ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 833 ขอโทษที ถึงตาข้าบ้างแล้ว (8) ตอนที่ 834 องค์ชายสี่ (1)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 833 ขอโทษที ถึงตาข้าบ้างแล้ว (8) ตอนที่ 834 องค์ชายสี่ (1)
ตอนที่ 833 ขอโทษที ถึงตาข้าบ้างแล้ว (8) / ตอนที่ 834 องค์ชายสี่ (1)
ตอนที่ 833 ขอโทษที ถึงตาข้าบ้างแล้ว (8)
จ้าวซวินหายตัวไป ตั้งแต่ที่เห็นเขาครั้งสุดท้ายตอนถูกนักฆ่าไล่ตาม เขาก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย มีคนมากมายบนถนนได้ยินคำพูดสุดท้ายของเขาซึ่งกลายมาเป็นหลักฐานให้ผู้คนต้องครุ่นคิดอย่างหนัก
กระแสลมในเมืองหลวงรัฐเหยียนได้เปลี่ยนทิศทางแล้ว และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้บ่งบอกว่าองค์รัชทายาทไม่มีความผิดใดๆ
ในทันทีที่เหลยเชินได้ยินข่าว เขาก็ไม่สามารถนั่งอยู่เฉยๆ ได้อีก แต่ตัวเขาก็รู้ดีว่าตัวเองต้องไม่ทำอะไรบุ่มบ่ามในตอนนี้ จนกระทั่งกลางดึกเขาถึงได้แอบเดินทางไปหาพวกจวินอู๋เสียที่โรงเตี๊ยมตำหนักเซียน
“น้องจวิน! เจ้าทำได้อย่างไรน่ะ จ้าวซวินนั่น เจ้าทำให้เขาไปปรากฏตัวที่ศึกประลองภูติวิญญาณเพื่อสู้กับเจ้าได้อย่างไร!” เหลยเชินพยายามระงับความตื่นเต้นเนื่องจากเมื่อเช้านี้ข่าวลือที่เล่นงานเขาอยู่ได้พลิกกลับจากหน้ามือเป็นหลังมือ องค์รัชทายาทส่งคนออกไปฟังผู้คนในเมืองหลวงพูดคุยถกเถียงกัน และพบว่าพวกเขาไม่โยงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเข้ากับเขาอีกต่อไปแล้ว ทำให้เขาถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่อย่างโล่งอก
จวินอู๋เสียอุ้มเจ้าแมวดำตัวน้อยไว้ในอ้อมแขนขณะนั่งอย่างสงบอยู่บนเก้าอี้ นางเหลือบมองเหลยเชินที่กำลังตื่นเต้นดีใจเป็นอย่างมากด้วยสีหน้านิ่งเฉยอย่างที่เคยเป็น
“เขาก็น่าจะมาอยู่แล้ว” จวินอู๋เสียตอบนิ่งๆ
เหลยเชินถามขึ้นว่า “แล้วตอนนี้จ้าวซวินอยู่ที่ไหน ข้ากลัวว่าเขาจะกำลังเดือดร้อนมาก ในเมื่อเขาเลือกอยู่ฝ่ายเจ้า เช่นนั้นข้าก็น่าจะส่งทหารไปคุ้มกันเขา”
จวินอู๋เสียส่ายหน้าและตอบว่า “เขาหายตัวไปแบบนี้ดีต่อท่านที่สุดแล้ว”
การที่ยังคงหาตัวจ้าวซวินไม่พบเช่นนี้ จะทำให้การถกเถียงในเรื่องที่เกิดขึ้นยิ่งทวีความร้อนแรง ทุกวันที่จ้าวซวินยังคงหายตัวไป คำพูดสุดท้ายที่ได้ยินจากเขาก็จะยังคงอยู่ให้ผู้คนขุดคุ้ยกันต่อไป
“ก็จริง…แต่…ตราบใดที่จ้าวซวินยังอยู่ในเมืองหลวง เขาก็อาจจะถูกพบได้ไม่ช้าก็เร็ว ถ้าเสด็จพ่อของข้าหาเขาพบก่อนและบังคับให้เขาเปลี่ยนคำพูด นั่นจะไม่…” เหลยเชินอดเป็นกังวลต่อไม่ได้ การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นเพราะอย่างแรกเลยคือพลังอันเหนือชั้นของจวินอู๋เสีย และอย่างที่สองเพราะคำพูดสุดท้ายของจ้าวซวินก่อนที่เขาจะหายตัวไป ถ้าคำพูดของจ้าวซวินเปลี่ยนไปอีกละก็ ผลลัพธ์ที่ออกมาในตอนสุดท้ายจะกลายเป็นหายนะของเขาอย่างแน่นอน
จวินอู๋เสียลูบขนของเจ้าแมวดำตัวน้อยในอ้อมแขนนางอย่างไม่แยแสสนใจสิ่งใด ดูไม่กังวลเลยสักนิด “ไม่มีใครหาตัวเขาพบหรอก เขาจะไม่ปรากฏตัวให้เห็นอีกแล้ว”
สำหรับคนที่กลายสภาพเป็นแอ่งโลหิตซึมลงไปในพื้นดิน ใครจะไปหาตัวเขาเจออีกเล่า
เหลยเชินมองจวินอู๋เสียอย่างงุนงง เขาอยู่ในสภาพย่ำแย่มาจนถึงตอนนี้ แต่ผ่านไปแค่วันเดียวจวินอู๋เสียก็พลิกสถานการณ์ทั้งหมดได้ และด้วยชั้นเชิงไหวพริบที่น่าทึ่งนี้เอง ทำให้ไม่มีใครพบช่องโหว่ของแผนการได้เลย เหลยเชินไม่อาจเข้าใจได้ว่าเด็กหนุ่มที่อายุน้อยขนาดนี้สามารถคิดแผนการที่สมบูรณ์แบบเช่นนั้นออกมาได้อย่างไร
หลังจากเหตุการณ์นี้ เหลยเชินไม่กล้ามองจวินอู๋เสียที่สามารถพลิกกลับความคิดและความเชื่อของคนทั้งเมืองหลวงภายในวันเดียวเป็นเพียงเด็กหนุ่มธรรมดาทั่วไปได้อีกต่อไป ความสามารถเช่นนี้แม้แต่ตัวเขาเองยังต้องนับถือยำเกรง
“ในเมื่อน้องจวินมั่นใจเช่นนั้น ข้าก็ไม่มีอะไรต้องกังวล หลังเหตุการณ์นี้ข้าเชื่อว่าเสด็จพ่อจะต้องคิดหนักก่อนจะเริ่มแผนการอื่นเพื่อเล่นงานข้า หวังว่าช่วงนี้ข้าจะได้ผ่อนคลายสักหน่อยนะ” เหลยเชินพูดพร้อมกับหัวเราะ ตั้งแต่วันที่ศึกประลองภูติวิญญาณเริ่มต้นขึ้นจนถึงตอนนี้ วันนี้เป็นวันที่เขามีความสุขที่สุด
เขาแทบจะจินตนาการได้เลยว่า ตอนที่คนที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ผู้นั้นรู้เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดในวันนี้ ปฏิกิริยาของเขาจะยอดเยี่ยมน่าดูชมขนาดไหน
“ท่านผ่อนคลายไม่ได้หรอกนะ” จวินอู๋เสียสวนขึ้นทันควัน
เหลยเชินประหลาดใจ
“ถึงอีกฝ่ายจะไม่สามารถดำเนินการตามแผนเดิมได้ แต่ฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียนย่อมไม่ยอมทิ้งโอกาสไปง่ายๆ แน่ ท่านจะต้องเตรียมรับมือเอาไว้ให้ดี” นิ้วมือของจวินอู๋เสียลูบไล้อยู่บนขนเรียบลื่นของเจ้าแมวดำตัวน้อย นางตั้งตารอดูอุบายอื่นๆ ของฮ่องเต้ผู้ยิ่งใหญ่แห่งรัฐเหยียนที่แข็งแกร่งที่สุดว่าพระองค์จะสามารถทำให้เกิดอะไรขึ้นได้บ้าง
ตอนที่ 834 องค์ชายสี่ (1)
ในการประลองรอบถัดไป จวินอู๋เสียเอาชนะคู่ต่อสู้ของนางไปได้ด้วยพลังที่เหนือกว่า ไม่มีสักคนที่สามารถรอดจากการโจมตีครั้งแรกของนางไปได้ และทุกคนที่ก้าวขึ้นเวทีจะถูกโยนลงมาจากเวทีประลองในชั่วอึดใจเดียว
เมื่อเจอเข้ากับการต่อสู้แบบทีเดียวจอดอย่างต่อเนื่องของจวินอู๋เสีย ทุกคนก็เริ่มรู้สึกว่าการประลองที่ผลออกมาว่ามีการสละสิทธิ์ในรอบก่อนหน้านั้นก็ไม่ได้แตกต่างไปจากตอนนี้สักเท่าไร อย่างไรเสียทุกคนก็แพ้ในพริบตาเหมือนกันหมด
ในตอนนี้ไม่มีใครกล้ามองจวินอู๋เสียด้วยสายตาเย้ยหยันล้อเลียนอีกแล้ว พวกผู้เยาว์ที่เคยพูดไม่ดีเกี่ยวกับจวินอู๋เสียตอนนี้ได้แต่ก้มหน้าหลบตาเมื่อเห็นจวินอู๋เสีย ไม่มีใครกล้าเงยหน้าขึ้นสบตากับนางด้วยกลัวว่าจวินอู๋เสียอาจจะฆ่าพวกเขาทิ้งเสียตรงนั้นเลยก็ได้
ยังเหลือการแข่งขันอีกสามรอบเพื่อหาผู้ชนะในแต่ละเขต การประลองที่ผ่านไปรอบแล้วรอบเล่าได้ทำให้ผู้เข้าแข่งขันตกรอบไปเป็นจำนวนมาก มีผู้เข้าแข่งขันอยู่อีกน้อยนิดเท่านั้นที่ยังคงอยู่ แม้ว่าผู้เข้าแข่งขันจำนวนมากจะตกรอบไปแล้ว แต่ลานประลองทุกเขตยังคงเต็มไปด้วยผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วน พวกผู้เยาว์ที่ออกจากการแข่งขันไปแล้วไม่ได้จากไปไหน ถึงจะแพ้แต่พวกเขาก็ยังอยู่ต่อเพื่อสังเกตการณ์ต่อสู้ของคนอื่นๆ จะได้มีประสบการณ์มากขึ้นในเรื่องทักษะการต่อสู้ต่างๆ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันในปีต่อไป!
ในวันนี้การแข่งขันก็ดำเนินไปตามปกติ มีเพียงเขตประลองที่หนึ่งเท่านั้นที่มีแขกพิเศษปรากฏตัวขึ้น
ในขณะที่พวกผู้เยาว์กำลังเตรียมตัวสำหรับการต่อสู้ที่ใกล้เข้ามา ทันใดนั้นพวกเขาก็เห็นกองทหารที่สวมเครื่องแบบของวังหลวงเดินเรียงแถวเข้ามาในลานประลอง
ผู้เยาว์ทุกคนในลานประลองหันไปมองทหารหลวงที่จู่ๆ ก็เข้ามาอย่างตื่นกลัว ดูจากชุดเกราะแล้วพวกเขาแน่ใจว่าทหารพวกนี้เป็นทหารรักษาการณ์ของวังหลวงแห่งรัฐเหยียน
แต่ทหารพวกนี้มาทำอะไรที่นี่ ทำไมอยู่ๆ ก็โผล่มา
ขณะที่ทุกคนยังสับสนงุนงงอยู่นั้นเอง เสียงสดใสร่าเริงของคนผู้หนึ่งก็ดังขึ้น
“นี่คือเขตประลองที่หนึ่งอย่างนั้นหรือ ข้านึกว่าการแข่งขันใกล้จะจบแบบนี้คนจะน้อยกว่านี้เสียอีก” เสียงนั้นดังมาจากด้านนอกทางเข้าลานประลอง และที่มาพร้อมกับเสียงนั้นก็คือผู้เยาว์หน้าตาหล่อเหลาคนหนึ่งในชุดสีเหลืองปักด้วยเส้นไหมสีทองเดินเข้ามาในลานประลองอย่างช้าๆ
ใบหน้าของเขาราวกับหยกขาวเนื้อดี ดวงตามีแววยิ้มแย้มอยู่ตลอดเวลา มีหยกสีขาวชิ้นหนึ่งห้อยประดับอยู่ที่สะโพก มันแกว่งไปมาเล็กน้อยตามจังหวะก้าวเดินของเขา
เมื่อเห็นผู้เยาว์คนนั้นเดินเข้ามา ทุกคนก็พากันแข็งค้างอยู่กับที่
จวินอู๋เสียยืนสังเกตผู้เยาว์คนนั้นอย่างรอบคอบระมัดระวังอยู่ที่มุมหนึ่ง ในสมองของนางกำลังบันทึกข้อมูลทุกอย่างที่นางสังเกตได้จากตัวผู้เยาว์คนนั้น
เหลยฝานองค์ชายสี่แห่งรัฐเหยียน โดยผิวเผินเป็นที่รู้กันว่าเขาเป็นพระโอรสที่เกิดจากฮ่องเต้กับพระสนมที่พระองค์ทรงรักมากที่สุดและถูกเลี้ยงดูโดยฮองเฮา แต่ในความเป็นจริง เขาคือบุตรนอกสมรสที่เกิดจากฮองเฮากับชู้รักของนาง อายุของเหลยเชินน้อยกว่าองค์ชายอีกสามพระองค์เล็กน้อย เขามีใบหน้าที่หมดจดงดงามเต็มไปด้วยรอยยิ้มที่ดูน่ารักเป็นอย่างยิ่ง ยิ่งกว่านั้นเขายังเด็กมากและเป็นที่โปรดปรานยิ่งของฮ่องเต้
ในบรรดาองค์ชายทั้งสี่พระองค์แห่งรัฐเหยียน มีเพียงองค์ชายพระองค์นี้เท่านั้นที่ยังคงอยู่ในวังหลวง เทียบกับองค์ชายอีกสามพระองค์แล้ว เหลยฝานได้รับการปฏิบัติที่ดีกว่ามากมาตั้งแต่เกิด ฮ่องเต้ไม่เพียงแต่จะเลือกอาจารย์มาสอนเขาอย่างพิถีพิถันด้วยตัวพระองค์เองเท่านั้น แต่ยังมีส่วนช่วยดูแลชีวิตประจำวันในอีกหลายๆ เรื่องอาทิเช่น อาหาร อาภรณ์ ที่พักอาศัย และสถานที่ที่เขาจะไปอีกด้วย
เทียบกับเหลยฝานแล้ว องค์ชายอีกสามพระองค์ที่เหลือของรัฐเหยียนแทบจะถูกกระทำราวกับเด็กที่เก็บมาจากข้างถนน