ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 637 แหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณ (2) ตอนที่ 638 แหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณ (3)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 637 แหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณ (2) ตอนที่ 638 แหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณ (3)
ตอนที่ 637 แหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณ (2) / ตอนที่ 638 แหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณ (3)
ตอนที่ 637 แหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณ (2)
“เปลี่ยนรูปร่างหรือ” จวินอู๋เสียถามพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้น
วงแหวนภูติวิญญาณ ตามที่นางรู้มามีอยู่สามประเภท ในตอนนี้นางรู้เพียงสามประเภทนี้เท่านั้น วงแหวนภูติวิญญาณประเภทอาวุธ วงแหวนภูติวิญญาณประเภทสัตว์ร้าย และอีกหนึ่งประเภทคือที่นางครอบครองอยู่…วงแหวนภูติวิญญาณประเภทพฤกษา
วงแหวนภูติวิญญาณสองชนิดแรกมีรูปร่างตายตัว และภูติวิญญาณประเภทอาวุธกับภูติวิญญาณประเภทสัตว์ร้ายไม่สามารถเปลี่ยนได้ แต่ภูติวิญญาณประเภทพฤกษาดูเหมือนจะไม่ได้อยู่ในข้อจำกัดเดียวกัน
ฟ่านจัวเหมือนจะเดาข้อสงสัยของจวินอู๋เสียได้ถูกต้อง เขาพูดว่า “วงแหวนภูติวิญญาณประเภทพฤกษาแตกต่างจากวงแหวนภูติวิญญาณประเภทอื่นๆ ถึงแม้แหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณที่หลอมด้วยแร่ทองดำจะทำให้วงแหวนภูติวิญญาณอีกสองประเภทได้รับความสามารถในการเปลี่ยนรูปร่าง แต่…มันแตกต่างจากวงแหวนภูติวิญญาณของเจ้า พวกมันไม่สามารถเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ได้เหมือนของเจ้าแต่เปลี่ยนรูปร่างลักษณะได้ ตัวอย่างเช่นแหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณประเภทสัตว์ร้าย หลังจากหลอมใหม่แล้ว มันจะสามารถเปลี่ยนจากร่างสัตว์ร้ายกลายเป็นอาวุธหรือเกราะได้”
“ฟังแล้วอยากได้เลย” เฟยเยียนลูบคาง ปรารถนาจะมีแร่ทองดำอยู่ในมือสักชิ้นในตอนนี้เพื่อทดสอบดู
“แร่ทองดำอาจจะเพิ่มพลังให้ได้มากอย่างไม่น่าเชื่อ แต่วัตถุดิบนั้นหายากยิ่ง ตามความรู้ของข้า ในสิบสองตำหนักแต่ละแห่ง คนที่ครอบครองแหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณที่หลอมจากแร่ทองดำมีจำนวนน้อยกว่าสามคนเสียอีก และในบางตำหนักมีเพียงจ้าวตำหนักเท่านั้นที่ได้ครอบครอง การหลอมแหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณด้วยแร่ทองดำนั้น จำเป็นต้องใช้ช่างหลอมแหวนที่มีทักษะความสามารถขั้นสูงในการจัดการกับมัน ต่อให้เจ้าเอาแร่ทองดำมาให้ข้าในตอนนี้ ข้าก็ไม่สามารถใช้มันหลอมแหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณได้หรอก” ฟ่านจัวพูดตามความจริง การหลอมแหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณที่เขาเรียนรู้มาจากมารดาของเขานั้นมีจำกัด และช่างหลอมแหวนที่มีทักษะความสามารถขั้นสูงในสามโลกชั้นกลางนั้นก็มีอยู่น้อยนิด ส่วนใหญ่จะอยู่ในเก้าวังกับสิบสองตำหนัก คนธรรมดาจะพบพวกเขาสักคนในชีวิตนั้นหาได้ยากมาก
“อย่าคิดมากไปเลย แค่มีช่างหลอมแหวนมาหลอมแหวนให้พวกเราก็ดีใจมากแล้ว” ฮวาเหยาพูดพร้อมกับเคาะศีรษะเฟยเยียนเบาๆ
เฟยเยียนโอดครวญประท้วง “ข้าแค่พูดเฉยๆ เรื่องที่เสี่ยวจัวตั้งใจจะหลอมแหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณให้พวกเรานั้น ข้าก็รู้สึกเป็นหนี้เขาอย่างมากแล้ว”
ฟ่านจัวมองจวินอู๋เสียแล้วพูดว่า “ข้ามีอุปกรณ์ที่ใช้หลอมแหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณที่ท่านแม่ข้าทิ้งไว้ให้ เราสามารถเริ่มลงมือได้ทันที แต่…” ดวงตาของฟ่านจัวมีแววไม่แน่ใจเล็กน้อย
“ท่านแม่ไม่เคยสอนข้าหลอมแหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณประเภทพฤกษา ดังนั้น…น้องเสีย แหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณของเจ้า ข้าตั้งใจจะเอาไว้เป็นชิ้นสุดท้าย เพราะข้าไม่แน่ใจว่าจะทำสำเร็จหรือไม่ ถ้าล้มเหลวมันอาจจะทำให้วงแหวนภูติวิญญาณของเจ้าเสียหายได้”
ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน วงแหวนภูติวิญญาณประเภทพฤกษาก็หาได้ยากยิ่งนัก กระทั่งฟ่านจัวที่ได้รับการสอนสั่งจากช่างหลอมแหวนที่แท้จริงก็ยังไม่กล้าลงมือซี้ซั้ว
“แล้วแต่เจ้าเถอะ” จวินอู๋เสียตอบ นางไม่สนใจว่านางจะได้หลอมเป็นคนที่เท่าไร
นางสนใจกระบวนการหลอมแหวนมากกว่า จากภาพรวมแล้วแหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณคือรูปแบบของวิญญาณ การหลอมแหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณต้องใช้วิธีพิเศษเพื่อเพิ่มพลังของภูติวิญญาณในวงแหวน สำหรับคนอย่างจวินอู๋เสียที่เคยผ่านการรวมจิตวิญญาณ การเข้าใจความลึกลับและความลับเบื้องหลังปรากฏการณ์นี้มีค่าต่อนางมาก
ไม่นานก็ตัดสินได้ว่างูกระดูกสองหัวของฮวาเหยาจะได้รับการหลอมแหวนเป็นตัวแรก ฮวาเหยามาจากเผ่าเคลื่อนกระดูกและงูกระดูกสองหัวก็แข็งแกร่งทั้งในด้านความทนทานและการรักษาฟื้นฟูมากกว่าเฟยเยียนกับคนอื่นๆ ทำให้ฮวาเหยาเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะหลอมเป็นคนแรก
ฟ่านจัวเองก็ไม่เตะถ่วงให้ชักช้า เขาเอาลูกบอลทองแดงที่ข้างสะโพกออกมาทันที ภายนอกของมันดูปกติธรรมดา ไม่มีใครคิดว่าด้วยการหมุนบิดอย่างชำนาญของฟ่านจัว บอลทองแดงลูกนั้นจะเปิดออกเผยให้เห็นบอลไฟสีเขียวอยู่ภายใน!
“นี่คือเพลิงวิญญาณที่ใช้หลอมแหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณโดยเฉพาะ ไฟนี้เท่านั้นที่จะหลอมแหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณเข้ากับศิลาดำได้อย่างสมบูรณ์แบบ” ขณะที่ฟ่านจัวอธิบาย เขาก็พยักหน้าให้ฮวาเหยา
ฮวาเหยากลั้นหายใจแล้วรวมพลังวิญญาณทั้งหมดของเขาไปที่วงแหวนภูติวิญญาณ แสงสว่างห่อหุ้มแหวนจนมิด จากนั้นฮวาเหยาก็ถอดมันออกจากนิ้วอย่างระมัดระวัง แล้วส่งมันไปให้แก่ฟ่านจัว!
ตอนที่ 638 แหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณ (3)
วงแหวนภูติวิญญาณถูกเปลี่ยนสภาพมาจากภูติวิญญาณ ภาพลวงตาก่อตัวขึ้นจากการรวมตัวของภูติ เมื่อมนุษย์ที่ผูกพันธสัญญาใช้พลังวิญญาณของตัวเองห่อหุ้มวงแหวนภูติวิญญาณ มันก็จะสามารถถอดออกได้ นี่เป็นวิธีเดียวที่จะถอดแหวนออกจากเจ้าของในขณะที่ยังคงอยู่ในรูปแหวนได้
การถอดแหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณของตัวเองออก จะก่อให้เกิดอันตรายอย่างมากกับคนผู้นั้น ภูติวิญญาณจะไม่สามารถทำลายการเชื่อมต่อได้ มีเพียงเจ้าของเท่านั้นที่จะทำให้ภูติวิญญาณออกจากร่างของเขาได้ชั่วคราว เมื่อภูติวิญญาณถูกแยกออกจากเจ้าของในรูปของแหวน มันจะอ่อนแอมากและถูกทำลายได้ง่ายมาก กระทั่งจะแปลงกลับเป็นภูติวิญญาณก็ทำไม่ได้ เมื่ออยู่ในสภาพนั้นการเชื่อมต่อระหว่างมนุษย์และภูติวิญญาณจะเปราะบางที่สุด ถ้ามนุษย์ถูกโจมตีในเวลานั้น ภูติวิญญาณจะไม่สามารถตอบโต้อะไรได้แม้แต่น้อย
ด้วยเหตุผลเดียวกันนี้เอง ถ้าคนร้ายทำอะไรที่เป็นการทำลายแหวนในตอนนั้น มันก็จะสร้างความเสียหายและทำร้ายภูติวิญญาณได้อย่างรุนแรง
ดังนั้น การหลอมแหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณจึงเป็นการเสี่ยงอันตรายอย่างไม่อาจจินตนาการได้ และถ้าช่างหลอมแหวนไม่ใช่คนที่เชื่อใจได้อย่างเต็มที่ ก็ไม่มีใครกล้าส่งแหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณให้อย่างง่ายดายเช่นนั้น
พวกที่ค้นหาช่างหลอมแหวนมักจะมีสหายที่ไว้ใจคอยเฝ้าดูช่างหลอมแหวนตลอดกระบวนการเพื่อป้องกันเหตุร้าย
ฟ่านจัวรับแหวนจากมือฮวาเหยามาวางบนฝ่ามือของเขาอย่างระมัดระวัง เขาชักนำแหวนมาอยู่เหนือเพลิงวิญญาณ แหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณที่ห่อหุ้มด้วยพลังวิญญาณส่องแสงแรงขึ้นเล็กน้อย ขณะที่เปลวไฟลามทั่วแหวนวงนั้น สีของแหวนก็เปลี่ยนไปอย่างลึกลับ
ภูติวิญญาณของฮวาเหยาคืองูกระดูกสองหัว เมื่อมันกลายร่างมาอยู่ในรูปของแหวน มันจึงมีสีขาวเงิน แต่ภายใต้ความร้อนของเพลิงวิญญาณ สีขาวเงินของมันก็เจือด้วยสีแดงจางๆ ทั่วทั้งวง
นี่คือปฏิกิริยาที่เกิดจากการที่แหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณถูกเพลิงวิญญาณแผดเผา
กระทั่งฮวาเหยาที่ใจเย็นและมีสติก็เฝ้าดูอย่างตั้งใจพร้อมกับเหงื่อที่ไหลลงมาตามใบหน้า
ไม่ใช่ว่าเขาไม่ไว้ใจฟ่านจัว แต่เขาอดที่จะคอยระวังให้แหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณของเขาเองไม่ได้
ฟ่านจัวถือเพลิงวิญญาณในมือข้างหนึ่ง ขณะที่มืออีกข้างก็ดึงเอาใบมีดโกนขนาดเท่าหัวแม่มือออกมา ใบมีดทอประกายแวววาวเป็นสีเงินดูคมอย่างยิ่ง ฟ่านจัวฟันไปที่แร่หยกดำที่วางอยู่บนโต๊ะ และใช้ปลายมีดยกเอาแร่หยกดำชิ้นเล็กๆ ที่ถูกตัดขึ้นมาวางลงบนแหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณอย่างช้าๆ และระมัดระวัง
แสงสีดำประกายดาวระยิบระยับเริ่มไหลออกมา ขณะที่แร่หยกดำค่อยๆ ละลายเป็นของเหลวด้วยเพลิงวิญญาณ มันก็ไหลไปปกคลุมทั่วทั้งแหวนอย่างช้าๆ ของเหลวสีดำเปล่งประกายสะท้อนแสงจากเพลิงวิญญาณขณะที่มันห่อหุ้มแหวนจนมิด
ฮวาเหยากลั้นหายใจ ดวงตาจับจ้องแหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณโดยไม่ยอมละสายตา ร่างกายของเขาเครียดเกร็ง
ผ่านไปหลายนาที มือของฟ่านจัวถือเพลิงวิญญาณเอาไว้อย่างต่อเนื่องและต้องใช้พลังวิญญาณที่คงที่ในการควบคุมความแรงของเพลิงวิญญาณ ในเวลาเดียวกันมืออีกข้างของเขาก็ใช้พลังวิญญาณไปกับการควบคุมการหยดของแร่หยกดำเหลวลงไปบนแหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณทีละนิดอย่างพิถีพิถันและระมัดระวัง
ตัวของเพลิงวิญญาณเองนั้นไม่มีความร้อน ถ้ามนุษย์เอามือมาแตะ ก็จะไม่ถูกเผาแม้แต่น้อย แต่สำหรับภูติวิญญาณแล้ว ไฟชนิดนี้ถ้าไปโดนเข้าจะทำร้ายพวกมันได้ด้วยอุณหภูมิที่สูงเกินจะทนไหว
ช่างหลอมแหวนทุกคนจะไม่สัมผัสเพลิงวิญญาณโดยตรง ถึงแม้มันจะไม่สร้างความเสียหายใดๆ แก่จิตวิญญาณของเขา มันก็ทำให้พวกเขาไม่อาจสงบใจลงเพื่อที่จะควบคุมพลังวิญญาณให้เหมาะสมในการหลอมแหวนต่อไปได้
เหนือเพลิงวิญญาณ พลังที่มองไม่เห็นได้ควบคุมแร่หยกดำเหลวให้ปกคลุมไปทั่วทุกพื้นผิวของแหวนโดยไม่ให้มีรอยต่อแม้แต่น้อย
“หินวิญญาณ” ฟ่านจัวเอ่ยขอ ดวงตาเข้มงวดจริงจัง ขณะที่พูด ร่างกายของเขาไม่ขยับเขยื้อนเลยสักนิ้วเดียว