ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 879 ตื่นตระหนก (2) ตอนที่ 880 ตื่นตระหนก (3)
ตอนที่ 879 ตื่นตระหนก (2) / ตอนที่ 880 ตื่นตระหนก (3)
ตอนที่ 879 ตื่นตระหนก (2)
ตรงกันข้าม กลับเป็นหมอหลวงหลี่ที่ถูกฮ่องเต้สั่งให้ไปคอยเฝ้าชวีหลิงเย่ว์ที่ต้องอยู่ในสถานการณ์ลำบากในตอนนี้
เมื่อคนของเมืองพันอสูรเริ่มทำการสอบสวน ตาแก่กระดูกผุอย่างหมอหลวงหลี่ย่อมไม่สามารถทนได้อย่างแน่นอน!
ไม่นานหรอก เขาจะต้องเปิดเผยความจริงที่ว่าฮ่องเต้เป็นผู้รับสั่งเขาให้ทำเช่นนี้
“ไม่ต้องตื่นตระหนกไปหรอกลูกพ่อ พ่อจะจัดการเรื่องนี้เอง” ฮ่องเต้ตรัสพร้อมกับตบบ่าเหลยฝานให้วางใจ และบอกให้เขาเลิกเครียด จากนั้นพระองค์ก็รับสั่งอีกเล็กน้อยถึงสิ่งที่เขาควรทำแล้วให้เขากลับไปพักผ่อน
หลังจากรอจนเหลยฝานออกไปแล้ว ฮ่องเต้ไม่ได้กลับไปประทับนั่งที่เก้าอี้ประทับของพระองค์
ทันใดนั้นบุรุษชุดดำคนหนึ่งก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องทรงพระอักษร
“จวินอู๋เสียอะไรนั่นมันอย่างไรกันแน่ ลูกน้องเจ้ามันไม่ได้เรื่องกันเลยหรืออย่างไร คนจากรัฐชีที่มีชื่อเสียงขนาดนั้นมาที่เมืองหลวง แต่พวกเจ้ากลับไม่รู้เรื่องเลยสักคนเนี่ยนะ!” ฮ่องเต้ตรัสขึ้นพร้อมกับทอดพระเนตรมองบุรุษชุดดำอย่างกริ้วจัด
บุรุษชุดดำคนนั้นตัวแข็งทื่อ เขากลืนน้ำลายอย่างเงียบๆ “กระหม่อมพลาดเองที่ตรวจไม่พบเรื่องนี้ แต่ในช่วงที่ผ่านมานี้ กระหม่อมไม่ได้ข่าวเรื่องคนจากรัฐชีเข้ามาในเมืองหลวงเลยพ่ะย่ะค่ะ คิดว่าคุณหนูใหญ่ของจวนหลินอ๋องแห่งรัฐชีผู้นี้ต้องปกปิดตัวตนตอนที่เข้ามาในเมืองหลวงเป็นแน่ ถึงได้ไม่มีผู้ใดรู้เรื่องเลยสักคน”
“ไอ้พวกสวะไม่ได้เรื่อง! เรื่องแย่อยู่แล้วยิ่งแย่เข้าไปอีก! จนถึงวันนี้ก็ยังหาตัวจ้าวซวินไม่พบ แล้วนี่ยังจะปล่อยให้คนจากจวนหลินอ๋องเข้านอกออกในเมืองหลวงรัฐเหยียนของเราได้ตามอำเภอใจอีก!” พระวรกายของฮ่องเต้สั่นเทิ้มด้วยความโกรธจัด
ถึงแม้รัฐชีจะเป็นเพียงรัฐเล็กๆ แต่พวกเขาก็มีกองทัพรุ่ยหลิน กองทัพที่ได้ชื่อว่าโจมตีได้ดุดันที่สุดอยู่ภายใต้บังคับบัญชาของจวนหลินอ๋อง และตอนนี้คุณหนูใหญ่แห่งจวนหลินอ๋องก็ทำท่าว่าจะเป็นพวกเดียวกับเหลยเชินอีกด้วย ซึ่งนั่นทำให้ฮ่องเต้ทรงหงุดหงิดและกังวลพระทัยเป็นอย่างมาก
“แล้วนี่เจ้าไม่ควรออกไปสืบหาหรอกหรือว่าองค์รัชทายาทกับจวินอู๋เสียนั่นมีความสัมพันธ์กันแบบไหน! ไปดูซิว่าพวกเขาทำข้อตกลงอะไรกันไว้หรือไม่!”
“พ่ะย่ะค่ะ! กระหม่อมจะไปเดี๋ยวนี้!”
แต่ฮ่องเต้ก็ทรงตรัสขึ้น “ประเดี๋ยวก่อน!”
“ฝ่าบาทมีอะไรให้กระหม่อมรับใช้อีกหรือพ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้หรี่พระเนตรลง ดวงเนตรส่องประกายชั่วร้ายออกมา
“ช่วยเรากำจัดคนอีกคน”
“ผู้ใดพ่ะย่ะค่ะ”
“หมอหลวงหลี่”
บุรุษชุดดำประหลาดใจ หมอหลวงหลี่เป็นหมอที่รับใช้ข้างพระวรกายฮ่องเต้และรับพระบัญชาจากฮ่องเต้โดยตรง ทั่วรัฐเหยียนความสามารถทางการแพทย์ของเขาถูกจัดว่าสูงที่สุด และหมอหลวงหลี่ก็เป็นที่ไว้วางพระทัยของฮ่องเต้เสมอมา
แต่บัดนี้ฮ่องเต้กลับทรงต้องการฆ่าหมอหลวงหลี่!
“คนจากเมืองพันอสูรสงสัยเรื่องอาการบาดเจ็บของชวีหลิงเย่ว์แล้ว เราจะปล่อยให้พวกเขาได้คำสารภาพจากหมอหลวงหลี่ไปไม่ได้ หมอหลวงหลี่อาจจะจงรักภักดีก็จริง แต่ว่าในโลกใบนี้มีเพียงคนตายเท่านั้นที่รักษาความลับไว้ได้ดีที่สุด” ฮ่องเต้ตรัสด้วยเสียงต่ำ
“ไปจัดการเสีย และอย่าทิ้งร่องรอยอะไรไว้อีกเล่า”
“รับบัญชาพ่ะย่ะค่ะ!” บุรุษชุดดำพยักหน้า แล้วล่าถอยออกไปจากห้องทรงพระอักษรในทันที
เมื่อประทับอยู่พระองค์เดียวภายในห้อง ฮ่องเต้ก็ถอนพระอัสสาสะออกมาเฮือกใหญ่ บางทีพระองค์ก็รู้สึกว่าหลังจากศึกประลองภูติวิญญาณดำเนินไปครึ่งหนึ่ง บรรยากาศในเมืองหลวงของรัฐเหยียนก็น่าอึดอัดเหลือเกิน เหมือนมีบางอย่างที่คอยขัดขวางแผนการของพระองค์ซุกซ่อนอยู่
……
ในที่สุดจวินอู๋เสียก็ถูกปล่อยออกจากคุกและกลับมาที่โรงเตี๊ยมตำหนักเซียน เฉียวฉู่และคนอื่นๆ ลากนางไปเฮฮาไร้สาระด้วยกัน เมื่อนางกลับไปที่ห้องของตัวเองก็ดึกมากแล้ว นางกำลังจะพักผ่อน ก็ได้ข่าวจากเยี่ยซาที่ไปสืบข่าวในวังหลวง
“หือ ฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียนตรัสเช่นนั้นจริงๆ หรือ” จวินอู๋เสียถาม นางนั่งไขว่ห้างยกศอกขึ้นวางบนขาและเอามือเท้าคาง นางรู้สึกง่วงมากจนตาแทบจะปิดอยู่แล้ว
“ขอรับ! คุณหนูใหญ่ต้องการให้ข้าไปช่วยหมอหลวงหลี่หรือไม่ขอรับ” เยี่ยซาถาม
ตอนที่ 880 ตื่นตระหนก (3)
“ช่วยเขาหรือ ช่วยทำไม” จวินอู๋เสียถามพลางเลิกคิ้ว
“ก็คนของเมืองพันอสูรไม่ได้จะสอบสวนหมอพวกนั้นเพื่อหาความจริงหรอกหรือขอรับ” เยี่ยซาถามอย่างงุนงง
จวินอู๋เสียกลับโบกมืออย่างเกียจคร้านแล้วพูดว่า “ถ้าฮ่องเต้อยากหาเรื่องตาย ทำไมข้าต้องไปห้ามด้วย ปล่อยไปเถอะ”
เยี่ยซายิ่งงงหนักขึ้น
จวินอู๋เสียจึงพูดอย่างอดทนว่า “ต่อให้คนของเมืองพันอสูรสืบหาความจริงได้ พวกเขาก็ทำได้แค่เก็บงำความเกลียดชังเอาไว้ในใจ เจ้าเมืองของพวกเขาน่าจะฉลาดพอที่จะไม่มีเรื่องมีราวกับรัฐที่ยิ่งใหญ่ที่สุดและมีอำนาจมากที่สุด นอกจากนั้นชวีหลิงเย่ว์ก็ไม่ได้บาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้จริงๆ พวกเขาจึงไม่น่าจะทำให้เรื่องราวมันใหญ่โตขึ้นมา จะฆ่าหมอหลวงหลี่หรือไม่ก็ไม่ต่างกันหรอก แต่วิธีจัดการปัญหาของฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียน เป็นเพียงแค่การฝังพระเศียรของพระองค์ลงในทรายเท่านั้น ฆ่าหมอหลวงหลี่ตาย ก็ไม่ต่างกับยอมรับว่าเรื่องที่หมอหลวงหลี่พูดมาเป็นความจริง ต่อให้สยงป้าไม่เข้าใจ แต่พอเขากลับไปรายงานให้เจ้าเมืองฟัง เจ้าเมืองของพวกเขาก็จะรู้เองว่าผู้ใดคือผู้ที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมดนี้”
เมื่อฟังจวินอู๋เสียอธิบายจบ เยี่ยซาก็เข้าใจจุดประสงค์ของจวินอู๋เสียในทันที
“ฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียนปรารถนาอยากได้เมืองพันอสูรมาเป็นพันธมิตร ข้าก็จะขัดขวางพระองค์ เมื่อพระองค์ไม่ทรงโปรดปรานในตัวเหลยเชิน ข้าก็จะให้เมืองพันอสูรสำนึกในบุญคุณของเหลยเชิน” จวินอู๋เสียยิ้มอย่างเย็นเยียบ ผู้ใดที่คิดจะวางแผนเล่นงานนาง ต้องดูตัวเองให้ดีก่อนว่ามีความสามารถพอหรือไม่
“แผนการของคุณหนูใหญ่ช่างสมบูรณ์แบบจริงๆ ขอรับ!” เยี่ยซาประทับใจในความเฉลียวฉลาดของจวินอู๋เสียอีกครั้ง แม้แต่ในต่างรัฐที่ทุกอย่างไม่คุ้นเคย นางก็ยังสามารถใช้ทุกอย่างที่มีพลิกสถานการณ์ได้!
“ไปได้แล้ว” จวินอู๋เสียรู้สึกเหนื่อยมาก นางต้องการพักผ่อนแล้ว
เยี่ยซาจึงออกจากห้องไปทันที
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น พบการฆาตกรรมที่โรงเตี๊ยมที่พักของสำนักศึกษาธงศึก เหยื่อคือหมอหลวงหลี่ที่คอยรับใช้ฮ่องเต้โดยตรงเสมอมา เจ้าหน้าที่ของเมืองหลวงรัฐเหยียนได้ส่งคนมาสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้น ว่ากันว่าหมอหลวงหลี่ถูกฆ่าอย่างโหดร้าย ของเหลวสีแดงกระจัดกระจายไปทั่วสถานที่เกิดเหตุ
การตายอย่างกะทันหันของหมอหลวงหลี่ทำให้สยงป้าหงุดหงิดมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ หลังจากเกิดเรื่องขึ้นสยงป้าก็ถามคำถามหมอคนที่เหลือพอเป็นพิธีแล้วก็ปล่อยตัวไปทันที แม้ว่าจะไม่ได้ข้อสรุปอะไรจากคำให้การของพวกเขาก็ตาม
อีกเพียงวันเดียวก็จะถึงรอบตัดสินตำแหน่งสิบอันดับแรกในศึกประลองภูติวิญญาณแล้ว เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างจวินอู๋เสียกับชวีหลิงเย่ว์ในรอบตัดสินหาผู้ชนะในเขตที่หนึ่งของพวกเขา ทั้งสองคนจึงเสียสิทธิ์ในการเข้าสู่สิบอันดับแรก แต่หลังจากชวีหลิงเย่ว์ฟื้นขึ้นมาและจวินอู๋เสียก็พ้นผิดแล้ว ทั้งสองคนจึงน่าจะประลองกันอีกครั้งแต่ชวีหลิงเย่ว์ก็ได้ประกาศถอนตัวอย่างรวดเร็ว
การถอนตัวของชวีหลิงเย่ว์นั้นไม่ต้องพูดอะไรกันมาก เนื่องจากผู้เยาว์ที่ได้เห็นเหตุการณ์ในวันนั้นที่จวินอู๋เสียกับชวีหลิงเย่ว์เผชิญหน้ากันด้วยตาตัวเองรู้อยู่แก่ใจดีว่า ต่อให้แข่งขันกันใหม่อีกครั้ง ผู้ชนะก็คือจวินอู๋เสียอย่างไม่ต้องสงสัย
เมื่อไม่ถูกตราหน้าว่าเป็นคนทำให้คู่ต่อสู้บาดเจ็บสาหัสแล้ว ชื่อเสียงของจวินอู๋เสียก็ยิ่งโด่งดังขึ้นไปอีก พวกคนที่เกลียดเขาจากการโจมตีชวีหลิงเย่ว์อย่างโหดร้าย หลังจากได้รู้ความจริงก็รู้สึกเสียใจกับจวินอู๋เสียที่เขาถูกจับขังคุกทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำความผิดอะไรเลย และเกือบจะไม่สามารถเข้าแข่งขันชิงสิบอันดับแรกในศึกประลองภูติวิญญาณปีนี้ได้แล้ว!
ช่วงที่ดึงดูดความสนใจได้มากที่สุดของศึกประลองภูติวิญญาณทั้งหมดเริ่มขึ้นแล้ว การแข่งขันเพื่อสิบอันดับแรกในปีนี้ แทนที่จะเป็นการต่อสู้กันระหว่างผู้เข้าแข่งขันทั้งหลายอย่างที่เคย มันกลับเหมือนการแสดงเดี่ยวของสำนักศึกษาเฟิงหัวมากกว่า
สำนักศึกษาเฟิงหัวมีผู้เข้าแข่งขันในปีนี้ทั้งหมดหกคน และในสิบอันดับแรกนั้น หกคนในนั้นมาจากสำนักศึกษาเฟิงหัวทั้งหมด พูดได้ว่าศึกประลองภูติวิญญาณปีนี้เป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ของสำนักศึกษาเฟิงหัว!
ความเห็นของผู้คนแกว่งไปมาอย่างมากมาย จากที่เคยถูกผลักออกจากสำนักศึกษาที่เท่าเทียมกับสำนักศึกษาธงศึกและสำนักศึกษาพิชิตมังกร
ตอนนี้สำนักศึกษาเฟิงหัวได้กลายเป็นม้ามืดที่ทุกคนพูดถึงกันทั่วทั้งเมืองไปแล้ว!