ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 747 เรื่องน่ายินดีที่คาดไม่ถึง (1) ตอนที่ 748 เรื่องน่ายินดีที่คาดไม่ถึง (2)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 747 เรื่องน่ายินดีที่คาดไม่ถึง (1) ตอนที่ 748 เรื่องน่ายินดีที่คาดไม่ถึง (2)
ตอนที่ 747 เรื่องน่ายินดีที่คาดไม่ถึง (1) / ตอนที่ 748 เรื่องน่ายินดีที่คาดไม่ถึง (2)
ตอนที่ 747 เรื่องน่ายินดีที่คาดไม่ถึง (1)
สำนักศึกษาเฟิงหัวพบกับเหตุการณ์เลวร้ายครั้งใหญ่ แม้ว่าสุดท้ายจะป้องกันหายนะเอาไว้ได้ แต่เรื่องราวที่พลิกกลับไปกลับมาทำให้ศิษย์และอาจารย์ต่างหวาดกลัวและประสาทเสีย
มันเห็นได้ชัดสำหรับฟ่านจิ่น แม้ว่าคนพวกนั้นจะไม่ได้พูดมากนักในตอนที่กลับบ้านไปในวันหยุดสิ้นปี แต่หลังผ่านไปหนึ่งเดือน เขาก็คาดว่าคงจะมีคนกลับมาไม่ถึงครึ่ง
มันก็ค่อนข้างเข้าใจได้ถ้าศิษย์พวกนั้นจะกลัวจนไม่ยอมกลับมา แต่ถ้ากระทั่งพวกอาจารย์จากไปด้วยเล่า จะเกิดอะไรขึ้นกับสำนักศึกษาเฟิงหัวต่อไป
บิดาของเขาเสียชีวิตแล้ว และคนสองคนที่ทำงานด้วยกันมายาวนานที่สุด ใกล้ชิดสนิทสนมจนเกือบจะเป็นญาติแท้ๆ ก็ทรยศพวกเขา สำนักศึกษาเฟิงหัวกำลังจะเผชิญกับวิกฤต ฟ่านจิ่นรู้สึกเหมือนเพิ่งตื่นจากความฝัน ความเป็นจริงที่อยู่ตรงหน้านั้น ช่างเต็มไปด้วยปัญหาและอุปสรรคนับไม่ถ้วนราวกับจำนวนดาวบนท้องฟ้า
“ช้าๆ ใจเย็นๆ หลายสิ่งยังต้องปรับปรุงอยู่ อย่างน้อยๆ ตอนนี้เราก็ยังมีชีวิตอยู่นะขอรับ” ฟ่านจัวปลอบใจพร้อมกับตบบ่าพี่ชายเบาๆ
ฟ่านจิ่นยิ้มให้อย่างขมขื่นและพูดว่า “ก็จริง ตราบใดที่ข้าสามารถทำให้สำนักศึกษาเฟิงหัวกลับไปรุ่งโรจน์ได้อีกครั้ง ข้าเชื่อว่าจะมีคนเข้ามามากขึ้น ข้าจะไม่ปล่อยให้สำนักศึกษาเฟิงหัวตกต่ำไปมากกว่านี้” ฟ่านจิ่นไม่อยากจะจมจ่ออยู่กับความเจ็บปวดอีกต่อไป เขาพยายามทำตัวเข้มแข็งโดยพูดว่า “ข้าจะทำตัวไร้ประโยชน์แบบนี้ต่อไปอีกไม่ได้ ข้าจะต้องรักษาตัวเองให้กลับมาแข็งแรงให้ทันศึกประลองภูติวิญญาณระหว่างสำนักในปีหน้า”
เมื่อเห็นว่าฟ่านจิ่นยืนหยัดลุกขึ้นได้อีกครั้ง ทุกคนก็รู้สึกโล่งอก เฉียวฉู่ถามด้วยรอยยิ้มว่า “มีการประลองระหว่างสำนักด้วยหรือ”
ฟ่านจิ่นพยักหน้า “โดยปกติทุกสำนักศึกษาจะจัดการประลองของตัวเอง และทุกๆ ปีสิบอันดับแรกจากแต่ละสำนักศึกษาจะเดินทางไปยังรัฐเหยียนเพื่อร่วมแข่งขันการประลองระหว่างสำนัก ปีที่แล้วสำนักศึกษาเฟิงหัวค่อนข้างจะได้อันดับที่ดีอยู่”
ฟ่านจิ่นพูดออกมาง่ายๆ แต่เมื่อได้ยินคำพูดของเขา เฉียวฉู่ที่ฉีกยิ้มซุกซนพลันก็จ้องฟ่านจิ่นตาค้างด้วยความตกใจ
“เจ้าพูดว่าที่ไหนนะ”
ฟ่านจิ่นตอบอีกครั้งว่า “รัฐเหยียน รัฐเหยียนเป็นรัฐที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในตอนนี้และเป็นผู้จัดศึกประลองภูติวิญญาณระหว่างสำนักขึ้น โดยจะเชิญทุกสำนักศึกษาในปีก่อนๆ เข้าร่วม อีกหนึ่งเดือนจะขึ้นปีใหม่ ข้าเชื่อว่ามันจะจัดขึ้นราวๆ ช่วงนั้นแหละ”
ศึกประลองภูติวิญญาณของสำนักศึกษาเฟิงหัวเองได้ถูกยกเลิกไปในปีนี้เนื่องจากเหตุการณ์วุ่นวายที่เกิดขึ้น และสิบอันดับแรกของปีที่แล้วก็เหลือไม่ถึงครึ่ง ฟ่านจิ่นวางแผนที่จะรักษาตัวเองให้กลับมาแข็งแรงอย่างรวดเร็ว จะได้สามารถพาสำนักศึกษาเฟิงหัวเข้าแข่งขันได้
เฉียวฉู่กับพรรคพวกสบตากัน
คำพูดของฟ่านจิ่นดึงดูดความสนใจของพวกเขาในทันที เนื่องจากแผนที่ชิ้นส่วนต่อไปที่พวกเขาเล็งเอาไว้อยู่ในรัฐเหยียน ช่างบังเอิญโดยแท้!
“งานจัดขึ้นที่ไหนในรัฐเหยียนหรือ” จวินอู๋เสียถามขึ้นทันที นางเองก็สนใจเช่นกัน
ฟ่านจิ่นไม่ตระหนักว่าคำพูดของเขาดึงดูดความสนใจของทุกคนที่นั่น เขาบอกทุกคนด้วยรอยยิ้มว่า “ที่เมืองหลวงของรัฐเหยียน ศึกประลองภูติวิญญาณมักจะมีผู้คนเข้ามาชุมนุมกันเยอะ และโดยปกติรัฐเหยียนจะเป็นเจ้าภาพ แต่พูดอีกนัยหนึ่ง ที่รัฐเหยียนทำเช่นนั้นก็เพื่อจะได้หาผู้มีพรสวรรค์ได้กว้างขวางมากขึ้น มีข่าวลือว่าทางราชวงศ์ของรัฐเหยียนจะแอบมาสังเกตการณ์การต่อสู้อย่างลับๆ และถ้าพวกเขาเห็นศิษย์คนไหนมีพรสวรรค์ที่เก่งกาจ พวกเขาก็จะเข้าหาคนเหล่านั้นเป็นการส่วนตัวและพยายามชิงไปเป็นพวก อันดับของข้าในปีที่แล้วไม่สูงนัก ข้าก็เลยไม่ถูกปฏิบัติแบบนั้น แต่ข้าได้ยินว่ามีพวกสิบอันดับแรกของศึกประลองภูติวิญญาณปีที่แล้วอยู่สองสามคนที่ยังอยู่ในรัฐเหยียนหลังจบการประลอง”
ฟ่านจิ่นเล่าให้สหายฟังด้วยคิดว่ามันเป็นข่าวที่น่าสนใจเฉยๆ แต่เมื่อได้ยินเรื่องนี้ ก็ทำให้จวินอู๋เสียกับคนอื่นๆ รู้สึกตื่นเต้นกันมาก
สายตาของจวินอู๋เสียทอแววครุ่นคิด เดิมทีพวกเขาวางแผนจะออกเดินทางไปรัฐเหยียนทันทีที่ฟ่านจิ่นรู้สึกตัวเพื่อค้นหาที่ตั้งของแผนที่ชิ้นส่วนที่สี่ พวกเขาไม่ได้คิดเลยสักนิดว่าจะมีการจัดศึกประลองภูติวิญญาณระหว่างสำนักขึ้นที่รัฐเหยียน ตอนนี้พวกเขาอยู่ในสำนักศึกษาเฟิงหัว พวกเขาสามารถไปปรากฏตัวที่นั่นในฐานะศิษย์ของสำนักศึกษาเฟิงหัวได้อย่างถูกต้องเหมาะสม และด้วยวิธีนี้พวกเขาก็จะไม่ดึงดูดความสนใจใดๆ มาที่ตัวพวกเขาโดยไม่จำเป็นอีกด้วย
ตอนที่ 748 เรื่องน่ายินดีที่คาดไม่ถึง (2)
“เจ้ามีผู้เข้าแข่งขันที่เหมาะสมอยู่ในใจหรือยัง” จวินอู๋เสียถาม
ฟ่านจิ่นยิ้มอย่างขมขื่นและส่ายหัว “คนที่เข้าแข่งเมื่อปีที่แล้วส่วนใหญ่จากไปแล้ว ข้าไม่รู้ว่าคนที่เหลือจะกลับมาที่สำนักศึกษากันสักกี่คน”
ก่อนหน้านี้ ลู่เว่ยเจี๋ยกับหนิงซินเป็นตัวแทนของสำนักศึกษาเฟิงหัวในศึกประลองภูติวิญญาณ ลู่เว่ยเจี๋ยถูกไล่ออกจากสำนักศึกษาเฟิงหัวและหนิงซินก็ตายแล้ว ส่วนคนที่เหลือฟ่านจิ่นเดาว่าพวกเขาคงจะไม่กลับมา เนื่องจากพวกเขามีพรสวรรค์สูง จึงไม่จำเป็นต้องอยู่ในสำนักศึกษาเฟิงหัวเพื่อให้ประสบความสำเร็จ ตอนนี้สำนักศึกษาเฟิงหัวตกอยู่ในสภาพเช่นนี้แล้ว ศิษย์พวกนั้นคงคิดหาทางย้ายไปอยู่สำนักศึกษาอื่นอย่างไม่ต้องสงสัยเลย
“คนเดียวที่ข้าคิดออกตอนนี้ก็คือตัวข้าเองนี่แหละ” ฟ่านจิ่นพูดพร้อมกับยักไหล่ การเสียชีวิตของบิดา ความยุ่งยากวุ่นวายในสำนักศึกษา ปัญหาทั้งหมดตกเป็นภาระของเขา ความกดดันมากมายทำให้เขาแทบจะทนไม่ไหว แต่เขาจำเป็นต้องยืนหยัดต่อสู้ ไม่เช่นนั้นหยาดเหงื่อและโลหิตของท่านพ่อที่ลงทุนลงแรงมาหลายสิบปีก็จะสูญเปล่า
จวินอู๋เสียเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง กวาดสายตามองใบหน้าของเฉียวฉู่และคนอื่นๆ ทุกคน และก็อย่างที่นางคิดเอาไว้ นางเห็นคำตอบที่นางต้องการในสายตาของสหายของนาง
“ถ้าเจ้าไม่มีใครอยู่ในใจ ถ้าอย่างนั้นก็รวมพวกเราทุกคนที่อยู่ที่นี่เข้าไปด้วยเถอะ” จวินอู๋เสียพูดนิ่งๆ
ฟ่านจิ่นหันขวับไปมองจวินอู๋เสียอย่างไม่เชื่อหู
“จะ…เจ้าว่าอย่างไรนะ”
“ยังจะมีอะไรอีกเล่า เจ้าไม่คิดว่าเราทำได้อย่างนั้นหรือ เอาน่า กล้าๆ หน่อย ถ้าเจ้าใส่ชื่อเราลงไปด้วย ข้ารับรองเลยว่าเราจะต้องได้อันดับต้นๆ อย่างแน่นอน” เฉียวฉู่พูดพร้อมกับหัวเราะสบายๆ เขายกแขนพาดไหล่ฟ่านจิ่น แสดงความเป็นมิตรแบบง่ายๆ
“พวกเจ้า…พวกเจ้ายอมช่วยข้าอย่างนั้นหรือ” ฟ่านจิ่นถาม ไม่อาจแน่ใจได้ว่าตัวเองได้ยินถูกต้อง หลังจากที่เขาได้สติกลับมาไม่นาน ฟ่านจัวก็บอกเขาว่าอีกไม่กี่วันเขาจะไปพร้อมกับจวินอู๋เสียและคนอื่นๆ ฟ่านจัวไม่ได้บอกรายละเอียดและฟ่านจิ่นก็ไม่อยากซักถาม แม้ว่าพวกเขาจะไม่ใช่พี่น้องแท้ๆ ที่มีสายโลหิตเดียวกัน ฟ่านจิ่นก็ยอมรับฟ่านจัวเป็นน้องชายของเขาไปแล้ว และเขาจะไม่คัดค้านการตัดสินใจของฟ่านจัวแม้แต่น้อย
เมื่อได้ยินจวินอู๋เสียและคนอื่นๆ พูดว่าจะเข้าร่วมศึกประลองภูติวิญญาณในฐานะตัวแทนของสำนักศึกษาเฟิงหัว ฟ่านจิ่นก็รู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก
เขารู้ถึงความสามารถในการต่อสู้ที่ยอดเยี่ยมของฮวาเหยาและสหายของเขาดี ไม่ต้องพูดถึงศึกประลองภูติวิญญาณระหว่างสำนักศึกษาเลย ต่อให้ทั้งโลกนี้ จะมีสักกี่คนที่สามารถต่อกรกับพวกเขาได้
ถ้าพวกเขาเข้าร่วมจริงๆ สำนักศึกษาเฟิงหัวจะได้อันดับดีๆ ที่จะกลายเป็นประวัติการณ์อย่างแน่นอน!
และตราบเท่าที่พวกเขาได้อันดับต้นๆ สำนักศึกษาเฟิงหัวก็จะกู้สถานการณ์อันซบเซาได้ อาจารย์และศิษย์ก็จะกลับมาเข้าร่วมสำนักกันอย่างคึกคักอีกครั้ง!
ด้วยความคิดเช่นนั้น ฟ่านจิ่นจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างไร!
“การช่วยเจ้าก็เป็นการช่วยพวกเราเองด้วยเหมือนกัน” จวินอู๋เสียพูดพร้อมกับมองฟ่านจิ่น ด้วยวิธีนี้พวกเขาต่างก็ได้ผลประโยชน์กันทั้งสองฝ่าย มันจะช่วยให้สำนักศึกษาเฟิงหัวยืนหยัดขึ้นได้อีกครั้ง และในเวลาเดียวกันก็จะทำให้พวกเขามีเหตุผลที่ดีในการแทรกซึมเข้าไปในรัฐเหยียน
“ยอดเยี่ยมไปเลย! ข้าจะไปเตรียมการเดี๋ยวนี้! ข้าจะจัดเตรียมสิ่งที่จำเป็น ปีนี้สำนักศึกษาเฟิงหัวไม่ได้จัดศึกประลองภูติวิญญาณประจำปี เพราะอย่างนั้นเราก็จะไม่มีปัญหาเรื่องอันดับ” ฟ่านจิ่นยิ้มออกมาอย่างจริงใจเป็นครั้งแรกหลังจากได้สติคืนมา หลังจากปวดหัวกับปัญหายุ่งยากมากมาย ในที่สุดเขาก็มองเห็นแสงแห่งความหวัง
เมื่อเห็นใบหน้าของฟ่านจิ่นปรากฏรอยยิ้มเบิกบานเต็มที่อย่างที่เคยเป็น จวินอู๋เสียก็หลุบสายตาลง
เขาอาจจะไม่ได้ตั้งใจหรืออาจจะเป็นความพยายามอย่างตั้งใจของเขา หลังจากฟ่านจิ่นได้สติกลับคืนมา เขาไม่เคยพูดถึงหนิงรุ่ยหรือกงเฉิงเหล่ยเลยสักครั้ง ฟ่านจัวบอกเขาแล้วว่าทั้งสองคนถูกขังอยู่ แต่ฟ่านจิ่นก็ทำเหมือนไม่รู้เรื่องนั้น ไม่เคยเอ่ยถึงพวกเขาเลยสักคำ และไม่เคยไปเจอพวกเขาสักครั้งเลยด้วย ตราบใดที่เขาไม่พูดถึง คนอื่นๆ ก็ปิดปากเงียบเช่นกัน