ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร - ตอนที่ 909 กองทหารราชองครักษ์หลวง (6) ตอนที่ 910 แผนการอันซับซ้อน (1)
- Home
- ทรราชหญิงเจ้าหัวใจจักรพรรดิมาร
- ตอนที่ 909 กองทหารราชองครักษ์หลวง (6) ตอนที่ 910 แผนการอันซับซ้อน (1)
ตอนที่ 909 กองทหารราชองครักษ์หลวง (6) / ตอนที่ 910 แผนการอันซับซ้อน (1)
ตอนที่ 909 กองทหารราชองครักษ์หลวง (6)
ทหารจากกองทหารราชองครักษ์หลวงละเอียดรอบคอบและมีประสิทธิภาพ พวกเขากระจายกันออกค้นหาทุกแห่งในตำหนักรัชทายาททันที เหลยเชินยืนอยู่กลางห้องโถงใหญ่ เฝ้ามองพวกทหารจากกองทหารราชองครักษ์หลวงทำหน้าที่ของพวกเขาแล้วหัวเราะอย่างเย็นชาอยู่ในใจ
หยวนเปียวยืนลอบสังเกตปฏิกิริยาของเหลยเชินอยู่ด้านข้าง ตอนที่เขาไม่พบจวินอู๋เสียที่โรงเตี๊ยมตำหนักเซียน สถานที่แรกที่เขาคิดถึงก็คือตำหนักรัชทายาท จวินอู๋เสียไม่มีสหายหรือครอบครัวอยู่ในเมืองหลวงรัฐเหยียนและไม่คุ้นเคยกับที่นี่ นอกจากโรงเตี๊ยมตำหนักเซียน ที่เดียวที่เขาจะไปได้ก็มีแต่ตำหนักรัชทายาทเท่านั้น
แต่สิ่งที่หยวนเปียวพบว่าแปลกก็คือในตอนที่กองทหารราชองครักษ์หลวงออกค้นหาไปทั่วตำหนักนั้น นอกจากสีหน้าที่แสดงว่าไม่พอใจมากแล้ว เหลยเชินก็ไม่ได้มีสีหน้ากังวลหรือรู้สึกผิดเลยสักนิด ถ้าไม่ใช่เพราะเหลยเชินแสดงละครได้ยอดเยี่ยมแล้วละก็ ถ้าอย่างนั้นก็หมายความได้แค่ว่าจวินอู๋เสียไม่ได้อยู่ในตำหนักรัชทายาทจริงๆ
ไม่นานทหารจากกองทหารราชองครักษ์หลวงที่แทบจะพลิกตำหนักค้นหาก็กลับมารวมตัวกันที่ห้องโถงใหญ่ พวกเขาไม่พบร่องรอยของจวินอู๋เสียในตำหนักเลย
หยวนเปียวขมวดคิ้ว เหลยเชินทำสีหน้าเย้ยหยันแล้วถามว่า “ทีนี้ท่านผู้บัญชาการพอใจหรือยังเล่า”
หยวนเปียวตอบว่า “กระหม่อมขอให้องค์ชายเรียกทุกคนในตำหนักมาที่นี่ได้หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ นักโทษหลบหนีรายนี้เจ้าเล่ห์แสนกลนัก กระหม่อมกลัวว่าเขาจะปลอมตัวเป็นข้ารับใช้ในตำหนักเพื่อหนีการจับกุม”
เหลยเชินพูดด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยว่า “ผู้บัญชาการหยวนช่างเป็นคนที่รอบคอบนัก ท่านแน่ใจมากเลยหรือว่าจวินเสียซ่อนตัวอยู่ในตำหนักของข้า ก็ได้! ทหาร ไปเรียกทุกคนในตำหนักมาที่นี่ให้ผู้บัญชาการตรวจสอบหน่อย”
ทุกคนในตำหนักรัชทายาทพากันเดินมาที่ห้องโถงใหญ่ตามคำสั่งของเหลยเชิน ทหารจากกองทหารราชองครักษ์หลวงไปตรวจสอบดูทุกห้องเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครซ่อนอยู่อีก
มีข้ารับใช้หลายสิบคนทำงานอยู่ในตำหนักรัชทายาท ทั้งบุรุษและสตรี เด็กและคนแก่
หยวนเปียวเดินไปตรงหน้าทุกคน ดวงตาแข็งกร้าวของเขากวาดมองไปทีละคนโดยไม่ยอมให้พลาดอะไรที่อาจจะดูน่าสงสัยแม้เพียงเล็กน้อยเลย
เหลยเชินไม่รู้สึกกังวลเลยสักนิดเนื่องจากจวินอู๋เสียไม่ได้มาหาเขาเลย เขากวาดสายตามองตามหยวนเปียวไปและเมื่อเห็นข้ารับใช้แก่ๆ หลังค่อมคนหนึ่ง เขาก็มีแววตาสงสัยขึ้นมาทันที
ถึงแม้ว่าในตำหนักจะมีข้ารับใช้อยู่หลายคน แต่พวกเขาก็ทำงานรับใช้เขามาหลายปี พูดได้ว่าเขาคุ้นหน้าข้ารับใช้ของเขาทุกคน แต่ทว่าชายแก่คนนี้ เขาไม่คุ้นหน้าเลยสักนิด
แต่เนื่องจากหยวนเปียวยังอยู่ตรงนั้น เหลยเชินจึงไม่คิดต่อและรีบเบนสายตาออกไปอย่างรวดเร็ว
ในที่สุดหยวนเปียวก็ตรวจสอบเสร็จ เขาให้ความสนใจข้ารับใช้ที่อายุน้อยเป็นพิเศษ หลังจากแน่ใจว่าพวกเขาไม่ใช่คนที่ปลอมตัวมา เขาก็เดินขมวดคิ้วออกไป
“ผู้บัญชาการหยวนเจอตัวคนที่ท่านตามหาหรือยัง” เหลยเชินเย้ยหยันพร้อมหัวเราะเสียงเย็นชา
หยวนเปียวส่ายหน้า เขาประสานมือตรงหน้าและพูดว่า “กระหม่อมขอให้องค์ชายเข้าใจด้วยที่กระหม่อมต้องมารบกวนความสงบในตำหนักรัชทายาทวันนี้ เป็นเพราะผู้ร้ายหลบหนีจวินเสียทำร้ายองค์ชายสี่ ทำการหยามเกียรติของราชวงศ์ กระหม่อมจึงต้องทำหน้าที่อย่างยุติธรรม”
เหลยเชินมองหยวนเปียว เขายิ้มกว้างและพูดว่า “ข้าจะกล้าตำหนิผู้บัญชาการหยวนได้อย่างไร แต่ในเมื่อท่านไม่พบผู้ร้ายหลบหนีที่นี่ เช่นนั้นท่านก็คืนความสงบสุขให้ตำหนักของข้าได้แล้วสินะ”
หยวนเปียวตอบทันที “ได้พ่ะย่ะค่ะ”
แล้วหยวนเปียวก็นำทหารจากกองทหารราชองครักษ์หลวงออกไปจากตำหนักรัชทายาททันที ส่วนพวกข้ารับใช้ในตำหนักก็แยกย้ายกันไปเช่นกัน
ไม่นานองครักษ์ของตำหนักรัชทายาทก็นำข่าวมาบอกว่าถึงหยวนเปียวจะออกไปแล้ว แต่เขาก็ยังแอบส่งทหารจากกองทหารราชองครักษ์หลวงกลุ่มหนึ่งมาคอยเฝ้าดูอยู่ข้างนอกตำหนัก เพื่อเตรียมพร้อมรอจับกุมจวินอู๋เสีย
ตอนที่ 910 แผนการอันซับซ้อน (1)
“อยากรอก็ให้รอไป น้องจวินจะโง่ขนาดไม่รู้เจตนาของพวกนั้นได้อย่างไร เขาไม่มาที่นี่หรอก” เหลยเชินพูดอย่างมั่นใจ เขาเชื่อมั่นในสติปัญญาของจวินอู๋เสียมาก
“เห็นองค์ชายมั่นใจในตัวข้ามากขนาดนี้ ข้าว่าข้าคงจะทำให้องค์ชายผิดหวังเสียแล้ว”
ทันใดนั้น น้ำเสียงคุ้นหูมากเสียงหนึ่งก็ดังขึ้นด้านหลังเหลยเชิน
เหลยเชินหันกลับไปมองอย่างประหลาดใจและสับสน แล้วก็พบจวินอู๋เสียเดินออกมาจากด้านหลังห้องโถงใหญ่พร้อมกับถือชุดข้ารับใช้ในตำหนักรัชทายาทมาด้วย
“ขอประทานอภัยที่ข้ายืมชุดไปใช้โดยพลการ” จวินอู๋เสียพูดอย่างใจเย็นขณะที่เดินไปหยุดตรงหน้าเหลยเชินและโยนเสื้อผ้าในมือไปให้องครักษ์ที่ยืนตกใจอยู่ด้านข้าง
องครักษ์นายนั้นมองจวินอู๋เสียตาไม่กะพริบ เขาไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองไม่รู้สึกเลยว่าจวินอู๋เสียเข้ามาใกล้
“เจ้า…” เหลยเชินมองจวินอู๋เสียอย่างสับสน แล้วใบหน้าของชายแก่แปลกหน้าก็แวบเข้ามาในหัว “ชายแก่เมื่อสักครู่นี้ คือเจ้าที่ปลอมตัวมาเองหรอกหรือนี่!”
จวินอู๋เสียพยักหน้า “หยวนเปียวละเอียดรอบคอบมาก เขาตรวจสอบข้ารับใช้ที่เป็นเด็กหนุ่มและเด็กสาวทุกคนที่อายุใกล้เคียงกับข้าอย่างละเอียด”
เหลยเชินเลยพูดว่า “แต่เขาไม่คิดว่าเจ้าจะปลอมตัวเป็นชายแก่หลังค่อมสินะ เจ้าหลอกได้กระทั่งข้า!” พอพูดเช่นนั้นเหลยเชินก็มองออกไปนอกประตูทันทีและรีบสั่งองครักษ์ที่ยืนอยู่ด้านข้าง “ให้คนของเราออกไปยืนเฝ้าข้างนอก อย่าปล่อยให้พวกทหารจากกองทหารราชองครักษ์หลวงคนใดเล็ดลอดเข้ามาในตำหนักได้เด็ดขาด”
“พ่ะย่ะค่ะ!” องครักษ์นายนั้นจากไปทันที และตอนที่ออกไปเขาก็หันกลับมาปิดประตูด้วย
“เจ้ามาที่นี่เมื่อไหร่” พอไม่มีคนอื่นอยู่ในห้อง เหลยเชินก็ไปยืนข้างๆ จวินอู๋เสียทันทีและมองสำรวจจวินอู๋เสียขึ้นๆ ลงๆ
“ก่อนที่พวกกองทหารราชองครักษ์หลวงจะมา” หลังออกจากโรงเตี๊ยมตำหนักเซียน นางก็พุ่งตรงมาที่ตำหนักรัชทายาททันที และเข้ามาที่นี่ก่อนทหารจากกองทหารราชองครักษ์หลวงแค่ก้าวเดียวเท่านั้น
ตึก ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าดังขึ้น เหลยเชินสะดุ้งแล้วหันไปดูทางต้นเสียงทันที เขาเห็นแกะตัวเล็กๆ อ้วนกลมเดินยืดออกมาจากด้านหลังห้องโถงใหญ่ กีบเท้าทั้งสี่ข้างของมันก้าวเข้ามาอย่างไม่เร่งรีบ มันเข้ามาอยู่ข้างๆ เท้าของจวินอู๋เสียโดยไม่สนใจสายตางุนงงของเหลยเชินเลยสักนิด
“นี่คือ…” เหลยเชินมองเจ้าตัวเล็กอย่างสับสน เพราะอะไรก็ไม่รู้เขาถึงรู้สึกว่าสายตาของแกะตัวนี้มองมาที่เขาแบบแปลกๆ
“สัตว์เลี้ยงของข้า” จวินอู๋เสียพูดหน้าตาเฉย นางอุ้มใต้เท้าแบ๊ะแบ๊ะขึ้นมาแล้วเดินไปนั่งที่เก้าอี้
“เจ้านี่กล้ามากจริงๆ ก็รู้อยู่ว่าพวกนั้นจะมาหาตัวเจ้าที่นี่ ยังจะกล้ามาอีก” เหลยเชินพูดพร้อมกับมองจวินอู๋เสียอย่างจนปัญญา ช่างไม่กลัวอะไรเสียบ้างเลย แถมยังมาหลอกเขาเสียสนิทเลย
“ข้ามาที่นี่เพราะมีเรื่องอยากถามองค์ชาย” จวินอู๋เสียพูดอย่างใจเย็น
เหลยเชินประหลาดใจ เขาชะงักไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “เจ้าตั้งใจมาถามข้าว่าทำไมเสด็จพ่อถึงอยากฆ่าเจ้าอย่างนั้นหรือ”
จวินอู๋เสียตอบว่า “ทั้งใช่และไม่ใช่”
เหลยเชินสับสนขึ้นมาทันที
จวินอู๋เสียยกมือขึ้นให้เหลยเชินดูแหวนบนนิ้วของนาง
“องค์ชายรู้หรือไม่ว่าแหวนนี้แต่เดิมเป็นของที่ใด”
เมื่อเห็นพระธำมรงค์ของฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียน ดวงตาของเหลยเชินก็เป็นประกายขึ้นมาทันที!
“นั่นคือพระธำมรงค์ของฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียน!” เสียงของเหลยเชินเกือบสั่นด้วยความตื่นเต้น
“โอ้” จวินอู๋เสียขึ้นเสียงสูงพร้อมกับเลิกคิ้ว ดูเหมือนว่านางจะเดาถูก
“ฮ่องเต้ของรัฐเหยียนในอดีตจะรับสืบทอดพระธำมรงค์นั่นจากบรรพบุรุษและหลอมมันเข้ากับแหวนแห่งวงแหวนภูติวิญญาณ พูดได้ว่าพระธำมรงค์ของฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียนนี้คือสัญลักษณ์ของผู้ครองแห่งรัฐเหยียน มีเพียงฮ่องเต้แห่งรัฐเหยียนที่แท้จริงเท่านั้นถึงจะได้ครอบครอง!” เหลยเชินมองจวินอู๋เสียด้วยสายตาเร่าร้อน