ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 801 เบื้องหลัง (2) ตอนที่ 802 เบื้องหลัง (3)
ตอนที่ 801 เบื้องหลัง (2) / ตอนที่ 802 เบื้องหลัง (3)
ตอนที่ 801 เบื้องหลัง (2)
รัฐเหยียนเป็นเจ้าภาพจัดศึกประลองภูติวิญญาณมาตลอด และตั้งแต่เริ่มจัดมาก็ไม่เคยมีการแอบชักใยบงการใดๆ เกิดขึ้นเลยสักครั้ง แต่ปีนี้องค์รัชทายาทเหลยเชินได้ใช้ตำแหน่งของเขา กดขี่ข่มเหงผู้เข้าร่วมการแข่งขันเพื่อให้แน่ใจว่าจวินอู๋เสียจะผ่านเข้ารอบในศึกประลองภูติวิญญาณ!
นี่เป็นข่าวที่อื้อฉาวครึกโครมที่สุดในเมืองหลวง!
บางคนยังข้องใจถึงความถูกต้องแม่นยำของข่าวนี้ แต่เมื่อผู้คนเห็นศิษย์ที่ควรจะประลองกับจวินอู๋เสียในรอบที่สามปรากฏตัวขึ้นบนถนนด้วยอาการบาดเจ็บ ข้อสงสัยทั้งหมดก็หายไปทันที
และข่าวนี้ก็ไปเข้าหูศิษย์จากทุกสำนักศึกษาอย่างรวดเร็ว
เรื่องที่เหลยเชินสนิทสนมกับสำนักศึกษาเฟิงหัวเป็นสิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจน และคำเรียกขานว่า ‘น้องจวิน’ ของเหลยเชินที่งานเลี้ยงก็ยังสดใหม่อยู่ในใจของทุกคน เมื่อพวกเขารวมเรื่องทุกอย่างเข้าด้วยกัน ทุกคนก็เริ่มเข้าใจถึงจุดประสงค์ที่ซ่อนเร้นของเหลยเชิน
เขาใช้อำนาจของเขาในทางที่ผิดเพื่อให้แน่ใจว่าจวินอู๋เสียจะเข้ารอบไปได้ลึกๆ ในศึกประลองภูติวิญญาณ!
หลังจากนั้นไม่นาน ผู้เข้าแข่งขันศึกประลองภูติวิญญาณทุกคนก็พากันเดือดดาลเป็นอย่างมาก ที่สำนักศึกษาต่างๆ มาเข้าร่วมศึกประลองภูติวิญญาณนี้กันอย่างล้นหลาม ก็เพราะการประลองนี้มีความยุติธรรมและเป็นกลางมาตลอด ผู้เยาว์คนใดที่มีความสามารถย่อมแสดงออกได้อย่างเต็มที่
การกระทำของเหลยเชินกำลังทำลายความยุติธรรมที่ทำให้การประลองนี้เป็นที่นิยมอย่างมหาศาล
ในเวลานั้น ความน่าเกรงขามที่สำนักศึกษาเฟิงหัวเพิ่งได้รับมาก็ถูกกลบไปจนสิ้นด้วยเสียงคัดค้านและโกรธเกรี้ยวอย่างรุนแรง!
จวินอู๋เสียรู้ข่าวนี้จากเฟยเยียน ในรอบแรกที่หลินฉีสละสิทธิ์ไป นางไม่คิดว่ามีอะไรผิดปกติ แต่พอสองรอบต่อมาที่คู่ต่อสู้ทั้งสองของนางประกาศสละสิทธิ์ในวันประลอง นางก็เริ่มคิดว่ามันแปลก
เมื่อนึกย้อนกลับไปถึงคำพูดของเหลยเชินที่พูดเอาไว้เมื่อวันก่อนการประลองรอบแรกของนาง จวินอู๋เสียก็เดาได้คร่าวๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น
อย่างไรก็ตาม…
การกระทำของเหลยเชินไม่ได้ทำให้นางรู้สึกยินดีเลยแม้แต่น้อย
“องค์รัชทายาทนั่นมันมีขี้เลื่อยอยู่ในหัวสมองหรืออย่างไร ทำบ้าอะไรลงไปเนี่ย!” เฉียวฉู่สบถอย่างหงุดหงิดขณะที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ ใบหน้าบึ้งตึง และโกรธจนควันออกหู เมื่อไม่กี่วันก่อน เขากับฮวาเหยาและคนอื่นๆ ได้รับชัยชนะมาอย่างสวยหรู ทำให้ชื่อเสียงของสำนักศึกษาเฟิงหัวขึ้นไปสู่จุดสูงสุดอีกครั้ง แล้วตอนนี้เหลยเชินก็ทำมันพังด้วยการตัดสินใจใช้อำนาจแบบผิดๆ ทำลายความพยายามทั้งหมดของพวกเขาและทำให้สำนักศึกษาเฟิงหัวต้องเสื่อมเสียชื่อเสียง!
ในตอนนี้เมื่อผู้คนพูดถึงสำนักศึกษาเฟิงหัว พวกเขาไม่พูดถึงผู้เยาว์ที่มีพลังวิญญาณขั้นสีน้ำเงินที่น่าตื่นตะลึงอีกต่อไป แต่กลับดูหมิ่นเหยียดหยามและเยาะเย้ยถากถางพวกเขาที่ไปเลียแข้งเลียขาองค์รัชทายาทเพื่อเป็นที่โปรดปราน เมื่อพวกเขาออกไปเดินบนถนน ศิษย์จากสำนักศึกษาอื่นๆ ก็จะพากันชี้นิ้วมาที่พวกเขาและกระซิบกระซาบด้วยถ้อยคำที่ไม่น่าฟัง
ฟ่านจิ่นถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน ชื่อเสียงของสำนักศึกษาเฟิงหัวในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมานี้ราวกับรถไฟเหาะตีลังกา มันดำดิ่งลงเหว แล้วฮวาเหยาและคนอื่นๆ ก็ดึงมันขึ้นมา พอได้ชื่นใจกับผลแห่งความพยายามได้ไม่เท่าไร ก็ถูกเหลยเชินลากกลับลงมาอีก
ตั้งแต่วันที่สำนักศึกษาเฟิงหัวก่อตั้งมา พวกเขาก็ไม่เคยต้องแบกรับความอับอายที่ถูกกล่าวหาใส่ความกันเช่นนี้
สำนักศึกษาเฟิงหัวนั้นยอมตกต่ำเสียยังจะดีกว่า พวกเขาไม่มีวันละทิ้งความภาคภูมิใจและความตั้งใจอันเด็ดเดี่ยวของพวกเขา ไม่มีวันที่พวกเขาจะไปเลียแข้งเลียขาประจบประแจงใคร!
“ดูจากสิ่งที่เหลยเชินทำลงไป ข้าไม่คิดว่าเขาจะปล่อยให้ใครมาสู้กับน้องเสียแน่ ข้าเคยสงสัยอยู่นะว่าเขาจะใช้วิธีไหนมาเอาชนะใจพวกเรา แต่ไม่คิดเลยว่าจะมาแบบทื่อๆ ตรงๆ แบบนี้” เฟยเยียนพูดอย่างรังเกียจในวิธีการใช้อำนาจข่มขู่อย่างโจ่งแจ้งของเหลยเชิน
“ปกติเหลยเชินจะปกป้องชื่อเสียงของตัวเองมาก ถึงเราจะรู้กันอยู่แก่ใจว่าเขาจ้องชักจูงเราไปเป็นพรรคพวกอยู่ แต่เขาก็ไม่น่าจะทำอะไรโจ่งแจ้งและเกินขอบเขตแบบนี้…” ฟ่านจัวหรี่ตา เขารู้สึกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ได้เข้ากับภาพลักษณ์ของเหลยเชินเลย
ตอนที่ 802 เบื้องหลัง (3)
จวินอู๋เสียส่ายศีรษะทันที
“ข่าวไม่ได้ถูกปล่อยมาจากตัวเหลยเชิน”
“ทำไมเจ้าถึงพูดอย่างนั้น” เฉียวฉู่ถาม
จวินอู๋เสียตอบว่า “เรื่องที่เกิดขึ้นเหลยเชินเป็นผู้ลงมือจริงๆ ไม่ต้องสงสัยเลย แต่ข่าวเรื่องนี้ไม่ได้รั่วไหลมาจากตัวของเหลยเชินเอง ถ้าเหลยเชินอยากให้ผู้เยาว์พวกนั้นถูกตัดออกจากการแข่งขัน เขาย่อมไม่โง่ที่จะทิ้งบาดแผลไว้บนใบหน้าของคู่ต่อสู้ข้าชัดเจนแบบนั้น นอกจากนั้นคนที่ถูกพบว่ามีบาดแผลยังเป็นคู่ต่อสู้ในรอบที่สามของข้า เขาเป็นแค่ศิษย์จากสำนักศึกษาธรรมดาที่ไม่ได้มีชื่อเสียงอะไร ด้วยตำแหน่งและอำนาจของเหลยเชิน ไม่จำเป็นต้องทำให้ผู้เยาว์คนนั้นบาดเจ็บด้วยซ้ำ แค่สินบนสักเล็กน้อยตามความเหมาะสม เขาก็สามารถทำให้ผู้เยาว์คนนั้นยินยอมได้แล้ว แต่ผู้เยาว์คนนั้นกลับแสดงตัวต่อหน้าทุกคนด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยบาดแผล พวกเจ้าไม่คิดว่ามันแปลกหรือ ถ้าข้าเดาไม่ผิด คนที่ปล่อยข่าวน่าจะกำลังพยายามทำลายชื่อเสียงของเหลยเชิน”
จวินอู๋เสียหรี่ตา นางไม่สนใจปัญหาภายในของรัฐเหยียน แต่คนร้ายดันใช้นางเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของเขา แถมยังลากเอาชื่อเสียงของสำนักศึกษาเฟิงหัวลงมาให้แปดเปื้อนโคลนตมอีกด้วย
ในรัฐเหยียนนั้น ชื่อเสียงของเหลยเชินแทบไม่ด่างพร้อยอะไรเลย และการเป็นเจ้าภาพศึกประลองภูติวิญญาณในปีนี้นั้นอยู่ในความรับผิดชอบของเหลยเชินอย่างเต็มที่ ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้นในศึกประลองภูติวิญญาณปีนี้ มันย่อมสร้างความเสียหายอย่างหนักต่อชื่อเสียงที่เหลยเชินใช้เวลาหลายปีเพื่อสั่งสมมันขึ้นมา
ถึงแม้จวินอู๋เสียจะไม่ได้ชอบเหลยเชินนัก แต่นางก็เชื่อว่าด้วยนิสัยใจคอของเหลยเชิน เขาจะไม่ปล่อยให้ศัตรูของเขามีโอกาสจัดการกับเขาได้ง่ายนัก
คนฉลาดอย่างเขาย่อมรู้ว่าจะปกป้องชื่อเสียงของตัวเองได้อย่างไร
“หมายความว่ามีใครบางคนมีปัญหากับเหลยเชินอย่างนั้นหรือ แต่จะเป็นผู้ใดเล่า เขาเป็นถึงองค์รัชทายาทแห่งรัฐเหยียนเชียวนะ และเป็นที่โปรดปรานของฮ่องเต้ด้วย ผู้ใดจะกล้าไปมีเรื่องกับเขากัน” ฟ่านจัวเองก็กำลังคิดหนัก การคาดเดาของจวินอู๋เสียไม่ได้ผิด แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันค่อนข้างแปลก
สำหรับองค์รัชทายาทที่ให้ความสำคัญกับชื่อเสียงของตัวเองเป็นอย่างมาก เป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะทำเรื่องที่สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของตัวเองอย่างง่ายดายแบบนั้น
เช่นนั้นแล้วเป็นผู้ใดกันเล่าที่กล้าวางแผนร้ายต่อเหลยเชิน
จวินอู๋เสียก้มหน้าลง จู่ๆ นางก็นึกถึงมั่วเฉี่ยนยวน ในฐานะที่ทั้งคู่เป็นองค์รัชทายาทของรัฐเหมือนกัน สถานการณ์ของมั่วเฉี่ยนยวนในรัฐชีย่ำแย่มากมาตั้งแต่แรก ถือครองตำแหน่งรัชทายาทก็แต่ในนามเท่านั้น ซ้ำร้ายยังถูกลอบวางแผนการชั่วโดยฮ่องเต้ซึ่งเป็นเสด็จพ่อของเขาและองค์ชายที่เป็นอนุชาของเขาเอง
มองผิวเผินแล้ว มั่วเฉี่ยนยวน กับเหลยเชินอยู่ในสถานการณ์ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง แต่…
จวินอู๋เสียยังจำได้อย่างชัดเจน ก่อนที่ฮองเฮาแห่งรัฐชีพระองค์ก่อนสิ้นพระชนม์ ชื่อเสียงของมั่วเฉี่ยนยวน ในสายตาประชาชนก็เหมือนเหลยเชินในตอนนี้ จนกระทั่งฮองเฮาสิ้นพระชนม์ด้วยอาการป่วยและตระกูลของนางถูกสังหารจนหมดสิ้น ซึ่งทำให้การสนับสนุนองค์รัชทายาทถูกตัดขาดไปทั้งหมด มั่วเฉี่ยนยวน จึงค่อยๆ ถูกผลักให้ตกลงสู่สภาพอันเลวร้าย กลายเป็นองค์รัชทายาทที่ไม่ได้เรื่อง
และเหตุการณ์ในศึกประลองภูติวิญญาณครั้งนี้ก็ทำให้ความสงสัยในใจของจวินอู๋เสียเพิ่มมากขึ้น
เหลยเชินกำลังประสบชะตากรรมเดียวกับที่มั่วเฉี่ยนยวน เคยเจอมาก่อนใช่หรือไม่
การเป็นเจ้าภาพศึกประลองภูติวิญญาณคือภาระรับผิดชอบที่หนักหนามาก แต่กลับถูกวางให้เหลยเชินจัดการอย่างเต็มตัว และหลังจากศึกประลองภูติวิญญาณเริ่มต้นได้ไม่นาน ความผิดพลาดโง่ๆ ก็เกิดขึ้น
“รัฐเหยียนมีองค์ชายทั้งหมดสี่พระองค์ใช่หรือไม่” จู่ๆ จวินอู๋เสียก็เงยหน้าขึ้นมาถามเฟยเยียน
เฟยเยียนพยักหน้า “ใช่แล้ว มีสี่พระองค์ นอกจากเหลยเชินก็ยังมีองค์ชายอีกสามพระองค์ พวกเราเคยพบกับองค์ชายรองเหลยหยวนแล้วที่งานเลี้ยง ส่วนองค์ชายอีกสองพระองค์ที่ไม่มางานคือองค์ชายสามเหลยชิว กับองค์ชายสี่เหลยฝาน เหลยชิวปรากฏตัวน้อยที่สุดในบรรดาองค์ชายทั้งสี่ ส่วนองค์ชายสี่เหลยฝานไม่ได้ถือกำเนิดจากฮองเฮา เขาถูกทิ้งให้อยู่ในความดูแลของฮองเฮามาตั้งแต่เล็ก ทำให้เหลยเชินกับเหลยฝานค่อนข้างสนิทกัน”