ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 853 สุดยอดหมอเทวดา (9) ตอนที่ 854 สุดยอดหมอเทวดา (10)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 853 สุดยอดหมอเทวดา (9) ตอนที่ 854 สุดยอดหมอเทวดา (10)
ตอนที่ 853 สุดยอดหมอเทวดา (9) / ตอนที่ 854 สุดยอดหมอเทวดา (10)
ตอนที่ 853 สุดยอดหมอเทวดา (9)
“ตกลง” จวินอู๋เสียรับปากในทันที
หมอหลวงหลี่รีบพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงเหยียดหยาม “อาจารย์เจี่ยงเป็นคนที่อดทนจริงๆ ที่ยอมให้เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมทำเช่นนี้”
เจี่ยงอิงหลงได้แต่ยิ้มอย่างอ่อนใจให้กับหมอหลวงหลี่
หลังจากได้รับอนุญาตจากเจี่ยงอิงหลง จวินอู๋เสียก็ไม่ชักช้าร่ำไร นางเทโอสถวิเศษลงในมือหนึ่งเม็ด ส่วนอีกมือหนึ่งนางทำท่าเหมือนจับคอของชวีหลิงเย่ว์ขึ้น จากนั้นก็ป้อนโอสถเข้าไปในปากของชวีหลิงเย่ว์ จึงเป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนสังเกตเห็นว่าจวินอู๋เสียซ่อนเข็มเงินเอาไว้ระหว่างนิ้วและแทงเข้าไปที่หลังคอของชวีหลิงเย่ว์ เมื่อโอสถวิเศษถูกป้อนเข้าไปในปาก นางก็ถอนเข็มเงินออกมาอย่างรวดเร็ว ด้วยความเร็วเช่นนั้นจึงไม่มีใครสังเกตเห็นเลยสักคน
หลังจากป้อนโอสถวิเศษให้ชวีหลิงเย่ว์ จวินอู๋เสียก็ถอยออกมายืนด้านข้างโดยไม่คิดที่จะพูดอะไรอีก ขณะที่พวกหมอที่นำโดยหมอหลวงหลี่พากันชี้มาที่นางและกระซิบกระซาบกัน ดูเหมือนกำลังพยายามเดาว่าจวินอู๋เสียคิดจะทำอะไร
เจี่ยงอิงหลงเดินไปที่ข้างเตียงนอนของชวีหลิงเย่ว์อย่างกังวล เขาตรวจสอบสีหน้าของชวีหลิงเย่ว์อย่างละเอียด
เหลยเชินเองก็มองไปที่เตียงนอนอย่างวิตกกังวลเช่นกัน
หมอหลวงหลี่ชำเลืองมองอย่างอยากรู้และไม่เห็นว่าชวีหลิงเย่ว์จะมีท่าทีดีขึ้น นางยังคงนอนหายใจรวยรินอยู่บนเตียงนอน เขายกยิ้มมุมปาก คำเยาะเย้ยของเขายิ่งรุนแรงขึ้น
“พอคิดว่ามีคนที่คิดว่าโอสถรวมจิตเป็นของล้ำค่าแล้วก็นะ มันช่างน่า…”
แต่ก่อนที่หมอหลวงหลี่จะพูดจบประโยค เจี่ยงอิงหลงก็ส่งเสียงกระหืดกระหอบออกมาดังลั่น!
จู่ๆ ชวีหลิงเย่ว์ที่นอนอยู่บนเตียงนอนก็ขมวดคิ้ว มือเรียบเนียนที่วางอยู่ข้างเตียงนอนก็ขยับเล็กน้อย
เจี่ยงอิงหลงจ้องมองอย่างไม่เชื่อสายตา ตั้งแต่ชวีหลิงเย่ว์หมดสติไป นางก็ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ เลยทั้งสิ้น นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นนางมีปฏิกิริยาขึ้นมา
“หลิงเย่ว์ขยับแล้ว! หลิงเย่ว์ขยับแล้ว!” เจี่ยงอิงหลงเงยหน้าขึ้นมองพวกหมอที่อยู่ในห้องอย่างดีอกดีใจ
พวกหมอพากันตกใจและประหลาดใจมากกับเสียงตะโกนของเจี่ยงอิงหลง แต่พวกเขาก็ได้สติอย่างรวดเร็วและเดินมาดูชวีหลิงเย่ว์ในทันที
ชวีหลิงเย่ว์ที่นอนอยู่บนเตียงนอนเริ่มมีเลือดฝาดกลับคืนมาด้วยความเร็วที่เห็นได้อย่างชัดเจน ผิวซีดขาวราวคนตายก่อนหน้านี้ของนางจู่ๆ ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย แม้ว่านางจะยังนอนนิ่งอยู่บนเตียงนอน แต่ลมหายใจของนางก็แรงขึ้นและคงที่ขึ้น โลหิตกลับคืนมาที่ใบหน้าของนางอีกครั้ง ขับไล่ความซูบซีดก่อนหน้านี้หายไปจนสิ้น!
เหลยเชินสังเกตเห็นความเปลี่ยนแปลงของชวีหลิงเย่ว์ เขาแอบชำเลืองไปทางจวินอู๋เสีย และเห็นสายตาของจวินอู๋เสียบอกให้เขาใจเย็นๆ ไว้ก่อน
“เป็นไปได้อย่างไร!” หมอหลวงหลี่มองชวีหลิงเย่ว์ที่มีอาการดีขึ้นอย่างไม่อยากจะเชื่อ เขารีบเข้ามาที่ข้างเตียงนอนของชวีหลิงเย่ว์และจับชีพจรนาง และชีพจรที่เขาสัมผัสได้จากข้อมือของชวีหลิงเย่ว์ก็ทำให้ใบหน้าของเขาซีดขาวในทันที
ชีพจรของชวีหลิงเย่ว์ที่เคยสับสนปรวนแปรตอนนี้กลับคืนเป็นปกติแล้ว และจากที่เขาสัมผัสชีพจรได้ ชวีหลิงเย่ว์หายจากอาการบาดเจ็บสาหัสแล้วด้วย เขาตรวจสอบอาการบาดเจ็บไม่เจออีกต่อไป อาการเดียวที่มีตอนนี้ก็คือการเสียโลหิตไปมาก นอกนั้นนางสบายดีไม่เป็นอะไรเลย
ชีพจรนั่น ไม่ว่าจะดูอย่างไรก็ไม่เหมือนคนเดียวกับคนที่ดูเหมือนกำลังยืนอยู่ระหว่างความเป็นความตายเลยแม้แต่น้อย!
หมอหลวงหลี่เซถอยหลัง เขามองมือของตัวเองที่เพิ่งจับชีพจรอย่างเหม่อลอย นี่มือของเขาต้องตรวจสอบอะไรผิดพลาดไปแน่ๆ
เจี่ยงอิงหลงกำลังรอให้หมอหลวงหลี่พูด และเมื่อเขาเห็นหมอหลวงหลี่ยืนเหม่ออยู่ด้านข้าง เขาก็ขอให้หมอคนอื่นช่วยตรวจชีพจรของชวีหลิงเย่ว์ พวกหมอจับชีพจรของชวีหลิงเย่ว์กันทีละคน และปฏิกิริยาของพวกเขาหลังจับชีพจรก็เหมือนกับหมอหลวงหลี่ แต่ละคนพากันจ้องมองไปยังพื้นที่ว่างเปล่าโดยไร้คำพูดใดๆ
ตอนที่ 854 สุดยอดหมอเทวดา (10)
“อาการของชวีหลิงเย่ว์เป็นอย่างไรบ้าง” เจี่ยงอิงหลงถามอย่างร้อนใจ
ริมฝีปากของหมอหลวงหลี่ซีดขาว ไม่อยากจะเปิดปากพูดเลยแม้แต่น้อย
อย่างไรก็ตาม หมอคนหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านข้างก็เริ่มพูดขึ้นด้วยสีหน้างุนงง “อาการบาดเจ็บของคุณหนูชวี…ดูจากชีพจรของนางก็เหมือนจะหายสนิทดีแล้ว แต่ที่นางยังหมดสติก็เพราะเสียโลหิตมากเกินไปเท่านั้นเอง…”
“อะไรนะ” เจี่ยงอิงหลงตาโต ไม่อาจจะเชื่อในสิ่งที่เพิ่งได้ยิน
“ชวีหลิงเย่ว์แค่เสียโลหิตมากเกินไปเนี่ยนะ แต่…แต่พวกท่านบอกเองไม่ใช่หรือว่านางได้รับบาดเจ็บสาหัส”
หน้าของหมอคนนั้นเต็มไปด้วยงุนงงอย่างถึงที่สุด “นั่น…ก็ใช่ ตอนที่เรามาถึงและจับชีพจรของคุณหนูชวี ชีพจรของนางสับสนอย่างมาก แต่พอเราจับชีพจรครั้งที่สองนี่ก็พบว่าอาการบาดเจ็บภายในของนางหายสนิทดีแล้ว จากประสบการณ์หลายสิบปีในฐานะหมอของพวกเรา ข้าก็เพิ่งเจอเหตุการณ์แปลกประหลาดเช่นนี้เป็นครั้งแรก”
คนที่กำลังหมิ่นเหม่อยู่ระหว่างปากเหวแห่งความเป็นความตายจู่ๆ ก็กลับเป็นปกติ ถ้าคนอื่นมาพูดให้ฟังละก็ คงไม่มีใครเชื่อง่ายๆ อย่างแน่นอน
เจี่ยงอิงหลงนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าจวินอู๋เสียได้ทำอะไรลงไป เขารีบเข้ามายืนตรงหน้าจวินอู๋เสียและพูดขึ้นว่า “คุณหนูจวิน เป็นโอสถรวมจิตของเจ้าใช่หรือไม่”
จวินอู๋เสียพยักหน้า
“โอสถรวมจิตเป็นแค่โอสถธรรมดาทั่วไป เป็นไปได้อย่างไรที่จะทำให้อาการบาดเจ็บสาหัสของคุณหนูชวีหายไป” พวกหมอที่สับสนงุนงงพากันยกข้อข้องใจของตัวเองขึ้นมาพูดในทันที
“แต่มันก็แปลกจริงๆ นะ พอคุณหนูชวีกินโอสถรวมจิตเข้าไปปุ๊บ อาการของนางก็ดีขึ้นทันตาเลย”
พวกหมอถกเถียงกันถึงเรื่องผิดธรรมดานี้อย่างดุเดือด และหลังจากเถียงกันอยู่นานพวกเขาก็ยังไม่สามารถหาข้อสรุปได้ สถานการณ์นี้พวกเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน อย่าว่าแต่จะได้ประสบพบเจอเองเลย
หมอหลวงหลี่ลอบสังเกตจวินอู๋เสีย จากนั้นก็หันไปมองเหลยเชินที่มีรอยยิ้มกว้างบนใบหน้า เขากัดฟันอย่างหงุดหงิดแล้วพูดขึ้นว่า “จะเป็นเพราะโอสถรวมจิตหรือเปล่าก็ยังไม่รู้ อย่างไรเสียพวกเราหลายคนที่นี่ก็ตรากตรำรักษากันมานานและได้ป้อนโอสถกับสมุนไพรให้คุณหนูชวีไปตั้งหลายอย่าง โอสถวิเศษที่ให้ไปก่อนหน้านี้อาจจะเพิ่งออกฤทธิ์ก็ได้ เราบอกไม่ได้หรอกว่าคุณหนูชวีอาการดีขึ้นเพราะคุณหนูจวิน”
รอยยิ้มบนใบหน้าของเหลยเชินพลันหายไปเพราะคำพูดของหมอหลวงหลี่
แต่จวินอู๋เสียไม่สนใจและไม่คิดจะเอาหมอหลวงหลี่มาใส่ใจเลยแม้แต่น้อย นางหันไปหาเจี่ยงอิงหลงและพูดว่า “คุณหนูชวียังต้องการการดูแลรักษาต่ออีกเล็กน้อย ข้าคิดว่าหมอหลายคนที่อยู่ที่นี่คงดูแลจัดการงานง่ายๆ เช่นนี้ได้เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้นข้าก็ควรจะกลับแล้ว”
พูดจบจวินอู๋เสียก็หมุนตัวเดินจากไปทันที
เจี่ยงอิงหลงอยากให้จวินอู๋เสียอยู่ต่ออีกสักหน่อยเพื่อถามเกี่ยวกับสถานการณ์นี้เพิ่มเติม แต่จวินอู๋เสียไปเร็วมาก ไม่ให้เขามีโอกาสได้อ้าปากถามด้วยซ้ำ
เหลยเชินตามหลังมาติดๆ เมื่อทั้งสองคนก้าวพ้นประตูโรงเตี๊ยมและปีนขึ้นรถม้าจากตำหนักรัชทายาทแล้ว ในที่สุดเหลยเชินก็ยอมให้ความรู้สึกที่เขาพยายามอย่างหนักที่จะเก็บไว้ระเบิดออกมา “คุณหนูจวิน ข้ามันตาบอดจริงๆ และประเมินท่านต่ำไป ข้าไม่คิดว่าความสามารถทางด้านการแพทย์ของคุณหนูจวินจะยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้ ถ้าข้าเคยล่วงเกินท่านไป ขอให้คุณหนูจวินอย่าถือโทษโกรธเคืองข้าเลย”
“พูดจริงๆ นะ การที่คุณหนูจวินทำเป็นไม่สนใจเมื่อสักครู่น่ะช่วยเปิดโปงตัวตนของพวกหมอที่นั่นทั้งกลุ่มเลย ตอนที่ข้าออกมาข้าเห็นสีหน้าของเจี่ยงอิงหลงชัดเจนเลย มันบอกว่าเขาอยากให้ท่านอยู่ต่อล่ะ แล้วก็สีหน้าซีดเซียวของหมอหลวงหลี่ก็น่าดูชะมัด”
“นี่ยังไม่ใช่เวลาดีใจหรอกเพคะ” จวินอู๋เสียพูดพร้อมกับมองออกไปนอกหน้าต่าง
“หมายความว่าอย่างไร” เหลยเชินชะงักไปเล็กน้อย
แต่จวินอู๋เสียไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะอธิบายอะไรต่อ