบหลังเขาเบาๆ และถามเขาว่า “อะไร กลัวอีกแล้วหรือไง”
เฉียวฉู่มองเฟยเยียนแล้วโต้ตอบกลับไปว่า “ไม่ใช่สักหน่อย! ข้าก็แค่คิด…ข้ารู้สึกว่า…พี่ชายของน้องเสียก็ไม่ได้เลวร้ายขนาดนั้น” เขาดูดีมากเวลายิ้ม…
เฟยเยียนประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า “อะไรทำให้เจ้าคิดแบบนั้น”
เฉียวฉู่หัวเราะแล้วพูดว่า “เขายิ้มให้ข้า! สุดยอดไปเลยใช่หรือไม่! พวกเขาอาจจะดูไม่เหมือนกัน แต่สองคนนั้นเป็นคนที่งดงามมากๆ เลยนะ”
รอยยิ้มของคนที่งดงาม มันน่ามองเอามากๆ เลย…
เฟยเยียนมองเฉียวฉู่อย่างพูดอะไรไม่ออก เจ้าหมายความว่าถ้ามีคนหล่อคนสวยมายิ้มให้เจ้า เจ้าก็จะทึกทักเอาเองว่าคนผู้นั้นเป็นคนดีโดยไม่ตรวจสอบเลยเรอะ…โอ้สวรรค์! เจ้าโง่ขนาดไหนกันเนี่ย
เฟยเยียนไม่เคยมีความมั่นใจในความฉลาดของเฉียวฉู่ตลอดมา และครั้งนี้เขาก็ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่สนใจเจ้าโง่นี่แล้ว เขาย้ายที่นั่งแล้วหันไปดื่มกินกับหรงรั่วและฮวาเหยาอย่างสนุกสนานแทน
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น หลงฉีกับคนของเขาก็เตรียมพร้อมกลับรัฐชี อิ่นเหยียนถูกทำให้หมดสติและถูกจับพาดบนหลังม้าเตรียมเดินทาง ขณะที่จวินอู๋เสียกับคนอื่นๆ เดินทางกลับไปยังสำนักศึกษาเฟิงหัว
“ข้าจะไปกับเจ้าด้วย” จวินอู๋เสียมองจวินอู๋เย่าที่บอกว่าเขาจะกลับไปที่สำนักศึกษาเฟิงหัวพร้อมกับนางอย่างสงสัย
จวินอู๋เย่ามักจะผลุบๆ โผล่ๆ ตามใจตัวเองอยู่เสมอ เมื่อเขาบอกว่าจะไปที่สำนักศึกษาเฟิงหัวกับนางในครั้งนี้ จวินอู๋เสียจึงคิดว่ามันแปลก
“เราไม่ได้เจอกันมานาน เจ้าจะอยู่กับข้านานขึ้นอีกสักหน่อยไม่ได้หรือ” จวินอู๋เย่าถามพร้อมหัวเราะ
จวินอู๋เสียไม่มีคำตอบให้ และทำได้เพียงพยักหน้าอย่างเหม่อลอยเป็นคำตอบเท่านั้น
เฟยเยียนมองไปที่จวินอู๋เสียแล้วส่ายหน้าไว้อาลัยให้ศิษย์ตึกหลักของสำนักศึกษาเฟิงหัวอย่างเงียบๆ
เฉียวฉู่กับพรรคพวกของเขากำลังจะกลับไปที่ตึกรอง พวกเขาจึงออกเดินทางก่อน
จวินอู๋เสียก้าวเข้าไปในกระโจมและเปลี่ยนชุดเป็นเครื่องแบบของสำนักศึกษาเฟิงหัว ปลอมแปลงตัวเองกลับไปเป็นเด็กหนุ่มตัวเล็กตามเดิม จากนั้นก็ก้าวออกมาจากกระโจมอย่างช้าๆ
ขณะที่นางเดินออกมา นางก็เห็นแผ่นหลังของร่างที่ยืนเงียบๆ อยู่ภายใต้แสงแดดยามเช้า ใบหน้าของจวินอู๋เย่าเต็มไปด้วยความเบิกบานขณะหันกลับมา ใบหน้าหล่อเหลาชั่วร้ายของเขาดูอ่อนวัยลงราวกับเป็นชายหนุ่มที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
จวินอู๋เสียชะงักไปด้วยความประหลาดใจ จวินอู๋เย่าที่ยืนอยู่ตรงหน้านางดูเด็กลงมาก แค่ชำเลืองแวบแรก เขาก็ประสบความสำเร็จในการแสร้งเป็นผู้เยาว์รูปงามอายุสิบแปดสิบเก้าปีโดยปราศจากรังสีกดดันอันน่ากลัวและเป็นเหมือนชายหนุ่มที่ดูน่ารักมากกว่า
แสงอาทิตย์สาดส่องลงบนใบหน้าของชายหนุ่มจวินอู๋เย่า ทำให้รอยยิ้มอ่อนวัยบนใบหน้าของเขาสดใสมากยิ่งขึ้น
“ข้าในสภาพนี้ คงไม่ทำให้เสี่ยวเสียเอ๋อร์รู้สึกว่ามันยุ่งยากเกินไปอีกแล้วใช่หรือไม่” จวินอู๋เย่าลูบใบหน้าที่เด็กลงของเขา เขาจำไม่ได้แล้วว่าโฉมหน้านี้ปรากฏขึ้นเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่
“…” จวินอู๋เสียยังคงเงียบ
เทียบกับความสามารถในการควบคุมกระดูกของฮวาเหยาแล้ว การเปลี่ยนร่างของจวินอู๋เย่านั้นเข้าใจยากกว่ามาก เขาไม่เพียงแค่เปลี่ยนโครงสร้างกระดูกเท่านั้น กระทั่งผิวและน้ำเสียงก็ยังเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ถ้านางไม่เคยเห็นใบหน้าเดิมของจวินอู๋เย่า จวินอู๋เสียคงคิดว่าเขาเป็นคนละคนกัน
ทันใดนั้นจวินอู๋เสียก็มีความคิดน่าหัวเราะขึ้นมาว่า ต่อให้เอาเครื่องมือที่ล้ำหน้าที่สุดจากอดีตชาติของนางมาไว้ตรงหน้าจวินอู๋เย่าตอนนี้ พวกมันก็จะไม่สามารถระบุอายุที่แท้จริงของเขาได้
ป่านั้นอยู่ไม่ไกลจากตึกหลักของสำนักศึกษาเฟิงหัวมากนัก ทั้งสองคนจึงใช้เวลาไม่นานในการไปถึงสำนักศึกษา
ทันทีที่จวินอู๋เสียก้าวผ่านประตูตึกหลักเข้าไป ก็มีเหล่าศิษย์หลายคนวิ่งเข้ามาหานาง
ตอนที่ 620 ข้ารับใช้ (2)
“จวินเสีย! ในที่สุดเจ้าก็กลับมาแล้ว! เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นเมื่อวาน ทำเอาพวกเราทุกคนตกใจแทบแย่! โชคดีที่เจ้าไม่ได้อยู่สำนักศึกษาเมื่อวานนี้” เมื่อก่อนเหล่าศิษย์พวกนี้ไม่ค่อยได้พูดกับจวินอู๋เสียเท่าไหร่นัก แต่หลังจากที่กู้หลีเซิงประกาศสถานะและตัวตนของจวินอู๋เสียอย่างยิ่งใหญ่ คนมากมายในสำนักศึกษาเฟิงหัวก็รู้สึกว่าพวกเขา ‘ค่อนข้างสนิทสนม’ กับจวินอู๋เสีย
ไม่ว่าพวกเขาจะเคยมีปฏิสัมพันธ์กับจวินอู๋เสียมาก่อนหรือไม่ก็ตาม แต่ตอนนี้พวกเขาต่างกระตือรือร้นจะเข้าหานางมาก
เหล่าศิษย์หลายคนแย่งกันพูด พวกเขาแข่งกันเล่าให้จวินอู๋เสียฟังถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวาน
จวินอู๋เสียฟังพวกเขาเงียบๆ เจ้าแมวดำตัวน้อยที่นอนอยู่ในอ้อมแขนของนางก็หาวออกมายาวเหยียด
เหล่าศิษย์พากันส่งเสียงเซ็งแซ่ไม่หยุด จนเมื่อพวกเขาไม่เห็นปฏิกิริยาตอบสนองจากจวินอู๋เสีย และอีกฝ่ายก็ไม่ได้แสดงความหงุดหงิดเหมือนเคย แต่แค่แสดงความเย็นชาเฉยเมยเท่านั้น พวกเขาจึงเริ่มรู้สึกเก้อเขินเล็กน้อย ตอนที่พวกเขาหยุดพูดนั่นเอง พวกเขาก็สังเกตเห็นชายหนุ่มรูปงามที่อยู่ด้านหลังจวินอู๋เสีย พวกเขาทำตาโตอย่างประหลาดใจ
พวกเขาไม่ทันสังเกตเห็นว่าชายหนุ่มที่รูปงามจนน่าทึ่งผู้นี้มาปรากฏตัวอยู่ข้างหลังจวินอู๋เสียเมื่อไหร่ หน้าตาของเขาก็ไม่คุ้นเคยสักนิด แต่รูปโฉมและท่าทางของเขานั้นเป็นสิ่งที่พวกเขาไม่สามารถมองข้ามไปได้
“เจ้าเป็นใครหรือ” เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มผู้นั้นไม่ได้สวมเครื่องแบบของสำนักศึกษาเฟิงหัว เหล่าศิษย์คนอื่นๆ ก็ถามขึ้นทันที
จวินอู๋เสียกำลังจะตอบ แต่จวินอู๋เย่ากลับก้าวขึ้นมาข้างหน้าอย่างกะทันหันและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ข้าเป็นข้ารับใช้ส่วนตัวผู้ต่ำต้อยของคุณชายจวินขอรับ”
“…” คราวนี้เป็นทีของจวินอู๋เสียที่เบิกตากว้างอย่างประหลาดใจบ้าง นางมองใบหน้าด้านข้างของจวินอู๋เย่าขณะที่เขายืนยิ้มกว้างอย่างสดใสอยู่ตรงนั้น
ข้ารับใช้หรือ…
เหล่าศิษย์คนอื่นๆ กระซิบกระซาบกันเล็กน้อยก่อนจะรีบหันหลังจากไป
จวินอู๋เสียมองจวินอู๋เย่าอย่างงุนงง เขายกมือขึ้นลูบหัวจวินอู๋เสียอย่างรักใคร่ก่อนจะพูดว่า “ถ้าข้าจะมาอยู่กับเจ้า ข้าก็ไม่อยากทำให้เจ้าต้องยุ่งยาก”
มีเพียงข้ารับใช้เท่านั้นที่จะสามารถอยู่ข้างกายเจ้านายของเขาได้ ไม่ใช่หรือ
จวินอู๋เสียยังคงรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง แต่นางไม่สามารถบอกได้ว่ามันคืออะไร ดังนั้นจึงทำได้เพียงพึมพำตกลงเสียงเบา “อืม”
เมื่อกลับไปที่ลานป่าไผ่ ฟ่านจัวกับฟ่านจิ่นกำลังดื่มชากันอยู่ และเมื่อพวกเขาเห็นจวินอู๋เสียกลับมา ฟ่านจิ่นก็ลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้ ใบหน้าของเขาแดงก่ำเป็นลูกตำลึงในทันที
“นะ…น้องเสีย…เจ้า…เจ้ากลับมาแล้ว…” ฟ่านจิ่นพบว่าลิ้นของเขาพันกันจนพูดตะกุกตะกัก ท่าทางของเขาลุกลี้ลุกลนเป็นอย่างมาก
และเมื่อฟ่านจิ่นสังเกตเห็นชายหนุ่มที่งดงามมีเสน่ห์ยืนอยู่ข้างหลังจวินอู๋เสีย เขาก็ชะงักไปทันที สีหน้าลุกลนของเขากลายเป็นตกใจสุดขีด
“นี่คือ…”
“ข้ารับใช้ส่วนตัวของคุณชายจวินขอรับ” จวินอู๋เย่าตอบ
ระหว่างทางที่มาที่นี่ เขาได้ทราบข้อมูลจากจวินอู๋เสียว่าตอนที่นางอยู่ในสำนักศึกษาเฟิงหัว จวินอู๋เสียได้มาพักอยู่ที่เรือนพักหลังเล็กในลานป่าไผ่นี้ และนางก็ค่อนข้างสนิทสนมคุ้นเคยกับสองพี่น้องสกุลฟ่านที่อยู่ตรงหน้าเขา
จวินอู๋เย่ายิ้มมุมปากเล็กน้อยขณะที่ลอบประเมินสองพี่น้องสกุลฟ่าน ชายหนุ่มที่นั่งอย่างสงบอยู่ที่โต๊ะมีสีหน้าปกติ แต่ชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นทำท่าประหลาดพิกล หน้าที่แดงก่ำเป็นลูกตำลึงกับท่าทางลุกลี้ลุกลนนั้นส่งสัญญาณที่ไม่อาจปฏิเสธได้มาให้จวินอู๋เย่า
ดูเหมือนว่าเสี่ยวเสียเอ๋อร์จะไม่ได้อยู่ว่างๆ จริงด้วยๆ นางดึงดูดพวกแมลงวันน่ารำคาญมาไม่น้อยเลย
ข้าควรจะขยี้พวกมันดีหรือไม่
ฟ่านจิ่นไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าถูกคนหมายหัวอยู่ เขาเองก็ประเมินจวินอู๋เย่าด้วยเช่นกัน
ในฐานะบุตรชายคนโตของอาจารย์ใหญ่ เขาได้พบเจอยอดฝีมือที่เก่งกาจมานับไม่ถ้วนในสำนักศึกษาเฟิงหัว แต่แทบไม่มีใครเลยที่จะสามารถเทียบเคียงกับชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเขาในตอนนี้ได้ ใบหน้าอันงดงามสมบูรณ์แบบของเขาและรัศมีที่เขาแผ่ออกมาก็ไม่มีสิ่งใดที่เหมือนข้ารับใช้ส่วนตัวธรรมดาทั่วไปจะมีได้
ฟ่านจิ่นชำเลืองมองจวินอู๋เสียอย่างไม่ได้ตั้งใจ แต่เขาก็ไม่พบความผิดปกติใดๆ บนใบหน้าของจวินอู๋เสีย