ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 723 ตบหน้าครั้งที่แปด (4) ตอนที่ 724 ตบหน้าครั้งที่แปด (5)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 723 ตบหน้าครั้งที่แปด (4) ตอนที่ 724 ตบหน้าครั้งที่แปด (5)
ตอนที่ 723 ตบหน้าครั้งที่แปด (4) / ตอนที่ 724 ตบหน้าครั้งที่แปด (5)
ตอนที่ 723 ตบหน้าครั้งที่แปด (4)
การปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันของฟ่านจัวก่อให้เกิดความโกลาหลขึ้นในหมู่ฝูงชน
ทุกคนพากันปากอ้าตาค้าง มองไปยังฟ่านจัวที่ดูสง่างามในขณะที่เขาก้าวเข้ามาภายใต้แสงอาทิตย์ยามเย็น
หนิงรุ่ยหลุดสีหน้าที่แท้จริงออกมา เขาส่งคนจำนวนมากออกตามหาฟ่านจัวอยู่นานแต่ก็ไม่มีวี่แววเลย เขาคาดไม่ถึงว่าฟ่านจัวจะปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดแบบนี้!
ถ้าเขาเพียงแต่โผล่มาหลังจากนี้อีกสักหน่อย ศิษย์สำนักศึกษาเฟิงหัวทั้งหมดก็คงขึ้นรถม้าออกเดินทางไปจากสำนักศึกษาเฟิงหัวเรียบร้อยแล้ว!
การที่ฟ่านจัวมายืนอยู่ตรงหน้าศิษย์สำนักศึกษาเฟิงหัวในตอนนี้ ทำให้เกิดเสียงอื้ออึงดังขึ้นท่ามกลางฝูงชนทันที ทุกคนรู้กฎของสำนักศึกษาเฟิงหัวว่าถ้าหากอาจารย์ใหญ่เสียชีวิต ตำแหน่งที่มีอำนาจสูงสุดในสำนักศึกษานี้จะตกเป็นของบุตรชายของเขา ฟ่านจิ่นเป็นเพียงบุตรบุญธรรม และด้วยข้อหา ‘ฆาตกรรม’ การเป็น ‘ฆาตกร’ ผู้ฆ่าฟ่านฉีทำให้ไม่มีคุณสมบัติที่เหมาะสมอีกต่อไป ในเวลาเดียวกันฟ่านจัวบุตรชายที่สืบสายโลหิตของฟ่านฉีก็บังเอิญหายตัวไปด้วยและไม่สามารถบอกได้ว่าอยู่ที่ไหน ทำให้หนิงรุ่ยยึดเอาตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ของสำนักศึกษาเฟิงหัวและยึดอำนาจควบคุมการงานทุกอย่างทั้งใหญ่และเล็กภายในสำนักศึกษา
แต่ตอนนี้…ฟ่านจัวกลับมาแล้ว…
สายตาของศิษย์จำนวนนับไม่ถ้วนหันไปมองยังหนิงรุ่ยและกลับมามองฟ่านจัว สลับไปมาระหว่างคนทั้งสอง!
สีหน้าของหนิงรุ่ยดำมืด ถ้าเพียงแต่เขาหาตัวฟ่านจัวพบก่อนหน้านี้ เขาจะส่งมือสังหารไปกำจัดเขาก่อนที่เรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้น และถ้าเขากลับมาในเวลาอื่น เขาก็ยังมีเวลากำจัดเขาได้ด้วยวิธีการอื่นๆ ที่ตรวจจับไม่ได้ แต่ฟ่านจัวเลือกที่จะกลับมาในเวลานี้และแสดงตัวต่อหน้าศิษย์ทุกคน ทำให้เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะฆ่าฟ่านจัวที่นี่เดี๋ยวนี้เลย!
“เสี่ยวจัว เจ้ากลับมาแล้ว! ข้าไม่ได้เจอเจ้านานมากจนเริ่มร้อนใจแล้วนะ” เมื่อตระหนักว่าไม่สามารถลงมือกับฟ่านจัวในตอนนี้ได้ หนิงรุ่ยก็แสดงสีหน้าเป็นห่วงเป็นใยในทันที พยายามแสดงตัวเป็นญาติผู้ใหญ่ที่กำลังเป็นห่วงเมื่อพูดกับฟ่านจัว
ใบหน้าของฟ่านจัวดูอ่อนโยนและมีรอยยิ้มเหมือนที่เขาแสดงให้หนิงรุ่ยเห็นมาตลอด
“ท่านอาหนิง เราไม่ได้เจอกันนานแล้วนะขอรับ ข้าเชื่อว่าท่านคงสบายดี”
หนิงรุ่ยเห็นว่าใบหน้าที่มีรอยยิ้มของฟ่านจัวยังคงเหมือนเมื่อก่อน และยังเรียกขานเขาว่า ‘ท่านอาหนิง’ อย่างสนิทสนม ทำให้เขาคิดว่าฟ่านจัวไม่รู้ความจริงเรื่องการตายของฟ่านฉี ในใจของเขาจึงแอบรู้สึกโล่งอก
ฟ่านจัวไม่เหมือนกับฟ่านจิ่น นิสัยของเขานุ่มนวลกว่าและใจอ่อนกว่า การเก็บตัวอยู่แต่ในลานป่าไผ่ทำให้เขาถูกมองว่าซื่อกว่าฟ่านจิ่น กระทั่งฟ่านจิ่นหนิงรุ่ยยังสามารถจัดการได้ เขาจึงรู้สึกมั่นใจมากเมื่อมองไปที่ฟ่านจัว
“ดีๆ ทุกอย่างเรียบร้อยดี มีแค่บิดากับพี่ใหญ่ของเจ้าที่…” หนิงรุ่ยพูดกับฟ่านจัวอย่างลังเล สีหน้าเศร้าโศกมาก
ฟ่านจัวดูจะชะงักไป สีหน้าของเขาเป็นกังวล
“เกิดอะไรขึ้นกับท่านพ่อและพี่ใหญ่หรือขอรับ”
หนิงรุ่ยหัวเราะอยู่ในใจ แต่สีหน้าภายนอกยังคงไม่เปลี่ยนแปลง เขาพูดว่า “เฮ้อ บิดาของเจ้าถูกฆ่าตายไปเมื่อครึ่งเดือนก่อน และคนที่ฆ่าบิดาของเจ้าก็คือพี่ชายของเจ้าฟ่านจิ่น! ผู้ใดจะไปคิด! ข้าดูฟ่านจิ่นเติบโตมาตั้งแต่เขายังเป็นแค่เด็กตัวเล็กๆ ข้าไม่คิดเลยว่าเขาจะโตขึ้นมาเป็นคนมักใหญ่ใฝ่สูงเช่นนี้ เขาเห็นสุขภาพของเจ้าดีขึ้นเรื่อยๆ และกลัวว่าตำแหน่งอาจารย์ใหญ่จะไม่ใช่ของเขา เขาจึงวางแผนในตอนที่เจ้าไม่อยู่ที่นี่บังคับให้บิดาของเจ้าส่งมอบตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ให้แก่เขา! แต่บิดาของเจ้าปฏิเสธที่จะยอมทำสิ่งชั่วร้ายเช่นนั้น! ไม่มีใครคิดว่าความอัปยศของฟ่านจิ่นจะกลายเป็นความโกรธ เขาจึงฆ่าบิดาของเจ้าด้วยอารมณ์ชั่ววูบ!”
หนิงรุ่ยเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟ่านจัวฟังด้วยเสียงเครือๆ ใบหน้าเต็มไปด้วยความเศร้าเสียใจ แต่ที่ซ่อนอยู่ลึกๆ ภายในดวงตาของเขาก็คือแววตาเยาะเย้ยอันชั่วร้าย
ด้วยสุขภาพที่อ่อนแอและเปราะบางของฟ่านจัว เมื่อได้ยินข่าวที่น่าตกใจและเสียใจเช่นนี้ เขาจะต้องตกใจจนอาการทรุดลงแน่ๆ หรืออย่างน้อยก็คงหมดสติ!
และเมื่อฟ่านจัวป่วย เขาก็สามารถส่งฟ่านจัวออกไปเพื่อ ‘รักษา’ ได้ และสามารถสร้างข้ออ้างที่สะดวกที่สุดได้ว่า ฟ่านจัวอาการกำเริบจนทำให้เขาจากไปพบกับฟ่านฉีที่ยมโลก!
ตอนที่ 724 ตบหน้าครั้งที่แปด (5)
หนิงรุ่ยแอบยินดีอยู่ในใจ ฟ่านจัวส่งตัวเองมาให้เชือดแท้ๆ จะมาตำหนิที่เขาคว้าโอกาสไว้ไม่ได้หรอกนะ!
หลังจากได้ฟังคำพูดของหนิงรุ่ย ร่างของฟ่านจัวก็โอนเอนไปมา
หนิงรุ่ยกำลังรออย่างมีความสุขให้เขาทรุดลงไปจากความตกใจสุดขีด แต่แล้วฟ่านจัวก็ทรงตัวได้อย่างมั่นคงและรอยยิ้มนอบน้อมแบบเดิมก็ปรากฏขึ้นอีกครั้งบนใบหน้าของเขา
“ท่านอาพูดอะไรน่ะขอรับ เป็นไปได้อย่างไรที่พี่ใหญ่จะฆ่าท่านพ่อ”
หนิงรุ่ยขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางมองฟ่านจัวอย่างสงสัย ไม่คิดว่าเขาจะยังสามารถยืนอยู่ได้ “เสี่ยวจัวเอ๋ย ข้ารู้ว่าเจ้าสนิทกับพี่ชายของเจ้า แต่ใจคนน่ะเปลี่ยนได้ตลอดเวลานะ ถึงอย่างไรพวกเจ้าก็ไม่ใช่พี่น้องที่คลานตามกันมา ฟ่านจิ่นไม่ใช่บุตรชายแท้ๆ ของบิดาเจ้า เจ้าล้มป่วยอยู่นานหลายปีทำให้ฟ่านจิ่นคิดว่าเจ้าจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นาน และตำแหน่งอาจารย์ใหญ่จะตกเป็นของเขา ไม่คาดว่าอาการป่วยของเจ้าจะดีขึ้นได้ และนั่นทำให้เขาแสดงนิสัยร้ายกาจที่แท้จริงออกมา”
หนิงรุ่ยถอนใจอย่างเศร้าโศกขณะที่พูดต่อว่า “เฮ้อ บิดาของเจ้ารักเขามาก ปฏิบัติต่อเขาเหมือนเขาเป็นบุตรชายแท้ๆ ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าเขาเก็บงูพิษเอาไว้ข้างกาย”
หนิงรุ่ยสร้างภาพเป็นท่านอาที่ดีได้ดีมาก คนที่ไม่รู้ความจริงจึงหลงเชื่อเขาในทันที
รอยยิ้มบนใบหน้าของฟ่านจัวค่อยๆ หายไป เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย “ท่านอาพูดถูกเรื่องหนึ่ง ฟ่านจิ่นกับข้าไม่ใช่พี่น้องสายเลือดเดียวกัน”
หนิงรุ่ยรู้สึกดีใจ แต่สิ่งที่ฟ่านจัวพูดต่อมาทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า!
“แต่สิ่งที่ท่านอาหนิงพูดผิดก็คือ คนที่ไม่ใช่บุตรชายแท้ๆ ของท่านพ่อไม่ใช่พี่ใหญ่ แต่เป็นข้าต่างหาก ข้าคือบุตรบุญธรรมที่ท่านพ่อเก็บมาเลี้ยง พี่ใหญ่ต่างหากเล่า คือบุตรชายผู้สืบสายโลหิตที่แท้จริงของท่านพ่อ” ฟ่านจัวพูดด้วยสีหน้าสับสน ดวงตาใสกระจ่างมองไปที่หนิงรุ่ยอย่างจริงจัง
หนิงรุ่ยใจหายวาบด้วยความตกใจ เขามองฟ่านจัวอย่างตกตะลึง ไม่อาจยอมรับสิ่งที่ได้ยินจากปากของฟ่านจัวได้!
คำพูดของฟ่านจัวทำให้ศิษย์และอาจารย์ทุกคนตาโตด้วยความตกใจ!
เกิดอะไรขึ้น
ฟ่านจัวเพิ่งพูดว่าเขาไม่ใช่บุตรชายที่สืบสายโลหิตจากฟ่านฉีอย่างนั้นหรือ ฟ่านจิ่นต่างหากที่เป็นบุตรชายแท้ๆ อย่างนั้นหรือ
คำพูดของฟ่านจัวราวกับระเบิดที่ถูกโยนลงมาท่ามกลางผู้คน ความเงียบและซึมเศร้าที่หน้าประตูสำนักศึกษาก็กลายเป็นการถกเถียงกันอย่างร้อนแรง
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ฟ่านจิ่นกลายเป็นบุตรชายแท้ๆ ของอาจารย์ใหญ่ได้อย่างไร!”
“ไม่จริงอ่ะ ก็ข้าได้ยินมาตลอดว่าฟ่านจัวคือบุตรชายแท้ๆ ของอาจารย์ใหญ่! ทำไมตอนนี้เขาถึงพูดแบบนั้นเล่า”
ในชั่วพริบตาทุกคนก็ถกเถียงกันอย่างดุเดือดกับการเปิดเผยที่น่าตกใจของฟ่านจัว
ฟ่านจัวฟังเสียงเอะอะอลหม่านรอบตัวเขาพลางมองดูใบหน้าของคนหน้าไหว้หลังหลอกอย่างหนิงรุ่ย ความสาแก่ใจแวบผ่านดวงตาของเขา
“เสี่ยวจัว…จะ…เจ้าว่าอย่างไรนะ เจ้า…เจ้าไม่ใช่บุตรชายแท้ๆ ของบิดาเจ้าได้อย่างไร ข้ายังจำตอนที่บิดาเจ้าพาเจ้าทั้งสองกลับมาที่นี่ได้อย่างชัดเจน เขาพูดอย่างชัดเจนเลยนะว่าเจ้าเป็นบุตรชายแท้ๆ ของเขา ส่วนฟ่านจิ่นเป็นเด็กที่เขาเก็บมาเลี้ยง” มุมปากของหนิงรุ่ยกระตุกอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่เขาพยายามสงวนท่าทีเอาไว้
ถ้าสิ่งที่ฟ่านจัวพูดเป็นความจริง เช่นนั้นสิ่งที่เขาใช้อ้างว่าเป็นเหตุผลที่ทำให้ฟ่านจิ่นฆ่าฟ่านฉีก็จะกลายเป็นเรื่องตลกที่สุด!
เพราะมันจะหมายความว่าฟ่านจิ่นเป็นผู้สืบทอดลำดับต่อไปที่จะได้ขึ้นเป็นอาจารย์ใหญ่ของสำนักศึกษาเฟิงหัว และต่อให้ฟ่านจัวมีสุขภาพที่ดีเลิศอย่างไรก็ตาม การสืบทอดตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ก็ไม่เกี่ยวข้องกับฟ่านจัวเลยสักนิด
และฟ่านจิ่นจะไม่มีเหตุผลที่ฆ่าฟ่านฉีเลยด้วย!
หนิงรุ่ยเริ่มรู้สึกกลัว เขาไม่อยากเชื่อคำพูดของฟ่านจัว แต่เขาไม่กล้าสงสัยมากไปกว่านี้
ถ้าเขาเชื่อว่าเป็นความจริง เช่นนั้นเหตุผลที่เขากล่าวอ้างว่าฟ่านจิ่นฆ่าฟ่านฉีก็จะใช้การไม่ได้!
การตายของฟ่านฉีก็จะน่าสงสัยขึ้นมาในทันที!
ฟ่านจัวหายถอนใจเบาๆ เขามองหนิงรุ่ยแล้วพูดว่า “ท่านอาหนิง ท่านไม่สังเกตเลยหรือว่าข้าไม่มีส่วนคล้ายกับท่านพ่อสักนิด ตรงกันข้าม พี่ใหญ่ข้าไม่ว่าจะเป็นหน้าตาหรือนิสัยใจคอ เขาก็แทบจะคัดลอกมาจากท่านพ่อเลยไม่ใช่หรือ”