ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 767 ความคิดขององค์รัชทายาท (1) ตอนที่ 768 ความคิดขององค์รัชทายาท (2)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 767 ความคิดขององค์รัชทายาท (1) ตอนที่ 768 ความคิดขององค์รัชทายาท (2)
ตอนที่ 767 ความคิดขององค์รัชทายาท (1) / ตอนที่ 768 ความคิดขององค์รัชทายาท (2)
ตอนที่ 767 ความคิดขององค์รัชทายาท (1)
ในห้องส่วนตัวบนชั้นสอง ฟู่เซวียนจัดอาภรณ์ของนางด้วยท่าทางยั่วยวนพลางมองเหลยเชินที่กำลังยิ้มอย่างร้ายกาจ สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่ชายหนุ่มหน้าตาดีที่ชั้นหนึ่งซึ่งทำการประมูลด้วยราคาที่สูงจนน่าตกใจ
“เหนือสิ่งอื่นใด ถึงแม้สำนักศึกษาเฟิงหัวจะอยู่ในภาวะตกต่ำ แต่พวกเขาก็ยังมีเงินอยู่ในมือมากโข เสี่ยวเซวียนคงจะไม่เสียเปรียบผู้อื่นแล้วล่ะนะ” เหลยเชินยกมือขึ้นและใช้นิ้วหมุนผมของฟู่เซวียนเล่นพร้อมกับพูดเป็นนัย
ฟู่เซวียนมองค้อน นางแสร้งทำเป็นโกรธขณะที่ผลักหน้าอกของเหลยเชิน
“ทำไมท่านไร้หัวใจขนาดนี้ ยัดเยียดข้าให้ผู้อื่นได้รวดเร็วเพียงนี้เชียวหรือ ถ้าท่านทำให้ข้าโกรธ ข้าอาจจะไปพูดอะไรไม่ดีเกี่ยวกับท่านต่อหน้าหลิงเย่ว์ก็ได้นะ”
เหลยเชินหัวเราะแต่ไม่พูดอะไร หางตาของเขายังคงเหลือบไปมองคนสองคนที่ชั้นหนึ่ง ถึงแม้สำนักศึกษาเฟิงหัวจะมีอำนาจมาก แต่จำนวนเงินขนาดนั้นเป็นไปไม่ได้ที่อาจารย์ธรรมดาคนหนึ่งจะมีได้ นี่มันยิ่งกว่าฟุ่มเฟือยเสียอีก โยนเงินสิบล้านออกมาในทีเดียวแบบนี้ ความใจกว้างของชายหนุ่มผู้นั้นช่างเกินคาดจริงๆ สิ่งที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ ได้จุดประกายความสนใจที่เหลยเชินมีต่อสำนักศึกษาเฟิงหัวที่อยู่ในสภาวะตกต่ำ เขาออกจากห้องส่วนตัวและสั่งคนของเขาให้ไปสืบเรื่องคณะตัวแทนทั้งสิบคนของสำนักศึกษาเฟิงหัวเพิ่มมากขึ้น
หลังจากที่เขากลับมาถึงตำหนักที่ประทับส่วนพระองค์ของรัชทายาทได้ไม่นาน ข้อมูลต่างๆ ก็ถูกรวบรวมส่งตรงถึงมือเหลยเชิน
“ฮ่าๆๆ! สำนักศึกษาเฟิงหัวย่ำแย่แล้วจริงๆ! นี่พวกเขาถึงกับส่งศิษย์สี่คนที่เพิ่งเลื่อนขึ้นมาจากตึกรองให้มาเข้าร่วมศึกประลองภูติวิญญาณเนี่ยนะ!” เหลยเชินมองรายชื่อในมือเขาพร้อมข้อมูลส่วนตัวของพวกนั้น ฮวาเหยา เฉียวฉู่ เฟยเยียน และหรงรั่ว ริมฝีปากเขาโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มเย้ยหยัน และเมื่อเขาเห็นรูปของเฟยเยียน ประกายแปลกๆ ก็แวบผ่านดวงตาของเขา
จากข้อมูลที่ได้รับมา ทั้งสี่คนก็ดูเหมือนศิษย์ทั่วๆ ไป เดิมทีพวกเขาเป็นศิษย์ของตึกรองสำนักศึกษาเฟิงหัว และทำได้ดีเยี่ยมในการคัดเลือกเลื่อนขั้นเมื่อสิ้นปีที่แล้ว ทำให้ได้เลื่อนขึ้นมาเป็นศิษย์ในตึกหลัก แต่ไม่ว่าพวกเขาจะแข็งแกร่งขนาดไหนในตึกรอง อย่างไรเสียตึกรองก็ยังเป็นตึกรอง พลังของพวกเขาไม่อาจเทียบกับศิษย์ที่อยู่ในตึกหลักมาตั้งแต่แรกได้
เหลยเชินวางข้อมูลของศิษย์ทั้งสี่คนไว้ข้างๆ และพลิกดูข้อมูลของสองพี่น้องสกุลฟ่าน เขามองผ่านๆ แล้วก็โยนไว้ข้างๆ เช่นกัน แต่ข้อมูลที่มีตัวอักษรเพียงสามตัวกำกับไว้ว่า ‘จวินอู๋เย่า’ ทำให้เขาสนใจมาก
ทั้งหน้ากระดาษมีประโยคสั้นๆ เขียนไว้แค่หนึ่งประโยคว่า จวินอู๋เย่าเป็นอาจารย์คนใหม่ที่สำนักศึกษาเฟิงหัวจ้างมา นอกจากชื่อและตำแหน่งที่ว่าเป็นอาจารย์ของสำนักศึกษาเฟิงหัวแล้ว คนของเขาไม่สามารถหาข้อมูลอื่นๆ เกี่ยวกับชายหนุ่มผู้นี้ได้เลย นั่นทำให้เหลยเชินแปลกใจมาก ในฐานะองค์รัชทายาทแห่งรัฐเหยียน เขาเชื่อในความสามารถของคนของเขาอย่างเต็มที่ และการที่คนพวกนี้ไม่สามารถหาประวัติของชายหนุ่มผู้นี้ได้ย่อมเป็นเรื่องที่แปลกมากๆ
แต่ก่อนที่เหลยเชินจะคิดได้ถึงเรื่องแปลกๆ ของจวินอู๋เย่า สายตาของเขาก็พลันจ้องไปที่ข้อมูลชุดสุดท้ายที่อยู่ตรงหน้า!
เขารีบหยิบกระดาษกองนั้นขึ้นมาอ่านอย่างละเอียด ดวงตาของเขาเบิกกว้างด้วยความตกใจและประหลาดใจ
“จวินเสียคนนี้สามารถทำได้ทั้งหมดนี้จริงๆ น่ะหรือ” เหลยเชินถือกระดาษที่มีรายละเอียดความสามารถของจวินอู๋เสียอยู่ในนั้น เขาหันไปมององครักษ์ของเขาที่ยืนอยู่ด้านหลัง
บุรุษผู้นั้นพยักหน้า “ตอนที่กระหม่อมได้ข้อมูลพวกนี้มา กระหม่อมเองก็ประหลาดใจมากเช่นกัน แต่จวินเสียเป็นคนที่มีชื่อเสียงมากในสำนักศึกษาเฟิงหัว กู้หลีเซิงเคยประกาศเรื่องของคนผู้นี้และยอมรับความสามารถของเขาด้วยตนเอง ทั้งหมดนี้รู้กันทั่วสำนักศึกษาเฟิงหัวเลยพ่ะย่ะค่ะ ดังนั้นข้อมูลนี้น่าจะเป็นความจริง”
ความรู้สึกตกใจในแววตาของเหลยเชินถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกดีใจอย่างล้นเหลือ แล้วเขาก็หัวเราะออกมาเสียงดังลั่น
ตอนที่ 768 ความคิดขององค์รัชทายาท (2)
“ศิษย์ของสาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณอย่างนั้นหรือ แล้วยังสามารถพัฒนาทักษะการเยียวยารักษาจิตวิญญาณได้อีกด้วย! ฮ่าๆๆ! สวรรค์ส่งจวินเสียมาเป็นของขวัญให้ข้าแท้ๆ” เหลยเชินไม่อาจซ่อนความตื่นเต้นในดวงตาของเขาได้ แม้ว่าสำนักศึกษาเฟิงหัวจะตกต่ำไปแล้ว แต่สาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณของพวกเขาก็ยังทำให้สายตาหลายคู่ต้องจ้องมองด้วยความอิจฉาริษยาอยู่ดี ตอนแรกองค์รัชทายาทวางแผนจะรอจนกระทั่งสำนักศึกษาเฟิงหัวอยู่ในสภาพสิ้นหวังอย่างถึงที่สุดก่อนแล้วค่อยไปผูกมิตรกับกู้หลีเซิง แต่ตอนนี้อยู่ๆ ก็มีศิษย์ที่มีความสามารถเทียบเคียงกับกู้หลีเซิงชื่อ ‘จวินเสีย’ มาปรากฏตัวต่อหน้าเขา!
เหลยเชินดูรูปของจวินอู๋เสียแล้วก็นึกถึงเหตุการณ์ที่โรงประมูลภูติอัคคีในวันนี้ได้ทันที เขาเห็นเด็กหนุ่มคนเดียวกันนี้นั่งอยู่ข้างๆ จวินอู๋เย่า ตอนนั้นเขาไม่ได้ให้ความสนใจเด็กหนุ่มผู้นี้มากนัก และสนใจอยู่แต่กับจวินอู๋เย่าเท่านั้น เขาคิดไม่ถึงว่าเด็กหนุ่มที่ดูไม่สะดุดตาผู้นี้จะมีความสามารถมากขนาดนี้!
“เรื่องที่สำนักศึกษาเฟิงหัวส่งศิษย์แบบจวินเสียมาที่นี่ในปีนี้ ช่างน่าหัวเราะมากจริงๆ ตอนที่ฟ่านฉียังอยู่ สำนักศึกษาเฟิงหัวไม่กล้าปล่อยศิษย์สาขาผู้เยียวยาจิตวิญญาณให้ออกมาเป็นจุดสนใจเลยสักครั้ง พวกเขากลัวว่าศิษย์พวกนั้นจะถูกชิงตัวไป ดูเหมือนว่าฟ่านจิ่นจะยังอ่อนประสบการณ์อยู่ถึงได้ไม่ตระหนักในเรื่องนั้น และส่งศิษย์อย่างจวินเสียที่มีความสามารถสูงในทักษะการเยียวยารักษาจิตวิญญาณมาแสดงตัวที่นี่ ไม่ได้รู้เลยว่าตัวเองกำลังจะสูญเสียอย่างใหญ่หลวงแค่ไหน” คำพูดของเหลยเชินเต็มไปด้วยความเสียดาย แต่น้ำเสียงของเขาล้อเลียนเย้ยหยันและเต็มไปด้วยความดูถูก สายตาของเขามีประกายยินดี
“องค์ชายคิดจะทำอะไรต่อหรือพ่ะย่ะค่ะ” องครักษ์ถามขึ้น
“ทำอะไรอย่างนั้นหรือ” เหลยเชินยิ้มและถามกลับ “ก็ในเมื่อฟ่านจิ่นโง่นัก ส่งโอกาสอันแสนวิเศษมาให้ถึงมือข้าแล้วทำไมข้าต้องปฏิเสธเขาด้วย ถ่ายทอดคำสั่งข้าลงไป คืนนี้ข้าจะไปที่ตำหนักเซียนเพื่อต้อนรับตัวแทนจากสำนักศึกษาเฟิงหัว”
องครักษ์ชะงักไปและพูดขึ้นว่า “แต่องค์ชาย ทรงแจ้งไปยังสำนักศึกษาพิชิตมังกรแล้วว่าจะเสด็จไปหาพวกเขาคืนนี้นะพ่ะย่ะค่ะ การเปลี่ยนแปลงคำสั่งในนาทีสุดท้ายแบบนี้ กระหม่อมเกรงว่า…”
เหลยเชินยกมือขึ้นห้ามองครักษ์ไม่ให้พูดต่อ
“ข้าจะไปที่ที่ข้าอยากไป เจ้าแค่ต้องแจ้งสำนักศึกษาพิชิตมังกรว่าคนจากสำนักศึกษาเฟิงหัวเชิญข้าไปที่นั่น แค่นั้นแหละ”
องครักษ์ยืนแข็งค้างอยู่กับที่พักหนึ่งก่อนจะเข้าใจว่าเหลยเชินวางแผนอะไรอยู่
สำนักศึกษาเฟิงหัวกับสำนักศึกษาพิชิตมังกรขัดแย้งกันมาตลอด และด้วยการตกต่ำลงอย่างกะทันหันของสำนักศึกษาเฟิงหัว ถ้าพวกเขาถูกเข้าใจว่าได้เชิญเหลยเชินไปเยี่ยมเยียนพวกเขาโดยแย่งที่ของสำนักศึกษาพิชิตมังกร ทางสำนักศึกษาพิชิตมังกรคงจะยินดีจนเกินรับไหวทีเดียว
สำนักศึกษาเฟิงหัวจวนเจียนจะพบกับหายนะในศึกประลองภูติวิญญาณในปีนี้อยู่แล้ว และถ้าพวกเขายังทำให้ตัวเองไปพัวพันกับเรื่องที่ทำให้คนอื่นไม่พอใจเข้าอีกละก็ ช่วงเวลาหนึ่งเดือนต่อจากนี้ไป ในเมืองหลวงของรัฐเหยียนย่อมไม่ง่ายดายสำหรับพวกเขาอย่างแน่นอน!
“กระหม่อมเข้าใจแล้ว จะดำเนินการในทันทีพ่ะย่ะค่ะ” องครักษ์จากไปอย่างรวดเร็ว
ดวงตาของเหลยเชินทอแววอันตรายเย็นยะเยือกขึ้นมาทันที
การประมูลที่แพงหูฉี่ของจวินอู๋เย่าทำให้เขาได้บงกชโลหิตมาครองสำเร็จ ไม่มีใครในโรงประมูลเสนอราคาสูงกว่าเขาได้ บงกชโลหิตจึงถูกขายให้เขาโดยไม่มีการคัดค้านใดๆ หลังการประมูลจบลง จวินอู๋เย่าก็ไปรับบงกชโลหิตด้วยตัวเองและมอบมันให้แก่จวินอู๋เสียก่อนที่ทั้งสองจะเดินกลับโรงเตี๊ยมท่ามกลางแสงอาทิตย์อัสดง
ในเวลาเดียวกับที่พวกเขากลับมาถึง เฉียวฉู่และคนอื่นๆ ก็กลับมาแล้วและกำลังนั่งคุยกันเงียบๆ อยู่ที่ห้องโถงบนชั้นสอง
จวินอู๋เย่ากับจวินอู๋เสียขึ้นไปบนชั้นสอง เยี่ยซากับเยี่ยเม่ยที่ยืนเฝ้ายามอยู่ด้านบนบันไดก็เดินมาหาพวกเขาทันที พวกเขากระซิบบางอย่างกับจวินอู๋เย่า และดวงตาของจวินอู๋เย่าก็หรี่ลงเล็กน้อยพร้อมประกายเย็นชาในดวงตา
“เสี่ยวเสียเอ๋อร์ เจ้าไปพักผ่อนก่อนเถิด ข้ามีบางอย่างต้องไปจัดการ อีกสองสามวันจะกลับมา” ตอนที่จวินอู๋เย่าหันไปมองจวินอู๋เสีย ประกายเย็นชาในดวงตาของเขาก็หายไปหมดสิ้น
จวินอู๋เสียพยักหน้า นางชินแล้วกับ ‘การหายตัว’ ไปเป็นครั้งคราวของจวินอู๋เย่า ตรงกันข้ามการที่เขามาคอยวนเวียนอยู่ใกล้ๆ ตลอดเวลานี่ต่างหากที่ทำให้นางรู้สึกประหลาดใจ