ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 73 ยอดสุราธาราหยก (2)ตอนที่ 74 ยอดสุราธาราหยก (3)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 73 ยอดสุราธาราหยก (2)ตอนที่ 74 ยอดสุราธาราหยก (3)
ตอนที่ 73 ยอดสุราธาราหยก (2)
เมื่อครู่เขาไม่ได้ทานอะไรเลย เพียงดื่มสุราหนึ่งจอกเท่านั้น ทันทีที่สุราไหลลงไปในท้องของเขา เขาก็…
“มีคนใส่ยาพิษลงในยอดสุราธาราหยก!” สีหน้าของมั่วเฉี่ยนยวนขาวซีดขึ้นมาทันที ปกติเขาทานอาหารไม่มาก และเขาไม่ค่อยสนใจเรื่องอาหารมากนัก มีเพียงสุราชั้นดีนี้ที่เขาจะดื่มหลายจอกระหว่างมื้ออาหารทุกวัน
สุรานี้เขาจะดื่มทุกวัน แม้ปริมาณในแต่ละครั้งจะไม่มาก แต่ดื่มสะสมทุกวันเป็นเวลานาน…
“เดี๋ยวก่อน” ดวงตาของจวินอู๋เสียเปลี่ยนไปเล็กน้อย
“ยอดสุราธาราหยก” ทำไมนางถึงได้ยินคำหกคำที่คุ้นเคย
มั่วเฉี่ยนยวนไม่รู้ว่าจวินอู๋เสียคิดอะไรอยู่ แต่เขาก็กัดฟันแล้วกล่าวออกไปว่า “สุรานี้ถูกหมักขึ้นโดยองค์ปฐมฮ่องเต้ สูตรหมักซับซ้อนมาก หลังจากองค์ปฐมฮ่องเต้สิ้นพระชนม์ ก็มีเพียงเสด็จแม่ของข้าเท่านั้นที่หมักเป็น แต่หลังจากเสด็จแม่เสียชีวิต ในรัฐชีแห่งนี้ยอดสุราธาราหยกที่เหลืออยู่ก็ล้วนเป็นสุราที่เสด็จแม่ของข้าเหลือทิ้งไว้ให้ก่อนที่นางจะจากไป หลังจากเสด็จแม่จากไป คนผู้นั้นก็ยกมันให้ข้าทั้งหมด ข้าจะดื่มสองสามจอกทุกวันระหว่างมื้ออาหารเพื่อระลึกถึงความรักของเสด็จแม่ แต่พวกเขา…ใส่ยาพิษลงในสุราของเสด็จแม่จริงๆ น่ะหรือ” มั่วเฉี่ยนยวนบีบมือแน่น แสดงให้เห็นเส้นเลือดปูดโปนบนกำมือซึ่งบ่งบอกถึงความโกรธสุดขีดของเขาในขณะนี้
ใส่ยาพิษลงในสุราที่เขาดื่มเพื่อระลึกถึงเสด็จแม่ของเขา พวกเขาช่างโหดเหี้ยมเสียจริง
เขาป้องกันทุกวิถีทาง แต่เขาก็ไม่เคยสงสัยในสิ่งที่เสด็จแม่ของเขาเหลือทิ้งไว้ให้
“ยอดสุราธาราหยกยังเหลืออยู่อีกเท่าไหร่หรือ” ดวงตาที่สงบของจวินอู๋เสียเต็มไปด้วยแสงสว่างวาบ
“เหลืออยู่ไม่กี่ไหแล้ว” มั่วเฉี่ยนยวนกัดฟันกล่าว
“พาข้าไปดู” จวินอู๋เสียลุกขึ้นยืนทันที เจ้าแมวดำตัวน้อยที่กลิ้งไปมาจนขนบนตัวสะอาดแล้วก็เดินนวยนาดตามออกมา
มั่วเฉี่ยนยวนคิดว่านางจะไปตรวจดูจึงไม่ได้ถามอะไรมาก แค่จัดห้องให้เรียบร้อยเล็กน้อย แล้วพาจวินอู๋เสียเดินออกจากห้องไป เมื่อเขาเดินออกไปจากห้อง ก็ยังไม่ลืมตำหนิสองสามคำว่าวัตถุดิบวันนี้ไม่สดทำให้คุณหนูสกุลจวินรู้สึกไม่สบายตัว
จวินอู๋เสียจ้องไปที่มั่วเฉี่ยนยวนด้วยสายตาเย็นชา เมื่อเขาโยนสาเหตุการอาเจียนมาให้ตัวเองต่อหน้าต่อตา
มั่วเฉี่ยนยวนรู้สึกเย็นวาบไปทั้งร่าง ไม่กล้าหันกลับไปมองหญิงสาว จึงได้แต่รีบพาจวินอู๋เสียไปที่ห้องเก็บสุราที่อยู่ชั้นใต้ดิน
ในห้องใต้ดิน กลิ่นหอมของสุราลอยตลบอบอวลไปทั่ว ไหหมักสุราขนาดใหญ่ห้าไหถูกวางเรียงรายไว้ในห้องใต้ดิน มีสี่ไหที่ถูกปิดผนึกไว้อย่างแน่นหนา และมีเพียงไหเดียวเท่านั้นที่ถูกปิดผนึกไว้ชั่วคราว เนื่องจากมั่วเฉี่ยนยวนต้องดื่มมันทุกวัน
“ทั้งรัฐชี เหลือยอดสุราธาราหยกเพียงห้าไหนี้แล้ว” เมื่อเห็นสุราเหล่านี้ ดวงตาของมั่วเฉี่ยนยวนก็ดุดันขึ้น เขาจำภาพที่เสด็จแม่หมักสุราเหล่านี้ได้ไม่ชัดเจนแล้ว เพราะตอนนั้นเขายังเด็กมาก จึงจำได้แค่ว่าเขานอนอยู่ข้างๆ ไหที่สูงกว่าตัวเขาเองแล้วมองดูเสด็จแม่หมักสุรา
วันนี้ยอดสุราธาราหยกยังอยู่ แต่เสด็จแม่ของเขาได้จากเขาไปแล้วตลอดกาล
จวินอู๋เสียเหยียดนิ้วจิ้มยอดสุราธาราหยกขึ้นมา และดมไปที่ปลายนิ้วของนาง มีเพียงกลิ่นสุราที่เข้มข้นเท่านั้น ไม่มีกลิ่นแปลกปลอมของดอกข้าวสาลีรัตติกาลแต่อย่างใด
“ในสุราเหล่านี้ไม่มีพิษ พวกมันเพิ่งถูกใส่ลงไปก่อนที่จะยกมาให้เจ้าดื่ม พิษของดอกข้าวสาลีรัตติกาลนั้นไม่สามารถเก็บไว้ได้นานเกินไป หากใส่ไว้ที่นี่ มันจะระเหยอย่างรวดเร็วเพราะฤทธิ์สุรา” ตั้งแต่ต้นจนถึงตอนนี้จวินอู๋เสียไม่ได้ละสายตาไปจากไหสุราเหล่านี้เลย
“จริงหรือ” ใบหน้าของมั่วเฉี่ยนยวนแสดงความดีใจออกมา สุราที่เสด็จแม่หมักด้วยตัวเอง เขายังสามารถเก็บไว้ได้หรือ
จวินอู๋เสียพยักหน้าด้วยดวงตาที่เป็นประกาย
นางพบยอดสุราธาราหยกง่ายๆ เช่นนี้เลยน่ะหรือ
นางสัมผัสได้ถึงความสุขของเจ้าดอกบัวขาวที่แปลงร่างเป็นวงแหวนในขณะนี้ ดูจากปฏิกิริยาของเจ้าดอกบัวขาวแล้ว จวินอู๋เสียมั่นใจว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้านางเหล่านี้คือยอดสุราธาราหยกในบันทึกตำราอย่างไม่ต้องสงสัย
“ข้าต้องการสุราพวกนี้” จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้นและกล่าวกับมั่วเฉี่ยนยวน
มั่วเฉี่ยนยวนชะงักไปครู่หนึ่งแล้วถามออกไปว่า “เจ้าไม่ดื่มสุราไม่ใช่หรือ” เขาเคยพบจวินอู๋เสียมาสามครั้ง แต่นางไม่เคยแตะต้องสุราเลยสักครั้งเดียว
จวินอู๋เสียกล่าวอย่างใจเย็นว่า “เอาไว้ทำยา”
………….
ตอนที่ 74 ยอดสุราธาราหยก (3)
ยอดสุราธาราหยกสำหรับคนธรรมดาถือว่าเป็นยอดสุราที่หาได้ยากยิ่ง แม้แต่ราชวงศ์ ก็มีเพียงมั่วเฉี่ยนยวนและฮ่องเต้องค์ปัจจุบันเท่านั้นที่มีสิทธิ์ดื่มมัน แม้แต่มั่วเซวี่ยนเฝ่ยก็ได้แต่มองดู
แต่สำหรับมั่วเฉี่ยนยวนสุรานี้เป็นสื่อกลางในการระลึกถึงเสด็จแม่ของเขา
จวินอู๋เสียทำให้มั่วเฉี่ยนยวนประหลาดใจจริงๆ เมื่อนางบอกเขาว่าจะใช้สุรานี้ทำยา
“สิ่งนี้สามารถใช้เป็นยาได้หรือ” มั่วเฉี่ยนยวนกล่าวถาม ไม่ใช่ว่าเขาหวงไม่อยากให้สุรา เขาก็ไม่ได้เป็นคนโลภ เพียงแต่ที่ดื่มทุกวันนี้ก็เพราะเพื่อระลึกถึงเสด็จแม่ของเขาเท่านั้น
ตอนนี้ เมื่อรู้ว่ามีใครบางคนใส่ยาพิษลงในสุรานี้ เขาก็ไม่อยากแหวกหญ้าให้งูตื่น แม้ว่าเขาจะไม่ทำลายสุรานี้ แต่เขาก็จะไม่ดื่มมันอีก
“ได้” จวินอู๋เสียกล่าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากให้ แต่ถ้าให้สุรานี้กับเจ้าทั้งหมด ไม่รู้ว่าพวกเขาจะใช้วิธีอะไรมาทำร้ายข้าอีก” เมื่อนึกถึงปฏิกิริยาตอบสนองที่ ‘น่าขยะแขยง’ เมื่อครู่ขณะดื่มสุรานี้ลงไป มั่วเฉี่ยนยวนก็รู้สึกว่าเขาไม่สบายตัวเป็นอย่างมาก ไม่ว่าเขาจะทำไม่ตัวไม่ดีแค่ไหน เขาก็ไม่เคยทำอะไรแบบนี้เลย เขาอาเจียนออกมาเต็มโต๊ะ แค่คิดเขาก็รู้สึกขยะแขยงเป็นอย่างมากแล้ว
จวินอู๋เสียหรี่ตาลง ยอดสุราธาราหยกไม่ใช่สุราธรรมดา ถ้านางเอากลับไปทั้งหมด อาจทำให้คนที่อยู่บนบัลลังก์ผู้นั้นตกใจได้ แต่สิ่งนี้สำคัญสำหรับนางมาก เพราะนอกจาก ‘น้ำ’ จากน้ำพุสวรรค์เทียนเฉวียนแล้ว มีเพียงยอดสุราธาราหยกเท่านั้นที่สามารถปลูกดอกบัวขาวได้ ถ้านางไม่มีสุรานี้ นางต้องรอไปจนถึงเมื่อไหร่กันถึงจะเริ่มฝึกฝนพลังได้
“ทุกครั้งที่ข้ามาที่นี่เจ้าต้องเตรียมสุราไหเล็กๆ ให้ข้าเอากลับไปด้วย” จวินอู๋เสียครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและตัดสินใจไม่ทำตัวเป็นจุดเด่น อย่างไรก็ตามสุราอยู่กับมั่วเฉี่ยนยวนและไม่มีใครสามารถเอามันออกไปได้ คิดว่าฝากมันไว้กับธนาคารก็แล้วกัน
“เอ่อ…แต่ถ้าพวกเขาใส่ยาพิษในสุราอีก…” สีหน้าของมั่วเฉี่ยนยวนขรึมลง ยอดสุราธาราหยกที่มียาพิษยังสามารถใช้เป็นยาได้อีกหรือ
“ไม่จำเป็น” จวินอู๋เสียกล่าว
หลังจากมั่วเฉี่ยนยวนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็เข้าใจทันที บุรุษผู้นั้นต้องการทำร้ายเขา แต่ก็ต้องรักษาหน้าตาของเขาไว้ เขาไม่ยอมให้เรื่องนี้กระจายออกไปแน่นอน แม้ว่าเขาจะให้สุราบางส่วนแก่จวินอู๋เสีย บุรุษผู้นั้นก็คงไม่สร้างปัญหาใหม่ขึ้นโดยใส่ยาพิษไว้ในสุราของจวินอู๋เสีย
“ได้ ข้าจะให้คนไปเตรียมเดี๋ยวนี้” มั่วเฉี่ยนยวนตอบตกลงทันที เป็นเรื่องน่าขันจริงๆ เขาถูกวางยาพิษในตำหนักของตัวเองแต่เขากลับไม่รู้ ในตำหนักหลินยวนที่ใหญ่โตโอ่อ่าแห่งนี้ เป็นเพียงที่คุมขังและเฝ้าจับตาดูเขาเท่านั้น คนในตำหนักที่เชื่อฟังเหล่านี้ ก็ล้วนแล้วแต่เป็นผู้สมรู้ร่วมคิดของบุรุษผู้นั้น
หากวันหนึ่งชีวิตของเขาดีขึ้น เขาจะตอบโต้กลับไปแบบตาต่อตาฟันต่อฟันแน่นอน!
หลังจากพบที่มาของยาพิษแล้วมั่วเฉี่ยนยวนก็โล่งใจ จวินอู๋เสียให้ยาบำรุงร่างกายมั่วเฉี่ยนยวนไว้จำนวนหนึ่ง
มั่วเฉี่ยนยวนถูกวางยาพิษมาเป็นเวลานาน และจะต้องใช้เวลานานในการฟื้นฟูร่างกาย จวินอู๋เสียเก็บเมล็ดบัวไว้ให้มั่วเฉี่ยนยวนหนึ่งเมล็ด และจะให้เขาใช้มันหลังจากที่เขาหายดีแล้ว สำหรับคนที่มีประโยชน์จวินอู๋เสียค่อนข้างใจกว้างทีเดียว
มั่วเฉี่ยนยวนยอมรับทุกอย่างที่จวินอู๋เสียมอบให้ และคนที่ฉลาดเช่นเขาก็ย่อมรู้ดีว่าจวินอู๋เสียสามารถช่วยเขาอย่างสุดกำลังได้ แต่ก็สามารถบีบเส้นเลือดของเขาได้เช่นกัน อย่างที่นางได้กล่าวไว้ว่านางสามารถทำให้เขามีชีวิตต่อไปได้ก็สามารถทำให้เขาตายได้เหมือนกัน
หลังจากกำชับทุกอย่างแล้ว จวินอู๋เสียก็เดินออกจากตำหนักหลินยวน มั่วเฉี่ยนยวนถือไหสุราเล็กๆ เดินมาส่งนางถึงประตูใหญ่ของตำหนักหลินยวนด้วยตัวเอง จนกระทั่งจวินอู๋เสียขึ้นไปบนรถม้าและรถม้าค่อยๆ หายไปจากสายตา มั่วเฉี่ยนยวนก็ไม่ได้เดินจากไปทันทีแต่ยืนอยู่หน้าประตูตำหนักเป็นเวลานาน
เขามองขึ้นไปบนท้องฟ้าสีคราม ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้ม
เสด็จแม่ลูกพบพันธมิตรที่น่าเหลือเชื่อคนหนึ่งแล้วนะพ่ะย่ะค่ะ
คนกลุ่มหนึ่งที่หลบซ่อนอยู่ในตำหนักหลินยวน เมื่อเห็นมั่วเฉี่ยนยวนยิ้มมุมปาก พวกเขาต่างก็รู้สึกสับสนมาก
เมื่อดูจากท่าทางของเจ้านายพวกเขาแล้ว เจ้านายตกหลุมรักนางโจรคนนั้นจริงหรือ
องค์รัชทายาท พระองค์ต้องใจเย็นๆ นะพ่ะย่ะค่ะ
…………….