ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 625 ชักศึกเข้าบ้าน (2) ตอนที่ 626 ชักศึกเข้าบ้าน (3)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 625 ชักศึกเข้าบ้าน (2) ตอนที่ 626 ชักศึกเข้าบ้าน (3)
ตอนที่ 625 ชักศึกเข้าบ้าน (2) / ตอนที่ 626 ชักศึกเข้าบ้าน (3)
ตอนที่ 625 ชักศึกเข้าบ้าน (2)
หนิงรุ่ยเงยหน้าขึ้นอย่างระมัดระวัง แม้ว่าเขาจะรู้สึกกระวนกระวาย แต่เขาก็ไม่กล้ากลอกตาไปมา ถึงแม้ชายหนุ่มตรงหน้าเขาจะอยู่ในวัยเดียวกับบุตรีที่เสียชีวิตไปแล้วของเขา แต่เขาก็รู้ดีว่าชายหนุ่มตรงหน้าเขานั้นโหดเหี้ยมชั่วร้ายมากแค่ไหน
การฆ่าคนสำหรับเขา เป็นเพียงเรื่องปกติธรรมดาเหมือนการกินอาหาร มันไม่ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจเลยแม้แต่นิดเดียว
กระทั่งหนิงรุ่ยก็ยังไม่กล้าทำท่ายโสต่อหน้ากู่อิ่ง
“ข้าสงสัยว่านายท่านคนอื่นๆ อยู่ที่นี่หรือไม่ขอรับ” หนิงรุ่ยพูดด้วยน้ำเสียงประจบประแจง
กู่อิ่งกระโดดลงจากรั้วพร้อมหัวเราะ ร่างอันคล่องแคล่วว่องไวของเขาปรากฏขึ้นตรงหน้าหนิงรุ่ย มีดสั้นกดอยู่ที่ลำคอของหนิงรุ่ย ปลายแหลมของมันทะลุผิวหนังจนของเหลวสีแดงหยดลงมาตามลำคอของเขา
หัวใจของหนิงรุ่ยเต้นผิดจังหวะ กู่อิ่งเร็วมากจนเขามองไม่ทันว่ากู่อิ่งเข้ามาประชิดตัวเขาเมื่อไหร่!
“อะไร มีเรื่องอะไรที่เจ้าไม่อยากบอกข้าหรือไง” ดวงตาของกู่อิ่งสะท้อนใบหน้าหวาดกลัวของหนิงรุ่ย และเมื่อกลิ่นโลหิตลอยเข้าจมูกของเขา กู่อิ่งก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นจนผิดปรกติ
“ไม่…ไม่มีขอรับ เหตุใดข้าจะต้องทำเช่นนั้น” หนิงรุ่ยเหงื่อออกจนชุ่ม ถ้าไม่ใช่เพราะความต้องการแก้แค้นให้บุตรีของเขาละก็ เขาก็ไม่กล้ามาพบกับปีศาจร้ายกลุ่มนี้หรอก
ไม่ว่าหนิงรุ่ยจะร้ายกาจสักเพียงใด ต่อหน้ากู่อิ่งกับพรรคพวกของเขา เขาก็ทำได้แค่หวาดกลัวเท่านั้น
กู่อิ่งเลิกคิ้วและยกเท้าขึ้นถีบหนิงรุ่ยลงกับพื้นอย่างง่ายดาย
“เช่นนั้นเจ้ามีธุระอันใดเล่า รีบพูดมาเร็ว ข้าไม่อยากดูเจ้าฉี่รดกางเกงหรอกนะ” กู่อิ่งพูดอย่างเบื่อหน่ายพลางกลิ้งหยดโลหิตของหนิงรุ่ยเล่นไปมาบนใบมีด
หยดโลหิตสีแดงสดสะท้อนอยู่ในดวงตาโหดเหี้ยมของกู่อิ่ง ดูเหมือนปีศาจร้ายที่คืบคลานออกมาจากกองเลือด
อวัยวะภายในของหนิงรุ่ยแทบจะฉีกขาดจากการถีบเพียงครั้งเดียวของกู่อิ่ง แต่เขาไม่กล้าส่งเสียงบ่นออกมาสักคำ และทำได้เพียงยกมือขึ้นกุมท้องไว้ขณะที่พยายามกระเสือกกระสนลุกขึ้นยืน เขานำกล่องไม้ที่ซ่อนอยู่ในกระเป๋าของเขาออกมาด้วยมือที่สั่นเทา
ตอนที่กู่อิ่งเห็นกล่องไม้ นัยน์ตาของเขาก็ทอแววประหลาด
“อะไร ตอนที่เราเอาให้เจ้า เราก็บอกเจ้าไปแล้วนี่ว่าให้รีบไปค้นหามันซะ แต่เจ้ากลับอืดอาดยืดยาดเอาแต่ถ่วงเวลาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ถ้าไม่ใช่เพราะท่านผู้อาวุโสขอให้ละเว้นชีวิตเจ้า ข้าฆ่าเจ้าไปนานแล้ว แล้วที่เจ้าเอามันมาที่นี่หมายความว่าอย่างไร”
หนิงรุ่ยรีบตอบว่า “ข้าไม่ได้ถ่วงเวลานะขอรับ และไม่ได้มีเจตนาขัดขืนด้วย ข้าส่งคนไปที่ผาสุดขอบฟ้าหลายกลุ่มแล้ว แต่พวกเขาตายที่ด้านล่างหน้าผาจนหมด ข้าจะกล้าเพิกเฉยต่อคำสั่งของนายท่านได้อย่างไรขอรับ แต่ผาสุดขอบฟ้าเป็นสถานที่อันตรายมากจริงๆ”
“ข้าไม่อยากได้ยินเรื่องไร้สาระของเจ้า” กู่อิ่งพูดพร้อมหัวเราะเย็นยะเยือก
หนิงรุ่ยรู้สึกเย็นวาบไปทั่วร่าง เขากลืนน้ำลายก่อนจะพูดว่า “ข้ารู้ว่านายท่านร้อนใจอยากให้มีการสำรวจผาสุดขอบฟ้าเร็วๆ ตอนนี้ข้าคิดออกแล้ว นายท่านสนใจจะรับฟังหรือไม่ขอรับ”
กู่อิ่งพยักหน้าอย่างหงุดหงิด
“ผาสุดขอบฟ้าไม่ใช่สถานที่ที่คนทั่วไปสามารถไปสำรวจได้ แต่ศิษย์ทุกคนของสำนักศึกษาเฟิงหัวต่างเป็นยอดฝีมือและมีจำนวนมาก ถ้าเราสามารถทำให้ศิษย์ทุกคนของสำนักศึกษาเฟิงหัวลงไปที่ด้านล่างของผาสุดขอบฟ้าได้ เราก็อาจจะสามารถเข้าใจถึงสภาพภูมิประเทศที่ด้านล่างผาสุดขอบฟ้าได้ในเวลาอันสั้นที่สุดขอรับ” หนิงรุ่ยแนะนำอย่างระมัดระวัง
“ถ้าได้ผลก็จัดการเลยสิ”
หนิงรุ่ยรีบตอบว่า “ข้าก็ตั้งใจจะทำเช่นนั้นมาตลอด แต่ข้าเป็นแค่รองอาจารย์ใหญ่ ไม่ใช่คนที่มีอำนาจเด็ดขาดในสำนักศึกษาเฟิงหัว เหนือข้ายังมีอาจารย์ใหญ่อยู่ และข้าเคยปรึกษาเรื่องนี้กับเขาแล้ว แต่บุรุษผู้นั้นดื้อรั้นมากและไม่ยอมตกลง เป็นเพราะข้าขาดความสามารถ ไม่สามารถระดมกำลังของสำนักศึกษาทั้งหมดได้ ขอให้นายท่านโปรดอภัยให้ข้าด้วย!”
ตอนที่ 626 ชักศึกเข้าบ้าน (3)
“เจ้ากำลังบอกว่าถ้าเจ้าได้เป็นอาจารย์ใหญ่ ปัญหาก็จะถูกแก้ไขใช่หรือไม่” กู่อิ่งถาม เขาเลียหยดโลหิตบนใบมีด ดวงตาพลันลุกโชนด้วยความปรารถนาที่จะฆ่าฟัน
หนิงรุ่ยยินดีอยู่ลึกๆ ในใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น แต่เขาแสดงออกแค่ท่าทางประจบประแจงเท่านั้น
“นายท่านจะเข้าใจเช่นนั้นก็ได้ขอรับ”
“อาจารย์ใหญ่ของสำนักศึกษาเฟิงหัวอยู่ที่ไหน ข้าจะไปฆ่ามัน” กู่อิ่งพูดง่ายๆ
“แค่…กำจัดเขาอย่างเดียวคงไม่พอขอรับ สำนักศึกษาเฟิงหัวมีกฎอยู่ว่า ถ้าอาจารย์ใหญ่ตาย ตำแหน่งอาจารย์ใหญ่จะถูกสืบทอดโดยบุตรชายของเขา อาจารย์ใหญ่คนปัจจุบันมีบุตรชายสองคน ดังนั้นต่อให้อาจารย์ใหญ่ตาย ตำแหน่งของเขาก็จะถูกส่งต่อให้บุตรชายทั้งสองของเขา และข้าจะถูกกันออกไป” หนิงรุ่ยอธิบาย
กู่อิ่งหน้าบึ้งอย่างหมดความอดทน
“ทำไมเจ้าพูดจายืดเยื้อน่าเบื่อขนาดนี้ แค่ฆ่าพวกมันให้หมดซะก็สิ้นเรื่องแล้ว”
“ขอรับ…ขอรับ…” หนิงรุ่ยพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง แต่ในดวงตาทอแววชั่วร้ายเย็นชา
เดิมทีเขาต้องการช่วงชิงตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ด้วยวิธีการของเขาเอง แต่การตายของหนิงซินทำให้เขาเพิ่มความเกลียดชังต่อฟ่านฉีและจวนหลินอ๋องมากยิ่งขึ้น
ถ้าเขายึดสำนักศึกษาเฟิงหัวด้วยแผนการของเขาเอง เขาอาจจะยังสามารถรักษาสำนักศึกษาเอาไว้ได้ทั้งหมด แต่ในตอนนี้เขาไม่สนใจอะไรอีกแล้ว เขาแค่อยากแก้แค้นให้หนิงซิน และเขาจะทำต่อให้ต้องผลักสำนักศึกษาเฟิงหัวทั้งหมดลงสู่ขุมนรกก็ตาม!
ถึงไม่มีสำนักศึกษาเฟิงหัว เขาก็ยังสามารถพึ่งพากู่อิ่งกับพรรคพวกให้ช่วยเขาได้มีความมั่นคงบนโลกใบนี้ได้
แม้เขาจะไม่รู้แน่ชัดว่ากู่อิ่งกับพรรคพวกของเขามาจากที่ไหน เขาก็รู้แน่ชัดอยู่หนึ่งอย่าง นั่นคือพวกเขาแข็งแกร่งยิ่งกว่าทุกคนที่เขาเคยเจอมา เมื่อก่อนเขาเคยสนใจตำแหน่งอาจารย์ใหญ่สำนักศึกษาเฟิงหัว แต่ตอนนี้ ตั้งแต่ที่เขาตัดสินใจสังเวยทุกคนในสำนักศึกษา เช่นนั้นแล้ว…เขาก็จำเป็นต้องมีเบี้ยต่อรองมากขึ้น และแสดงให้กู่อิ่งกับพรรคพวกของเขาเห็นว่าเขามีความสามารถอะไรบ้าง
“แค่ฆ่าพ่อลูกสกุลฟ่านย่อมไม่ใช่เรื่องยากเย็นสำหรับนายท่านของข้าอย่างแน่นอน แต่มีอีกเรื่องที่ข้าต้องรายงานนายท่านกู่อิ่งขอรับ”
“พูดมา”
“ก่อนหน้านี้นายท่านได้ถามข้าเรื่องทักษะการเยียวยารักษาจิตวิญญาณ ข้าเริ่มได้เบาะแสมาบ้างแล้ว ยิ่งกว่านั้นช่วงนี้ก็เกิดเรื่องขึ้น เดิมทีกู้หลีเซิงเป็นผู้เดียวที่เชี่ยวชาญทักษะการเยียวยารักษาจิตวิญญาณที่สุด แต่เมื่อเร็วๆ นี้เขารับศิษย์มาคนหนึ่ง และเขาได้ประกาศให้ทุกคนรู้ว่าความสำเร็จในทักษะการเยียวยารักษาจิตวิญญาณของศิษย์คนนั้นก้าวหน้ายิ่งกว่าเขา ข้าได้ยินข่าวลือว่าศิษย์คนนั้นได้ทำการพัฒนาทักษะการเยียวยารักษาจิตวิญญาณของกู้หลีเซิง และมันก็แสดงผลออกมาแล้ว” เพื่อให้ได้รับความชื่นชอบมากขึ้น หนิงรุ่ยขายกู้หลีเซิงกับจวินอู๋เสียให้แก่กู่อิ่งโดยไม่เก็บไว้
เมื่อได้ยินเช่นนั้น กู่อิ่งก็ยิ้มออกมาอย่างชั่วร้าย
“น่าสนใจมาก ผู้อาวุโสสนใจทักษะการเยียวยารักษาจิตวิญญาณมาก ถ้าสองคนที่เจ้าพูดถึงมีประโยชน์จริงๆ พวกเราย่อมตอบแทนเจ้าแน่ การฆ่าอาจารย์ใหญ่กับลูกชายของเขาน่ะง่ายมาก แต่จะทำอย่างไรให้ศิษย์สำนักศึกษาเฟิงหัวทุกคนลงไปที่ผาสุดขอบฟ้า ข้าต้องปรึกษากับพวกผู้อาวุโสก่อน และถ้าเป็นแบบนั้น ข้าจะไปหากู้หลีเซิงกับศิษย์ของเขากับเจ้าด้วย”
เมื่อตัดสินใจแล้ว กู่อิ่งก็หันไปหาหนิงรุ่ยและพูดว่า “จัดการให้ข้าเข้าสำนักศึกษาเฟิงหัวเสีย เรื่องง่ายๆ แค่นี้ข้าเชื่อว่าเจ้าคงไม่มีปัญหาหรอกใช่หรือไม่”
หนิงรุ่ยรีบพยักหน้า
กู่อิ่งโบกมือไล่แล้วพูดว่า “ไปจัดการเรื่องที่ต้องทำเสีย อีกไม่กี่วันข้าจะไปที่สำนักศึกษาเฟิงหัว”
“ขอรับ ข้าจะจัดการทันที” เมื่อได้รับมอบหมายหน้าที่จากกู่อิ่ง หนิงรุ่ยก็รีบขอตัวทันที
ในตอนที่เขาหันจากไป เจตนาร้ายในหัวใจของเขาก็ฉายออกมาทางแววตา
ฟ่านฉี ข้าจะเอาชีวิตของเจ้ากับลูกชายเจ้าก่อนเพื่อชดใช้ให้ลูกสาวของข้า
กองทัพรุ่ยหลิน…จวินอู๋เสีย…รอก่อนเถอะ!