ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 899 ลอบสังหาร (5) ตอนที่ 900 ลอบสังหาร (6)
ตอนที่ 899 ลอบสังหาร (5) / ตอนที่ 900 ลอบสังหาร (6)
ตอนที่ 899 ลอบสังหาร (5)
ข้างนอกห้องมีโลหิตกระจายอยู่เต็มไปหมด ทั้งประตูและหน้าต่าง ทางเดินที่ไม่ได้กว้างมากนักก็เจิ่งนองไปด้วยโลหิตสีแดงเข้ม ศพทั้งหลายนอนกระจัดกระจายไร้การเคลื่อนไหวตลอดทางเดินยาว เฉียวฉู่ที่โลหิตของศัตรูเปรอะเปื้อนเต็มเนื้อเต็มตัว ยืนยิ้มกว้างอยู่ที่หน้าประตูพร้อมกับโบกมือเปื้อนโลหิตนั้นให้กับจวินอู๋เสีย!
“พวกข้างนอกถูกจัดการไปหมด…” เฉียวฉู่เพิ่งจะเอ่ยปากพูด
“ออกไป” จวินอู๋เสียทะลุกลางปล้องขึ้นมาทันทีด้วยสีหน้าบูดบึ้ง
เฉียวฉู่ชะงักกึก มือที่โบกไปมาแข็งค้างอยู่กลางอากาศ
เยี่ยซากระแอมเสียงเบาแล้วพูดว่า “คุณหนูใหญ่ไม่ชอบกลิ่นโลหิตน่ะขอรับ”
เฉียวฉู่กะพริบตาปริบๆ เขาไม่เคยสังเกตเห็นเรื่องนั้นมาก่อนเลย
จวินอู๋เสียไม่ได้นอนมาทั้งคืนแล้วและอึดอัดคับข้องใจกับปัญหาทั้งหมดที่อยู่ในใจ ตอนนี้กลิ่นโลหิตที่นางเกลียดยังโชยเต็มห้องไปหมด แล้วนางจะอารมณ์ดีอยู่ได้อย่างไร
“คุณชายเฉียวน่าจะไปล้างเนื้อล้างตัวก่อนนะ” เยี่ยซาพูดพร้อมกับมองมือที่เต็มไปด้วยโลหิตของเฉียวฉู่
เฉียวฉู่ได้สติทันที และเมื่อมองใบหน้าบึ้งตึงของจวินอู๋เสีย เขาก็หดคอแล้วรีบวิ่งกลับไปที่ห้องอย่างรวดเร็วพร้อมกับปิดประตูตามหลัง
เฟยเยียนและคนอื่นๆ ที่กำลังค้นศพพยายามหาของที่จะระบุตัวผู้ลอบสังหาร หันไปมองเฉียวฉู่ที่พุ่งเข้าห้องไปอย่างรวดเร็วด้วยสายตางุนงง
“ทำไมออกมาอีกเล่า” เฟยเยียนถาม
เฉียวฉู่มองสำรวจสหายที่ต่างก็เปื้อนโลหิตไม่น้อยไปกว่าตนแล้วพูดอย่างสลดหดหู่ว่า “ข้าแนะนำให้พวกเจ้าทุกคนไปล้างตัวเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ก่อนจะไปหาน้องเสียดีกว่านะ แล้วก็…บอกเถ้าแก่ให้เรียกคนมาทำความสะอาดทางเดินด้วย ถ้า…ยังมีคนรอดชีวิตอยู่นะ”
หรงรั่วลงไปดูที่ชั้นหนึ่งมาแล้ว และพบว่าพนักงานที่เข้ากะกลางคืนไม่หายใจแล้ว
เฟยเยียนกับฮวาเหยามองสบตากันอย่างงุนงง ไม่เข้าใจว่าทำไมเฉียวฉู่ถึงพูดแบบนั้น
พนักงานสองคนที่เข้าเวรตายในโรงเตี๊ยมตำหนักเซียนคืนนั้น ส่วนคนที่เหลืออยู่ที่พักผ่อนกันในห้องพักพนักงานเลยรอดตัวกันไป เถ้าแก่โรงเตี๊ยมตื่นขึ้นด้วยเสียงเอะอะตะโกนของเฉียวฉู่ เขายังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อเฉียวฉู่ลากเขาไปยืนหน้ากองศพทั้งหมด เถ้าแก่โรงเตี๊ยมที่กึ่งหลับกึ่งตื่นก็ตาสว่างทันที
แม้ว่าจะรู้สึกตกใจกลัวจนตัวสั่น แต่เขาก็ให้คนมาทำความสะอาดโรงเตี๊ยมตำหนักเซียนให้เรียบร้อย ศพบุรุษชุดดำถูกย้ายมากองรวมกันอยู่ที่ด้านหลัง
เมื่อเฉียวฉู่และคนอื่นๆ ทำความสะอาดเนื้อตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่เรียบร้อย จวินอู๋เสียก็นั่งอยู่ที่ห้องโถงบนชั้นสองแล้ว เยี่ยซาจับบุรุษชุดดำที่ยังเหลือรอดอยู่เพียงคนเดียวไว้ที่ด้านหนึ่ง
“คนพวกนี้มาจากไหน พวกเขาเก่งน่าดูเลยนะ คนที่อ่อนแอที่สุดก็มีพลังวิญญาณขั้นสีเขียวแล้ว แถมยังมีผู้ใช้พลังวิญญาณขั้นสีครามสองคนอีกด้วย” เฉียวฉู่พูดขณะที่นั่งเอนหลังพิงพนักพิงเก้าอี้ เขาเอียงคอมองบุรุษชุดดำที่อาการร่อแร่เต็มที
เฟยเยียนพูดเสริมขึ้นว่า “เมื่อครู่ข้าตรวจสอบร่างของพวกเขาแล้ว ไม่เจออะไรที่บ่งบอกได้เลยว่าพวกเขาเป็นใคร ดูเหมือนคนที่ส่งพวกเขามาจะเตรียมตัวมาอย่างดีเชียวล่ะ”
“บุรุษผู้นี้พูดอะไรบ้างหรือยัง” หรงรั่วถามพร้อมกับมองบุรุษที่เยี่ยซาจับเอาไว้
เยี่ยซาส่ายหน้า เขาเอื้อมมือมาจับหน้าของบุรุษชุดดำให้เงยขึ้น
เมื่อเขาเงยหน้าขึ้น ทั้งคณะจึงได้เห็นว่ากรามของบุรุษชุดดำถูกเยี่ยซาทำให้เคลื่อนหลุดจากที่ ปากของเขาตอนนี้ห้อยตกลงมาและอ้ากว้าง เขาไม่สามารถส่งเสียงอะไรออกมาได้เลย
“นี่คือ…” เฉียวฉู่ถามพร้อมกับมองบุรุษชุดดำอย่างงุนงง
“เขาคิดฆ่าตัวตายด้วยการกัดลิ้น” จวินอู๋เสียพูดเสียงเบา
บุรุษชุดดำเป็นคนใจเด็ดทีเดียว เมื่อเขารู้ว่าตัวเองทำภารกิจล้มเหลวแล้ว เขาก็ไม่ได้ดิ้นรนหรืออ้อนวอนเลยสักนิด แต่พยายามฆ่าตัวตายในทันที
ตอนที่ 900 ลอบสังหาร (6)
โชคดีที่เยี่ยซาพบทันเวลาและจัดการเคลื่อนกรามล่างของเขาให้หลุดออกเพื่อจะได้กัดลิ้นตัวเองไม่ได้ เยี่ยซาเฝ้าดูเขาอย่างใกล้ชิด ทำให้เป็นไปไม่ได้ที่เขาจะลงมือฆ่าตัวตาย
“เรามีคนใจเด็ดอยู่คนหนึ่งสินะ ใช่หรือไม่” เฉียวฉู่เดินเข้าไปหาและมองบุรุษชุดดำ บุรุษผู้นั้นหน้าตาธรรมดาทั่วๆ ไปแต่ดวงตาของเขากลับมุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยวมาก
“ถ้าข้าเคลื่อนกรามของเขากลับเข้าที่ เขาจะฆ่าตัวตายทันที” เยี่ยซาพูดพร้อมกับขมวดคิ้ว ความภักดีต่อคนที่รับใช้อย่างแน่วแน่เช่นนี้เป็นนิสัยที่ตัวเขาเองก็รู้จักดี
จวินอู๋เสียหยิบโอสถวิเศษออกมาและส่งต่อให้เฉียวฉู่
“ป้อนเขา”
เฉียวฉู่ตัวสั่นทันทีเมื่อเห็นโอสถวิเศษ ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าโอสถวิเศษนี้มีฤทธิ์อย่างไร แต่โอสถวิเศษจากมือของจวินอู๋เสียกี่อย่างกันที่ทำให้ศัตรูของนางรู้สึกดี
“เฮ้อ ทำอะไรไว้ก็ได้อย่างนั้นล่ะนะ” เฉียวฉู่ถอนหายใจอย่างสงสาร เขายัดโอสถวิเศษเข้าไปในปากของบุรุษชุดดำ บุรุษชุดดำทำหน้านิ่วคิ้วขมวด เขาพยายามดิ้นรนแต่ไม่อาจต่อกรกับเยี่ยซาที่จับเขาเอาไว้ได้
พวกเขาเฝ้าดูบุรุษชุดดำกลืนโอสถวิเศษลงไป หลังจากรออยู่ครู่หนึ่ง จวินอู๋เสียก็พยักหน้าให้เยี่ยซาซึ่งก็จัดการดันกรามล่างของบุรุษชุดดำกลับเข้าที่ทันที
ทันทีที่พบว่าตัวเองสามารถขยับกรามล่างได้แล้ว บุรุษผู้นั้นก็พยายามกัดลิ้นตัวเองเพื่อฆ่าตัวตาย
แต่ในขณะที่ฟันแตะโดนลิ้นนั้นเอง ความเจ็บปวดทรมานอย่างแสนสาหัสก็แล่นผ่านเส้นประสาท เหงื่อไหลลงมาตามหน้าผากของเขา ใบหน้าของเขาซีดขาว และร่างทั้งร่างก็สั่นเทิ้ม
“อยากฆ่าตัวตายนักหรือ เอาเลยสิ” จวินอู๋เสียไม่มองบุรุษผู้นั้นด้วยซ้ำ นางพูดกับเยี่ยซาว่า “ปล่อยเขา”
เยี่ยซาปล่อยมือ บุรุษผู้นั้นก็ล้มลงกับพื้นทันทีเมื่อไม่มีเยี่ยซาคอยจับไว้!
แต่เมื่อร่างของเขาล้มลงกระแทกพื้น ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงก็แล่นไปทั่วร่าง ความทรมานที่ไม่อาจจินตนาการได้นี้ ทำให้เขารู้สึกเหมือนกระดูกทั่วร่างถูกบดละเอียด เนื้อก็เหมือนถูกฉีกออกจากกัน
ไม่ว่าความตั้งใจของเขาจะแน่วแน่แค่ไหนก็ตาม แต่เมื่อเจอเข้ากับความทรมานที่บ้าคลั่งขนาดนี้ บุรุษผู้นั้นก็พังทลายโดยสมบูรณ์ น้ำมูกน้ำตาไหลออกมา ใบหน้าซีดขาวจนน่ากลัว
เมื่อเห็นบุรุษที่มุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวเมื่อสักครู่นอนสะอึกสะอื้นตัวสั่นเทาอยู่ตรงหน้า เฉียวฉู่ก็หันไปถามจวินอู๋เสียอย่างงุนงงว่า “น้องเสีย เจ้าให้ข้าเอาโอสถวิเศษอะไรให้เขากินอย่างนั้นหรือ ทำไมเขาถึง…”
ทำไมเขาถึงเจ็บปวดทรมานขนาดนี้ทั้งๆ ที่ขยับแค่นิดเดียว
จวินอู๋เสียตอบว่า “ประสาทสัมผัสของร่างกายมนุษย์นั้นแตกต่างกัน บางคนเจ็บปวดรุนแรงเพียงแค่หนังถลอก ขณะที่บางคนต่อให้โดนตัดเนื้อจนถึงกระดูกก็ยังทนได้ นั่นเป็นผลจากระดับความไวของเส้นประสาทที่ถ่ายทอดความเจ็บปวดรวมถึงพลังใจของคนคนนั้น บุรุษผู้นี้มีพลังใจที่เข้มแข็งมาก ข้าอยากจะดูนักว่าความภักดีอันแน่วแน่ของเขา จะสามารถทนทานต่อความเจ็บปวดรุนแรงได้หรือไม่ โอสถวิเศษนั้นเพียงแค่ทำให้เส้นประสาทที่ถ่ายทอดความเจ็บปวดในร่างกายของเขา ถ่ายทอดความเจ็บปวดเพิ่มขึ้นอย่างไม่มีขีดจำกัด เพียงแค่แตะเบาๆ ก็ทำให้เขารู้สึกเหมือนกระดูกถูกบดขยี้ ชิ้นเนื้อถูกฉีกกระชากได้แล้ว”
เฉียวฉู่เบิกตากว้างอย่างสะพรึง แม้ว่าเขาจะไม่เข้าใจเรื่องเส้นประสาทถ่ายทอดความเจ็บปวดอะไรนั่น แต่…แค่ดูปฏิกิริยาของบุรุษชุดดำก็บอกได้แล้วว่าโอสถวิเศษของจวินอู๋เสียนั้นถึงจะมองเผินๆ เหมือนไม่ได้พิเศษอะไร แต่ฤทธิ์ของมันนั้น…น่าตกใจอย่างถึงที่สุด
แค่แตะเบาๆ เพียงผิวสัมผัสเท่านั้นก็เจ็บปวดเหมือนถูกตะไบขูดเอาเนื้อออก
จวินอู๋เสียไม่จำเป็นต้องทำอะไรบุรุษผู้นั้นเลย แต่ละการเคลื่อนไหวของเขาแม้เพียงเล็กน้อยก็สร้างความทรมานให้เขาได้อย่างไม่จบสิ้นแล้ว
ภายใต้ความทรมานอย่างถึงที่สุดนั้น ไม่จำเป็นต้องพูดถึงการกัดลิ้นฆ่าตัวตาย แค่แตะลิ้นเพียงนิดเดียวก็เจ็บปวดยิ่งกว่ากัดลิ้นตายไม่รู้กี่เท่า ไม่ว่าพลังใจของเขาจะเข้มแข็งมากแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถทนต่อความทรมานเช่นนี้ได้