ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 803 เบื้องหลัง (4) ตอนที่ 804 องค์รัชทายาทแห่งรัฐเหยียน (1)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 803 เบื้องหลัง (4) ตอนที่ 804 องค์รัชทายาทแห่งรัฐเหยียน (1)
ตอนที่ 803 เบื้องหลัง (4) / ตอนที่ 804 องค์รัชทายาทแห่งรัฐเหยียน (1)
ตอนที่ 803 เบื้องหลัง (4)
“ถ้าสนิทกัน อย่างนั้นทำไมงานเลี้ยงที่ตำหนักรัชทายาทเขาถึงไม่ปรากฏตัวเล่า เหลยหยวนยังมาเลย” ฟ่านจัวถามพร้อมกับเลิกคิ้ว
เฟยเยียนยักไหล่ แสดงท่าทางว่าเขาเองก็ไม่รู้
“แต่ในบรรดาองค์ชายทั้งสี่พระองค์ คนที่ฮ่องเต้โปรดปรานมากที่สุดก็คือองค์ชายสี่ แต่เขายังเด็กมาก เพิ่งอายุแค่สิบสี่ปีเท่านั้น” เฟยเยียนพูด
“สิบสี่…อย่างนั้นหรือ” จวินอู๋เสียหรี่ตาลง เทียบกับองค์ชายอีก สามพระองค์ เขาเด็กไปนิดจริงๆ แต่…อายุของเล่ยเหลยฝานทำให้จวินอู๋เสียนึกอะไรได้ นางคิดเรื่องนี้อยู่ครู่หนึ่งแต่ไม่พูดมันออกมา กลับพูดแค่ว่า “ไม่สำคัญหรอกว่าผู้ใดจะมีเรื่องกับเหลยเชิน แต่ถ้ามันผู้นั้นใช้ข้าเพื่อทำลายชื่อเสียงของเหลยเชิน เพื่อไม่ให้ชื่อของสำนักศึกษาเฟิงหัวต้องเสื่อมเสียไปด้วย เราต้องปรับแผนกันสักหน่อยแล้ว”
พวกเขาเข้าร่วมศึกประลองภูติวิญญาณเพื่อกอบกู้ชื่อเสียงของสำนักศึกษาเฟิงหัว ถ้าข่าวลือพวกนี้ยังคงแพร่กระจายต่อไป ชื่อของสำนักศึกษาเฟิงหัวไม่เพียงจะไม่กลับสู่ความรุ่งโรจน์เหมือนในอดีตเท่านั้น แต่มันจะเสื่อมเสียอย่างมากเลยทีเดียว
“เจ้ามีแผนในใจแล้วหรือ” ฟ่านจัวถามจวินอู๋เสียพร้อมกับเลิกคิ้วขึ้น
จวินอู๋เสียตอบว่า “เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงของสำนักศึกษาเฟิงหัว เราทำได้แค่ขีดเส้นแบ่งระหว่างเรากับเหลยเชินให้ชัดเจน ไม่ว่าผู้ใดกำลังวางแผนร้ายต่อเขา เราต้องไม่ปล่อยให้สำนักศึกษาเฟิงหัวถูกลากลงไปด้วย ดังนั้นเราต้องลงมือก่อนที่จะเกิดเรื่อง”
ตอนแรกนางตั้งใจจะใช้ความสัมพันธ์ระหว่างเหลยเชินเพื่อชิงแผนที่มาหลังจากศึกประลองภูติวิญญาณจบลง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในตอนนี้ทำให้ต้องเปลี่ยนแผน
“ถ้าเราสร้างความวุ่นวายขึ้น มันจะไม่ดึงคนจากสามโลกชั้นกลางมาที่นี่หรือ” หรงรั่วถาม
ถ้าเหลยเชินขอให้สามโลกชั้นกลางยื่นมือเข้ามายุ่ง พวกเขาก็จะไม่สามารถเข้าร่วมศึกประลองภูติวิญญาณต่อได้
แต่จวินอู๋เสียกลับส่ายศีรษะ
“เราแค่ต้องหาว่าแผนที่อยู่ที่ไหนและให้เฟยเยียนคัดลอกมันเท่านั้น” แม้ว่าการได้ต้นฉบับมาจะเป็นเรื่องดี แต่ในสถานการณ์ตอนนี้ พวกเขาจำเป็นต้องเอาเท่าที่พวกเขาสามารถเอาได้
จวินอู๋เสียอยากได้ทั้งแผนที่และช่วยกอบกู้ชื่อเสียงของสำนักศึกษาเฟิงหัว นางไม่อยากละทิ้งสิ่งใดสิ่งหนึ่งไป
“เราจะลงมือเมื่อไร” ฮวาเหยาถามพลางมองไปที่จวินอู๋เสีย
“คืนนี้” จวินอู๋เสียพูดอย่างใจเย็น
ทุกคนต่างมองหน้ากันแล้วพยักหน้า
“ฟ่านจิ่น เดินทางไปที่ตำหนักรัชทายาทแล้วแจ้งพวกเขาว่าเราจะไปที่ตำหนักคืนนี้”
ฟ่านจิ่นลุกขึ้นยืนทันทีที่ได้ยินคำพูดของจวินอู๋เสียและออกจากโรงเตี๊ยมตำหนักเซียนไป
ในขณะเดียวกันที่ตำหนักรัชทายาท เหลยเชินนั่งขมวดคิ้วอยู่ในห้องหนังสือของเขา เขาไล่องครักษ์ทั้งหมดออกไปและนั่งอยู่ที่โต๊ะเพียงลำพัง ดวงตาของเขาจ้องมองไปที่รายงานข่าวในมือที่เพิ่งได้รับมาอย่างโกรธเคือง
“พวกเขาลงมือแล้วอย่างนั้นรึ” เหลยเชินกำจดหมายในมือแน่น ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชังและความเจ็บปวดจากความอยุติธรรม
“ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้าได้ทำตามใจหรอก ชีวิตของข้า ลมหายใจของข้า ไม่ยอมยกให้ใครเอาไปแน่!” เหลยเชินหรี่ตาลงอย่างอันตราย เขาถือจดหมายอยู่เหนือเปลวไฟจากเทียน เฝ้ามองกระดาษติดไฟและค่อยๆ ถูกเปลวไฟกลืนกินอย่างช้าๆ จนกลายเป็นเถ้าสีดำ แต่แววตาของเหลยเชินไม่ได้อ่อนลงเลยแม้แต่น้อย
เขากำลังจะหมดเวลา ถ้าเขายังไม่ลงมือก็อาจจะไม่มีโอกาสอีกแล้ว…
ต่อให้ต้องแลกทุกสิ่งทุกอย่างที่มีให้กับปีศาจ เขาก็จะไม่ลังเลเลยสักนิด
ขณะที่ไฟกำลังลุกไหม้ม้วนกระดาษไปเรื่อยๆ เสียงเคาะประตูจากข้างนอกก็ดังขึ้น
เหลยเชินข่มแววตาอันตรายในดวงตาของเขาลงและถามด้วยเสียงนุ่มว่า “มีอะไรอย่างนั้นหรือ”
ตอนที่ 804 องค์รัชทายาทแห่งรัฐเหยียน (1)
เหลยเชินข่มแววตาอันตรายในดวงตาของเขาลงและถามด้วยเสียงนุ่มว่า “มีอะไรอย่างนั้นหรือ”
“องค์ชาย! ฟ่านจิ่นจากสำนักศึกษาเฟิงหัวมาที่นี่พร้อมแจ้งว่าศิษย์ของสำนักศึกษาเฟิงหัวจะขอเข้าเฝ้าองค์ชายคืนนี้พ่ะย่ะค่ะ” เสียงขององครักษ์ดังขึ้นจากด้านนอก
เหลยเชินตาโต เขารีบตอบทันทีว่า “บอกเขาว่าเรายินดีต้อนรับพวกเขาทุกเมื่อ”
เขายังมีโอกาส!
“ท่านยังไม่ยอมแพ้อีกหรือ” ทันใดนั้นเสียงของบุรุษก็ดังขึ้นจากหลังฉากที่อยู่ด้านหลังที่นั่งของเหลยเชิน
เหลยเชินตัวแข็งทื่อขึ้นมาทันทีเขาพูดขึ้นโดยไม่หันกลับไปมองว่า “ท่านมาที่นี่ทำไม จะเกลี้ยกล่อมให้ข้ายอมแพ้อย่างนั้นหรือ ทำไมข้าต้องยอมแพ้ด้วย! ข้าไม่ใช่หุ่นเชิดของใครนะ แล้วก็ไม่ใช่ตัวตายตัวแทนของใครด้วย! ข้าแค่สู้เพื่อหาทางรอดให้ตัวเอง ผิดตรงไหนอย่างนั้นหรือ!”
บุรุษที่อยู่หลังฉากถอนหายใจเบาๆ ฟังดูเหนื่อยล้าและหมดหนทาง
เหลยเชินสลัดท่าทางสุภาพอ่อนโยนตามปกติของเขาทิ้งไป มือของเขากำแน่นอยู่บนโต๊ะ เขาไม่หันกลับไป ไม่อยากที่จะหันกลับไป เขารู้ว่าเสียงนั้นเป็นของผู้ใด รู้ดีว่าบุรุษผู้นั้นมีจุดประสงค์อะไรในการมาที่นี่ แต่มันสำคัญอย่างไรเล่า
“หลายปีมานี้สิ่งที่คนพวกนั้นทำลงไปท่านก็รู้ดียิ่งกว่าข้า ท่านรู้สถานการณ์ของข้าในตอนนี้แล้วจะยังขอให้ข้ายอมแพ้อีกหรือ” เหลยเชินถามด้วยเสียงลอดไรฟัน
แต่บุรุษผู้นั้นก็ยังพูดว่า “ข้ารู้ถึงความเจ็บปวดในใจของท่าน แต่ข้าไม่อยากให้ท่านจมอยู่กับมัน สิ่งที่ท่านเป็นในตอนนี้ แตกต่างจากที่ท่านเคยเป็นในอดีตโดยสิ้นเชิง” เสียงของบุรุษผู้นั้นมีร่องรอยการรำลึกถึงอดีตและความเศร้าเสียใจ และยังเต็มไปด้วยความอับจนหนทางเป็นอย่างมาก
เหลยเชินหัวเราะอย่างขมขื่น “ดังนั้นท่านก็เลยมาที่นี่เพื่อบอกข้าว่าท่านดูแคลนข้าแล้วอย่างนั้นหรือ เพราะศิษย์ของท่านได้กลายเป็นคนหน้าด้านไร้ยางอาย ลุ่มหลงในตัณหา และชั่วช้าเลวทราม เพราะอย่างนั้น…ท่านจึงอับอายในตัวข้าใช่หรือไม่ ท่านอาจารย์…ไม่สิ! ข้าควรเรียกท่านว่าท่านราชครูมากกว่าสินะ!”
เหลยเชินยืนขึ้นทันทีและมองไปยังฉาก แสงไฟสลัวๆ จากเทียนไขส่องให้เห็นเงารางๆ ของร่างอันสูงเพรียวงามสง่าที่ยืนด้านหลังฉาก
“ข้าคิดว่าการเรียกท่านว่าอาจารย์จะทำให้ท่านรู้สึกว่าข้าทำให้หูของท่านต้องแปดเปื้อน ในเมื่อท่านไม่อยากเห็นข้ากลายเป็นคนต่ำทรามสร้างความอัปยศอดสูเช่นนั้น ท่านก็ไม่ควรลำบากมาถึงตำหนักรัชทายาทนี่! ข้าขอวิงวอนให้ท่านราชครูผู้น่านับถือของเราเดินอยู่ในจวนของท่านเอง หากว่าท่านต้องการเดินกินลมชมวิว ตำหนักรัชทายาทของข้าไม่สามารถรับรองตัวตนอันน่าเคารพนับถือของท่านได้หรอก” เสียงของเหลยเชินเต็มไปด้วยการเสียดสีเหน็บแนมอย่างไม่ปิดบัง น้ำเสียงแสดงความเกลียดชัง ใบหน้าหล่อเหลาไม่มีความอ่อนโยนหรือเป็นมิตรแม้แต่น้อย
“เหลยเชิน ทำไมท่านถึงยืนกรานทำเช่นนี้กับตัวเองด้วยเล่า” บุรุษหลังฉากถอนหายใจด้วยความเศร้า การเสียดสีเหน็บแนมของเหลยเชินไม่ได้ส่งผลใดๆ ต่อเขาเลย
เหลยเชินไม่ใส่ใจท่าทีที่แสดงถึงความอดทนอดกลั้นและการให้อภัยของบุรุษผู้นั้น เขาหันหลังกลับทันทีและเดินตรงไปที่ประตูห้องหนังสือ
“ผู้เยาว์จากสำนักศึกษาเฟิงหัวจะมาเยือนที่นี่คืนนี้ ข้าแน่ใจว่าท่านราชครูต้องเคยได้ยินเรื่องของพวกเขา ผู้เยาว์อายุสิบหกและสิบเจ็ดปีที่มีพลังวิญญาณขั้นสีน้ำเงิน! ช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก! ตอนนี้พวกเขาเป็นสหายกับข้า ด้วยความช่วยเหลือของพวกเขา ข้าจะไม่พ่ายแพ้! ตอนนี้พวกเขาเป็นแขกที่สำคัญที่สุดของข้า และถ้าท่านราชครูไม่มีธุระอื่นใดกับข้าอีก ข้าขอให้ท่านจากไปโดยเร็ว ข้าไม่อยากให้แขกของข้าพบเจอท่านที่ตำหนักรัชทายาท” ทันทีที่พูดจบเหลยเชินก็ก้าวยาวๆ ออกจากห้องไป
บุรุษที่อยู่หลังฉากมาตลอดถอนหายใจออกมาอย่างหมดหนทาง ร่างของเขาหายไปจากห้องหนังสืออย่างรวดเร็ว เงียบเชียบ และไม่มีใครเห็นเหมือนเช่นตอนมา
คืนนั้นเหลยเชินเตรียมอาหารที่ตำหนักรัชทายาท รอคอยการมาถึงของจวินอู๋เสียและสหาย นี่เป็นครั้งแรกที่จวินอู๋เสียและคนอื่นๆ เป็นฝ่ายชักชวน ทำให้เหลยเชินมีความสุขเป็นอย่างมาก