ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 863 ผู้มาเยือนจากเมืองพันอสูร (2) ตอนที่ 864 ผู้มาเยือนจากเมืองพันอสูร (3)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 863 ผู้มาเยือนจากเมืองพันอสูร (2) ตอนที่ 864 ผู้มาเยือนจากเมืองพันอสูร (3)
ตอนที่ 863 ผู้มาเยือนจากเมืองพันอสูร (2) / ตอนที่ 864 ผู้มาเยือนจากเมืองพันอสูร (3)
ตอนที่ 863 ผู้มาเยือนจากเมืองพันอสูร (2)
รถม้าของเมืองพันอสูรหยุดลงตรงหน้าโรงเตี๊ยมที่พักของสำนักศึกษาธงศึก เจี่ยงอิงหลงได้รับข่าวทันทีและรีบออกมาต้อนรับ
บุรุษที่ดูโดดเด่นสามคนก้าวออกมาจากรถม้า หนึ่งในนั้นมีอายุประมาณสามสิบห้าปี ใบหน้าของเขาดุดันและแข็งแกร่ง เป็นบุรุษที่ดูน่าเกรงขาม อีกคนหนึ่งนั้นอายุน้อยกว่า ดูเหมือนอายุประมาณยี่สิบสี่ยี่สิบห้าปี แต่ในสามคนนี้ คนที่ดึงดูดความสนใจมากที่สุดกลับเป็นชายชราที่มีเส้นผมสีขาวทั้งศีรษะ แม้ว่าใบหน้าของเขาจะเต็มไปด้วยริ้วรอยเหี่ยวย่น แต่ดวงตาคู่นั้นกลับเต็มไปด้วยร่องรอยของกาลเวลา
ในสามคนนั้น บุรุษวัยกลางคนดูเหมือนจะเป็นหัวหน้า แต่มันก็ดูออกได้ไม่ยากว่าไม่ว่าจะเป็นบุรุษวัยกลางคนหรือชายหนุ่ม ท่าทางของพวกเขาต่อชายชราคนนั้นก็ยังเต็มไปด้วยความเคารพอย่างมาก
“น่าตกใจจริงๆ! เป็นท่านหัวหน้าตึกสยงนี่เอง! ขอท่านโปรดอภัยที่ข้าออกมาต้อนรับช้าด้วยเถิด!” เจี่ยงอิงหลงใจเต้นผิดจังหวะเมื่อเห็นบุรุษวัยกลางคนผู้นั้น
เมืองพันอสูรปกครองด้วยเจ้าเมือง ลำดับขั้นต่ำลงมาคือหัวหน้าตึกทั้งสี่ที่ควบคุมดูแลทุกซอกทุกมุมของเมืองพันอสูร และบุรุษตรงหน้าเจี่ยงอิงหลงก็คือหัวหน้าตึกเพลิงพิโรธ…สยงป้า!
สถานะของหัวหน้าตึกทั้งสี่ในเมืองพันอสูรเป็นรองเพียงแค่เจ้าเมืองเท่านั้น เจี่ยงอิงหลงไม่คิดว่ากลุ่มคนที่มายังเมืองหลวงรัฐเหยียนจะมีหัวหน้าตึกรวมอยู่ด้วย! เห็นได้ชัดเลยว่าเมืองพันอสูรโกรธมากจริงๆ และพวกเขาเอาจริงมาก ไม่อย่างนั้นคงไม่ส่งคนที่มีตำแหน่งสูงมากอย่างหัวหน้าตึกสยงป้ามา!
สยงป้าเป็นคนที่เหมือนกับชื่อของเขา ตรงเหมือนลูกธนู เด็ดขาดและแข็งกร้าว ในหมู่หัวหน้าตึกทั้งสี่เขาเป็นคนที่หุนหันพลันแล่นที่สุดและพูดคุยด้วยได้ยากที่สุด ทันทีที่เห็นสยงป้า เจี่ยงอิงหลงก็เริ่มเหงื่อแตกทันที
สยงป้าจ้องเจี่ยงอิงหลงพลางทำหน้านิ่วคิ้วขมวด แล้วเสียงทุ้มลึกของเขาก็ดังขึ้น
“ข้าได้ข่าวว่าคุณหนูใหญ่ของเราบาดเจ็บสาหัสอย่างนั้นรึ อาการของนางตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง”
เจี่ยงอิงหลงใจหายวาบ เขาตอบทันทีว่า “เรื่องนั้น…ข้าอยากเชิญท่านหัวหน้าตึกเข้าไปข้างในก่อนแล้วข้าจะค่อยๆ เล่าให้ท่านฟัง”
สยงป้ากลับพูดเสียงดังลั่นอีกครั้ง “ไม่ต้องมาอ้อมค้อมไร้สาระ! เหตุผลที่ข้ามาที่นี่วันนี้เพื่อให้แน่ใจว่าคุณหนูใหญ่จะปลอดภัยเท่านั้น ไม่ต้องคุยเรื่องอื่นกับข้า บอกมาแค่ว่าอาการของคุณหนูใหญ่เรายังสาหัสอยู่หรือดีขึ้นแล้ว!”
ในฐานะอาจารย์ของสำนักศึกษาธงศึก เขาไม่เคยถูกดูแคลนและตำหนิอย่างหนักเช่นที่โดนอยู่ในตอนนี้ คำพูดของสยงป้าไม่ได้แสดงถึงความเคารพหรือเหลือพื้นที่ให้เขาถอยอย่างสง่างามเลย แต่เขาก็รู้ว่าเขาไม่สามารถขัดแย้งกับสยงป้าได้ ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่ตอบเสียงแหยว่า “อาการของชวีหลิงเย่ว์ไม่ดีขึ้นเลย ฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียนรวบรวมหมอที่มีชื่อเสียงที่สุดทั้งเมืองหลวงมาที่นี่ทั้งหมดแล้ว แม้แต่หมอหลวงในวังก็ถูกส่งมาที่นี่ด้วย แต่อาการบาดเจ็บของชวีหลิงเย่ว์ร้ายแรงมาก พวกเราทุกคนหมดหนทางกันแล้ว”
ดวงตาของสยงป้าเบิกกว้าง แววตาเขาดุดัน เขาขยุ้มคอเสื้อด้านหน้าของเจี่ยงอิงหลงแล้วพูดว่า “ตอนที่เราทิ้งคุณหนูใหญ่ของเราไว้ที่สำนักศึกษาธงศึก นางยังแข็งแรงดี ตอนแรกนางไม่อยากเข้าร่วมศึกประลองภูติวิญญาณปีนี้ด้วยซ้ำ แต่อาจารย์ใหญ่ของเจ้าก็ส่งคำเชิญไปให้เราครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้ท่านเจ้าเมืองต้องจำใจตกลง แต่แล้วเจ้ากลับปล่อยให้นางโดนทำร้ายในการประลอง! คุณหนูใหญ่ได้รับบาดเจ็บตั้งหลายวันแล้ว แล้วเจ้าสวะทั้งกลุ่มนี่ยังรักษานางไม่ได้อีก! เจ้ามัน…”
สยงป้าโกรธจัดจนดวงตาแดงก่ำ เขาตะโกนออกมาอย่างเกรี้ยวกราด ชายหนุ่มด้านหลังเห็นว่าสยงป้าเกือบจะฉีกเจี่ยงอิงหลงออกเป็นชิ้นๆ อยู่แล้ว เขาจึงรีบก้าวออกมาพูดว่า “ท่านหัวหน้าตึกสยง! ปล่อยอาจารย์เจี่ยงก่อนเถิด! เราควรไปดูอาการของคุณหนูใหญ่ก่อนเป็นอันดับแรกนะ! ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นแล้ว ถ้าท่านยังเสียเวลาอยู่ตรงนี้ก็ไม่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้นหรอก เราให้ท่านผู้อาวุโสเฟิงไปดูอาการของคุณหนูใหญ่ก่อนไม่ดีกว่าหรือ”
สยงป้าขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดเขาก็พ่นลมออกทางจมูกอย่างดูถูกแล้วปล่อยมือ “ในเมื่อคนจากรัฐเหยียนและสำนักศึกษาธงศึกไร้ความสามารถ ถ้าอย่างนั้นก็ให้เมืองพันอสูรจัดการเรื่องนี้เองก็แล้วกัน!”
ตอนที่ 864 ผู้มาเยือนจากเมืองพันอสูร (3)
ขณะที่เขาเตรียมจะเชิญแขกจากเมืองพันอสูรเข้าไปข้างในโรงเตี๊ยม ก็มีรถม้าที่ดูคุ้นตาคันหนึ่งวิ่งมาหยุดอยู่ตรงหน้าประตู
เหลยเชินก้าวออกมาจากรถม้าและที่ตามหลังลงมาก็คือจวินอู๋เสีย เมื่อชายหนุ่มจากเมืองพันอสูรได้เห็นใบหน้าของจวินอู๋เสีย เขาก็เบิกตาโตโดยไม่รู้ตัว
“องค์รัชทายาท…” เจี่ยงอิงหลงมองเหลยเชินที่จู่ๆ ก็ปรากฏตัวขึ้นด้วยสายตาแปลกๆ เมื่อเขามองไปที่จวินอู๋เสีย เขาก็ขมวดคิ้วหน้าบึ้ง
“ท่านอาจารย์เจี่ยง” เหลยเชินพยักหน้าให้เจี่ยงอิงหลง จากนั้นก็ดูเหมือนจะสังเกตเห็นรถม้าของเมืองพันอสูรจอดอยู่ เขาจึงหันไปมองที่หน้าประตูและเห็นร่างอันใหญ่โตสูงตระหง่านของสยงป้ายืนอยู่ที่นั่น
“นี่ใช่หัวหน้าตึกของเมืองพันอสูร ท่านสยงป้าแห่งตึกเพลิงพิโรธหรือไม่” เหลยเชินถามขึ้นอย่างประหลาดใจ
สยงป้าอาจจะเกรี้ยวกราด แต่เขาไม่ใช่คนโง่ เมื่อได้ยินเจี่ยงอิงหลงเรียกคนที่เพิ่งมาถึงว่า ‘องค์รัชทายาท’ เขาก็รู้ถึงตัวตนของอีกฝ่ายทันที แต่เนื่องจากชวีหลิงเย่ว์ได้รับบาดเจ็บในเมืองหลวงของรัฐเหยียน สยงป้าจึงไม่อยากมีมารยาทกับเหลยเชินนัก
“กระหม่อมเอง” สยงป้าตอบห้วนๆ
“ท่านหัวหน้าตึกสยงเดินทางมาไกลและยังเป็นแขกคนสำคัญของรัฐเหยียน ข้าคิดว่าท่านหัวหน้าตึกสยงคงร้อนใจอยากจะไปดูอาการของหลิงเย่ว์แย่แล้ว ถ้าอย่างนั้นข้าก็จะไม่พูดอะไรให้ท่านหัวหน้าตึกต้องล่าช้าอีก ข้ามาที่นี่ด้วยจุดประสงค์เดียวกับท่านหัวหน้าตึกสยง เพราะฉะนั้นเราเข้าไปข้างในด้วยกันเถิด” เหลยเชินพูดด้วยรอยยิ้ม ท่าทางของเขาอ่อนโยนและสุภาพ ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มแสดงความเป็นมิตร ผู้ใดเล่าจะไม่พอใจ
สยงป้าร้อนใจอยากจะเข้าไปดูฉูหยิงเย่ เขาพยักหน้าโดยเร็ว
เจี่ยงอิงหลงทำหน้าบึ้งขณะที่มองจวินอู๋เสียที่ยืนอยู่ด้านหลังเหลยเชิน ดูเหมือนเขากำลังจะพูดอะไรออกมาแต่สุดท้ายก็ตัดสินใจไม่พูด และหันหลังเดินนำทุกคนตรงไปที่ห้องของชวีหลิงเย่ว์
ในห้องของชวีหลิงเย่ว์ หมอหลวงหลี่กำลังนั่งคุยกับหมอคนอื่นๆ ดูเหมือนเขาพูดบางอย่างที่น่าสนใจและหมอคนอื่นๆ ก็หัวเราะออกมา ไม่มีใครสังเกตเห็นสักนิดว่าประตูถูกผลักเปิดออก พวกเขายังคุยกันต่อเบาๆ
“พวกนี้คือหมอที่รัฐเหยียนหามาให้ดูแลคุณหนูใหญ่ของเราอย่างนั้นรึ” ทันทีที่สยงป้าเข้ามาในห้อง เขาก็ได้เห็นภาพนั้นพอดี ความโกรธปะทุขึ้นมาในอกเขาทันที
ใบหน้าของเจี่ยงอิงหลงแข็งทื่อ เขาไม่รู้ว่าจะตอบอย่างไร ไม่คิดเลยว่าสยงป้าจะเข้ามาเห็นภาพแบบนี้
หมอหลวงหลี่ที่กำลังสนทนากับคนอื่นๆ สังเกตเห็นสยงป้าและกลุ่มคนด้านหลัง เขาไม่ทันได้สังเกตรูปร่างหน้าตาของสยงป้ากับคนของเขาก็พลันมองเห็นจวินอู๋เสียเข้าเสียก่อน เขาลุกพรวดขึ้นทันที พูดด้วยสีหน้าเครียดขึงว่า “ยัยเด็กโง่อวดดีคนนี้มาทำอะไรที่นี่ เจ้ายังสร้างเรื่องไม่พออีกเรอะ!”
จวินอู๋เสียเลิกคิ้วขึ้น มองไปที่หมอหลวงหลี่
หมอหลวงหลี่กำลังจะพูดอย่างอื่นต่อ ทันใดนั้นสยงป้าที่ถูกเมินก็ระเบิดความโกรธออกมา!
“มีหมออยู่เต็มห้อง แต่กลับทิ้งคุณหนูใหญ่ของเราให้นอนอยู่คนเดียว ส่วนตัวเองมานั่งจับกลุ่มพูดคุยกันอย่างสนุกสนานเนี่ยนะ! นี่มันเรื่องบ้าอะไร!” สยงป้าตะโกนเสียงดังพลางจ้องมองหมอหลวงหลี่ด้วยความโกรธ
หมอหลวงหลี่ที่ถูกตะโกนใส่ได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว ในที่สุดเขาก็รู้ตัวว่านอกจากเหลยเชินและจวินอู๋เสียแล้ว ยังมีบุรุษแปลกหน้าอีกสามคนมาด้วย
ชายหนุ่มที่เดินตามหลังสยงป้าเข้ามาเลิกคิ้วขึ้น แต่ไม่ได้ระเบิดลงเหมือนสยงป้า เขาเดินไปที่เตียงทันทีและมองชวีหลิงเย่ว์ที่ดูเปราะบางและใบหน้าซีดขาว
“คุณหนูใหญ่! เกิดอะไรขึ้นกับท่าน คุณหนูใหญ่!” ชายหนุ่มคนนั้นมีสีหน้าเป็นทุกข์ เขามองชวีหลิงเย่ว์ที่ไม่ได้สติและไม่ตอบสนองต่อเสียงเรียกของเขา สายตาของเขาเต็มไปด้วยความเศร้าโศก