ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 851 สุดยอดหมอเทวดา (7) ตอนที่ 852 สุดยอดหมอเทวดา (8)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 851 สุดยอดหมอเทวดา (7) ตอนที่ 852 สุดยอดหมอเทวดา (8)
ตอนที่ 851 สุดยอดหมอเทวดา (7) / ตอนที่ 852 สุดยอดหมอเทวดา (8)
ตอนที่ 851 สุดยอดหมอเทวดา (7)
“ฮึ่ม! เตาที่พวกเราใช้หลอมโอสถให้คุณหนูชวีอยู่ตรงนั้น คนที่รู้เรื่องการแพทย์อยู่บ้างและคุ้นเคยกับกลิ่นสมุนไพรย่อมรู้ได้ไม่ยากว่าเราป้อนโอสถวิเศษอะไรให้นาง ยิ่งกว่านั้นที่นี่ก็มีคนอยู่ตั้งเยอะ อาการบาดเจ็บของคุณหนูชวีกับผลตรวจอาการของนางก็ไม่ใช่ความลับ คนที่อยากรู้แค่ถามคนแถวนี้สักหน่อย ประกอบกับคุยกับพวกพนักงานและคนรับใช้ในโรงเตี๊ยมก็รู้เรื่องทั้งหมดแล้ว” หมอหลวงหลี่พูดพร้อมกับหัวเราะอย่างดูถูก ไม่ว่าจะมองอย่างไร เขาก็ไม่รู้สึกว่าจะมีใครในโลกนี้ที่สามารถระบุอาการบาดเจ็บของผู้ป่วยได้อย่างถูกต้องแม่นยำจนถึงขนาดบอกชนิดของโอสถวิเศษและสมุนไพรที่ผู้ป่วยได้รับในช่วงระยะเวลาสั้นๆ ขนาดนี้
คำพูดพวกนั้นและข้อกังขาของหมอหลวงหลี่ไม่ได้ทำให้จวินอู๋เสียโกรธเลยแม้แต่น้อย นางแค่หันกลับไปอย่างไม่สนใจและมองชวีหลิงเย่ว์ที่นอนอยู่บนเตียงนอน
ทันใดนั้น นางก็ก้มตัวลงพร้อมกับยื่นมือออกไปแถวๆ คอของชวีหลิงเย่ว์
เจี่ยงอิงหลงที่ยืนอยู่ด้านหนึ่งร้องตะโกนเสียงดังออกมาอย่างตกใจ “นั่นเจ้าจะทำอะไรชวีหลิงเย่ว์”
แต่จวินอู๋เสียทำเป็นไม่ได้ยินเสียงตะโกนของเขา มือขาวราวหิมะของนางเคลื่อนผ่านคอของชวีหลิงเย่ว์ด้วยความเร็วสูง แสงสะท้อนของเข็มเงินแวบขึ้นที่ปลายนิ้วและเข็มเงินนั้นก็แทงเข้าที่หูของชวีหลิงเย่ว์ และทันทีที่เข็มแทงเข้าไปในเนื้อ มันก็ถูกจวินอู๋เสียถอนออกมาด้วยความเร็วราวสายฟ้า
นางใช้เข็มด้วยความเร็วสูงมากจนไม่มีใครในห้องสังเกตเห็นการกระทำของนาง
เจี่ยงอิงหลงพุ่งตัวเข้ามาที่จวินอู๋เสียและจับมือนางเอาไว้
“ถึงเจ้าจะเป็นคนที่องค์รัชทายาทพามา แต่จากอาการของชวีหลิงเย่ว์ตอนนี้ เจ้าไม่ควรแตะต้องนาง หากเกิดอะไรขึ้นกับนาง เจ้าจะตอบคำถามได้อย่างนั้นหรือ” เจี่ยงอิงหลงพูดพร้อมกับหรี่ตาที่เต็มไปด้วยไฟโทสะ
จวินอู๋เสียเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ดวงตาเย็นชาของนางสบเข้ากับดวงตาเกรี้ยวกราดของเจี่ยงอิงหลง
เหลยเชินแอบกลัวแทนจวินอู๋เสีย จากน้ำเสียงท้าทายไม่มีความเกรงใจที่หมอหลวงหลี่ใช้พูดกับเขา เขาก็รู้แน่ว่าบุรุษที่นั่งอยู่บนบัลลังก์ได้สั่งไม่ให้เขาเข้ามายุ่งกับเรื่องนี้ นั่นคือสาเหตุที่หมอหลวงหลี่กล้าทำท่าโอหังเช่นนั้น
“โอ้ อย่างนั้นข้าอยากจะถามท่านอาจารย์ของสำนักศึกษาธงศึกจริงๆ ที่ท่านต่อต้านข้าไม่ให้รักษาคุณหนูชวีถึงขนาดนี้ และยังไม่ยอมให้ข้าตรวจอาการของนางอีก ท่านไม่กลัวหรือว่าท่านอาจจะพลาดโอกาสในการช่วยชีวิตนางเอาไว้ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับคุณหนูชวีจริงๆ ข้าคิดว่าคนของเมืองพันอสูรคงไม่ปล่อยท่านไปง่ายๆ ด้วยเหมือนกัน” จวินอู๋เสียพูดด้วยสีหน้าสงบนิ่ง มีเพียงดวงตาที่มองเจี่ยงอิงหลงอยู่ที่ส่องประกายเย็นเยียบจนน่ากลัว
สีหน้าของเจี่ยงอิงหลงแข็งค้างไป
หมอหลวงหลี่อ้าปากพูดขึ้นทันที “อาจารย์เจี่ยงผิดตรงไหนที่ห่วงใยสวัสดิภาพศิษย์ในสำนักศึกษา เด็กน้อยอย่างเจ้าจะไม่พูดเกินจริงไปหน่อยหรือ ถ้าเจ้ามีความรักษาคุณหนูชวีจากอาการบาดเจ็บได้จริงๆ ละก็ พวกหมอหลวงกับหมอที่เป็นที่นับหน้าถือตาทั้งหมดที่นี่ไม่กลายเป็นตัวตลกไปหมดหรือ ประสบการณ์ทางด้านการแพทย์ตลอดทั้งชีวิตของพวกเราเทียบกับเด็กน้อยเช่นเจ้าไม่ได้อย่างนั้นหรือ”
จวินอู๋เสียตอบอย่างไม่ลังเลว่า “ในเมื่อพวกท่านทุกคนเป็นผู้อาวุโสที่มีทั้งความสามารถและความรู้ทางด้านการแพทย์อย่างยอดเยี่ยม หากผู้เยาว์อย่างข้าทำอะไรไม่ถูกต้องเหมาะสม พวกท่านจะไม่มีใครบอกได้เลยหรือ เผอิญว่าข้ามีโอสถวิเศษอยู่ขวดหนึ่งและคิดว่ามันเหมาะกับอาการของคุณหนูชวีตอนนี้มาก ถ้าพวกท่านไม่ไว้ใจข้า ท่านก็เอาโอสถไปตรวจสอบก่อนก็ได้ หากพบอะไรไม่เข้าท่าในนั้น ข้าก็เต็มใจรับการลงโทษที่พวกท่านคิดว่าสมควร” จวินอู๋เสียเอาขวดกระเบื้องสีขาวออกมาหนึ่งขวดและโยนไปให้เจี่ยงอิงหลง
เจี่ยงอิงหลงรับเอาไว้ เขายุ่งยากใจเป็นอย่างมาก แววตาที่มองจวินอู๋เสียเต็มไปด้วยความสับสน เขาไม่เชื่อว่าจวินอู๋เสียจะมีความสามารถทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยมทั้งๆ ที่อายุน้อยขนาดนี้ แต่สิ่งที่นางมอบให้คือโอสถวิเศษซึ่งไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสามารถหรือความรู้ทางการแพทย์ของนาง
ตอนที่ 852 สุดยอดหมอเทวดา (8)
เจี่ยงอิงหลงขมวดคิ้ว ในฐานะอาจารย์ที่มีหน้าที่ดูแลศิษย์ของสำนักศึกษาธงศึกที่มาเข้าร่วมศึกประลองภูติวิญญาณในปีนี้ เขารู้ว่าถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับชวีหลิงเย่ว์ในระหว่างการแข่งขันจริงๆ ละก็ เขาก็จะไม่สามารถตอบคำถามคนจากเมืองพันอสูรได้ ด้วยความคิดที่จะลองดูสักครั้ง เจี่ยงอิงหลงจึงปล่อยแขนของจวินอู๋เสียและนำขวดบรรจุโอสถวิเศษไปยืนตรงหน้าหมอหลวงหลี่
“นี่เป็นเรื่องความเป็นความตายของชวีหลิงเย่ว์ ตราบใดที่มีความหวังแม้เพียงเล็กน้อย ข้าก็ไม่อยากจะทิ้งมันไป ท่านหมอหลวงหลี่ช่วยดูให้ข้าหน่อยเถอะขอรับว่าโอสถวิเศษนี้ประกอบด้วยอะไร”
หมอหลวงหลี่ชำเลืองมองจวินอู๋เสียแวบหนึ่ง สายตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ เขาคว้าขวดบรรจุโอสถไปเปิดฝาออกแล้วเอาขวดไปจ่อที่จมูกเพื่อสูดกลิ่น
กลิ่นหอมจางๆ บางเบาที่แตะจมูกเขาเป็นกลิ่นที่แค่สูดดมอย่างเดียวก็ทำให้รู้สึกสดชื่นและตื่นตัวได้แล้ว
ตาของหมอหลวงหลี่เป็นประกาย เขาส่งขวดบรรจุโอสถไปให้พวกหมอที่อยู่ข้างๆ เพื่อให้พวกเขาตรวจสอบ
“เป็นอย่างไรบ้าง” เจี่ยงอิงหลงถามขึ้น
หมอหลวงหลี่มองไปที่จวินอู๋เสียและเสียงหัวเราะเย็นชาก็ดังขึ้น
“ข้าคิดว่าจะมีอะไรเสียอีก ก็แค่โอสถรวมจิต ไม่มีอะไรผิดปกติในโอสถวิเศษนั้นหรอก แต่โอสถรวมจิตไม่ใช่ของหายากอะไร มันเป็นแค่โอสถบำรุงและรวมพลังปราณเพิ่มสมาธิเท่านั้น เด็กน้อยเจ้ากล้าอวดอ้างว่าโอสถวิเศษเช่นนี้ใช้ได้ผลกับอาการของคุณหนูชวี มันไม่น่าขำไปหน่อยอย่างนั้นหรือ โอสถแบบนี้พวกเราทุกคนที่นี่ก็มีติดตัว ถ้าโอสถวิเศษนี่ช่วยแก้ไขอาการบาดเจ็บของคุณหนูชวีได้ ทำไมพวกเขาต้องให้เราทุกคนมาที่นี่ด้วยเล่า”
เมื่อหมอหลวงหลี่พูดจบ หมอคนอื่นๆ อีกหลายคนก็เห็นด้วยกับเขา ถึงแม้พวกเขาจะไม่พบสิ่งผิดปกติในโอสถรวมจิตของจวินอู๋เสีย แต่โอสถธรรมดาทั่วไปแบบนั้น ถ้าเอามาใช้กับอาการของชวีหลิงเย่ว์ มันก็ยังไม่ดีพอหรอก เหมือนน้ำถ้วยเดียวกับไฟที่เผาฟืนกองใหญ่ทั้งคันเกวียน ไม่มีผลอะไรอยู่แล้ว
“ข้าแค่จะถามว่า ถ้าคุณหนูชวีได้รับโอสถวิเศษนี้เข้าไป จะส่งผลเสียต่ออาการบาดเจ็บของนางหรือไม่” จวินอู๋เสียไม่สนใจคำพูดถากถางของหมอหลวงหลี่เลยแม้แต่น้อย
พวกหมอทุกคนพากันส่ายหน้าโดยพร้อมเพรียงกัน
“ถึงโอสถรวมจิตจะไม่ส่งผลร้ายต่ออาการของคุณหนูชวี แต่…มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรนางได้มากเช่นกัน ก็อาจจะเหมือนกับพวกโอสถและสมุนไพรที่นางได้รับไปแล้วนั่นแหละ” ชายชราคนหนึ่งที่มีผมสีขาวพูดขึ้น
จวินอู๋เสียพยักหน้าอย่างพอใจ
“ในเมื่อมันไม่ได้ส่งผลเสียต่อนางแต่มีผลดีอยู่บ้างเล็กน้อย แล้วทำไมเราถึงไม่ลองเล่า ถ้าไม่ลองเราจะรู้ได้อย่างไรว่าไม่ได้ผล”
“นั่น…” หมอผมขาวอึ้งไปและมองไปที่หมอหลวงหลี่
หมอหลวงหลี่รับโอสถรวมจิตกลับคืนมาจากหมอคนอื่นๆ และโยนให้จวินอู๋เสีย “เป็นเรื่องดีที่พวกผู้เยาว์มีความคิดเป็นของตัวเอง แต่ถ้าสิ่งที่คิดมันห่างไกลจากความเป็นจริงไปมาก มันก็เป็นได้แค่เรื่องเพ้อฝันเท่านั้นเล่า ถึงโอสถรวมจิตจะส่งผลดีต่ออาการของคุณหนูชวีอยู่บ้างนิดหน่อย แต่มันก็เป็นแค่การเทน้ำถ้วยเดียวลงบนกองไฟกองใหญ่นั่นเล่า”
“ต่อให้เป็นการเทน้ำถ้วยเดียวลงบนกองไฟที่เผาฟืนทั้งคันเกวียน เราก็ต้องลองดูเพื่อให้แน่ใจไม่ใช่หรือ” สายตาของจวินอู๋เสียทอแววหัวเราะเย็นเยียบ นางไม่อยากเสียเวลากับหมอหลวงหลี่อีกต่อไป จึงหันไปมองเจี่ยงอิงหลง
“อาจารย์เจี่ยง ท่านได้ยินสิ่งที่หมอทุกคนพูดอย่างชัดเจนแล้ว เราจะลองดูหรือไม่ขึ้นอยู่กับท่านแล้ว”
เจี่ยงอิงหลงลังเล เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายก็พยักหน้า
“ในเมื่อโอสถรวมจิตมีผลดีต่ออาการของชวีหลิงเย่ว์ถึงจะแค่เล็กน้อยก็ตาม อย่างไรมันก็คือผลดี แต่ข้าขอประกาศจุดยืนของข้าก่อน เมื่อคุณหนูจวินยืนกรานว่าโอสถรวมจิตสามารถรักษาบาดเจ็บของชวีหลิงเย่ว์ได้ และเพื่อเห็นแก่องค์รัชทายาท ข้าจะยอมให้คุณหนูจวินลองดูสักครั้ง แต่ถ้ากินโอสถรวมจิตไปแล้วชวีหลิงเย่ว์ยังไม่ดีขึ้น ข้าต้องขอให้องค์ชายกับคุณหนูจวินอย่าเข้ามายุ่งเกี่ยวกับการรักษาชวีหลิงเย่ว์อีกต่อไป”