ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 817 ความลับของราชวงศ์ (3) ตอนที่ 818 ไม่รนหาที่ตาย ไม่ตาย (1)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 817 ความลับของราชวงศ์ (3) ตอนที่ 818 ไม่รนหาที่ตาย ไม่ตาย (1)
ตอนที่ 817 ความลับของราชวงศ์ (3) / ตอนที่ 818 ไม่รนหาที่ตาย ไม่ตาย (1)
ตอนที่ 817 ความลับของราชวงศ์ (3)
หลังจากพูดคุยกับเหลยเชินต่ออีกเล็กน้อย จวินอู๋เสียและคนอื่นๆ ก็ออกจากตำหนักรัชทายาท ขณะที่พวกเขาเดินทางกลับ เหตุการณ์ที่ถูกเปิดเผยให้ทราบในเช้าวันนี้ก็วนเวียนอยู่ในหัวของพวกเขา
เรื่องทั้งหมดได้เปิดหูเปิดตาพวกเขาจริงๆ และได้เผยให้เหล่าผู้เยาว์ได้เห็นถึงตัวอย่างของความซับซ้อนยุ่งเหยิงที่เกี่ยวพันกับการดิ้นรนเอาตัวรอดภายในราชวงศ์
“ข้าไม่เคยรู้เลยว่าจะมีการวางแผนการร้ายมากมายขนาดนี้เบื้องหลังฉากหน้าอันสูงส่งของราชวงศ์ การได้รู้เห็นเรื่องทั้งหมดนี้ทำให้ข้ารู้สึกว่าเรื่องยุ่งๆ ที่หนิงรุ่ยก่อขึ้นกลายเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อยไปเลย” ฟ่านจัวหัวเราะทั้งๆ ที่ส่ายหน้า เทียบกับฮองเฮาแห่งรัฐเหยียน แผนการร้ายของหนิงรุ่ยก็ดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาไม่ซับซ้อนอะไรเลย
“แต่ยังมีอยู่อย่างหนึ่งที่ข้าคิดว่ามันแปลกอยู่นะ” จู่ๆ ฟ่านจัวก็พูดขึ้นพร้อมกับหันไปมองจวินอู๋เสีย
จวินอู๋เสียมองฟ่านจัวโดยไม่พูดอะไร
“ถึงแม้น้องเสียจะวางแผนทำให้เหลยเชินเห็นว่าเขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเป็นพันธมิตรกับเรา แต่การที่เขายอมเปิดเผยความลับที่ดำมืดที่สุดของเขาออกมาให้เรารู้อย่างไม่ลังเลเช่นนี้ มันจะไม่ขาดความระมัดระวังและง่ายเกินไปหน่อยหรือสำหรับคนอย่างเหลยเชิน จะมีจุดประสงค์อื่นแอบซ่อนไว้อยู่อีกหรือเปล่า” ฟ่านจัวถามเป็นเชิงเตือน เหลยเชินเปิดเผยเกินไปในการบอกความลับทุกอย่างให้พวกเขาได้ฟังในวันนี้
จวินอู๋เสียส่ายหน้าและพูดว่า “ไม่มีหรอก”
“ทำไมเล่า”
“ข้าทำให้เขาพูดออกมาทั้งหมดเอง” จวินอู๋เสียตอบนิ่งๆ
“…” คราวนี้ไม่เพียงแต่ฟ่านจัวที่มองจวินอู๋เสียอย่างงุนงง คนอื่นๆ ก็พากันหันมามองจวินอู๋เสียด้วยสีหน้าแปลกๆ กันหมด
นางทำให้เหลยเชินพูดออกมาเองทั้งหมดอย่างนั้นหรือ
“ข้าได้เตรียมทุกอย่างไว้แล้วก่อนที่เราจะออกจากห้องบรรทมของเขาเมื่อคืน” จวินอู๋เสียมองกลับไปที่เหล่าสหายของนางด้วยดวงตาสงบนิ่ง
ฤทธิ์ของโอสถสะกดใจอาจจะใช้ได้ก็จริง แต่สิ่งที่เหลยเชินรู้เกี่ยวกับแผนที่นั้นมีอยู่น้อยนิด เพื่อให้พวกเขาดำเนินการขั้นต่อไปในการหาแผนที่ จวินอู๋เสียจึงต้องเป็นพันธมิตรกับเหลยเชินให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่…นางไม่รู้สึกอยากจะเสียเวลากับเหลยเชินมากจนเกินไป ดังนั้นนางจึงตัดสินใจใช้วิธีสะกดจิตเข้าไปในจิตใต้สำนึกของเหลยเชินด้วยวิธีใช้คำพูดกระตุ้น ก่อนที่พวกเขาจะออกจากห้องบรรทม ในจิตใต้สำนึกของเหลยเชินก็ได้ไว้วางใจจวินอู๋เสียอย่างเต็มที่แล้ว
ถึงแม้ผลกระทบของคำพูดกระตุ้นขณะที่อยู่ภายใต้การสะกดจิตจะไม่ชัดเจนนัก แต่ถ้าคนผู้นั้นมีความโน้มเอียงต่อการกระทำที่ถูกกระตุ้นอยู่ในใจก่อนแล้วแม้เพียงเล็กน้อย คำพูดกระตุ้นในจิตใต้สำนึกของเขาก็จะขยายเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีที่สิ้นสุด นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้เหลยเชินเปิดเผยทุกอย่างให้จวินอู๋เสียได้รู้โดยไม่มีการปิดบังอะไรเอาไว้ในเช้าวันนี้
“อะแฮ่ม ข้าสาบานว่าข้าจะไม่มีวันหาเรื่องน้องเสียเด็ดขาด!” เฉียวฉู่ยกมือขวาขึ้นกล่าวคำสาบานต่อสวรรค์เบื้องบนด้วยสีหน้าเคร่งขรึมจริงจัง ยิ่งเขาอยู่กับจวินอู๋เสียนานเท่าไร เขาก็ยิ่งตระหนักได้ว่าเด็กสาวตัวเล็กๆ คนนี้แท้จริงแล้วน่ากลัวขนาดไหน แค่โอสถแปลกๆ ของนางก็ทำให้ศัตรูหมดหนทางจะจัดการนางได้แล้ว ทว่าเหนืออื่นใดนางยังมีสมองอันน่าเหลือเชื่อนั่นอีก…
เฉียวฉู่เชื่อจากใจเลยว่าต่อให้มีเขาสองคนก็ยังไม่คณนามือจวินอู๋เสีย
“เห็นด้วย” เฟยเยียนเห็นพ้องต้องกันทันทีอย่างไม่ลังเล เป็นการเห็นด้วยอย่างเป็นเอกฉันท์ที่หาได้ยากยิ่งระหว่างเฉียวฉู่กับเขา
หรงรั่วพูดพร้อมหัวเราะ “โชคดีที่น้องเสียเป็นพันธมิตรกับพวกเรา ไม่อย่างนั้นพวกเราเดือดร้อนหนักแน่”
มันสมอง ชั้นเชิงไหวพริบ และความสามารถที่ไม่มีขีดจำกัดเหนือกว่าทุกผู้คน เด็กสาวคนนี้เกิดมาเพื่อทำลายความมั่นใจและคุณค่าในตัวเองของคนอื่นอย่างแท้จริง อย่าได้เผลอไปตัดสินนางจากใบหน้าเล็กๆ และท่าทีเย็นชานั่นเชียว ความจริงแล้วนั่นเป็นใบหน้าของจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ที่สามารถใช้เล่ห์เหลี่ยมแผนการหลอกลวงได้อย่างรวดเร็วโดยไม่กะพริบตา เป็นปีศาจร้ายที่ร้ายกาจที่สุดจำแลงร่างมา
จวินอู๋เสียมองคนอื่นๆ พูดกันแล้วนางก็บอกกับพวกเขาอย่างใจเย็นว่า “วางใจได้ ข้าไม่มีวันใช้ของพวกนั้นกับพวกเจ้าหรอก”
เฉียวฉู่ยิ้มออกมาทันที เขาเกือบจะกระโดดอย่างยินดีแล้ว แต่คำพูดต่อมาของจวินอู๋เสียก็ทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของพวกเขาแข็งทื่อ
“ไม่อยากเสียของน่ะ” จวินอู๋เสียบอกกับพวกเขาอย่างจริงจังสุดๆ
เหล่าสหายต่างแข็งเป็นหินอยู่กับที่ในทันที
เจ้าจะมาเล่นงานกันเองแบบนี้ไม่ได้นะ!
หลังจากชื่นชมสีหน้าที่เหมือนจะร้องไห้แต่ไร้น้ำตาของสหายแล้ว จวินอู๋เสียก็หันหลังกลับและเดินไปที่ห้องของนาง เมื่อหันหลังให้แล้ว มุมปากของนางก็ยกขึ้นเล็กน้อยเป็นรอยยิ้มจางๆ
มีพวกตัวตลกกลุ่มนี้อยู่ด้วยก็…สนุกดีเหมือนกันแฮะ
ตอนที่ 818 ไม่รนหาที่ตาย ไม่ตาย (1)
หลังจากยืนยันการเป็นพันธมิตรกับเหลยเชินแล้ว ช่วงเวลาของศึกประลองภูติวิญญาณที่เหลือก็จะเป็นเวลาแห่งการฉายแสงของจวินอู๋เสียและเหล่าสหายของนาง
อย่างไรก็ตาม เมื่อจวินอู๋เสียก้าวขึ้นเวทีประลองในรอบที่สี่ เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นอีกครั้ง ผู้เยาว์ที่ควรจะประลองกับจวินอู๋เสียในรอบนี้ออกจากการประลองไปเหมือนกับคนอื่นๆ ก่อนหน้าเขา และครั้งนี้มันรุนแรงมากยิ่งขึ้น!
ผู้เยาว์คนนั้นไม่ใช่แค่ไม่มาแสดงตัวในการประลองเท่านั้น แต่เขาเสียชีวิตอยู่ที่มุมหนึ่งของเมืองหลวง นี่เป็นครั้งแรกที่มีการฆาตกรรมเกิดขึ้นในศึกประลองภูติวิญญาณตั้งแต่เริ่มจัดการแข่งขันมา และข่าวนี้ก็ดึงดูดความสนใจของผู้เข้าแข่งขันทุกคนในทันที!
การสละสิทธิ์สองสามรอบที่แล้วเกี่ยวข้องกับจวินอู๋เสีย และเหตุผลเบื้องหลังการตัดสินใจถอนตัวของศิษย์พวกนั้นก็ถูกถกเถียงกันอย่างร้อนแรงไปทั่ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นยังเชื่อมโยงกับเหลยเชินองค์รัชทายาทแห่งรัฐเหยียนอีกด้วย ทุกคนต่างสงสัยว่าเหลยเชินคือคนที่ชักใยอยู่เบื้องหลัง บังคับพวกผู้เยาว์ด้วยสินบนและข่มขู่ให้ยอมทิ้งโอกาสในการประลองไปเสีย แต่ครั้งนี้เรื่องมันบานปลายมากเกินไปแล้ว
ถึงกับมีคนเสียชีวิตจริงๆ
ฝูงชนในลานประลองอยากรู้มากว่าเกิดอะไรขึ้น และตอนนี้พวกเขากำลังเกรี้ยวกราดอย่างมาก พวกศิษย์ที่เข้ารอบที่ห้าไปแล้ว พากันโกรธเคืองเนื่องจากไม่รู้ว่าใครจะเป็นคู่ต่อสู้คนต่อไปของจวินอู๋เสีย! สำหรับพวกเขา มันเห็นได้ชัดแล้วว่าเหลยเชินออกคำสั่งให้จวินอู๋เสียชนะและฆ่าคนตาย นั่นไม่ใช่การส่งข้อความบอกต่อคนที่เหลือหรอกหรือว่าถ้าพวกเขายังแข่งขันต่อไป หนทางข้างหน้าของพวกเขาก็มีแต่ความตายเท่านั้น!
เมื่อจู่ๆ เรื่องที่ยังไม่กระจ่างชัดแก่ทุกๆ คนพลันมีกลิ่นคาวโลหิตขึ้นมา ความกลัวก็แพร่ไปในหมู่ศิษย์ที่ได้เข้าสู่รอบต่อไป ทำให้พวกเขาตึงเครียดและกระวนกระวายใจมาก เหตุการณ์ได้มาถึงจุดเดือดแล้ว ศิษย์จากสำนักศึกษาต่างๆ ที่ตอนแรกแค่ดูถูกสำนักศึกษาเฟิงหัวที่ประจบประแจงเหลยเชิน แต่ตอนนี้พวกเขาพากันสาปแช่งด่าทออย่างรุนแรงและถ่มน้ำลายใส่พวกเขาอย่างไร้ความปรานี
ความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่เรื่องเล็กน้อยอีกต่อไป เมื่อสำนักศึกษาเฟิงหัวโดนข้อหาเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ก็ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้วว่าศิษย์ของสำนักศึกษาเฟิงหัวจะแข็งแกร่งมากแค่ไหนในศึกประลองภูติวิญญาณ มันไม่สามารถกู้ชื่อเสียงที่ด่างพร้อยของพวกเขาได้แล้ว!
จวินอู๋เสียเรียกให้เหลยเชินมาหาทันทีเพื่อสอบถามเขาถึงสิ่งที่เกิดขึ้นจริงๆ เบื้องหลังเหตุการณ์นี้
ครั้งนี้เหลยเชินไม่รู้เรื่องอะไรเลย หลังจากเป็นพันธมิตรกันแล้ว เขาก็รู้ว่าเขาไม่ต้องลงมืออะไรแล้วและไม่ต้องใช้เล่ห์เพทุบายอะไรอีก เขาล้มเลิกความตั้งใจก่อนหน้านี้ของเขาไปหมดแล้ว และครั้งนี้…เขาไม่ได้เข้าใกล้ผู้เยาว์ที่จะสู้กับจวินอู๋เสียในรอบที่สี่เลย ความจริงแล้วเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าใครคือคู่ต่อสู้คนต่อไปของจวินอู๋เสีย!
“ไม่ใช่ท่านหรือ” จวินอู๋เสียถามพลางมองไปที่เหลยเชิน
เหลยเชินแทบจะสาบานต่อสวรรค์ เขาพูดด้วยสีหน้าอยากจะร้องไห้ว่า “ไม่ใช่ข้าจริงๆ! ถึงข้าจะดูเหมือนโง่แต่ข้าไม่ทำอะไรเกินขอบเขตในช่วงเวลาตึงเครียดเช่นนี้หรอก! ขืนทำก็เท่ากับเติมเชื้อเพลิงลงไปในกองไฟน่ะสิ”
จวินอู๋เสียใช้ความคิดอีกครั้ง ถ้าเหลยเชินไม่ได้เป็นคนทำ อย่างนั้นก็ต้องเป็นฝีมือของคนที่อยากจะลากเหลยเชินลงจากตำแหน่ง ‘ฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียน’ มีเพียงคนผู้นั้นเท่านั้นที่สามารถลงมือได้ในเวลาเช่นนี้
“พระองค์ค่อนข้างโหดใช่เล่นเลยนะเนี่ย” จวินอู๋เสียหรี่ตาลง เพื่อที่จะบังคับให้เหลยเชินลงจากตำแหน่งรัชทายาท ฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียนถึงกับลอบลงมือกับผู้เข้าแข่งขันที่มาเข้าร่วมศึกประลองภูติวิญญาณถึงที่นี่ ถ้าข่าวนี้รั่วไหลออกไปละก็ ต่อจากนี้ไปรัฐเหยียนลืมเรื่องที่จะเป็นเจ้าภาพจัดศึกประลองภูติวิญญาณได้เลย
“แล้วตอนนี้เราจะทำอย่างไรกันต่อดี สำนักศึกษาที่เข้าร่วมการแข่งขันประท้วงกันใหญ่แล้ว และเรื่องนี้ก็ไปถึงเสด็จพ่อแล้วด้วย ถ้าพระองค์ใช้เรื่องนี้มาบังคับข้าให้ยอมทำตามพระประสงค์ของพระองค์ละก็…” เหลยเชินวิตกกังวลอย่างหนัก เขากระวนกระวายมากจนคิดหาทางออกไม่ได้
อย่างไรก็ตาม จวินอู๋เสียยังคงใจเย็นอยู่ ความสงบนิ่งของนางทำให้เหลยเชินยิ่งกระวนกระวายมากขึ้น
“นี่เจ้าไม่กังวลเลยหรือ เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด…ก็ส่งผลกับเจ้าด้วยนะรู้ใช่หรือไม่” เหลยเชินมองจวินอู๋เสียอย่างคาดหวัง
จวินอู๋เสียยังดูเหมือนไม่สะทกสะท้านใดๆ นางพูดขึ้นช้าๆ ว่า “ท่านไม่ต้องร้อนใจไปหรอก ข้าจะจัดการเอง ถ้าฮ่องเต้ยืนกรานจะเอาผิดท่านเรื่องการตายของศิษย์คนนั้น สิ่งเดียวที่ท่านต้องทำก็คือลากเรื่องนี้ไปให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ แค่นั้นก็พอแล้ว”