ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 67 องค์รัชทายาท (3)ตอนที่ 68 องค์รัชทายาท (4)
ตอนที่ 67 องค์รัชทายาท (3)
จากแมวดำ ก็กลายเป็นเสือดำขนาดมหึมาในชั่วพริบตา
ร่างขนาดใหญ่ของเสือดำบดบังร่างของมั่วเฉี่ยนยวนไว้ หางตาของเขาเห็นว่าจวินอู๋เสียได้เดินมาหยุดอยู่ที่ด้านข้างเขาแล้ว
“ข้าไม่ชอบพูดมาก แต่หากเจ้าไม่ใช่คนโง่เขลาก็คงจะพอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น” จวินอู๋เสียย่อตัวลง มือขาวนวลของนางจับคางของมั่วเฉี่ยนยวนไว้แน่น นิ้วเรียวที่ดูไร้เรี่ยวแรงกลับใช้วิธีบางอย่างเปิดปากของมั่วเฉี่ยนยวนออกอย่าง่ายดาย
จวินอู๋เสียโยนยาเม็ดเล็กๆ เม็ดหนึ่งเข้าไปในปากของมั่วเฉี่ยนยวน จากนั้นนางก็รีบปิดปากของเขาลง ทุบหน้าอกเขาไปแรงๆ ทีหนึ่ง
ร่างกายของมั่วเฉี่ยนยวนกระตุกไปครั้งหนึ่ง เม็ดยาในปากของเขาก็กลิ้งไหลเข้าไปในลำคอ
“เจ้า ทำบ้าอะไรของเจ้ากัน…” มั่วเฉียนยวนจ้องไปที่จวินอู๋เสียด้วยดวงตาแดงก่ำ จวินอู๋เสียที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขายามนี้ให้ความรู้สึกน่าหวาดกลัวเล็กน้อย
“เสี่ยวเฮย จับตาดูเขาไว้” จวินอู๋เสียไม่ได้ตอบคำถามของมั่วเฉี่ยนยวน นางเพียงหย่อนกายลงบนเก้าอี้หินด้านข้างอย่างสบายๆ
มั่วเฉี่ยนยวนอยากจะขัดขืนยิ่งนัก แต่เพราะเสือดำอ้าปากกว้างและส่งเสียงคำรามเตือน เห็นเพียงมันก้มศีรษะลงมา เขี้ยวคมในปากที่เปิดอ้าอยู่จ่อไปที่ลำคอของมั่วเฉี่ยนยวนด้วยระยะห่างที่น่าหวาดเสียว
“ถ้าเขากล้าเปล่งเสียง เจ้าก็ฆ่าเขาได้เลย” จวินอู๋เสียออกคำสั่งเสือดำไปอย่างไร้ความรู้สึกยิ่ง
เสือดำจ้องมองมั่วเฉี่ยนยวนตาไม่กะพริบ
มั่วเฉี่ยนยวนรู้สึกว่าคืนนี้ช่างเป็นค่ำคืนที่เขารู้สึกตกต่ำอย่างถึงที่สุด เขาถูกเด็กสาวตัวเล็กๆ คนหนึ่งที่มีอายุน้อยกว่าเขาหลายปีเล่นงานชนิดที่ไม่อาจหาทางโต้กลับได้เลย
ภายใต้การข่มขู่ของเสือดำ มั่วเฉี่ยนยวนไม่กล้าขยับตัว เขาได้แต่หลับตาแน่น ยอมรับในชะตากรรมของตนเอง
เห็นได้ชัดว่าเขาช่างเป็นคนที่ไร้ประโยชน์จริงๆ ดันถูกยัยเด็กจวินอู๋เสียเล่นงานเสียย่อยยับปานนี้
เมื่อเวลาผ่านไป มั่วเฉี่ยนยวนรู้สึกได้ว่าความหงุดหงิดและไม่สบายตัวที่เขาเคยมีตลอดหลายปีในร่างกายของเขาดูคล้ายจะจางหายไปแล้ว รวมถึงอาการปวดเมื่อยตามจุดต่างๆ ในร่างกายของเขาก็ค่อยๆ บรรเทาลง
ดวงตาของเขาเบิกกว้างแทบถลน มองไปที่จวินอู๋เสียด้วยความตกตะลึงยิ่งนัก
“เจ้า…”
โฮกกก เจ้าเสือดำแผดเสียงคำรามเตือนอีกครั้ง จากนั้นคอของเขาก็ถูกข่วนด้วยเขี้ยวที่แหลมคมที่เรียงรายอยู่ในปากของมัน
จวินอู๋เสียเหลือบมองไปที่เขาอย่างรวดเร็วแล้วกล่าวว่า “เสี่ยวเฮย ปล่อยเขาได้แล้ว”
เมื่อสิ้นเสียงของนาง เสือดำที่ทับอยู่บนตัวของมั่วเฉียนยวนก็ผละจากไป กระโดดกลับขึ้นไปซุกตัวอยู่ในอ้อมแขนของจวินอู๋เสียตามเดิม ร่างที่ใหญ่โตของมันสลายกลายเป็นเจ้าแมวดำตัวน้อยไร้พิษสงขนาดตัวเท่าฝ่ามือในชั่วพริบตา มันส่งเสียงบ่นให้เจ้านายของมันฟังเบาๆ ว่า
เหมียว
กลิ่นสุรานั่นทำให้ข้าแทบขาดใจตายแล้ว
จวินอู๋เสียยกมือขึ้นลูบขนของแมวดำตัวน้อยอย่างเอ็นดูและรักใคร่
“มัน…ไม่จริงน่า เจ้าให้ข้ากินอะไร ทำไมข้าถึง…” สมองของมั่วเฉี่ยนยวนไม่ได้รู้สึกปลอดโปร่งแบบนี้มานานมากแล้ว เพราะเรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างกะทันหันจนเกินไป มันรวดเร็วมากเสียจนเขาไม่รู้ว่าควรจะถามอะไรออกไปก่อนดี
“บางสิ่งที่สามารถช่วยชีวิตเจ้าได้ก็แล้วกัน” จวินอู๋เสียรู้สึกว่าวิธีการจัดการแบบนี้สะดวกและเห็นผลชัดกว่ามากโข
มั่วเฉี่ยนยวนจ้องจวินอู๋เสียเขม็ง ปลายนิ้วของเขาสั่นเล็กน้อยขณะที่เอ่ยถามออกไปว่า “ทำไมเจ้าถึงช่วยข้า”
จวินอู๋เสียตอบกลับไปตามตรง “ข้าต้องการให้เจ้าต่อสู้กับฮ่องเต้และมั่วเซวี่ยนเฝ่ย ต้องการให้เจ้าขึ้นครองราชบัลลังก์และปกป้องสกุลจวินของข้า”
บัลลังก์นี้สมควรสับเปลี่ยนผู้นั่งได้แล้ว ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันต้องตาย และมั่วเซวี่ยนเฝ่ยเองก็ต้องตายเช่นกัน รัฐชีจำเป็นต้องมองหาผู้ปกครองคนใหม่ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ จวินอู๋เสียก็ยินดีเลือกผู้ที่จะสามารถปกป้องคุ้มครองสกุลจวินของพวกนางได้มากกว่า
“เจ้าต้องการให้ข้าแย่งชิงบัลลังก์อย่างนั้นรึ!” มั่วเฉี่ยนยวนตกใจมาก เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าคำพูดต้องห้ามแบบนี้จะหลุดออกมาจากปากของจวินอู๋เสีย
จวินอู๋เสียเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ถามกลับไปว่า “แล้วเจ้าไม่ต้องการหรืออย่างไร”
………..
ตอนที่ 68 องค์รัชทายาท (4)
เมื่อมองไปที่จวินอู๋เสีย ความตกตะลึงของมั่วเฉี่ยนยวนก็ค่อยๆ แปรเปลี่ยนกลายเป็นรอยยิ้มที่บ้าคลั่ง
“ต้องการสิ เหตุใดข้าจะไม่ต้องการเล่า กับพวกที่อยากให้ข้าตาย คงไม่เป็นไรกระมังหากว่าข้าจะทำแบบเดียวกันกับที่พวกเขาทำกับข้าบ้าง ว่าแต่เจ้าสามารถช่วยชีวิตข้าได้จริงๆ น่ะหรือ” มั่วเฉี่ยนยวนจ้องไปที่จวินอู๋เสีย ในเวลานี้เขาไม่สามารถเอานางไปเทียบกับเด็กสาวที่หยิ่งผยองในความทรงจำของเขาได้อีกต่อไปแล้ว
“ได้สิ” เสียงตอบรับของจวินอู๋เสียกระชับและหนักแน่นมาก
“แต่นั่นยังไม่พอ” มั่วเฉี่ยนยวนขมวดคิ้ว “ตอนนี้ข้าไม่มีกลุ่มอำนาจใดที่สนับสนุนฝั่งข้าเลย และถึงแม้ว่าอาการของข้าจะดีขึ้นแล้ว แต่การจะยึดบัลลังก์มาจากคนผู้นั้นก็มิใช่เรื่องง่าย เขามีวิธีการเป็นร้อยเป็นพันที่จะเอาชีวิตข้าได้ตราบเท่าที่เขาต้องการ”
“มีอย่างแน่นอน” จวินอู๋เสียตอบกลับด้วยเสียงเบา
“สกุลจวินจะเป็นผู้สนับสนุนของเจ้า และกองทัพรุ่ยหลินก็จะคอยเกื้อหนุนเจ้าอยู่เบื้องหลังในการต่อสู้เพื่อแย่งชิงบัลลังก์ในครั้งนี้ แต่เจ้าต้องจำไว้ให้ขึ้นใจข้อหนึ่ง ในเมื่อข้าสามารถช่วยชีวิตเจ้าได้ ข้าก็สามารถพรากชีวิตเจ้าได้เช่นกัน สกุลจวินสามารถสนับสนุนเจ้าให้ขึ้นครองบัลลังก์ได้ แต่ขณะเดียวกันก็สามารถดึงเจ้าลงจากบัลลังก์ได้ง่ายดายอย่างถึงที่สุด” รัฐชีถึงเวลาเปลี่ยนผู้ปกครองแล้ว นางต้องการให้คนที่มีสายเลือดของราชวงศ์จริงๆ ขึ้นเป็นฮ่องเต้ ส่วนจวนอ๋องหลินจะเป็นแค่แรงผลักดันเบื้องหลัง คอยกระตุ้นอยู่ในเงามืดเท่านั้น
ชื่อเสียงของจวนอ๋องหลินของพวกนางจะต้องไม่ถูกแปดเปื้อนอย่างเด็ดขาด!
“กองทัพรุ่ยหลิน…แต่ว่า…” มั่วเฉี่ยนยวนเหลือบมองจวินอู๋เสียด้วยความลังเลใจ เห็นได้ชัดว่าสภาพร่างกายของจวินชิง ณ เวลานี้ย่ำแย่จนถึงขีดสุดแล้ว ดูน่าเป็นห่วงมากกว่าเขาอีก สกุลจวินยังจะสามารถรักษาอำนาจในปัจจุบันไว้ได้อยู่อีกหรือ
“เจ้าไม่ต้องห่วงเรื่องพวกนี้หรอก หากเจ้ายังอยากมีชีวิตอยู่ต่อและแก้แค้น ก็แค่ยอมรับมัน แต่หากเจ้ามีความประสงค์ที่จะตาย ข้าก็จะไม่ฝืนรั้งไว้ ยาที่เจ้าเพิ่งกินเข้าไปเมื่อสักครู่ทำได้แค่ช่วยระงับพิษในร่างกายของเจ้าเพียงชั่วคราวเท่านั้น หากต้องการรักษาให้หายขาด ยังจำเป็นต้องใช้เวลามากกว่านี้” จวินอู๋เสียกล่าว
มั่วเฉี่ยนยวนสูดลมหายใจเข้าลึก เขาไม่มีทางเลือก เขาไม่อยากตาย เขายังต้องการแก้แค้น แม้ว่าทางที่จวินอู๋เสียมอบให้เขานั้นจะเป็นเส้นทางนำไปสู่ขุมนรกก็ตามที
“ข้ายอมรับ” มั่วเฉี่ยนยวนทำการตัดสินใจที่จะทำให้ชีวิตของเขาต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล
“ดีมาก ต่อไปเจ้าหาวิธีมาพบข้า แล้วข้าจะค่อยๆ กำจัดพิษพวกนั้นออกให้” จวินอู๋เสียหรี่ตาลง อุ้มเจ้าแมวดำแล้วหันหลังเดินจากไปอย่างช้าๆ “มั่วเฉี่ยนยวน เจ้าจะต้องขอบคุณในสิ่งที่เจ้าเลือกในวันนี้อย่างแน่นอน”
สิ้นเสียง จวินอู๋เสียก็เดินจากไปทันที
ขณะที่มองตามแผ่นหลังของจวินอู๋เสียออกไป มั่วเฉี่ยนยวนก็กำหมัดแน่น ความกระตือรือร้นที่หายไปนานหลายปีปะทุขึ้นมาในหัวใจของเขาอีกครั้ง
จวินอู๋เสีย จวินอู๋เสีย ไม่ว่าเจ้าจะต้องการสิ่งใดก็ตาม ตราบเท่าที่เจ้าช่วยให้ข้าได้ในสิ่งที่ปรารถนา ชีวิตของข้าก็จะเป็นของเจ้า!
แมวดำตัวน้อยในอ้อมแขนของจวินอู๋เสียกระดิกหางไปมา
“เป็นเวลานานแล้วนะที่ข้าไม่ได้แปลงร่าง ข้าไม่ชินกับมันจริงๆ อย่างไรก็ตาม เจ้านายท่านรู้ได้อย่างไรว่าฮ่องเต้สังหารฮองเฮา และรู้ได้อย่างไรกันว่าฮ่องเต้เป็นคนทำลายตระกูลฝั่งมารดาของมั่วเฉี่ยนยวน” เจ้าแมวดำตัวน้อยมั่นใจว่าจวินอู๋เสียไม่ได้รู้ความลับนี้มาจากสองพ่อลูกสกุลจวินแน่ๆ
“ข้าไม่รู้”
“หือ”
“ข้าก็แค่พูดไปอย่างนั้นเอง” จวินอู๋เสียกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย
จวินอู๋เสียกลับเข้าไปในงานเลี้ยงแล้วนั่งลงอย่างเงียบเชียบ ไม่มีผู้ใดสังเกตเห็นเลยว่านางออกจากงานเลี้ยงไปนานมาก
ฮ่องเต้ประทับอยู่บนที่สูง กำลังสนทนากับเหล่าขุนนางด้วยท่วงท่าสง่าผ่าเผย งานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันพระราชสมภพขององค์รัชทายาท กลายเป็นงานเลี้ยงอะไรไปแล้วก็ไม่รู้
มั่วเฉี่ยนยวนตัวหลักของงานที่แท้จริงเดินออกจากงานเลี้ยงกลางคัน มอบทุกอย่างให้มั่วเซวี่ยนเฝ่ยขึ้นแสดงแทน เมื่อเห็นการส่งสายตาไปมาระหว่างมั่วเซวี่ยนเฝ่ยและไป๋อวิ๋นเซียน จวินอู๋เสียก็ไม่มีความรู้สึกใดๆ แม้แต่น้อย แต่จวินชิงที่นั่งอยู่ด้านข้างกลับลอบมองมาที่นางอยู่บ่อยครั้ง ราวกับว่ากลัวนางจะทนไม่ได้เมื่อเห็นภาพดังกล่าว
ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าความกังวลของจวินชิงนั้นไม่จำเป็นสักนิด
จวินอู๋เสียไม่ได้เหลือบมองทั้งสองคนเลยจนกระทั่งงานเลี้ยงจบลง
…………